ตอนที่ 411 ร่างใหม่
ผมโผล่ไปครึ่งหัวอย่างระมัดระวัง ตอนเห็นหน้าจางจีเทาชัดๆ ผมก็อดใจสั่นไม่ได้
แต่จางจีเทาในเวลานี้ ไม่มีร่างกายแล้ว เป็นแค่วิญญาณตนหนึ่งเท่านั้น
ตอนนี้เขาเอามือไพล่หลังเท้าลอยจากพื้น จ้องมองดอกไม้ประหลาดตรงหน้าอยู่อย่างงั้น
ส่วนสาวกไม่กี่คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็ไม่ขยับไปไหน เหมือนจะเป็นลูกน้องของเขาทั้งหมด
พวกเราไม่กล้าขยับตัวมากกว่านี้ ได้แต่ซ่อนตัวเงียบๆอยู่แบบนี้
ผ่านไปพักหนึ่ง เราก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของจางจีเทา “ดอกไม้วิเศษเอ๋ยดอกไม้วิเศษ เมื่อไหร่เจ้าจะบานนะ”
เสียงของจางจีเทาเพิ่งเงียบลง สมุนตัวผอมดําคนหนึ่งก็เดินขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว พร้อมพูดกับจางจีเทาว่า “ นายน้อย ไม่ต้องกังวล วันนี้ดอกไม้วิเศษโตเร็วมาก อีกไม่นานก็คงบานแล้วครับ พอถึงเวลานั้น
การกลับมาของกายเนื้อของนายน้อย ก็จะอยู่ไม่ไกลแล้วครับ”
จู่ๆก็ได้ยินคําพูดนี้ พวกเราทุกคนเลยอดขมวดคิ้วไม่ได้ และเผยท่าทางตกใจและสงสัยออกมา
กายเนื้อกลับมาอีกครั้ง ล้อเล่นอะไร กายเนื้อจะกลับมาใหม่ได้อีกเหรอ แกเห็นมันเป็นแม่พิมพ์ที่คิดจะพิมพ์ออกมาเมื่อไหร่ก็ทําได้หรือไง
แล้วเจ้าจางจีเทามีฐานะเพิ่มเป็น “นายน้อย” ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน นี่มันเรื่องอะไรกัน
ผมทําหน้าสงสัย แอบสังเกตจางจีเทาต่ออย่างเงียบๆ
จางจีเทากลับถอนหายใจออกมาอีกครั้ง หรือแม้แต่คลี่ยิ้มอย่างขมขื่น “กายเนื้อกลับมาอีกครั้ง เป็นเรื่องง่ายที่ไหนละ ถึงจะบอกว่าดอกไม้วิเศษมีความสามารถพิเศษแบบนั้น แต่มันก็เป็นแค่ข่าวลือ จะเป็นแบบนั้นจริงๆหรือเปล่าก็พูดยาก”
“แต่ขอแค่เจ้านี่ทําให้วิญญาณของฉันรวมเข้ากับกายเนื้ออื่นได้อย่างสมบูรณ์ ฉันก็พอใจแล้ว ส่วนเรื่องกายเนื้อกลับมาใหม่อีกครั้ง ฉันไม่ได้หวังเท่าไหร่…..”
จางจีเทาจ้องดอกไม้ยักษ์ ด้วยท่าทางตั้งตารอ
แต่พอค่าพูดพวกนี้มาเข้าหูเรา แต่ละคนกลับช็อกทันที
ดอกไม้ประหลาดขนาดยักษ์นี่ สามารถหลอมรวมวิญญาณได้ หรือแม้แต่สร้างกายเนื้อกลับมาได้อีกครั้งงั้นเหรอ
ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง ไม่ว่าเจ้าดอกไม้นี้จะมีความสามารถไหน มันก็เป็นของที่แหกกฏฟ้า สุดๆ
แม้แต่ในลัทธิเต๋า วิชายืมศพคืนวิญญาณที่แพร่สะพัดไปทั่ว ก็ยังไม่สามารถทําให้หลอมรวมวิญญาณกับกายเนื้อได้อย่างสมบูรณ์เลย
ผมกําลังคิดในใจแบบนั้น ส่วนสมุนอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆจางจีเทาก็พูดขึ้นมาว่า “ ได้แน่นอนครับ
นายน้อย องค์กรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรามีดวงตาศักดิ์สิทธิ์อยู่ ขอแค่เปิดดวงตา ทุกเรื่องก็ต้องสําเร็จ
กายเนื้อของนายน้อย ต้องกลับมาใหม่ในเร็วๆนี้แน่ครับ”
พอจางจีเทาได้ยินคําพูดนี้ เขาก็ค่อยๆขมวดคิ้ว แล้วทําหน้าดุร้ายออกมา “ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้าติงฝาน ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่ได้เสียกายเนื้อไปแบบนี้หรอก”
“ใช่ครับนายน้อย ผมยินดีไปลอบสังหารไอ้ติงฝาน เพื่อแก้แค้นให้นายน้อย” สมุนที่อยู่ข้างหลังพูดต่อ
แต่จางจีเทากลับโบกมืออย่างท้อแท้ “ ช่างเถอะ ถ้าสําเร็จ เจ้าติงฝานก็คงตายไปนานแล้วข้างกายของเจ้าติงฝานยังมีผีผู้หญิงที่แข็งแกร่งสุดๆคอยคุ้มครองอยู่ แถมยังมีองครักษ์เผ่าจิ้งจอกและประ ตูนรกอีก
ครั้งก่อนตอนเจ้าแมวเทาเข้าไป มันแทบตายอยู่ตรงนั้น ถ้าพวกแกเข้าไป ต้องตายอยู่ในนั้นแน่ ๆ
จางจีเทาค่อยๆพูด แต่เสียงเพิ่งเงียบลง จี่ยเจ๋งจึงและเหล่าเพิ่งที่อยู่ข้างๆ กลับอดไม่ได้ที่จะ
พิ่กวาดสายตามองผม
เหล่าเพิ่งอยู่กับผมมานานขนาดนี้ เขาย่อมรู้ดีว่าข้างกายผมมีผีผู้พิทักษ์อยู่หนึ่งคน
เพียงแค่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน และผมเองก็ไม่ยอมพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็เลยไม่เคยถามอะไรมากนัก
แต่ทางนุ่ยเฉิงจึงกลับไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ตอนนี้เธออดมองผมไม่ได้ จากนั้นก็ใช้มือสะกิดผม
“ติงฝาน ข้างๆนายมีผีผู้หญิงคอยปกป้องอยู่เหรอ ? ทําไมฉันไม่เห็นละ ?”
พอได้ยินจี่ยเจ๋งจึงถามแบบนี้ ผมก็ทํามือบอกให้เธอเงียบเสียง
ผมไม่คิดจะอธิบายให้นุ่ยเฉิงจึงฟัง เรื่องของน้องศพ ตอนนี้ไม่เปิดเผยจะเป็นการดีที่สุด
ตัวตนของเธอและความสัมพันธ์ระหว่างผม ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่พิเศษมาก
ฉุ่ยเฉิงจึงเห็นผมไม่พูด เลยทําปากมุ่ย แล้วกลอกตาใส่ผม แต่เธอก็ไม่พูดต่อ
ต่อจากนั้น จางจีเทาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “พอเถอะ เปิดวงเวทย์สัตว์ทั้งสี่เถอะ วันนี้ควรใส่ปุ๋ยได้
แล้ว”
จางจีเทาพูดด้วยน้ําเสียงสบายๆ หลังจากสมุนด้านหลังได้ยิน ก็ทํามือคํานับจางจีเทาทันที “ครับ นายน้อย !”
หลังจากพูดจบ สมุนสี่คน ก็แยกย้ายไปที่ด้านข้างตัวรูปปั้นสัตว์ทั้งสี่ หลังหันมามองหน้ากัน ทันใดนั้นแต่ละคนก็ประสานมือทันที
สุดท้ายก็ชี้ไปที่ท้องของเจ้าสัตว์ประหลาดทั้งสี่ ปลายนิ้วเพิ่งสัมผัสกับตัวเจ้าสัตว์ประหลาด สมุนสี่คนนั้นก็ตะโกนออกมาพร้อมกัน “หลิน ปิง โต้ว เจอะ เจีย เจิ้น เลี่ย เฉียน ฉิง เปิด !”
คําพูดพวกนี้เพิ่งดังขึ้น รูปปั้นหินสี่ตัวนั้น ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างผิดแปลก
จู่ๆตรงสถานที่ที่พวกเขาชี้มือลงไป ก็มีอักขระยันต์ปรากฏขึ้น ต่อด้วยแสงสีทอง ที่ไหลออกมาจากตัวสัตว์ประหลาดอย่างต่อเนื่อง
สุดท้ายดวงตาของสัตว์ประหลาดพวกนั้น ก็เริ่มเปล่งแสงแปลกๆออกมา
พอเห็นภาพนี้ พวกเราทุกคนก็ตะลึงจนตาค้างกันเลยทีเดียว
คิดไม่ถึงว่ารอบๆสระเลือดแห่งนี้ จะมีวงเวทย์อยู่
รูปปั้นสัตว์ประหลาดหินที่ดูธรรมดาทั้งสี่ตัว กลับเป็นตัวเปิดปิดวงเวทย์
ในขณะที่ตาของพวกสัตว์ประหลาดส่องแสง กลิ่นแปลกๆก็ค่อยๆปรากฎขึ้น
ผ่านไปประมาณ 20-30 วินาที จู่ๆเสียง “ปัง” ก็ดังขึ้นกลางอากาศ
ต่อจากนั้น ม่านแสงจางๆก็ค่อยๆปรากฏขึ้น
ม่านแสงพวกนั้นดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ทันใดนั้นเองพวกเราก็พบว่า ม่านแสงเหล่านั้นปกคลุมไปทั่วทั้งสระเลือดและดอกไม้ปีศาจยักษ์ดอกนั้น
ในขณะที่ม่านแสงปรากฏขึ้น ดวงตาของสัตว์ประหลาดทั้งสี่ก็เริ่มเปลี่ยนสี
ต่อจากนั้นช้าๆ ม่านแสงพวกนั้นก็ค่อยๆหายไป รอบๆกลับมาสงบอีกครั้ง
แต่กลิ่นฉุนของคาวเลือดกลับปะทุออกมา พลังหยินที่อยู่ในสระเลือดนั้น ก็ทะลักออกมาเป็นเกลียวคลื่น
ไหลตลบอบอวลไปทั่วทั้งถ้ํา สามารถพูดได้ว่ามันเข้มข้นมาก
สมุนรูปร่างผอมดําที่ยืนอยู่ข้างๆจางจีเทา เห็นม่านแสงหายไปแล้ว เลยโบกมือให้คนข้างหลัง
“เอาอาหารเลือดเข้ามา”
หลังจากเสียงนี้ดังขึ้น ก็มีคนเดินเข้ามาจากนอกถ้ํา
แต่ถ้ามองให้ดีๆ ในหมู่คนพวกนี้ มีหลายคนที่เป็นคนธรรมดา
ใบหน้าของพวกเขาหมองคล้ํา ตอนนี้โดนสาวกสองคนคุมเอาไว้ ได้แต่เดินเข้ามาทีละก้าวๆ
นอกจากนี้ ยังมีสาวกอีกสองคน เอากวางซีกาสองตัวเข้ามาจากข้างนอก
คนและสัตว์พวกนี้เพิ่งถูกนําตัวเข้ามาในถ้ํา สาวกผอมดําคนนั้นก็ออกคําสั่งต่อทันที “เอาเดรัจฉานสองตัวนี้ลงไปก่อน ให้ดอกไม้วิเศษได้เรียกน้ําย่อย”
เสียงเพิ่งเงียบลง กวางซีกาสองตัวนั้นก็โดนสาวกสองคนลากไปที่ข้างสระเลือด แล้วจากนั้นก็ผลักพวกมันลงไปทันที
กวางซิกาสองตัวนั้นเพิ่งตกลงไปในน้ํา มันก็ร้อง “เองเองเอิง” และพยายามดิ้นรนไม่หยุด
ขณะมองเหตุการณ์นี้ ทุกคนต่างอดขมวดคิ้วไม่ได้
โดยเฉพาะเสี่ยวเหมย เดิมทีเธอก็เป็นสัตว์เผาพันธุ์จิ้งจอก เธอเลยมีความรู้สึกกับสัตว์พวกนี้มากกว่าใครเพื่อน
ตอนนี้พอเห็นกวางซีกาโดนลากลงไปในสระ มุมปากของเธอก็มีเขียวปรากฏออกมา
เราคิดว่า กวางซีกาสองตัวนี้อาจจมน้ําตายในสระ
แต่วินาทีต่อมา พวกเราทุกคนก็ตะลึงจนปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
กวางซีกาสองตัวนั้นเพิ่งดิ้นได้ไม่นาน จู่ๆในสระเลือดแห่งนั้นก็มีเกลียวคลื่นปรากฏขึ้น เหมือนกับมีอะไรบางอย่างกําลังว่ายอยู่ในน้ํา
พอจางจีเทาเห็นแบบนั้น มุมปากก็ยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ดอกไม้วิเศษ เพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศของเจ้าเถอะ !”