ศพ ตอนที่ 276 เพื่อนเลว
ผมรอภายใต้ลมหนาวมานานขนาดนี้ ในที่สุดนักพรตชั่วคนนี้ก็ออกมาปรากฏตัวสักที
แต่สิ่งที่ทําให้ผมคิดไม่ถึงเลยก็คือ เพิ่งเจอหน้ากัน อีกฝ่ายก็สร้าง “เซอร์ไพรส์” สุดอลังการให้ผมแล้ว
เพราะเจ้าหมอนี่ รู้จักชื่อของผม
ต้องรู้ว่า เราคุยกันในแชท แค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น และ ชื่อในวีแชทยังเป็นชื่อที่สร้างขึ้นมาอีกด้วย
อีกฝ่ายไม่เคยถามหาชื่อของผม แล้วเขาจะมารู้ชื่อผมได้ยังไง ?
แต่นอกจากเรื่องนี้แล้ว ผมยังรู้สึกว่า เหมือนเคยได้ยินเสียงเขามาจากที่ไหนมาก่อน มันให้ความรู้สึกคุ้นเคยกับผม
แต่ผมคิดไม่ออกในทันที ได้แต่ทําหน้าสงสัยและตกตะลึง เท่านั้น
คนในชุดคลุมดําเห็นผมยืนอึ้งอยู่กับที่ เลยหัวเราะ “ ฮ่าฮ่าฮ่า ” อย่างเจ้าเล่ห์ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็พูดว่า “หัวโล้นๆของแกนี่ซื้อจริงๆ ตอนแรกฉันยังจําไม่ได้ ! แต่คิด ไม่ถึงว่าจะเป็นแกจริงๆ !”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น ฝ่ามือของผมก็เต็มไปด้วยเหงื่อ
แต่เสียงที่แหบและทุ่มของอีกฝ่าย ทําให้ผมไม่รู้จริงๆว่าเสียงนี้เป็นของใครกันแน่
แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ก็ได้แต่คอยดูต่อไปเรื่อยๆเท่านั้น
ผมสูดหายใจเข้าลึก ไม่พูดไร้สาระต่อ พูดกับคนในชุดคลุมดําตรงๆ “ แกก็คือนักพรตจาง ทําไมถึงรู้ชื่อฉันได้ฮะ ?”
“ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันเป็นนักพรตจางแน่นอน ฉันไม่ได้รู้แค่ชื่อของแกหรอกนะ แต่ฉันยังรู้ว่าแกเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้ายอีกด้วย ! ” คนในชุดคลุมดําพูดออกมาอีกครั้ง
เมื่อถูกเปิดเผยตัวตนอย่างกระทันหัน ผมก็อดเครียดขึ้นมาไม่ได้
ถ้าอีกฝ่ายรู้เรื่องทุกอย่างนานแล้ว งั้นแผนในคืนนี้ของพวกเราไม่ต้องเสียเปล่าแล้วเหรอ ? แถมยังอาจเข้ามาตกหลุมพลางของอีกฝ่ายอีกด้วย
ในใจมีความสับสนเกิดขึ้นเล็กน้อย ค่อนข้างกังวลว่าแผนของพวกเราจะถูกเปิดเผยแล้ว
แผนการไม่อาจเปลี่ยนได้อย่างกระทันหัน ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดถึงฉากแบบนี้มาก่อน
แผนเดิมคือ ผมจะใช้วิธีแกล้งซื้อ แล้วเข้าไปใกล้นักพรตชั่ว หลังจากนั้นค่อยลงมือกับเขาทําให้เขารับมือการโจมตีของผมไม่ทัน
หลังจากนั้นค่อยเรียกให้อาจารย์และคนอื่นๆออกมาลงมือ ล้อมรอบเจ้าหมอนี่เอาไว้ทั้งสี่ทิศ
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนจะใช้แผนนี้ไม่ได้แล้ว
ผมทําหน้านิ่ง “แกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง ? ”
เมื่อคนในชุดคลุมดําได้ยินคําพูดเหล่านี้ ก็ค่อยๆยกมือขึ้น ถอดหมวกบนเสื้อคลุมลง ในขณะเดียวกันก็พูดว่า “เพื่อนเก่า ยังจําฉันได้ไหม ? ”
หลังจากพูดจบ คนในชุดคลุมดําก็ถอดหมวกลง เผยให้เห็นใบหน้าภายใต้ชุดคลุม
เวลาก็เหมาะสมพอดี เมฆบนฟ้าเริ่มเปิดแล้ว การมองเห็นก็ชัดเจนมากขึ้น
ในระยะห่างห้าเมตร แม้จะยังไม่เห็นอะไรได้ชัดเจนมาก แต่รูปลักษณ์ส่วนใหญ่ของคนคนหนึ่ง ผมยังเห็นได้อย่างชัดเจน
ตอนผมเห็นใบหน้านั้น ผมก็ตะลึงในทันที
ทําไมหน้าตาของคนคนนี้ถึงได้ดูเหมือนจางจีเทาขนาดนี้ละ ?
ไม่ ไม่ใช่แค่เหมือน เจ้าหมอนี่เรียกผมว่าเพื่อนเก่า ใช่ เขาก็คือจางจึเทา
นั่นก็คือตอนไปงานเลี้ยงรุ่นที่โรงแรมไดนาสตี้ เพราะป่วยระยะสุดท้าย เขาเลยไปเข้าร่วมกับองค์กรตาผี
ฝึกวิชามาก ต้องดื่มเลือดของคน 15 คน สุดท้ายวันนั้น เจ้าหมอนี่ก็กินหัวใจของเพื่อนร่วมรุ่นเข้าไป
คิดไม่ถึงจริงๆ ไม่ได้เจอกันหลายเดือน เจ้าหมอนี่จะเปลี่ยนไปทํากิจการค้ากุมาร และได้มาพบกันอีกครั้งในสถานที่แบบนี้ด้วย
ผมตกใจ อารมณ์เดือดพล่าน ในสุดก็บ่นพึมพําออกมาว่า “จางจึเทา….”
“ ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ฉันเอง เราไม่ได้เจอกันตั้งแต่ที่โรงแรมนั้นซินะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ? อ่อใช่ ตัวแกไม่ใช่คนปราบสิ่งชั่วร้ายเหรอ ? ทําไมถึงอยากบูชากุมารละ ? ในเมื่อ เป็นแบบนี้ งั้นฉันจะลดราคาให้เป็นพิเศษ
นายไม่ต้องจ่าย 120,000 แล้ว แค่ 80,000 เป็นไง ? ” จางจีเทายิ้มร่า ใช้น้ําเสียงหยอกล้อคุยกับผม
แต่เมื่อนําเสียงนี้มาเทียบกับเสียงเมื่อก่อน มันค่อนข้างแตกต่างนิดหน่อย เสียงที่แหบและทุ่มต่ำ ทําให้ผมไม่สามารถบอกความแตกต่างได้ในทันที
“ ฮึ! ใครอยากได้กุมารจากแกละ วันนี้ฉันมาเพื่อ กําจัดนักพรตชั่วอย่างแก ” ผมพูดอย่างเย็นชา
“ ฮึฮึฮึ ! ติงฝาน นี่ฉันไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม ? พลังระดับแก ยังคิดจะกําจัดฉันเหรอ ? ตอนนี้ตัวฉัน
“ไม่เหมือนกับเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วนะ” จางจีเทาพูดอย่างเหยียดหยาม
“ ฮึ! ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง ?”
หลังจากพูดจบ ผมก็หยิบดาบไม้ออกมาทันที
จางจึเทาเห็นผมเอาดาบไม้ออกมา กลับโบกมือให้แล้วพูดว่า “ ไม่ไม่ไม่ ติงฝาน ฉันไม่อยากสู้กับแก
และไม่อยากฆ่าแกด้วย ! ไม่อย่างงั้นฉันคงไปหาแกถึงบ้านนานแล้ว !”
“ หมายความว่ายังไง ? ”
“ ฉันก็แค่คิดถึงความหลัง ครั้งก่อนที่โรงแรม ฉันไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าจูกุยนะ เพราะถุงเลือดที่พกติดตัวหายไป มันก็เลยต้องออกมาเป็นแบบนั้น แต่ยังไงเจ้าจูกุ้ยก็หยิ่งยโสชอบวางอํานาจอยู่แล้ว ตายไปแล้วก็ตายไปเถอะ”
“ ในเมื่อพวกเราเข้ามาอยู่ในสายงานนี้แล้ว เอาแบบนี้ดีไหม พวกเรามาร่วมมือกัน ขอแค่นายมาติดตามฉัน เราจะกินดีอยู่ดีไปด้วยกัน คอยประคับประคองกันไปเรื่อยๆ จะต้ องไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และสิ่งที่สําคัญก็คือ เราไม่ต้องไปเกิดใหม่ ไม่มีวันตาย แกลองคิดให้ดีเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย นี้เป็นเรื่องที่วิเศษมากเลยนะ แกคิดว่ายังไงละ ?”
ตอนนี้จางจีเทาทําหน้าดีใจ พูดจาอย่างสุภาพ
แต่ผมกลับยิ้มอย่างเย็นชา “ เป็นอมตะ ? ไม่ตาย ? เป็นเหมือนแกน่ะเหรอ ? ใช้องค์กรตาผีเป็นที่หลบภัย ควบคุมผีให้เก็บหยินเพิ่มหยาง หลังจากนั้นก็เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ไม่ใช่สัตว์ก็ไม่เชิง แถมยังต้องดื่มเลือดคนสิบห้าคนในทุกๆเดือนน่ะเหรอ ?”
เมื่อจางจีเทาได้ยินผมพูดแบบนี้ ก็เข้าใจทันทีว่าผมเลือกอะไร
ในเวลาเดียวก็ย้อนกลับมาถามผมว่า “แกรู้เรื่องเก็บหยิน เพิ่มหยางได้ยังไง ? ”
“ ทําไมจะไม่รู้ละ ก็ฉันเป็นคนฆ่าผีชั่วสองตัวที่ทําเรื่องแบบนี้เองกับมือ ! ” ผมพูดเบาๆ ในเวลาเดียวกันก็ลูบดาบไม้ในมือไปพลาง
เมื่อจางจีเทาได้ยินแบบนั้น ใบหน้าที่เคยแย้มยิ้มเมื่อกี้ ก็เปลี่ยนไปทันที เขาเผยใบหน้าที่โกรธจัดออกมา “เมื่อหนึ่ง อาทิตย์ก่อน แกเป็นคนฆ่าผีเก็บพลังหยินสองตัวของฉันที่เมืองภาพยนตร์สั้นเหรอ ? ”
“ ใช่ ฉันทําเอง ! ไม่อย่างงั้นจะตามหาแกเจอได้ยังไง ! ถึงเราสองคนจะเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกันมาก่อน
แต่แกกลับเลือกเดินทางผิด ถ้าแกสํานึกผิดบ้าง ฉันคงคิดหาวิธีช่วยแกได้อยู่บ้าง..”
ผมยังพูดไม่จบ จางจีเทาก็พูดแทรกขึ้นมาทันที “แล้วถ้าฉันไม่ละ ? ”
“ซึ่งั้นก็อย่ามาโทษที่ฉันทวงความยุติธรรมแทนฟ้า กําจัดนักพรตชั่วอย่างแกก็แล้วกัน !” ผมพูดอย่างเย็นชา ชี้ดาบไม้ไปทางจางจีเทา
จางจึเทาเห็นผมชี้ดาบไม้ไปทางเขา เขาเลยโมโหสุดๆ “ ฟ้าอะไร ? ยุติธรรมอะไร ? วันนี้ฉันจะบอกแกให้เอาบุญนะ ฟ้าไม่เห็นใจฉัน งั้นฉันก็จะเป็นฟ้า ความยุติธรรมรังแกฉัน งั้นฉันก็จะเป็นความยุติธรรมซะเอง !
ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคืนนี้ฉันจะกินแกซะ ”
หลังจากพูดจบ นักพรตจางก็ทําหน้าตายด้าน จู่ๆก็ส่ายคอไปมาสองสามครั้ง
ระหว่างนั้น ตาของจางจีเทาก็เต็มไปด้วยเลือด เปลี่ยนเป็นสีแดงสด
ในปากมีเขี้ยวยาวสองซี่โผล่ออกมา เล็บบนมือ ก็กลายเป็นเหมือนกรงเล็บสัตว์
บนผิว ก็มีขนสัตว์สีดําเข้มขึ้นมาปกคลุมอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่แค่นี้ มือทั้งสองข้างยังเปลี่ยนเป็นเหมือนอุ้งเท้าสัตว์
สัตว์ประหลาด เพื่อยับยั้งอาการปวย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง จางจึเทาถึงกับยอมฝึกวิชามารบางอย่างขององค์กรตาผี
เมื่อเห็นสภาพคนก็ไม่ใช่สัตว์ก็ไม่เชิงของจางจึเทา ผมก็ไม่ได้ขยับมั่วซั่ว เพียงพูดอย่างเยือกเย็นว่า
“ จางจึเทา ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง กลับใจซะ อย่าหลงเดินทางผิดอีกเลย ”
“ ผิด ? ฉันไม่เคยเลือกผิดมาก่อน !”
หลังจากพูดจบ จางจีเทาก็คํารามดัง “โฮก” ยกอุ้งเท้าทั้งสองข้างขึ้นแล้วพุ่งเข้ามาหาผมทันที
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วมาก ในระยะห่างห้าเมตร เขาพุ่งลอยตัวเข้ามาตรงๆ
เมื่อเห็นจางจีเทาเข้ามาใกล้ ผมก็จับดาบไม้แน่น กวาดดาบเข้าไปฟาดฟันทันที
“ ปัง” ทันใดนั้นผมก็ต้องผงะถอยหลัง พลังมหาศาล ทําให้ผมรับมือไม่ไหวเท่าไหร่
จางจึเทาเห็นผมถอยร่นไป ใบหน้าที่เต็มไปด้วยขนจึงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเล็กน้อย “ ติงฝาน แกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน คืนนี้แกตายแน่ ! ”
แต่ผมกลับหัวเราะ “ ฮ่าๆ ” แล้วพูดอย่างสบายๆ “ งั้นเหรอ ! งั้นแกลองมองดูรอบๆดีๆซิ…”