ศพ
ตอนที่ 317 ผีร้ายชุดเหลือง
ขณะที่รอบๆเพิ่งเกิดความผิดปกติขึ้น หยางเนิ่วที่เคยทําท่าเหนี่อยอ่อนก็กลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง
เธอเลิกคิ้ว รําดาบต่อไป ในปากก็พูดมากขึ้นกว่าเดิม “ ภูติผีร้ายที่อยู่รอบๆทั้งหลาย จงกลับมา จงกลับมา !!”
ขณะที่คาถาเรียกวิญญาณดังขึ้น ลมที่อยู่รอบๆก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆไอเย็นที่ปล่อยออกมาก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่างนั้น ผมถึงกับสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้ายที่ลอยมาตามลม
เห็นได้ชัดว่า ผีผู้หญิงที่จากไปตนนั้น โดนคาถาเรียกวิญญาณเรียกกลับมา ห่างจากเราใกล้ขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ผมและเหล่าเพิ่งหันมามองตากัน เราพยักหน้าเล็กน้อยในเวลาเดียวกันก็เปิดตาตามที่จิตใต้สํานึกบอก
ขณะที่ความเย็นของน้ําตาวัวปราฏกขึ้นที่เปลือกตา ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวก็ชัดเจนขึ้นมาทันที
ตอนนี้เรามองเห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว ในตําแหน่งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ กําลังมีหมอกสีขาวลอยเข้ามา
มันจางมากไม่ได้หนาทึบ แต่ถ้าสังเกตจากรอบๆ มันจะดูชัดเจนเป็นพิเศษ
ไม่ผิดแน่ นั่นก็คือพลังหยินที่ผีผู้หญิงคนนั้นปล่อยออกมา
และทิศทางที่อีกฝ่ายจะปรากฏตัวขึ้น ก็ต้องเป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้อย่างแน่นอน
ผมและเหล่าเฟิงส่งสัญญาณมือปรับทิศทางในการซุ่มโจมตี
ส่วนหยางเฉ่ว ยังคงทําพิธีต่อไป เธอจะต้องเรียกวิญญาณผีผู้หญิงเข้ามาใกล้ๆ พิธีถึงจะเสร็จสิ้น
ไม่อย่างนั้นวิญญาณผีผู้หญิงที่ถูกเรียกมาอาจหนีไปได้ตลอดเวลา
หยางเฉ่วก็รู้เรื่องนี้ ตอนนี้เธอเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่พิธีท่องคาถาเรียกวิญญาณไม่หยุด
ผมและเหล่าเฟิงถอยไปซ่อนตัวอยู่หลังเนินดินของทั้งสองข้างในมือกําเชือกแดงเอาไว้
หากยัยผีนั่นเข้ามาในกับดักที่พวกเราวางเอาไว้ เราก็จะกระตุกเชือกแดงทันทีขังผีผู้หญิงเอาไว้ในนั้น
จํากัดการเคลื่อนไหวของเธอ แล้วสุดท้ายเราก็จะจับกุมเธอได้
รอบๆเริ่มมีพลังหยินเยอะขึ้นเรื่อยๆ หมอกก็เริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากนั้นประมาณห้านาที ร่างของใครคนหนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้นอย่างกระทันหัน
เห็นเพียงจู่ๆทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ก็มีร่างของใครคนหนึ่งกําลังลอยมาทางพวกเราอย่างรวดเร็ว
เพราะมันเร็วมาก เราเลยมองเห็นไม่ชัดเจน
จนกระทั่งอีกฝ่ายอยู่ห่างจากเรา 200 เมตร พวกเราถึงได้มั่นใจ
ไม่ผิดแน่ นี่ก็คือผีผู้หญิงที่เรารอกันมานานสองนาน
เพียงแต่ตอนที่พวกเราเห็นสีชุดที่ผีผู้หญิงใส่ เราก็อดเครียดขึ้นมาไม่ได้
เพราะสีชุดของผีผู้หญิงคนนี้เป็นสีเหลือง หรือจะพูดอีกอย่างคือผีผู้หญิงตนนี้ไม่ใช่แค่ผีร้าย แต่ยังเป็นผีชุดเหลืองที่ร้ายกาจอีกด้วย
เราแบ่งประเภทของผีออกเป็นห้าระดับใหญ่ คือขาว เหลือง แดง เขียวและม่วง
ในห้าระดับนี้ เรายึดสีเสื้อผ้า ตัดสินความแข็งแกร่งของพวกเธอ
ผมเคยได้ยินอาจารย์บอกว่า ถ้าผีร้ายอยู่ในชุดเหลือง พลังขั้นต่ําสุดจะไม่ต่างจากพลังขั้นเต้าฉือจงฉีของเราคนปราบสิ่งชั่วร้าย
หรือก็คือ พลังของผีชุดเหลืองตรงหน้า อย่างน้อยที่สุดก็มีพลังมากกว่าผมแล้ว
ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นมันก็รับมือได้ยากแล้ว
พลังของเหล่าเฟิงและหยางเฉวสูงกว่าผมนิดหน่อยต่างขึ้นเป็นขั้นเต้าฉือเตียนเฟิงแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่ถึงขั้นเต้าชื่อ
ถ้าพลังของผีชุดเหลืองมีพอๆกับเราก็ยังว่าไปอย่างเพราะถ้าเราสามคนร่วมมือกัน ก็อาจยังมีโอกาสชนะอยู่บ้าง
แต่ถ้าพลังของอีกฝ่ายสูงกว่าพวกเรา ถึงขั้นเต้าซื้อแล้วงั้นก็จัดการยากแล้ว
ผมกังวลในใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอย่างอื่น
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ทําได้เพียงแค่เตรียมใจ และรอให้ผีผู้หญิงเข้ามาติดกับเท่านั้น
ผ่านไปไม่นาน ผีผู้หญิงคนนั้นก็อยู่จากพวกเราไม่ถึงสิบเมตรแล้ว
เธอในตอนนี้ เหมือนคนกําลังเดินละเมอ ตาปิดสนิท ลอยมายังแท่นพิธีข้างหน้าอย่างล่องลาย
เมื่อเห็นผีชุดเหลืองเข้ามาใกล้เรื่อยๆ พวกเราก็ไม่กล้าหายใจแรงอีกต่อไป
หยางเนิ่วในเวลานี้กําลังใช้ดาบไม้ชี้ไปที่เทียนที่กําลังมอดไหมปลายดาบสั่นไหว ทําพิธีอย่างต่อเนื่อง
เห็นได้ชัดว่าเธอกําลังกระตุ้นให้ผีผู้หญิงเข้ามาข้างหน้าเรื่อยๆเข้าใกล้ปะรําพิธีและเข้ามาอยู่ในกับดักที่เราวางเอาไว้ก่อนหน้านี้
ผีผู้หญิงไม่มีการป้องกันแต่อย่างใด ผ่านไปไม่นานเธอก็มาถึงด้า นหน้าปะรําพิธีเข้าสู่กับดักที่เราวางเอาไว้ก่อนหน้านี้
แต่ผมและเหล่าเฟิงไม่ได้รีบลงมือทันที เพราะพิธียังไม่จบ
ถ้ารีบลงมือในเวลานั้น ถึงจะเป็นการขัดขวางพิธี
และสามารถทําให้มีผู้หญิงคนนี้ติดอยู่ในกับดักได้ แต่ผู้ทําพิธีหรือก็คือหยางเฉ่ว จะได้รับผลกระทบจากภายนอก ทําให้บาดเจ็บ ด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ จึงทําได้เพียงรอให้หยางเฉิวทําพิธีให้เสร็จ แล้วเราถึงจะลงมือจับยัยผีตัวนี้ได้
กลับมาดูหยางเนิ่วในปะรําพิธี เธอไม่ได้เก่งเรื่องการเรียกวิญญาณมากนัก การเรียกวิญญาณผีผู้หญิงมาถึงจุดนี้ได้นั้น ถือว่าเธอมาถึงขีดสุดของตัวเองแล้ว
เมื่อเห็นผีผู้หญิงเข้ามาในกับดักแล้ว หยางเนิ่วก็สูดหายใจ หมุนมือประสานเป็นรูปดาบ แล้วตะโกนออกมาว่า “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้งเพี้ยง ! ”
คาถาเพิ่งออกมา ดาบในมือของหยางเนิ่ว ก็ชี้ไปทางเทียนในแท่นบูชาอย่างรวดเร็ว
เดิมที่เทียนเล่มนั้นก็ติดไฟ ลุกไหม้ด้วยเปลวไฟสีแดง
แต่พอหยางเนิ่วชี้ไป “ ตูม” ไฟก็ระเบิดกลายเป็นกลุ่มไฟสีเขียวทันที
ขณะที่ไฟสีเขียวกําลังพวยพุ่ง ยันต์ที่แขวนเอาไว้ก่อนหน้านั้นก็มอดไหม้ตามไปด้วย
เพียงแค่นี้ พิธีเรียกวิญญาณก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว
หยางเนิ่วไม่กล้าอยู่ต่อนานนัก เพราะเธออยู่ใกล้ตัวผีผู้หญิงมาก
ดังนั้นพอพิธีเพิ่งเสร็จสิ้น หยางเนิ่วก็รีบวิ่งมาทางผมทันที
เมื่อหันไปมองผีผู้หญิงในปะรําพิธีอีกครั้ง เพราะพิธีเสร็จสิ้นแล้วดวงตาที่เคยปิดสนิทของเธอ จึงเริ่มลืมขึ้นอีกครั้ง
แต่ในขณะที่ผีผู้หญิงลืมตา ออร่าสีดําก็ค่อยๆแพร่ออกมาจากร่าง
ของเธอ
จากมุมของผม ดวงตาที่เปิดขึ้นของผีผู้หญิง มีสีขาวโพนเหมือนกับตาปลาตายที่ไร้ซึ่งนัยน์ตา
แต่สิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่านั้นคือ ขณะลืมตา หน้าของเธอก็เริ่มดูดุร้ายขึ้น
เล็บในมือ ก็ยาวขึ้นภายในชั่วพริบตา เขี้ยวอันแหลมคมก็ยื่นออกมาจากมุมปาก
ต่อจากนั้น จู่ๆเสียงผู้หญิงที่เยือกเย็นเข้ากระดูกก็ดังขึ้นจากทุกทิศทุกทาง “ชายชั่วสมควรจาย ทรมานฉันมานานขนาดนี้ ยังไม่ยอมปล่อยฉันไปอีกตายควรตายไปให้หมด ! ”
เสียงเพิ่งเงียบลง ดวงตาของผีผู้หญิงคนนั้นก็หันมาอย่างรวดเร็วใบหน้าที่ดุร้ายจ้องมาตรงที่ผมซ่อนอยู่อย่างโหดเหี้ยม
วินาทีนั้น ผมรู้สึกเหมือนโดนสัตว์ร้ายจ้องเขมือบ
ต่อมา พลังชั่วร้ายที่ท่วมท้น ก็ทําให้ผมรู้สึกเหมือนโดนกดเอาไว้อย่างที่ไม่ควรจะเป็น
ฉากนี้เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาแค่ชั่วพริบ
ตาเท่านั้น
ตอนผมสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้ายที่น่ากลัว และยังเห็นอีกฝ่ายจ้องผม ผมก็เกร็งขึ้นมาทันที ในหัวมีเสียงดัง “ เวิ่ง ”
ผมแอบพูดว่าแย่แล้ว ต้องโดนจับได้แล้วแน่ๆ
ผมเองก็ไม่สนใจอย่างอื่น จับเชือกในมือแน่น พร้อมตะโกนบอกเหล่าเฟิงว่า “ ลงมือ ! ”
เหล่าเฟิงก็เตรียมพร้อมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงผมเขาก็ไม่ละเลยแต่อย่างใดรีบกระตุกเชือกในมือกับผมทันที
วินาทีนั้น พวกเชือกแดงกับแผ่นยันต์ที่ฝังอยู่ใต้ดิน ก็ถูกดึงขึ้นมาทันที
ยึดตําแหน่งใจกลางของผีผู้หญิง วงเวทย์กลายเป็นรูปสี่เหลี่ยมขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็อดทําหน้าดีใจออกมาไม่ได้
ถึงเธอจะมีพลังชั่วร้ายที่ล้นหลามขนาดไหน แต่ตอนนี้ก็โดนขังอยู่ในวงเวทย์ของเราแล้ว ดูซิว่าเธอจะทําอะไรได้อีก
แต่ผีผู้หญิงคนนั้น กลับเหมือนไม่สนใจอะไรเลยสักนิด เธอยังเอาตาสีขาวโพนนั้นจ้องมาที่ผม
ขณะเดียวกันก็ตะคอกออกมาว่า “ ชายชั่ว เอาชีวิตของฉันคืนมา 2)
หลังจากพูดจบ ผีผู้หญิงคนนั้นก็ตัวสั่นทันที ยกมือมาทางผม แล้วก็ออกแรงบีบ
วินาทีนั้น ผมรู้สึกเหมือนโดนคนอื่นบีบคอ เจ็บปวดจนเกินจะรับ
ไหว
แต่มันยังไม่จบเท่านี้ ต่อจากนั้นก็มีแรงดูดมหาศาลตามมา
ไม่รอให้ผมได้ตอบสนองแต่อย่างใด ตัวผมก็ควบคุมไม่อยู่แล้ว พุ่งเข้าไปหาผีชุดเหลืองตรงกลางวงเวทย์ทันที่……..