ศพ ตอนที่ 312 เผาเสื้อผ้า
ตอนที่ 312 เผาเสื้อผ้า
มู่หลงเหยียนใช้ภาพเหมือนของผมผนึกโลง ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็เป็นอัปมงคลชัดๆ
แต่มู่หลงเหยียนกลับไม่อธิบายให้ผมฟังเลยสักนิด กลับกันยังถามถึงเสื้อผ้าของเธอแทน
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของมู่หลงเหยียน ผมก็ได้แต่หดหูใจ
ได้แต่หยุดเรื่องนี้เอาไว้เพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามยังไงที่นี่ก็ไม่มีคนนอก
ถ้าผมไม่พูดออกไป ก็ไม่มีใครรู้หรอก
พอคิดได้แบบนี้ ผมก็ถอนหายใจยาวๆ หลังจากนั้นก็พูดกับมู่หลงเหยียนว่า “ เสื้อผ้าอยู่นี่หมดแล้ว เธอมาลองดูซิ !”
หลังจากพูดจบ ผมก็เดินไปหากระเป๋าที่อยู่ข้างๆ
ในกระเป๋าใบนี้ มีแต่เสื้อผ้าที่มู่หลงเหยียนซื้อมาจากอินเตอร์เน็ต
เห็นได้ชัดว่ามู่หลงเหยียนกำลังดีใจ พอเห็นว่าผมเปิดกระเป๋าแล้ว เธอก็เอาเสื้อผ้าแต่ละตัวออกมาดูทีละตัวๆ ท่าทางทั้งตื่นเต้นและดีใจสุดๆ นอกจากนี้ยังเอามาเทียบที่หน้าอก แล้วถามผมว่าดูดีไหมอีกต่างหาก
เมื่อเห็นมู่หลงเหยียนทำท่าทางดีใจ ผมก็ลืมเรื่องภาพเหมือนไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากมู่หลงเหยียนตรวจสอบเสื้อผ้าทุกตัวเสร็จแล้ว เธอก็พูดกับผมอีกครั้ง “ โอเคแล้ว ของครบแล้วนายรีบเผาให้ฉันเถอะ ! ”
มู่หลงเหยียนเป็นแค่ผีผู้หญิง เสื้อผ้าในตอนนี้ เธอยังไม่สามารถใส่ได้
“ อือ ” ผมตอบรับสั้นๆ จากนั้นก็บอกให้เธอไปยืนรออยู่ข้างๆ
หลังจากนั้นผมก็หยิบธูปออกมาจากห่อ จุดแล้วปักลงบนดิน
ในเวลาเดียวกันก็เอากระดาษเหลืองที่เตรียมเอาไว้แล้ว ออกมา เขียนชื่อม่หลงเหยียนลงไป
ผมจุดไฟใส่กระดาษที่พื้นก่อน พอกระดาษติดไฟแล้ว มันก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นผมก็ใช้ไฟที่กำลังลุกไหม้นี้ เผาเสื้อผ้าไหมสีอ่อนหนึ่งตัวจากนั้นก็นำเสื้อที่ติดไฟแล้ว ไปโยนใส่กองเสื้อผ้าที่เหลือ
ไฟลุกสูงขึ้นฟ้า ทำให้รอบๆสว่างไสวขึ้นมา หลังจากเสื้อผ้าติดไฟหมดแล้ว มันก็ทิ้งกองขี้เถ้าเอาไว้กองนึ่ง ขณะเดียวกันในอากาศก็มีกลิ่นเหม็นไหม้เต็มไปหมด
เสื้อผ้าพวกนี้มีไม่เยอะมาก ผ่านไปไม่นานมันก็โดนเผาจนหมดเกลี้ยง
มู่หลงเหยียนและยายโม่ต่างยืนดูอยู่ข้างๆ โดยเฉพาะมู่หลงเหยียน เธอทำตาปริบๆราวกับแทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว
เพราะต้องทำพิธีก่อน หลังจากเปลวไฟดับแล้ว มู่หลงเหยียนก็จะได้รับของทั้งหมด
ตอนเปลวไฟกองสุดท้ายดับ มู่หลงเหยียนก็เอื้อมมือเข้าไปในกองขี้เถ้า แล้วดึงเสื้อผ้าออกมาที่ละชุดๆ
ตอนมู่หลงเหยียนหยิบเสื้อผ้าพวกนี้ออกมา เธอดีใจแทบบ้า
แต่คราวนี้เธอไม่ได้หยิบออกมาเทียบกับหน้าอก ขณะหยิบเสื้อผ้าแต่ละชุดออกมา เธอก็หมุนตัว ลองเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่พวกนั้นที่ละชุด
ขณะมองเสื้อผ้าชุดใหม่บนตัว เธอก็ทำท่าทางดีใจสุดๆ
“ เจ้ากาก นายว่าฉันใส่ชุดนี้แล้วเป็นยังไงบ้าง ? ” ขณะพูด มู่หลงเหยียนก็กางแขน ฉีกยิ้มให้ผม ทำหน้ารอคอยคำตอบจากผม
ไม่พูดไม่ได้ มู่หลงเหยียนหน้าตาดี และหุ่นดีอีกด้วย
แม้ว่าตอนนี้อากาศจะหนาวมาก แต่เธอกลับกำลังใส่กระโปรงลายดอกไม้ที่ทำจากผ้าเนื้อบาง
กระโปรงตัวนี้ทรงสวยมาก พออยู่บนตัวมู่หลงเหยียนแล้ว มันก็ยิ่งมีชีวิตชีวา และสวยเข้าไปใหญ่
ผมพยักหน้ารัวๆ “ ดูดีมาก สวยมาก ! ”
“ ฮ่าๆๆๆ งั้นเหรอ แล้วชุดนี้ละ ?” หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็หมุนตัวอีกรอบ ทันใดนั้นเสื้อยีนส์ที่เข้าคู่กันก็มาอยู่บนตัวเธอ
คราวนี้ มู่หลงเหยียนก็สวยไปอีกแบบนึง
เหมือนกับเด็กสาวข้างบ้าน ที่พอเห็นแล้วเราก็ไม่อาจลืมได้เลย
ต่อจากนั้น มู่หลงเหยียนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าทุกตัวรอบหนึ่ง หุ่นหลงเหยียนดีมาก ไม่ว่าจะใส่อะไรก็สวยทั้งนั้น
หลังจากรอเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ มันก็ดึกมากแล้ว
ผมจึงพูดกับมู่หลงเหยียนและยายโม่ว่า “ น้องศพ ยายโม่ ตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ !”
แต่มู่หลงเหยียนกลับพูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “ ครั้งนี้นายเอาเสื้อผ้ากับโลงมาให้ฉัน มันก็ค่อนข้างจะลำบากหน่อย ! ฉันจะไปหยิบของมาให้นาย ไม่แน่ในอนาคตนายอาจจะได้ใช้มันก็ได้”
“ ของ ? ของอะไร ? ” ผมพูดด้วยความสงสัย
มู่หลงเหยียนกลับแบมือออกมา ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบ และบนมือเธอก็มีกระดิ่งหนึ่งอันปรากฏขึ้น
กระดิ่งอันนี้ดูเก่ามาก แถมข้างบนยังมีอักษรสลักเอาไว้อีกด้วย
“ กระดิ่ง ”
“ คือ กระดิ่ง แต่มันไม่ใช่กระดิ่งธรรมดานะ มันเป็นกระดิ่งกุมวิญญาณ มีผลต่อการควบคุมสิ่งชั่วร้ายมาก นายชอบออกไปข้างนอกบ่อยๆ เอาสิ่งนี่ติดตัวไปด้วย เพื่อเกิดอะไรขึ้นมามันอาจจะช่วยนายได้บ้าง ! ”
มู่หลงเหยียนอธิบายอย่างช้าๆ ในเวลาเดียวกันก็ยื่นกระดิ่งกุมวิญญาณมาทางผม
กระดิ่งกุมวิญญาณ แค่ได้ยินชื่อก็ฟังดูไม่เลวแล้ว
แต่เห็นได้ชัดว่ากระดิ่งกุมวิญญาณ ไม่อาจเทียบกับอาวุทของลัทธิเต๋าได้
มู่หลงเหยียนเป็นแค่วิญญาณตนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเธอใช้มันไม่ได้อยู่แล้ว ในเมื่อเธอมอบสิ่งนี้ให้ผม
งั้นผมก็ไม่เกรงใจเลยแล้วกัน
“ โอเคงั้นฉันจะรับไว้!”
ขณะพูด ผมก็หยิบกระดิ่งกุมวิญญาณมาไว้ในมือ
แต่พอมาอยู่ในมือแล้วถึงได้รู้ว่า กระดิ่งกุมวิญญาณอันนี้หนักมาก ไม่รู้ว่ามันทำมาจากวัสดุอะไร ด้านนอกยังมีผนึกขี้ผึ้งปิดเอาไว้อีกชั้น
มู่หลงเหยียนเห็นผมสำรวจกระดิ่งอันนี้ เธอก็เลยพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ ฉันใช้เจ้านี่ไม่ได้ ก็เลยผนึกเอาไว้พอกลับไปแล้ว นายแกะมันออกก็ใช้ได้แล้ว ! ”
นี่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะด้านนอกมีขี้ผึ้งผนึกไว้หนึ่งชั้นมู่หลงเหยียนถึงกล้าใช้มือถืออาวุธชิ้นนี้เอาไว้
ไม่อย่างนั้นด้วยร่างวิญญาณของมู่หลงเหยียน ไม่มีทางแตะต้องของสิ่งนี้ได้อย่างแน่นอน
ถึงจะทำได้ ก็ต้องทำให้เธอบาดเจ็บ หรือสูญเสียพลังวิญญาณไปไม่น้อย
ผมหัวเราะฮ่าๆและพยักหน้ารับ หลังจากนั้นก็เก็บเจ้านี้ให้เรียบร้อย หลังจากบอกลาเสร็จ ผมก็ออกจาก
จวนมู่หลงเพียงลำพัง
เรื่องภาพเหมือนและโลง ผมก็ไม่ได้ถามอะไรอีก
มันชัดเจนมาก มู่หลงเหยียนเองก็ไม่คิดจะอธิบายให้ผมฟัง
สำหรับเรื่องที่เอาภาพเหมือนของผมไปแปะไว้บนฝาโลง ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คิด
อาจารย์เคยพูดเอาไว้ โลงเหล็กโลงนี้ที่มู่หลงเหยียนเลือกมามีประโยชน์มาก
ในเมื่อมันมีประโยชน์เยอะ งั้นก็คงไม่เอารูปไปแปะมั่วๆ
แต่เพราะมีข้อมูลที่น้อยเกินไป มันเลยทำให้เดาได้ยาก ผมก็เลยปล่อยเลยตามเลยไม่คิดให้ปวดหัวอีก
พอเดินออกจากปาก๋ยหม่าแล้ว ไอเย็นที่อยู่รอบๆก็หายไป
ผมถือกระดิ่งที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ เดินตรงกลับบ้านทันที
ระหว่างนั้นไม่มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น พอกลับมาถึงห้อง ก็เข้าช่วงรุ่งเช้าแล้ว
ผมไม่มีเวลามาทำลายผนึกกระดิ่งกุมวิญญาณแล้ว หลังจากล้างหน้าเสร็จ ผมก็เข้าไปซุกในที่นอนทันที
วันถัดมา ผมนั่งละลายขี้ผึ้งด้านนอกตัวกระดิ่งกุมวิญญาณ จากนั้นก็สำรวจมันอีกพักหนึ่ง
ผมพบว่ามันเป็นกระดิ่งทองแดง ไม่ได้มีแค่คำว่า “ กุม” สลักเอาไว้ ด้านในยังมีพวกอักขระบางอย่างสลักเอาไว้อีกด้วย
ตัวกระดิ่งทองแดงทั้งลูก ดูประณีตมาก
ผมลองเขย่ามันสองสามครั้ง “ กริ้งๆๆ ” เสียงกระดิ่งใสแจ๋วเป็นกระดิ่งที่ดีอันหนึ่งเลยทีเดียว
แต่ก็ไม่รู้ว่าเจ้ากระดิ่งทองแดงอันนี้ จะมีผลยังไง เวลาตอนเจอกับวิญญาณชั่วร้าย
ต่อจากนั้น ผมก็เอาไปให้อาจารย์ดู
หลังจากอาจารย์ลองดูให้ละเอียดแล้ว เขาก็พยักหน้าเล็กน้อย บอกว่าเป็นอาวุธที่ดีชิ้นหนึ่ง
แต่จะมีพลังรบยังไง เขาเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน
แต่ก็ให้ผมพกเจ้านี่ติดตัวเอาไว้ กระดิ่งทองแดงอันนิดเดียว พกพาสะดวกถ้าเจอปัญหายุ่งยาก เจ้ากระดิ่งอันนี้อาจช่วยชีวิตผมไว้ก็ได้
เรื่องก็เป็นแบบนี้ เวลาก็ผ่านไปอีกพักหนึ่ง
ในช่วงเวลานี้เงียบสงบมาก ไม่มีปัญหามากวนแต่อย่างใด
ตามหลักแล้วทุกคนควรดีใจกันสุดๆถึงจะถูก แต่เหล่าเฟิงและพวกเรากลับเริ่มร้อนใจขึ้นเรื่อยๆ
เพราะวันที่ท่านนักพรตตูและพี่เฟิงสัญญาเอาไว้จะมาถึงแล้วอย่าว่าแต่แก่นหยินแดงเลย ตอนนี้แม้แต่ผีผู้หญิงชุดแดง เราก็ยังไม่มีเบาะแสเลย……