ตอนที่ 271 สาวกองค์กรตาผี
ฉากแบบนี้ ปรากฏขึ้นอย่างกระทันหันเกินไป พวกเราไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
ว่าผีผู้ชายที่โดนผนึกแก่นพลังเอาไว้ตนนี้จะทําลายผนึกได้ และยังไม่ได้ใช้ตัวช่วยจากภายนอก
แต่พึ่งพาพลังของตัวเองเท่านั้น
แถมระยะเวลาที่ใช้คลายผนึก ยังสั้นขนาดนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย
อยากจะทําลายผนึกก็ทําลาย งั้นพลังของผู้ที่โดนผนึก อย่างน้อยก็มีมากกว่าคนผนึกถึงสองเท่า หรือแม้แต่สูงกว่านั้น ถึงจะทําได้
เห็นได้ชัดว่าในเสี้ยววินาทีนี้ ผีตรงหน้าตนนี้ได้เพิ่มพลังมากกว่าสองเท่าจนสามารถทําลายผนึกได้
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่สําคัญที่สุด สิ่งที่สําคัญที่สุดคือหน้าผากของเจ้าหมอนี่ ตอนนี้มีตาดวงที่สามปรากฏขึ้นแล้ว
นี่หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ ? ก็แปลว่าเจ้าหมอนี่เป็นสาวกขององค์กรตาผียังไงละ
ช่วงหลายวันมานี้ผมไม่ได้เจอองค์กรตาผีเลย หรือจะเรียกได้ว่ามันแทบจะจางหายไปจากสายตาของผมแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะออกมาปรากฏตัวกระทันหันแบบนี้
เราสามคนทําหน้าตกตะลึงทันที เผยสีหน้าหวาดระแวง และตื่นตระหนกออกมา
“ ตา ตาผี ! ” หยางเฉ่วพูดอย่างตกใจ
เฟิงเฉิวหานก็สูดหายใจด้วยความตกใจ “ ดูเหมือนไม่ต้องถามแล้ว เจ้าอาจารย์คนนั้นต้องเกี่ยวข้องกับองค์กรตาผีชั่วนั่นแน่ๆ! ”
หัวใจผมก็เต้นตุ๊มๆต่อมๆ ผมไม่เคยคิดเลย ว่าการไล่ตามผีลามกตัวนึง จะทําให้พวกเรามาเจอกับองค์กรตาผี
ขณะที่ผีผู้ชายกําลังเปลี่ยนไป เขาก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าที่ดุร้าย “ ใช่แล้ว คิดไม่ถึงว่าพวกแกจะรู้จักชื่อองค์กรของข้าด้วย ในเมื่อพวกแกรู้จักชื่อองค์กรของเรา งั้นพวกแกก็น่าจะรู้ดีว่าคนที่ไม่ใช่สาวกเห็นตาเทพนี้แล้ว จะมีจุดจบคือความตาย……….”
เมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย น้ําเสียงของผีผู้ชายตนนั้นก็เปลี่ยนเป็นเสียงต่ํา แต่น้ําเสียงนั้นยังเหมือนคํารามออกมา มันแสบหูมาก
แม้จะตกใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรากลัวเขานะ
ผมเลิกคิ้วขึ้น เผยสีหน้าเย็นชาออกมา “ ฮึ! บอกตามตรง สาวกสองสามคนที่มีตาที่สามที่พวกเราเจอ
ก็โดนพวกเราฆ่าตายไปหมดแล้วเหมือนกัน วันนี้แกก็ต้องเป็นหนึ่งในนั้น!”
ผีผู้ชายยิ้มอย่างเย็นชา “ งั้นเหรอ! งั้นก็ขอดูหน่อยก็แล้วกันว่าพวกแกยังมีน้ํายาอะไรอีก !”
หลังจากพูดจบ ผีผู้ชายก็คํารามดัง “ อ้าก” นําพลังหยินที่เข้มข้นพุ่งมาหาผม
ครั้งนี้ การเคลื่อนไหวของผีผู้ชายเร็วมาก และไม่รู้ว่าเร็วกว่าเมื่อกี้กี่เท่า
รูม่านตาของผมขยายอย่างฉับพลัน ล็อคการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้เอาไว้
พร้อมรีบพูดว่า “ ลงมือ !”
เสียงเพิ่งเงียบลง ผมก็ยกดาบไม้ขึ้น เล็งผีที่ถูกเรียกว่าพี่เก้า แล้วพุ่งเข้าไปปะทะทันที
เหล่าเฟิงและหยางเฉ่วก็เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่รอช้า แต่ละคนต่างลงมือ
ถือดาบไม้เข้ามาบดขยี้ศัตรูเช่นกัน
ในช่วงเวลานั้น พวกเราสามคนร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูอีกครั้ง
ครั้งนี้ ไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งขึ้นขนาดไหน
กรงเล็บอันแหลมคมกวาดแกว่งไม่หยุด ร่างกายเหมือนภาพมายา เคลื่อนไหวไปมาอย่างต่อเนื่อง
เพิ่งผ่านไปไม่กี่กระบวนท่า พวกเราสามคนก็โดนกดดันซะแล้ว
หากยังต่อสู้แบบนี้ต่อไป พวกเราต้องไม่ไหวแน่ๆ
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงตะโกนออกมาอีกครั้ง “ ใช้ยันต์! ทําให้มันตายไปเลย ”
ขณะพูด เราสามคนก็ถือดาบของตัวเอง ถอยออกมาอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันก็หยิบยันต์ออกมา เตรียมโจมตีด้วยยันต์สามแผ่นรวดกับผีผู้ชายคนนี้อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ผีผู้ชายได้รู้รสไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เมื่อเห็นเราหยิบยันต์ออกมาอีกครั้ง และเตรียมโจมตีด้วยยันต์เหมือนตอนแรก เขาก็ไม่กล้ารอช้าอีกต่อไป
กวาดสายตามองรอบข้าง สุดท้ายก็หยุดลงที่หยางเฉ่วที่อยู่ใกล้ตัวเขาที่สุด แต่กลับไปโจมตีเหล่าเฟิงแทน
บางที่เจ้าหมอนีอาจกําลังคิดว่า หากทําลายลําดับ ของพวกเราให้วุ่นวายก็จะสามารถทําลายยันต์สามแผ่นรวดของพวกเราได้
แต่เขาเดาผิดแล้ว ไม่ว่าเจ้าหมอนี่จะโจมตีใครก่อน ยันต์ “ สะกด สยบ ทําลาย ” ของพวกเราสามคน
ก็สามารถทํางานอย่างเต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิม
ก็เหมือนกับสามเหลี่ยมด้านเท่า มันมั่นคงไร้ที่ติ
เหล่าเฟิงเห็นผีผู้ชายเข้ามาโจมตี ก็เอายันต์ “ สยบ ” ออกมาอย่างไม่ลังเล
ยันต์บนฝ่ามือ เข้าหาประตูชีวิตของผีผู้ชายทันที
เป็นธรรมดาที่ผีผู้ชายจะรู้ถึงความร้ายกาจของยันต์ มันจึงไม่กล้าสู้ไม่กล้าเข้าปะทะ รีบถอยหลบอย่างรวดเร็ว หลบฝ่ามือของเหล่าเฟิง
เหล่าเฟิงเห็นอีกฝ่ายหลบ จึงเค้นเสียงดัง ฮึ พร้อมพลิกฝ่ามือโจมตี พุ่งไปที่หลังหัวของผีผู้ชายตนนั้นแทน
ผีผู้ชายก็สัมผัสได้ถึงอันตราย จึงทําได้เพียงหลบอีกครั้ง
ไม่พูดไม่ได้ หลังจากตาที่สามของผีผู้ชายตนนี้ปรากฏขึ้น ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นแล้ว
และมีพลังเพิ่มขึ้นไม่น้อย
ความเร็วไม่ได้เพิ่มขึ้นแค่เล็กน้อย พอเหล่าเฟิงพลิกมือโจมตี ก็ปะทะกับความว่างเปล่าทันที
ไม่เพียงเท่านั้น หลังผีผู้ชายหลบได้แล้ว ฝ่ามือของเขายังฟาดเข้าไปที่เอวของเหล่าเฟิง
“ แควก ” เสื้อนอกขาดทันที
โชคดีที่เขาใส่เสื้อผ้าหนา ไม่อย่างงั้นเหล่าเฟิงจะต้องได้แผลกลับมาแน่นอน
หลบการโจมตีได้ครั้งหนึ่ง แถมยังโจมตีเหล่าเฟิงได้สําเร็จ เดิมที่ควรเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ
แต่สําหรับผีผู้ชาย อันตรายยังไม่จบเพียงเท่านี้
เพราะผมและหยางเฉ่วกําลังรอสังหารอยู่ทั้งซ้ายและขวาแล้ว ตอนนี้เขาไม่เหลือเวลาให้พักหายใจ เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และยังไม่กล้าสัมผัสกับยันต์ในมือพวกเรา
ในเวลานี้ทําได้เพียงเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด ต้องพยายามทิ้งระยะห่างจากพวกเรา รักษาความปลอดภัย หลังจากนั้นค่อยโจมตีอีกรอบ
ผีผู้ชายเพิ่งเคลื่อนตัว ยันต์ทําลายในมือของผม ก็เข้าไปใกล้หัวของผีผู้ชายแล้ว
ผีผู้ชายก็สัมผัสได้ถึงอันตราย จึงคํารามใส่ผมทันที “ โฮก”
ขณะที่เสียงคํารามดังขึ้น หมอกสีดําก็พุ่งมาที่หน้าของผม
เมื่อเผชิญหน้ากับหมอกพิษ ไหนเลยผมจะกล้ารอช้า ผมต้องดึงยันต์กลับมา แล้วรีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
แม้ผีผู้ชายจะใช้วิธีนี้ หลบการโจมตีของผม
แต่ยันต์ใบที่สามอย่างหยางเฉ่ว ได้โจมตีมาอีกทางด้านหนึ่งแล้ว
ไม่รอให้ผีผู้ชายได้หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับหยางเฉ่ว ยันต์สะกดของหยางเฉ่วก็ออกโรงแล้ว
มือหยกเหยียดไปข้างหน้า ยันต์สีเหลืองถูกโยนออกจากมือหยางเฉ่ว
มืออีกข้างของหยางเฉ่ว ประสานมือเป็นรูปดาบเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นเราก็ได้ยินเพียงเสียงหยางเฉ่วพูดว่า “ ขอเชิญ เทพลุ่ยลิ้ง เพี้ยง ! ”
“ ปัง” และแล้วเสียงระเบิดก็ดังขึ้น ยันต์สีเหลืองแผ่นนั้นระเบิดห่างจากผีผู้ชายไม่ถึงสิบเซนติเมตร
แม้จะไม่ร้ายแรงเท่าระเบิดกับตัว แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น พลังเวทอันแข็งแกร่ง ก็ทําให้ผีผู้ชายที่ยังไม่พร้อมรับมือกระเด็นออกไปถึงสามเมตร
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมและเหล่าเฟิงก็หยิบยันต์ของตัวเองขึ้นมา เริ่มโจมตีด้วยยันต์ระลอกสองทันที
แม้ผีผู้ชายจะโดนแรงระเบิดทําให้กระแทกลงบนพื้น แต่ก็ไม่ได้ศูนย์เสียพลังต่อสู้และแรงกายอื่นๆ
เขารู้สึกแย่มาก แต่ก็รีบลุกขึ้นมาสู้กับพวกเราอย่างรวดเร็ว..
แม้ผีผู้ชายจะทําให้ตัวเองมีพลังและความเร็วเพิ่มขึ้นแล้ว แต่สิ่งที่น่าเสียดายมากก็คือสิ่งที่เขากําลังเผชิญหน้าอยู่คือพวกเราสามคน
สามคนรุกรับใจเดียวกัน แถมยังเป็นที่มปราบสิ่งชั่วร้ายที่มีพลังเวทย์เข้ากันพอดี
ถ้าสู้กันตัวต่อตัว หรือหนึ่งต่อสอง พวกเราสามคนล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาทั้งนั้น
แต่ เมื่อเราสามคนร่วมมือกัน และยังใช้ยันต์โจมตีประ สานกันอีก
ด้วยการใช้ยันต์โจมตีใส่เขาอย่างต่อเนื่อง ผีผู้ชายคนนั้นก็จะทนไม่ไหวอีกต่อไป
เพราะพลังของเขาในตอนนี้ ไม่มีทางตอบโต้ ยันต์ในมือของพวกเราด้วยซ้ํา
การโจมตีอีกครั้งของพวกเราก็ยังใช้ยันต์เหมือนเดิม ยังเป็นยันต์สามแผ่นรวด วนไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แม้ผีผู้ชายจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มีความสามารถ และไม่กล้าสู้กับยันต์ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นอีกอย่าง เขาทําให้พวกเราบาดเจ็บแล้ว แต่ตัวเขาอาจต้องแลกด้วยชีวิตแทน
ดังนั้น ทุกครั้งที่เขาหลบ ยังไม่ทันได้สู้กับพวกเรา ยันต์อีกแผ่นก็ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
สถานการณ์แบบนี้จึงทําให้เขาได้แค่หลบแล้วก็หลบ วนไปรอบๆครั้งแล้วครั้งเล่า
ผีผู้ชายรู้สึกหงุดหงิดมาก แต่ก็ทําอะไรไม่ได้
แถมพวกเรายังยัดยันต์ที่เป็นจุดแข็ง ไล่โจมตีผีผู้ชายอย่างต่อเนื่อง
ทําให้มีผู้ชายไม่อาจออกมาแสดงพลังของตัวเองได้ ได้แต่ป้องกันต่อไปเรื่อยๆ โดนพวกเราเล่นงานไม่หยุด จนกลายเป็นวงจรอุบาทว์สําหรับเขา
เขาในตอนนี้ หงุดหงิดจนพูดไม่ออกแล้ว ผลาญพลังวิญญาณไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ถ้าเขายังหาทางออกไม่ได้ งั้นการตายในมือพวกเราสามคน ก็เหลือแค่รอเวลาเท่านั้น…