ตอนที่ 250 หาหมาดํา
พิษชนิดนี้รุนแรงมาก แม้อาจารย์จะใช้ข้าวเหนียวล้างพิษแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ดีขึ้นในทันที
แต่หลังจากล้างพิษผีดิบออกแล้ว อาจารย์ก็ได้แต่กัดฟันส่งสัญญาณให้ผมและเหล่าเฟิงไปหาเลือดหมาดํามาจัดการผีดิบสองตนนี้
ผมมองใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีขาว ดวงตาของอาจารย์เริ่มมีเส้นเลือดปรากฏขึ้นมาให้เห็น ผมไม่ได้ลังเลเลยสักนิด พยักหน้าให้เขาทันที “ วางใจได้เลยอาจารย์ พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้ แป็บเดียวก็กลับมาแล้ว!
อาจารย์กับท่านลุงตู๋อดทนก่อนนะ!”
หลังจากพูดจบ ผมก็ลุกขึ้น
เหล่าเฟิงก็พูดกับอาจารย์และท่านนักพรตตู๋ว่า “ ท่านลุงติง อาจารย์ พวกเราไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับ!”
หลังจากพูดจบ ผมและเฟิงเฉ่วหานก็กวาดสายตามองผีดิบที่กําลังดิ้นรนอยู่ไม่ไกล พวกมันยังคงแหกปากคําราม “ โฮกโฮก ” ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็ออกไปทันที
แม้ว่าตาข่ายปราบสิ่งชั่วร้ายนี้จะร้ายกาจมาก แต่ตาข่ายมีผืนเดียว ผีดิบมีสองตน เห็นได้ชัดว่าท่านนักพรตตู๋เองก็กําลังตึงมือ
อาจารย์ก็บาดเจ็บ ด้วยพลังของผมกับเหล่าเฟิง การใช้ยันต์กําจัดผีดิบสองตัวนี้คงเป็นไปได้ยาก
และลําบากมากๆ
ในตอนนี้ พวกเราจึงได้แต่ทําตามที่อาจารย์บอก ไปหาเลือดหมาดํา เอามาทําลายพลังชั่วของผีดิบสองตนนี้ก่อน
ตอนนี้พวกเราได้ข้ามเนินเขามาเรียบร้อย กําลังวิ่งตรงไปยังหน้าหมู่บ้าน
แต่ขณะที่เข้าใกล้หมู่บ้าน ผมกลับพบว่ามีเงาของใครบางคนกําลังวิ่งตรงไปที่หน้าหมู่บ้านเช่นกัน
และเขาก็อยู่ด้านหน้าของพวกเราด้วย
แต่พวกเราเห็นไม่ชัด จึงไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
แต่ตอนนี้อาจารย์และท่านนักพรตตู๋กำลังตกอยู่ในอันตราย ผมจึงไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องพวกนี้
ไม่แน่เขาอาจเป็น “ พวกลักลอบตัดไม้”ก็ได้
ผมเร่งฝีเท้า วิ่งผ่านทางโค้ง ตรงมาที่ทางเข้าหมู่บ้านทันที
แต่พวกเราเฟิงมาถึงทางเข้า ผมและเหล่าเฟิงก็งงไปทันที
เพราะตรงนี้มีหมาดําอยู่ที่ไหนละ ? มันว่างเปล่า จนไม่เห็นแม้แต่ขนหมาดําสักเส้น
“ เหล่าติง ท่านลุงติงบอกว่าที่หน้าหมู่บ้านใช่ไหม? ” เหล่าเฟิงกวาดสายตามองรอบๆ พร้อมพูดออกมาด้วยความสงสัย
“ ใช่ อาจารย์บอกว่าอยู่ที่นี่ แต่เจ้าหมาดนั้นจะหายไปได้ยังไง ? ” ผมก็พูดด้วยความสงสัย
“ พวกเราไปเดินหารอบๆกันเถอะ !” เหล่าเฟิงพูดต่อ
ผมตอบรับ “ อืม ” ผมไม่ได้ลังเล ตามเหล่าเฟิงไปหารอบๆทันที
ถ้าไม่มีหมาดํา หาเลือดหมาดําไม่ได้ แล้วต่อไปพวกเราจะสู้กับผีดิบได้ยังไง ?
ในใจผมกําลังร้อนรน เพราะนี้ไม่ใช่เรื่องตลก ช้าไปแค่นาทีหรือวินาทีเดียว ท่านนักพรตตู๋และอาจารย์ก็จะต้องกดดันมากขึ้นเท่านั้น
ถ้าผีดิบสองตัวนั้นหลุดจากตาข่ายของท่านนักพรตตู๋ แล้วกลายเป็นผีดิบอย่างสมบูรณ์ ชีวิตของอาจารย์และท่านนักพรตตู๋ก็อาจตกอยู่ในอันตราย
ถึงตอนนี้ผมกําลังหัวร้อน แต่การหาหมาดําก็ไม่มีวิธีอื่น
ขณะที่พวกเรากําลังตามหาจนตาเหลือก ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงร้อง “ อีกอึกอึก ” ของสัตว์บางชนิดจากตรอกที่อยู่ไม่ไกล
ผมเลิกคิ้วขึ้น บอกเหล่าเฟิงทันที “ เหล่าเฟิง ตรงนั้นมีบางอย่าง! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็เดินเข้าไปในตรอก
เฟิงเฉิวหานรีบตามมา หลังจากผมสองคนเดินเข้ามาในตรอก พวกเราก็ได้เห็นฉากที่ทําให้คนช็อกได้
พวกเราเห็นพื้นโล่งห่างออกไป มีผู้หญิงคนหนึ่งกําลังบีบปากหมาแน่น กอดหมาดําที่กําลังดิ้นไปมาเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างทุลักทุเล เพราะอยากทําให้หมาดําขาดอากาศหายใจตาย
เมื่อเห็นฉากนี้ ผมและเหล่าเฟิงก็อดตกใจไม่ได้
เมื่อมองดูให้ละเอียด ถึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นภรรยาของคุณฉี คุณนายฉี
ภรรยาของคุณฉีอายุน้อยกว่าคุณฉีมาก ตอนนี้ก็น่าจะมีอายุแค่ 30 กว่าๆเท่านั้น เพราะดูแลรักษาตัวเองอย่างดี รูปร่างหน้าตาของเธอจึงดูเด็กมาก
แต่ตอนนี้เมื่อเห็นผมและเฟิงเฉ่วหานปรากฏตัว ไม่รู้ว่าทําไม จู่ๆเธอก็ตกใจจนหน้าเสีย เผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา หลังจากนั้นก็ทําตามสัญชาตญาณกอดหมาดําถอยไปข้างหลังหลายก้าว
ผมและเหล่าเฟิงค่อนข้างแปลกใจ กลางดึกแบบนี้ภรรยาคุณไม่หลับไม่นอน ออกมาวิ่งบีบปากหมาดําอยู่ที่นี่ทําไม?
หลังจากสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ผมก็ไม่คิดมาก พูดกับภรรยาคุณฉีตรงๆ “ คุณนายฉี คุณกําลังทําอะไร?
พวกเราหาหมาดําตั้งนานแล้ว คุณรีบเอาหมาดํามาให้ผมเถอะ ”
ขณะที่พูด ผมก็เดินไปข้างหน้าสองสามก้าว
ผลลัพธ์คุณนายฉีกลับเอาแต่จ้อง และตะโกนใส่ผมทันที “ อย่า- อย่าเข้ามานะ !”
ขณะที่พูด คุณนายฉีก็มองไปรอบๆ สุดท้ายเธอก็พบว่าห่างออกไปไม่ไกลมีบ่อน้ําเก่าๆอยู่บ่อหนึ่ง
จากนั้นเธอก็พูดต่อทันที “ ถ้ายังเข้ามาอีก ฉันจะโยนหมาดําตัวนี้ลงไปในบ่อน้ํา!”
ขณะที่พูด คุณนายฉีก็กอดหมาดําเข้าไปใกล้บ่อน้ําอย่างรวดเร็ว
ผมและเฟิงเฉ่วหานงงหนักกว่าเดิม ดึกขนาดนี้คุณนายฉีออกมาทําอะไรกันแน่
“ คุณนายฉี คุณกําลังทําอะไร พวกเราต้องใช้หมาดําตัวนี้ช่วยชีวิตคนนะ คุณรีบเอามาให้ผมเถอะ!”
ผมกลัวคุณนายฉีจะโยนหมาดําลงไปในบ่อน้ําจริงๆ พอถึงตอนนั้น มันจะยุ่งยากเข้าไปใหญ่
“ ฮี ฉันรู้ว่าพวกแกจะเอาหมาดําไปทําอะไร!! ” จู่ๆน้ําเสียงของคุณนายฉีก็เปลี่ยนไป เหมือนกําลังกัดฟันพูด ราวกับเกลียดพวกเราเข้าไส้
สถานการณ์เร่งด่วน ผมจึงไม่คิดมากพูดต่อว่า “ คุณนายฉี ในเมื่อรู้แล้ว ก็รีบเอามาให้ผมซิ !”
“ ฝันไปเถอะ ฉันได้ยินจากหลังเนินเขาแล้ว พวกแกจะใช้เลือดหมาดําไปสู้กับผีดิบตาเฒ่าฉี ฉันจะบอกตรงๆนะ ฉันไม่ให้! ” คุณฉีพูดเสียงแข็ง
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ผมและเหล่าเฟิงก็อดมองหน้ากันไม่ได้ คิดถึงเงาดําที่เห็นตอนกลับมา
ตอนนี้พวกเราคิดว่า มันน่าจะเป็นคุณนายฉี
ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรไป ถึงได้แอบวิ่งมานอกหมู่บ้าน และเห็นศพของผู้อาวุโสฉีกลายเป็นผีดิบ
แต่ทําไมคุณนายฉีต้องทําแบบนั้นละ? เธอได้อะไรจากเรื่องนี้ ?
“ คุณนายฉี ในเมื่อคุณเห็นแล้ว งั้นผมก็จะไม่ปิดบัง ผู้อาวุโสทั้งสองกลายเป็นผีดิบแล้ว ถ้าไม่ใช้เลือดหมาดําไปจัดการ พวกอาจารย์ของพวกเรา จะสู้กับผีดิบได้ยากมาก ถ้ากําจัดผีดิบไม่ได้ สิ่งแรกที่พวกมันจะฆ่า ก็คือญาติที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากนั้นก็จะมากวาดล้างคนทั้งหมู่บ้าน และนั่นก็รวมถึงคุณด้วย ชีวิตของทุกคนจะตกอยู่ในอันตราย คุณเอาหมาดํามาให้ผมเถอะ พวกเราจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกกับคุณฉีแน่นอน !”
ผมพูดต่อ แต่ในใจกําลังกังวลสุดๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นเธอสามารถโยนหมาดําลงในบ่อน้ําได้ตลอดเวลา ผมคงกระโดดถีบยัยชั่วนี้ไปแล้ว
คงไม่มายืนคุยไร้สาระกับเธอแบบนี้
แต่คุณนายฉียังเหมือนเดิม “ ฮ่าฮ่า ฉีเหลยรู้ความลับของฉันแล้ว และนี่ก็เป็นความผิดของพวกแกทั้งหมด
พอกลับเข้าเมือง ฉีเหลยก็จะพาลูกฉันไปตรวจดีเอ็นเอ ถึงตอนนั้นฉีเหลยก็จะไม่ยกโทษให้ฉันแน่”
“ คงจะรอถีบหัวส่งให้ฉันออกจากบ้านไม่ไหว ถ้าต้องทนเห็นสายตาดูถูกของคนอื่น ฉันให้ฉีเหลยตายอยู่ที่นี่ดีกว่า พอถึงเวลานั้น ทรัพย์สินทั้งหมดก็จะเป็นของฉัน แล้วฉันก็จะได้อยู่กับพี่เฟิงอย่างเปิดเผย!”
เมื่อคุณนายฉีพูดถึงตรงนี้ เธอก็ดูตื่นเต้นมาก แต่มันก็ดูค่อนข้างน่ากลัว
พระเจ้าช่วย ยัยนี้เป็นผู้หญิงโหดที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา เหมือนเธอจะไม่ได้พูดเล่นแล้ว
“ คุณฉี ความไม่พอใจของคุณกับคุณฉี พวกคุณต้องแก้ไขมันด้วยตัวเอง แต่ผีดิบพวกนั้นยังอยู่ คุณรีบเอาหมาดํามาให้ผมเถอะ! นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ นี่มันจะทําให้มีคนต้องตาย ” ขณะพูดผมก็เดินไปข้างหน้าอีกสองก้าว และพูดด้วยน้ําเสียงจริงจังกว่าเดิม
แต่สีหน้าคุณนายฉีกลับเย็นชา “ อย่าขยับ ถ้าพวกแกรู้สถานการณ์ของฉันแล้ว ก็ช่วยฉันฆ่าฉีเหลย ในเวลาเดียวกันก็ต้องเก็บความลับให้ฉัน แล้วฉันจะให้เงินพวกแก 3 ล้าน ”
ยัยบ้า ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วจริงๆ
แต่หมาดํายังอยู่ในมือของเธอ พวกเราทําอะไรไม่ได้
ในสมองเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว อยากจะหาวิธีรีบแย่งหมาดํามาให้เร็วที่สุด
แต่คุณนายฉีที่ยืนอยู่ตรงปากบ่อ กลับหัวเราะอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเธอก็เหยียดแขนไปข้างหน้า ทําท่าจะโยนหมาดําลงไปในบ่อ
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมและเหล่าเฟิงก็ทําหน้าตกใจ รีบตะโกนออกมาทันที “ ไม่ ! ”
แต่มันสายไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าคุณนายฉีคิดจะทําลายทางรอดของทุกคน เธออยากใช้ผีดิบเป็นเครื่องมือ
ฆ่าพวกเรา แล้วฮุบสมบัติเอาไว้คนเดียว
เธอไม่ลังเล นําหมาดําที่อยู่ในอ้อมแขน โยนลงไปในบ่อน้ําทันที “ จ๋อม”….