หลังจากที่อาจารย์และนักพรตตู๋ออกไป ภายในห้องโถงก็เหลือแค่ผมกับเฟิงเฉ่วหาน
บรรยากาศในห้องโถงเงียบสงัด ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยสักนิด
ผมค่อนข้างเครียด เพราะวิญญาณนั้นมักหายตัวได้อย่างไร้ร่องรอย หวังว่าเธอจะไปและไม่ย้อนกลับมา ไม่อย่างนั้นพวกเราต้องเจอกับเรื่องอันตรายอีกแน่
เมื่อเฟิงเฉ่วหานเห็นท่าทางของผม จู่ๆเขาก็พูดขึ้น “ติงฝาน ยัยผีนั้นคงไม่มาแล้วละ!”
ผมขมวดคิ้ว “อย่าประมาท เธออาจจะมาก็ได้ พวกเราควรระวังเอาไว้ดีกว่า!”
เมื่อเฟิงเฉ่วหานเห็นผมระมัดระวังแบบนั้น เขาก็ไม่พูดอะไรอีก
จากนั้น ผมสองคนก็หันไปมองซ้ายมองขวา คอยสังเกตรอบๆห้องโถงอย่างระมัดระวัง รวมถึงหน้าต่างทั้งสองบานด้วย
แต่เวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ไฟที่อยู่ในห้อง “พรึบพรึบ” จู่ๆพวกมันก็กระพริบ และสุดท้ายก็มีเสียง “ปัง” พวกมันดับไปทันที
ตอนนี้จึงเหลือเพียงแสงจากเทียนที่จุดอยู่หน้าโลงศพสองเล่มเท่านั้น เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
เฟิงเฉ่วหานกลับพูดด้วยความสงสัย “คัทเอาท์เด้งงั้นเหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน นายไปดูซิ แต่ระวังเอาไว้ด้วยละ!” ผมพูดกับเฟิงเฉ่วหาน
เฟิงเฉ่วหานไม่รอช้า รีบจุดเทียนและเดินไปทางคัทเอาท์ทันที
แต่เจ้านี้เดินไปได้แค่สองก้าว ทันใดนั้นในห้องก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น “ฮ่าฮ่าฮ่า……”
เสียงไม่ดังมาก แต่มันแปลกมาก
ผมสองคนเครียดอยู่แล้ว วินาทีนั้นเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะที่แปลกประหลาดนี้ “พรึบ” สีหน้าของพวกเราจึงเปลี่ยนไปทันที
ไม่รอให้พวกเราตอบโต้ใดๆ สายลมที่เย็นเข้ากระดูก ก็พัดเข้ามาในห้องทันที
“ฮึฮึฮึ!”
เทียนที่อยู่ด้านหน้าของพวกเรา สั่นไหวสองครั้ง จากนั้นก็ดับลงในทันที
แต่นี้ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือธูปสามดอกที่อยู่บนโต๊ะบูชา
“บึก” ตรงกลางของมันหักลงมาทันที
ธูปในห้องจัดงานศพหัก ลูกปัดขาดกระจัดกระจาย มันก็หมายความว่าภัยร้ายที่ใหญ่หลวงกำลังเข้ามาหาแล้ว
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ตัวผมก็สั่นทันที
แอบตะโกนในใจว่าแย่แล้ว นี่จะต้องไม่ใช่คัทเอาท์ไฟแน่ แต่เป็นเพราะมีสิ่งชั่วร้ายเข้ามาในห้องนี้
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ผมก็พูดออกมาเบาๆ “เฟิงเฉ่วหาน วิญญาณของคุณหนูเหวินต้องกลับมาแน่!”
ส่วนฝั่งของเฟิงเฉ่วหานกลับแสดงสีหน้ากังวล “มืดขนาดนี้ รีบเปิดตาเร็ว!”
ขณะที่พูด เฟิงเฉ่วหานก็หยิบขวดน้ำตาพิเศษของวัวออกมาเรียบร้อย เขาป้ายที่เปลือกตาเพื่อลดไฟหยางลงทันที
ผมเองก็ไม่พูดมาก รีบหยิบขวดมา และป้ายไปที่เปลือกตาทันที
วินาทีนั้นผมรู้สึกเย็นๆที่เปลือกตา หลังจากกระพริบตา 2-3 ครั้ง ห้องโถงที่มืดมิดก็กลับมาสว่างอีกครั้ง
เมื่อหันไปมองเฟิงเฉ่วหาน ผมก็พบว่าเขาเองก็ได้เปิดตาเรียบร้อยแล้ว
เหมือนกับผม เขาเองก็หันไปมองรอบๆด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“ติงฝาน ในห้องมีพลังหยินแรงมาก นายเห็นเธอไหม” เฟิงเฉ่วหานรีบพูด
แต่เมื่อผมหันไปมองรอบๆ ก็ยังไม่เห็นใครสักคน “ยังเลย!”
แต่เสียงของผมพึ่งจบลง ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเย็นเข้ากระดูกจากมือ จนมาถึงบนไหล่ของผม
ในเวลาเดียวกัน ผมยังรู้สึกอ่อนแอ แต่เสียงผู้หญิงที่แหบแห้ง ก็ดังขึ้นด้านหลังของผมและเฟิงเฉ่วหาน “พี่ชายสุดหล่อทั้งสอง กำลังหาฉันอยู่เหรอ”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ในหัวของผมและเฟิงเฉ่วหานก็มีเสียงระเบิดดัง “เวิ้ง”
วินาทีนั้น ผมรู้สึกเย็นวาบไปที่หลัง ราวกับมีก้อนน้ำแข็งติดอยู่อย่างนั้น
และเมื่อผมเหลือบไปมอง บนไหล่ของผม กำลังมีนิ้วเรียบขาว ที่ไร้ซึ่งสีเลือด และเล็บที่แหลมคมกำลังจับอยู่
นี่มันมือคนที่ไหนกันละ มันเป็นเล็บของคนตายชัดๆ
วินาทีนั้น ผมและเฟิงเฉ่วหานไม่กล้าหันไปมองเลยสักนิด
แม้ว่าพวกเราจะทำงานสายนี้ แต่มันก็ต้องมีข้อห้ามบ้างละ
ถ้าตอนกลางคืนโดนผีจับไหล่ คนๆนั้นจะต้องห้ามหันกลับไปมองเด็ดขาด
หรือพูดได้ว่า ถ้าตอนกลางคืนมีคนจับไหล่ ห้ามหันไปมองง่ายๆเชียว
ถ้าเป็นผีร้าย แล้วคุณหันกลับไป เผยลำคอขาวสวยให้เห็น
แบบนั้นอีกฝ่ายจะเข้ามากัดคอคุณทันที และเมื่อถึงตอนนั้นคุณจะตายยังไงก็ยังไม่มีทางรู้เลยนะ
ใจของผมกำลังเต้น “ตึกตึกตึก” อย่างต่อเนื่อง และยังเร็วขึ้นเรื่อยๆ แถมขนลุกไปทั้งตัว……
แต่คงทำแบบนี้ไปตลอดไม่ได้ ยังไงก็ต้องพูดอะไรสักหน่อย
ในขณะเดียวกัน ดวงตาของผมก็มองอย่างอัตโนมัติ ทันใดนั้นผมก็พบว่าเฟิงเฉ่วหานที่อยู่ข้างๆได้ดึงยันต์เหลืองครึ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้ว
เวรแล้ว เห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กนี้คิดจะลงมือ
แต่ตอนนี้พวกเราตกอยู่ในเงื้อมมือของเธอ ถ้าลงมือทั้งๆแบบนี้ จะต้องถูกกัดตายก่อนแน่
ดังนั้น ต้องดึงดูดความสนใจจากผีสาวซะก่อน
ดังนั้น ผมจึงดึงความกล้าออกมา แล้วใช้น้ำเสียงที่หวาดกลัวพูดกับเธอ “เอ่อ เอ่อคุณคือคุณหนูเหวินใช่ไหมครับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ใช่ฉันเอง!” เธอพูดด้วยเสียงแหบแห้ง
“ไม่รู้ ไม่รู้ว่าคืนนี้คุณมาหาพวกเรา มาหาพวกเราด้วยเรื่องอะไรเหรอครับ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร รบกวนคุณช่วยปล่อยมือด้วยครับ” ผมพูดอย่างต่อเนื่อง ด้วยความกลัวสุดๆ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ง่ายมาก เมื่อคืนพวกแกสองคนเตะตัวฉัน คืนนี้ฉันมาเพื่อ ฆ่าพวกแกยังไงละ! ง่ายใช่ไหมละ……” เธอหัวเราะเสียงแหบห้าว เห็นได้ชัดว่าเธอสงบมาก
แต่หลังจากที่ผมได้ยินคำพูดนี้ กลับรู้สึกกลัวจนหวาดระแวง
ไม่เพียงเท่านี้ ผมยังพบว่าหัวของคุณหนูเหวินยังอยู่ระหว่างกลางของผมสองคน
ผมยาวดำขลับนั่น กำลังพาดอยู่บนคอของผม ตอนนี้ผมเห็นแม้กระทั่งใบหน้าที่ขาวซีดไร้สีเลือด และยังมีลิ้นที่ค่อยๆยื่นออกมา เลียริมฝีปากสีแดงสดของเธอ
แม้จะเคยมีประสบการณ์ผีมาเอาชีวิตไปแล้ว แต่ตอนนี้ภาพที่เห็นมันน่ากลัวกว่าเดิมอีกนะ
ถ้าคนทั่วไปมาเจอฉากนี้เข้า คงกลัวจนเสียสติไปนานแล้ว
ผีสาวพ่นลมหายใจออกมา เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังเล่นเกมกับผมและเฟิงเฉ่วหาน เหมือนกับแมวไล่จับหนูยังไงอย่างนั้น
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เปลืองแรง เข้ามาอยู่ด้านหลังของพวกเรา แล้วมาจับไหล่ของพวกเราเอาไว้ และยังพูดจาไร้สาระมากมายขนาดนั้น
เห็นได้ชัดว่า การเล่นเกมแมวจับหนูกำลังทำให้เธอมีความสุข
และเวลานี้หัวของเธอยังมาอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเราสองคน เห็นได้ชัดว่าการโจมตีครั้งต่อไปจะเป็นตัวป้องกันสุดท้ายที่พวกเรามีอยู่
ถ้าคนธรรมดาสามารถยืนหยัดมาได้ถึงจุดนี้ คงไม่มีความคิดใดๆเหลืออยู่อีกแล้ว นอกจากยืนรอความตายเท่านั้น
แต่สำหรับผมและเฟิงเฉ่วหานต่างออกไป ไม่ว่าจะพูดยังไงพวกเราก็คือคนปราบสิ่งชั่วร้าย คืนนี้จะมาถูกฆ่าตายง่ายๆไม่ได้
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ผมก็คิดว่าจะลงมือก่อน
แกล้งทำเป็นตัวเองกลัวมาก สั่นไปทั้งตัว จากนั้นก็พูดกับผีสาวว่า “คุณ คุณหนูเหวิน คุณ คุณกินเขาก่อนได้ไหม! เขา เขาเนื้อหอมมากนะครับ!”
ผมพูดด้วยเสียงสั่นเทา เมื่อเฟิงเฉ่วหานได้ยินประโยคนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ส่วนผีสาวกลับหัวเราะ และทำหน้าดูถูก “ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นเหรอ!”
ขณะที่พูด เธอก็หันไปช้าๆ มองไปทางเฟิงเฉ่วหานที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
ดวงตาผมมองอย่างอัตโนมัติ จ้องไปที่หัวของผีสาวทันที
ขณะที่เธอกำลังคิดว่าทุกอย่างอยู่ในกำมือ วินาทีที่เธอหันไป ผมก็รู้ว่าโอกาสมาถึงแล้ว
ผมกำหมัดขึ้น และต่อยแบ็คแฮนด์ไปที่หัวของผีสาวอย่างแรง ในปากยังตะโกนออกมา “ตายซะ!”
เมื่อจู่ๆผมก็เคลื่อนไหว จึงทำให้ผีสาวตกใจ
เรื่องเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ดังนั้นผีสาวจึงยังไม่ได้หันกลับมาอย่างสมบูรณ์ หมัดของผมก็ต่อยเข้าที่หัวของผีสาวแล้ว
จากนั้นเสียง “โอ๊ย” ก็ดังขึ้น ผีสาวตนนั้นถูกผมต่อยจนถอยหลังไปสองก้าว
ตอนแรกเฟิงเฉ่วหานคิดว่าผมกำลังทำตัวน่าสังเวช แต่คิดไม่ถึงว่าผมจะใช้วิธีนี้ดึงดูดความสนใจจากผี จากนั้นก็ลงมือทันที
คนที่เคยเดินทางไปทั่วอย่างเขา จึงไม่ปล่อยให้โอกาสดีๆแบบนี้ผ่านไป
“พรึบ” มือขวาของเขาหยิบยันต์เหลืองออกมาหนึ่งแผ่น จากนั้นก็แปะเข้าที่ตัวผีสาวทันที
หลังจากนั้นก็ตะโกนออกมา “ยัยชั่ว เจอยันต์นี่ซะ !”