ตอนที่ 326 เก็บแก่นพลังหยิน
พี่เทิ๋งหนิวลากเข้าประเด็นทันที ผมเองก็ไม่อ้อมค้อม พูดออกมาตามตรง “ ไม่ปิดบังพี่เทิง พวกเราต้องการแก่นพลังในตัวผีผู้หญิงคนนั้น”
พอพี่เทิงหนิวและพี่หวางเป้าเฉิงได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็อึ้งไปพักหนึ่ง
หลังจากนั้นถึงได้ยินพี่เทิงหนิวพูดกับผมด้วยน้ําเสียงสงสัย “น้องติงฝาน เจ้าจะเอาแก่นพลังผีผู้หญิงไปทําไม เจ้าของสิ่งนี้ไม่มีประโยชน์อะไรกับมนุษย์อย่างพวกเจ้าหรอกนะ ! แถมแก่ นพลังของผีชุดแดงมีพลังหยินแรงสุดๆ หากเอาไปพกติดตัว จะทําร้ายพลังหยางในร่างกายพวกเจ้าด้วยนะ !”
เมื่อได้ยินเทิงหนิวพูดแบบนี้ ผมก็คลี่ยิ้มเล็กน้อย “ พี่เทิ๋งพูดถูก แต่แก่นพลังนี้ เป็นสิ่งที่ผมต้องการจริงๆ ดังนั้นเมื่อกี้ก็เลยห้ามพี่เทิ๋งเอาไว้ไงครับ !”
เมื่อเทิงหนิวและหวางเป้าเฉิงได้ยินผมพูดแบบนั้น ถึงจะรู้สึกสงสัยว่าพวกผมจะเอาแก่นพลังหยินไปทําไม
แต่พอเห็นผมไม่พูด ทั้งสองตนก็ไม่เค้นถามต่อ
เพียงแค่เห็นพี่เทิ๋งพยักหน้าและพูดว่า “ ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นพวกเราก็จะเอาแก่นพลังหยินในตัวผีผู้หญิงมาให้ ขอแค่ทุกคนไม่เป็นอะไร พวกเราก็จะได้กลับไปรายงานได้ถูก !”
ผมทํามือคํานับพี่เทิง “ ขอบคุณมากครับ !”
“ เกรงใจเกินไปแล้ว !”
หลังจากพูดจบ เทิงหนิวและหวางเป้าเฉิงก็หมุนตัว แล้วลอยไปทางผีผู้หญิงทันที
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนเตรียมจะลงมือด้วยตัวเอง สังหารผีผู้หญิงตนนั้นแล้วเก็บแก่นพลังหยินของเธอ
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมก็ดีใจขึ้นมาทันที
ไม่เพียงมีชีวิตรอดมาได้ แต่ยังได้แก่นพลังของผีผู้หญิงมาครองอีกด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมดีใจได้ยังไงละ
แม้แต่เหล่าเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็มีดวงตาร้อนผ่าว เผยให้เห็นหน้ามีความสุข
แต่หยางเฉ่วกลับเข้ามาดึงแขนผมในเวลานี้ หลังจากนั้นก็พูดกับผมว่า “ ติงฝาน ผีระดับบอสแบบนี้ นายไปรู้จักได้ยังไง? »
ผมรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าหยางเฉ่วและเหล่าเฟิงต้องถามผม ดัง นั้นผมเลยหาเหตุผลเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ได้ยินแต่เสียงผมพูดว่า “ หือ ! สุสานจินชานและเขา ตู้ชานล้วนอยู่ใกล้ๆเมืองเราทั้งนั้น อาจารย์ของฉันเคยทําพิธีศพอยู่ที่นี่ตั้งยี่สิบกว่าปี
ย่อมต้องรู้จักผีพวกนี้เป็นธรรมดา พอนานวันเข้า ฉันเองก็ได้มารู้จักเหมือนกันก็เท่านั้น ! ดูเหมือนวันนี้เราจะโชคดีสุดๆ ผู้นําผีทั้งสองท่านคงผ่านมาพอดี ก็เลยแวะเข้ามาช่วยพวกเรานะ !”
ขณะพูด ผมก็เริ่มเดาในใจแล้ว
ที่หวางเป้าเฉิงและเทิ้งหนิวมาที่นี่ ต้องเป็นเพราะยัยมู่หลงเหยียนออกคําสั่งแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้พี่เทิงหนิวก็คงไม่พูดว่า “ พวกเราจะได้กลับไปรายงานได้ถูก” แบบนั้นหรอก
เพราะหยางเฉ่วและเหล่าเฟิงอยู่ด้วย ผมก็เลยไม่กล้าพูดถึงมู่หลงเหยียน และตอบอะไรมากนัก
แต่จากคําพูดของเทิงหนิว ผมก็มั่นใจพอสมควรแล้ว ว่าน่าจะเป็นเพราะมู่หลงเหยียนติดต่อกับพวกเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็ลอยมายังที่นี่ และในวินาที่ที่สําคัญที่สุด พวกเขาก็ได้ช่วยให้ผมหลุดพ้นจากภัยอันตราย
ผมกับคิดในใจแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
หยางเฉ่วก็ไม่ได้สงสัย เพราะคําพูดของผมมันฟังดูสมเหตุสมผล เธอเลยพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ตามเข้าไปดูทันที
ในเวลานี้ เทิงหนิวและหวางเป้าเฉิงมาถึงตรงหน้าของผีผู้หญิงแล้ว
หลังจากพวกเราตามมาถึง เทิงหนิวก็จ้องไปที่ผีผู้หญิง แล้วใช้มือเก็บผนึกที่หลังผีผู้หญิง
ทันใดนั้นตราสัญลักษณ์บนหลังของผีผู้หญิงก็หายไปทันที
ผีผู้หญิงที่เคยทรุดอยู่กับพื้นก็ฟื้นกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ดวงตาเบิกกว้าง เผยให้เห็นถึงความดุร้าย เธอเด้งตัวขึ้นจากพื้นทันที ขณะเดียวกันก็กรีดร้องใส่พวกเราหนึ่งครั้ง
“ อร้าย” ทันใดนั้นเธอก็ยกกรงเล็บขึ้นมา แล้วเข้ามาทาง พวกเรา
แต่หวางเปาเฉิงและเทิ้งหนิวที่ยืนอยู่ด้านหน้ากลับไม่ขยับตัวเลยสักนิด พวกเขาแค่เค้นเสียงดึง ฮี จากนั้นก็แยกย้ายกันล งมือ
ไม่รอให้กรงเล็บของผีผู้หญิงมาถึง เธอก็โดนหวางเป้าเฉิงใช้นิ้วจิ้มไปที่ประตูชีวิต
วินาทีนั้น ผีผู้หญิงเหมือนโดนสกัดจุด เธอหยุดอยู่กับที่ทันที
แต่มันยังไม่พอเท่านั้น ผีผู้หญิงเพิ่งหยุดนิ่ง เทิงหนิวก็ล งมืออย่างกระทันหัน
เขาทําหน้าเยือกเย็น เอามือแทงเข้าไปในหน้าอกของผีผู้หญิงตรงๆ
ได้ยินเพียงเสียงดัง “ ฉีก ” มือของเทิงหนิว เหมือนกับมีดที่คมกริบ มันแทงทะลุเข้าไปในหน้าอกของผีผู้หญิงแล้ว
ผีผู้หญิงตนนั้นทําหน้าตกใจ เผยสีหน้าทรมานออกมา แต่เพราะถูกสกัดจุดเอาไว้ เธอเลยไม่สามารถขยับได้
แต่ก็สามารถรับรู้ได้ว่า ร่างกายของเธอกําลังสันอย่างแรง
และมือที่เข้าไปในตัวผีผู้หญิงของเทิ๋งหนิว ก็กระฉากบางอย่างอย่างแรง ขณะดึงออกมา แก่นหยินเม็ดสีแดงเข้มก็ค่อยๆออกมาจากในตัวผีผู้หญิง
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของผีผู้หญิงก็มีเสียงระเบิดดัง “ บัง” ทันใดนั้นเองสายลมที่เยือกเย็นก็สาดซัดออกมาทันที
สายลมที่ทรงพลัง กลายเป็นระลอกคลื่น สั่นสะเทือนรอบๆอย่างต่อเนื่อง
อาจเป็นเพราะทรมานเกินไป แม้แต่ผีผู้หญิงที่โดนสะกดเอาไว้ ก็ยังกรีดร้องโหยหวนออกมาในเวลานี้
“ อร้าย ! ”
หลังจากนั้น เราก็เห็นเทิงหนิวและหวางเป้าเฉิงเริ่มถอยหลัง เว้นทิ้งระยะห่างจากผีผู้หญิง
ส่วนผีผู้หญิงตนนั้น ตรงหน้าอกกลับดูเหมือนมีหลุมสีดําสนิทปรากฏขึ้น
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ในขณะเดียวกันเธอก็จ้องพวกเราอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ “ ไอ้ไอ้ชายชั่ว เอา เอาคืนมา เอาแก่นพลังของฉันคืนมา !”
ขณะพูด เธอก็เดินตัวสั่นมาข้างหน้าสองก้าว หลังจากนั้นก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้น
แต่เมื่อไม่มีแก่นพลังแล้ว เธอก็เหลือแค่จุดจบเดียวเท่านั้น นั่นก็คือตาย
เพิ่งเดินได้สองก้าว เสียง “ ตุบ” ก็ดังขึ้น เธอล้มไปนอนกองกับพื้นอีกครั้ง พลังชั่วในกายเริ่มสลายหายไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันร่างกายของเธอก็เริ่มสั่นเทา
พวกเราเข้าใจดี นี่ก็คืออาการขั้นแรกที่วิญญาณจะแตกสลาย
“ น้องติงฝาน นี่คือแก่นพลัง เจ้ารับไปก่อน !” เทิงหนิว ไม่สนใจผีผู้หญิงมากนัก เขาเอาแก่นพลังมาให้ผมทันที
“ ขอบคุณพี่เทิ๋งมากครับ !”
ผมเอาสองมือไปรับไว้ ทันใดนั้นเองผมก็พบว่าแก่นพลังเป็นอะไรที่เย็นมาก เหมือนกับก้อนน้ําแข็งก้อนหนึ่ง
ภายนอกมีสีแดงจัด เหมือนกับเซลล์เม็ดเลือดที่แข็งตัวเป็นก้อน
เหล่าเฟิงและหยางเฉ่วก็เพิ่งเคยเห็นแก่นหยินแดงครั้งแรก พวกเขาเลยเข้ามามุงดูทันที
แต่ก็ได้ดูแค่ครู่เดียวเท่านั้น เพราะผมเอายันต์ขึ้นมาผนึกเอาไว้ แล้วส่งให้กับเหล่าเฟิง
“ เหล่าเฟิง นายเอาไปซิ ! ”
ช่วงเวลานั้น เหล่าเฟิงเหมือนจะซาบซึ้งใจมาก “ เหล่า เหล่าติง ขอบ ขอบใจมาก ”
น้ําเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ ดวงตาก็ค่อนข้างแดง
ผมเข้าใจว่าเหล่าเฟิงเป็นคนพูดหยาบ คําว่า “ ขอบใจ ” ถือเป็นการขอบคุณที่ดีที่สุดแล้วของเขา
ผมตบหลังเขาเบาๆ “ เพื่อนกันนิ จะพูดคําพวกนี้ไปทําไม ดีใจหน่อยซิ ”
หลังจากดูจบ ผมก็หันไปมองผีผู้หญิงที่วิญญาณกําลังจะ แตกสลายต่อ
เมื่อไม่มีแก่นพลังหยินแล้ว พลังชั่วร้ายในร่างกายผีผู้หญิงก็สลายหายไปเรื่อยๆ เธอในชุดสีแดง ก็เปลี่ยนเป็นสีเหลืองในเวลาไม่นาน
ขณะเดียวกันตัวเธอก็สั่นแรงยิ่งกว่าเดิม และยังพูดออกมาไม่หยุด “ ไอ้ ไอ้คนทรยศ ไอ้ฆาตกร ไอ้คนทรยศ ไอ้ ไอ้ฆาตกร…..
พลังชั่วร้ายไหลออกไปเร็วมาก ผ่านไปไม่นาน ชุดสีเหลีองก็เริ่มกลายเป็นสีขาวแล้ว
หลังจากเปลี่ยนเป็นสีขาวเต็มตัว ในร่างกายของผีผู้หญิงก็มีพลังชั่วร้ายหลงเหลือไม่มากแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ผมก็เริ่มพบว่า ดวงตาที่ไร้นัยน์ตาของเธอเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างแล้ว
มันค่อยๆ กลับมามีนัยน์ตาสีดําอีกครั้ง
หรือจะพูดว่า ในขณะที่พลังชั่วร้ายไหลออกไป แม้วิญญาณของผีตนนี้กําลังจะแตกสลาย แต่เธอก็ได้กลับมามีสติอีกครั้ง
เพิ่งเห็นถึงตรงนี้ จู่ๆหวางเป้าเฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆก็ประสานมือ แล้วชี้ไปยังคิ้วของผีผู้หญิง ทันใดนั้นเองก็ดูเหมือนมีหมอกสีขาวกําลังไหลเข้าไปในร่างเธอ
จากนั้นผีผู้หญิงที่เคยตัวสั่นไม่หยุด ก็หยุดสั่นลงดื้อๆ ราวกับความเจ็บปวดของเธอโดนวิธีนี้ระงับเอาไว้
และผีผู้หญิงก็ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ เธอกลับมามีสติเต็มร้อย
อีกครั้ง
ทันใดนั้นเองผีผู้หญิงที่คืนสติมาแล้วก็ตะลึงในทันที หลังจากนั้นเธอก็มองร่างที่เลือนลางของตัวเอง
หันไปมองรอบๆด้วยความสงสัย แล้วถึงหันมามองพวกเรา ครั้งแล้วครั้งเล่า
“ ที่ ที่นี่มันคือที่ไหน ? ”
เสียงอ่อนโยน ไม่ดุร้ายเหมือนก่อนหน้านี้เลยสักนิด
พี่เทิ๋งทําท่านิ่งเฉย พูดกับเธอตามตรง “ เจ้าลองคิดให้ดีๆ น่าจะพอนึกอะไรออกบ้าง… ”
ผีผู้หญิงลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นถึงได้เริ่มนึกถึงเรื่องราวก่ อนหน้านี้
แต่ผ่านไปไม่ถึงห้าว เธอก็ทําตัวแข็งที่อ หลังจากนั้นก็ทําหน้าเศร้า หรือแม้แต่เริ่มร้องไห้ออกมา
เมื่อเห็นภาพนี้ พวกเราก็เข้าใจในทันที ความทรงจําของผีผู้หญิงกําลังฟื้นกลับมาอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นประมาณสองสามนาที จู่ๆพี่หวางก็พูดกับผีผู้หญิงว่า “ แม่นาง คาถาที่ข้าใช้เมื่อกี้ สามารถขจัดความเจ็บปวดในร่างกายเจ้าได้ แต่เจ้าจะบอกพวกเราได้ไหม ว่าเจ้ามีความแค้นอันใด ถึงทําให้ท้ายที่สุดจึงกลายเป็นผีชุดแดงได้ ?”
ผม เหล่าเฟิง และหยางเฉ่วก็ตาเบิกกว้าง เราก็อยากรู้เหมือนกัน ยัยผีที่เกือบฆ่าเราสามคน เคยเจอเรื่องอะไรมาตอนมีชีวิต
พอผีผู้หญิงได้ยินดังนั้น ก็ร้องไห้แหกปากออกมาทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความเสียใจ
ดูเหมือนความทรงจําในช่วงนั้น จะทําให้เธอเจ็บปวดมาก
แต่หลังจากร้องไห้ออกมาพักหนึ่ง เธอก็ยังพูดกับพวกเราว่า * ช่วงหลายปีนี้ ช่วงหลายปีนี้ฉันอยู่อย่างทรมานมาก ต้องโดนขังอยู่ในโลงเหล็กทุกข์ทรมานทุกวันคืน และเรื่องทุกอย่างนี้ก็เกิดจากไอ้ผัวชั่วที่ทําร้ายฉัน… ”