ศพ ตอนที่ 307 ใส่สีตีไข่
หลังสู้มาครึ่งคืน ในที่สุดพวกเราก็จัดการผีตานีสําเร็จ
แต่ทุกคนต่างต้องเสี่ยงอันตรายไม่มากก็น้อย เหล่าเฟิงบาดเจ็บหนักที่สุด นอกจากรอยข่วนบนบ่าแล้วยังมีอาการบาดเจ็บจากกระดูกเคลื่อน และดูดพลังปีศาจเข้าไปไม่น้อย
ต่อไปเขาต้องพักรักษาตัวอย่างน้อยหนึ่งเดือน ถึงจะหายเป็นปกติ
แต่เราก็จัดการปัญหาเสร็จแล้ว มีคําตอบให้นายจ้างแล้ว
ปากล้วยทั้งมืดและชื้น กว่าจะออกมาได้ เราต้องเดินกันถึงครึ่งชั่วโมง
เมื่อมองเห็นดวงดาวเล็กๆที่ด้านนอก ทุกคนก็อดไม่ได้ที่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อหันกลับไปมองปากล้วยอีกครั้ง มันยังคงมืดมิด และให้ความรู้สึกหดหูเหมือนเดิม
หลังจากนั้นเราก็เดินไปตามทาง ตอนมาถึงทางแยกเข้าถนนหลักเขตชานเมืองตะวันตก เราพบว่าสองพ่อลูกหลงอ้าวเทียนที่มาส่งเราตอนขามายังอยู่ที่เดิม
ในเวลานี้พอพวกเขาเห็นกลุ่มของพวกเราออกมาก็ดีใจขึ้นมาทัน
“ นักพรตทุกท่าน !” คุณหลงรีบพูด และพุ่งเข้ามาต้อนรับคนแรก
หลงอ่าวเทียนรีบเดินตามมาติดๆ เขาเองก็ทําหน้าดีใจเช่นกัน
พอเห็นพวกเราทุกคนออกมาอย่างปลอดภัย เขาก็เข้าใจทันทีว่าเราต้องจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
แต่หลังจากเดินเข้ามาใกล้ ถึงได้พบว่าเหล่าเฟิงได้รับบาดเจ็บ เลือดไหลย้อมไปครึ่งแขนเสื้อ คุณหลงจึงถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง “ ทําไมท่านนักพรตเสี่ยวเฟิงถึงบาดเจ็บได้ละ ? บาดเจ็บสาหัสไหมครับ! ”
เหล่าเฟิงทําหน้าไร้ความรู้สึก แต่เขาก็ยังตอบกลับ “ ไม่เป็นอะไร ไม่ตายหรอก ! ”
“ รีบไปพักบนรถเถอะครับ ข้างนอกอากาศหนาว! ”
ขณะพูด คุณหลงก็ให้หลงอ่าวเทียนประคองเหล่าเฟิงเข้าไปในรถ
ในเวลาเดียวกัน เพื่อยืนยันเรื่องผีตานี เขายังถามขึ้นมาว่า “ ท่านนักพรตทุกท่าน ผี ผีตานีพวกนั้น โดน โดนจัดการหมดแล้วใช่ไหมครับ ? ”
ท่านนักพรตตู๋ถอนหายใจออกมา จากนั้นถึงได้ตอบกลับว่า “ คือจัดการแล้ว ผีตานีทั้งสามตัวโดนกําจัดหมดแล้ว ต่อไป พวกคุณก็นอนหลับอย่างสบายใจได้แล้ว อ่อใช่ ต่อไปอย่าให้ลูกชายคุณเข้าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้อีก ครั้งนี้พวกเราช่วยพวกคุณได้ แต่ครั้งหน้าอาจไม่โชคดีขนาดนี้แล้วก็ได้ !”
เมื่อคุณหลงได้ยินท่านนักพรตตู๋ยืนยันอย่างชัดเจนแล้วก็ดีใจขึ้นมาทันที เขาหัวเราะและพยักหน้ารับรัวๆ “ ครับครับครับ ผม ทําแน่ ผมทําแน่”
พอพูดจบ คุณหลงยังทําเสียงดุใส่หลงอ่าวเทียนที่กําลังเดินกลับมา “ ยังไม่รีบมาขอบคุณท่านนักพรตทุกท่านอีก ”
“ ขอบ ขอบคุณท่านนักพรตทุกท่านที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้ !” ขณะพูด หลงอ่าวเทียนยังโค้งคํานับให้พวกเราด้วย
“ ช่างเถอะ ! ศิษย์ของฉันได้รับบาดเจ็บ เรารีบกลับกันก่อนเถอะ! ” ท่านนักพรตตู๋พูดออกมาอีกครั้ง
พ่อลูกสกุลหลงตอบรับรัวๆ ส่งสัญญาณให้พวกเราส่วนหนึ่งขึ้นรถก่อน จะได้ไปส่งพวกเรากลับไป
ที่นี่มีรถแค่คันเดียว ไม่พอให้พวกเรานั่งกลับไปได้
ผม หยางเฉ่ว และหลงอ้าวเทียนจึงต้องอยู่ที่นี่ต่อ เราให้พวกอาจารย์และเหล่าเฟิงไปก่อน
หลังจากนั้นพวกเราก็เรียกรถจากอินเตอร์เน็ตมาเพิ่มหนึ่งคัน
ถึงหลงอ้าวเทียนจะเป็นคุณชายเจ้าสําราญ แต่ตอนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าเรา เขาก็เชื่องอย่างกับแพะภูเขา
แต่เขาสนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในป่ากล้วย และวิธีที่พวกเราใช้จัดการกับผีตานีมาก
เขาเริ่มพูดกับผมและหยางเฉ่วว่า “ ท่านนักพรตติง ท่านนักพรตหยาง เล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหมว่าพวกคุณเข้าไปจัดการผีตานียังไง? ”
ผมและหยางเฉ่วเหลือบมองเจ้าหมอนี่ เห็นเขาทําท่าทางอยากรู้อยากเห็นมาก
พวกเราอยู่ที่นี่ไปก็ไม่มีอะไรทําอยู่แล้ว ต่อจากนั้นเลยเห็นผมใส่สีตีไข่เล่าเรื่องจัดการผีตานีให้เขาฟังหนึ่งรอบ
เดิมทีหลงอ้าวเทียนก็เชื่อในความสามารถของพวกเราอยู่แล้ว
และยังกลัวผีตานีมาก ตอนนี้พอเห็นผมพูดอย่างออกรสออกชาติ หรือแม้แต่เว่อร์เลยก็ว่าได้
เช่นผีตานีแปลงร่างเป็นเดอะฮัลค์หัวสูงสามเมตร ลิ้นยาวได้สองเมตร ควันพิษที่พ่นออกมาหนึ่งครั้งสามารถฆ่าต้นกล้วยแถวนั้นตายได้ทันที ฯลฯ เขาก็เชื่ออย่างหมดใจ
ถึงผมจะพูดเว่อร์กว่านี้ หลงอ้าวเทียนก็ฟังอย่างตั้งใจ ทําหน้าเป็นจริงเป็นจังสุดๆ
ไม่เพียงไม่สงสัยเลยสักนิด เขายังหลงใหลในความสามารถของพวกเราสุดๆ จนแทบจะกราบเราเป็นอาจารย์ตรงนั้นทันที
แน่นอน ว่าเจ้าหมอนี่กลัวผีตานีมาก และยังหวาดผวาด้วย จึงสูญเสียความสามารถในการแยกแยะไปอย่างสิ้นเชิง
นี่ก็ถือเป็นเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง ที่เอาไว้ใช้ฆ่าเวลาเท่านั้น ผมเลยไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
แต่ผมจะไปรู้อะไร ต่อมาเจ้าหลงอ้าวเทียนคนนี้ได้เอาสิ่งที่ผมเล่าให้ฟังไปเล่าต่อในกลุ่มของเขาและบรรดาพวกลูกคนรวยทั้งหลายเหล่านั้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องลึกลับ และยังเป็นเรื่องที่เจอมากับตัว แถมในเรื่องยังมีคนตายด้วย ด้วยเหตุนี้มันเลยสร้าง “ ความฮือฮา ” มากมายให้กับวงของพวกเขา
เพราะเรื่องนี้ เลยมีผลกระทบเป็นลูกโซ่เกิดขึ้นมาไม่น้อย
พวกเจ้าถิ่นและคุณชายจํานวนมากต่างพากันมาที่ตําบลชิงฉือ เพื่อหาพวกเราโดยเฉพาะ แต่ละคนต่างไม่เสียดายเงินก้อนโตเพื่อที่จะให้พวกเราไปช่วยพวกเขา……
แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องหลังจากนี้ คนส่วนใหญ่ที่มาหาล้วนเป็นพวกสงสัยเรื่องภูติผี ทําตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไปเอง
แต่หนึ่งในนั้น กลับได้เรื่องนี้เป็นเหตุ ช่วยผมหาหญ้าหยินฉ่าวพิเศษ ที่สามารถยืดอายุมู่หลงเหยียนได้อีก 50 ปีพบ
ผ่านไปอย่างไม่ทันรู้ตัว ผมก็เล่าเรื่องตั้งแต่เข้าไปในป่ากล้วย จนถึงตอนที่กําจัดผีตานีทั้งสามตนจบแล้ว
“ท่าน ท่านนักพรตติง พวกคุณเก่งกันจริงๆ คิดไม่ถึงว่าท่านนักพรตหยางเฉ่ว จะสามารถทําเหมือนในทีวีได้ เสกยันต์โจมตีปีศาจ ช่างน่าทึ่งจริงๆ! ” หน้าหลงอ้าวเทียนเต็มไปด้วยความชื่นชม
หยางเฉ่วไม่รู้สึกดีกับเจ้าหมอนี่เลยสักนิด หรือแม้แต่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ํา
ผมกลับทําเสียง ฮิฮี “ นายคิดว่าชื่อคนปราบสิ่งชั่วร้ายของเราเลือกมาแบบมั่วๆเหรอ ? พ่อแม่นายหาเราเจอ ถือเป็นโชคของนายแล้ว”
“ ฉันจะบอกนายให้ฟัง ต่อไปต้องทําดีเยอะๆเข้าไว้ บนโลกนี้เวรกรรมมีอยู่จริง คุณชายเจ้าสําราญแบบนาย ถ้ายังทําแบบนี้ต่อไปต้องตกนรก 18 ขุมแน่นอน ถึงตอนนั้นนายต้องทรมานอีกหลายพันปี พอถึงเวลาเกิดใหม่อีกครั้งก็อย่าหวังจะได้เกิดมามีชีวิตดีๆอย่างทุกวันนี้เลย ! ”
เมื่อก่อนหลงอ้าวเทียนไม่เชื่อเรื่องชะตาชีวิต แต่หลังจากเจอเรื่องนี้เข้าไป เขาก็เชื่ออย่างหมดใจ
ตอนนี้เมื่อได้ยินผมพูดถึงขนาดนั้น เขาก็ทําท่าหนักแน่นขึ้นมาทันที บอกว่าต่อไปจะเปลี่ยนนิสัยแย่ๆของตัวเองซะใหม่ จะเป็นคนดีทําแต่เรื่องดีๆแล้ว
สําหรับเรื่องที่เจ้าหมอนี่จะเปลี่ยนตัวเองจริงๆไหมผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูจากท่าทางของเขา ช่วงนี้คงไม่หน้ามืดไปก่อเรื่องชั่วๆอีกแล้ว
ในเวลานี้ ในที่สุดรถที่พวกเราเรียกมาก็มาถึง
เราสามคนรีบขึ้นรถอย่างรวดเร็ว หลังจากคนขับรถเหลือบมองเราผ่านกระจกหลังสองสามครั้งแล้ว
และยืนยันสถานที่จะไปแล้ว เขาก็เริ่มออกรถทันที
ตอนเรามาถึงบ้านสกุลหลง ก็เป็นเวลาที่สามแล้ว
เหล่าเฟิงทําแผล และนอนหลับไปแล้ว ตอนนี้พวกอาจารย์กําลังนั่งกินมื้อดึกกันอยู่ในบ้าน
ส่วนด้านข้างนอกจากคุณหลงและคุณนายหลงแล้ว ยังมีครอบครัวของซุนเสี่ยวหลินที่รีบมาที่นี่อยู่ด้วย
ในเวลานี้พวกเขากําลังนั่งอยู่ข้างๆอย่างเคารพ ทั้งรินเหล้าให้พวกอาจารย์ และพูดขอบคุณในเวลาเดียวกันท่าทางดูเคารพสุดๆ
เมื่อเห็นพวกเรากลับมา คุณนายหลงก็ดีใจน่าดู
คุณหลง คุณซุน และคนอื่นๆรีบเข้ามาต้อนรับพวกเราทันที
ท้องของผมและหยางเฉ่วหิวนานแล้ว เพิ่งนั่งลงบนเก้าอี้ เราก็ละเลงกินดื่มทุกอย่างทันที
หลังจากกินข้าวอิ่มแล้ว ผมก็เห็นคุณหลงและคุณซุนส่งสายตาให้กัน หลังจากนั้นคุณหลงก็หัวเราะแล้วพูดกับพวกอาจารย์ผมว่า “ เอ่อคือ ท่านนักพรตทั้งสาม ครั้งนี้ต้องขอบคุณพวกท่านจริงๆที่ยื่นมือให้ความช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นเราสองบ้านคงเสียลูกชายไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่า ไม่รู้ว่านักพรตทุกท่านจะเรียกเก็บค่าตอบแทนเท่าไหร่ ทางเรา ทางเราจะได้เตรียมตัวให้พร้อม ไม่ไปทําลายกฎของท่านนักพรตทุกท่าน…”