ตอนที่ 415 หินลี่ลั่ว
วันนี้ถือว่าได้มาเปิดโลกใหม่ เกี่ยวกับการสร้างผู้สร้างศพขององค์กรตาผี ว่าพวกมันมีความสามารถในการควบคุมวิญญาณ หรือสร้างศพเดินได้ขนาดไหน
สาวกตัวผอมด่าตรงหน้าคนนี้ แม้จะมีพลังไม่เยอะมาก แต่เขาก็สามารถออกคําสังกับผีหลายสิบตน
และยังมีผีดิบสองตนตรงหน้าที่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งกว่าตัวเขาขนาดไหน
ถ้าปล่อยให้องค์กรตาผีนี่พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ สร้างผีดิบออกมามากกว่าเดิม หรือวิญญาณร้ายที่ไม่อาจคาดเดาปริมาณได้
แบบนั้นพวกเขาก็สามารถพึ่งการควบคุมผี และยังมีพวกศพ หรือการควบคุมในระดับที่ต่างออกไปจากนี้อีก
ควบคุมผีร้าย ผีดิบ สิ่งชั่วร้ายจากทุกที่ที่ร้ายกาจกว่าพวกเขา 2 เท่าหรือ 3 เท่าตัว
พอถึงเวลานั้น กําลังคนเพียงหยิบมือเดียวขององค์กรตาผี อาจเปรียบได้กับศิษย์ที่มากฝีมือของบางสํานักเลยก็ได้
ถ้าให้องค์กรตาผีพัฒนาไปถึงจุดนี้ได้ งั้นก็อย่าได้คิดสู้อีกเลย
องค์กรตาผีต้องกวาดล้างสํานักฝ่ายธรรมะบนโลกจนหมด การรวมสํานักก็จะไม่ใช่สิ่งที่ต้องคิดมากอีกต่อไป
ถึงว่าทําไมมู่หลงเหยียนถึงได้บอกว่าองค์กรตาผีร้ายกาจโครตๆๆ แค่ในวันนี้ ผมก็มองความร้ายกาจขององค์กรตาผีออกแล้ว และความสามารถในการควบคุมผีกับศพที่ไม่ธรรมดาของพวกมัน
ผมใจเต้นแรง ขณะคิดถึงเรื่องพวกนี้
ส่วนเจ้าผอมด่าตรงหน้า ได้เดินไปข้างหน้าสองก้าวแล้ว และกําลังใช้ลําตัวผลักประตูเหล็กบานใหญ่บานนั้น
ประตูเหล็กขึ้นสนิมแล้ว แต่มันก็ยังดูแข็งแรงอยู่
“เอ๊ยด” เสียงนี้ดังตามมาติดๆ ประตูเหล็กบานใหญ่ถูกผลักให้เปิดออกแล้ว
วินาทีที่ประตูเหล็กถูกเปิด กลิ่นหอมแปลกๆก็เข้ามาสัมผัสที่ใบหน้าของพวกเรา
กลิ่นหอมสดชื่น พอได้กลิ่นแล้วรู้สึกสบายตัวมากๆ
หลังจากเจ้าตัวผอมดําเปิดประตูเสร็จ เขาก็พาพวกเราเข้าไปทันที
เพิ่งเข้ามาในห้อง ผมก็มองสํารวจรอบๆห้องทันที
ผมเห็นห้องมีขนาดประมาณสิบตารางเมตร ค่อนข้างใน
ตรงกลางห้อง มีแท่นหินเหมือนโต๊ะตั้งอยู่
บนโต๊ะหิน มีหินสีครามขนาดประมาณหัวคนตั้งอยู่หนึ่งก้อน
ภายใต้ดวงตาสวรรค์ หินก้อนนั้นมีสีน้ําเงินผิดปกติ ผิวใสคริสตัล ราวกับมรกต
แต่สิ่งที่แปลกก็คือ ผิวของหินก้อนนี้ กลับมีไอเย็นแพร่ออกมา
ไม่เพียงแค่นั้น บนผิวของหินก้อนนี้ ยังมีหยดน้ําสีเขียวควบแน่นอยู่
หลังจากควบแน่นเป็นหยดน้ําแล้ว มันก็จะหยดลงมาข้างล่าง สุดท้ายก็จะมารวมอยู่ในร่องบนโต๊ะหิน
แล้วเปล่งแสงสีเขียวผิดปกติ
กลิ่นหอมแปลกๆพวกนั้น ถูกส่งออกมาจากหยดน้ําพวกนั้น
พอเห็นถึงตรงนี้ ม่านตาของผมก็ขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว และเผยสีหน้าดีใจออกมาเล็กน้อย
“หินลี่ลั่ว น้ําลี่ลั่ว”
“ชะ ใช่ นี่ก็คือหินลี่ถั่วที่พวกคุณตามหา น้ําที่เขียวพวกนั้น คือน้ําลี่ลั่ว”
“นี่คือสมบัติที่หายาก ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือแม้แต่พวกวิญญาณ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากฤทธิ์ยาอันทรงพลังของน้ําลี่ลั่ว ใช้มันเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่ช่วยยืดอายุขัย เป็นของที่หายากสุดๆ”
พอเจ้าผอมดําพูดมาถึงตรงนี้ แววตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความโลภ เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ต้องการของสิ่งนี้มาก
ตอนนี้ผมไม่สนใจเขา เป้าหมายที่มาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อเจ้าน้ําจากหินลี่ส่วน
ผมไม่ลังเลเลยสักนิด เอากระบอกไม้สีดําที่มู่หลงเหยียนให้มาอันนั้นออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นรองหยดน้ําพวกนั้น
แต่แล้วผมก็พบว่า น้ําพวกนี้ไม่ได้มีเยอะเหมือนที่ผมคิดเอาไว้
ถึงจะเป็นกระบอกไม้ไผ่อันเล็กแบบนี้ ก็ยังใส่ได้ไม่เต็มเลย
หลังจากรองน้ําเสร็จ จู่ๆเหล่าเฟิงที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาว่า “ในเมื่อเป็นของล้ําค่าถึงขนาดนี้ ทิ้งเอาไว้ให้พวกองค์กรตาผีชั่วก็น่าเสียดายเปล่าๆ เราเอามันไปด้วยเถอะ !”
พอได้ยินเหล่าเฟิงพูดแบบนั้น รอยยิ้มพิลึกๆก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผม “ฮ่าๆๆ ฉันก็คิดแบบนั้น”
หลังจากพูดจบ ผมก็เข้าไปคว้าตัวหินลี่ลั่ว
แต่มือผมเพิ่งสัมผัสโดนตัวหิน ก็พบว่าเจ้าหินก้อนนี้เย็นมาก เหมือนน้ําแข็งพันปีไม่มีผิด
“สุดยอด ! เย็นมาก” ผมพูดด้วยความตกใจ
“เจ้านี่เย็นมากเลยเหรอ ?” นุ่ยเฉิงจึงไม่เข้าใจ เธอเองก็เอื้อมมือไปแตะ
ผลลัพธ์เธอเองก็พบว่ามันเย็นจนผิดปกติจริงๆ จึงรีบดึงมือกลับทันที
เหล่าเฟิงและเสียวเหมยเองก็เข้าไปสัมผัส ผลลัพธ์พวกเขาเองก็พบว่าหินลี่ลั่วเย็นมากจริงๆ นั่นแหละ
แต่น่าแปลกจริงๆ หินที่เย็นขนาดนี้ ทําไมถึงมีหยดน้ําออกมา แถมน้ําที่หยดออกมายังไม่กลายเป็นน้ําแข็งในทันทีอีก มันเลยทําให้เรารู้สึกแปลกใจมาก
ผมดึงแขนเสื้อขึ้น เตรียมยกเจ้าสิ่งนี้
ผมคิดว่าหินขนาดเท่าหัวคน คงเอาไปได้ไม่ยากเท่าไหร่
ผลลัพธ์ตอนผมเข้าไปอุ้ม ไม่ว่าจะออกแรงขนาดไหนผมก็ขยับหินก้อนนั้นไม่ได้เลยสักนิด
เจ้านี่ดูเหมือนกับคิงคองเหล็ก ไม่รู้ว่ามันหนักกี่ร้อยโล
“เหล่าเฟิง เจ้าหินนี้หนักมาก” ผมพยายามสุดแรง แต่ก็ยังยกเจ้านี่ไม่ขึ้น
เหล่าเฟิงเองก็เข้ามาลอง แต่มันก็ยังเป็นเหมือนเดิม
ส่วนเจ้าผอมดําที่อยู่ด้านข้าง มองมาด้วยสีหน้าล่าบากใจ สุดท้ายเขาก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้
“นัก นักพรตทุกท่าน หยุด หยุดเถอะ เจ้านี่อาจดูไม่ใหญ่มาก แต่มันกลับหนักยิ่งกว่าเหล็ก มีน้ําหนักมากกว่าพันโล”
“อะไรนะ ? มากกว่าพันโล ?” ผมเหวอทันที
“ท่านนักพรตติ้ง นี่คือหินมหัศจรรย์ ถึงจะวางเอาไว้กลางแดด มันก็ยังเย็นเหมือนเดิม และตัวมันก็หนักมาก”
“ ถ้า ถ้าจะให้พวกคุณไม่กี่คนคิดจะเอาเจ้า เจ้านี่ไป ไม่เพียงไม่ได้ทําได้ง่ายๆ และยังโดนจับได้ง่ายอีกด้วย
ถึงจะเอาไปได้ การเคลื่อนไหวของพวกคุณก็จะช้าขึ้นมาก อาจยังไม่ทันได้ออกจากถ้ํานี้ ช่วงเวลากลืนจันทราก็คงหมดลงแล้ว พอถึงตอนนั้น ทุกคนก็จะกลับมา ถึงผมจะพาพวกคุณออกไป พวกคุณก็คงออกจากเขา
เขี้ยวหมาป่าไม่ได้ง่ายๆ
เจ้าผอมด่าพูดด้วยหน้าอึดอัดใจ แนะนําให้พวกเรายอมแพ้
ถึงจะไม่พอใจอยู่บ้าง แต่เจ้าหมอนี่ก็พูดถูก
ของที่หนักมากกว่าพันโล มีใครในพวกเราที่จะเอามันไปได้บ้างละ
ถึงจะใช้พลัง ผมและเหล่าเฟิงก็คงยกมันได้แค่นิดเดียว ย้ายออกไปไม่ได้อย่างใจคิดแน่ๆ
แม้ว่าจะเอาเจ้านี้ออกไปจากที่นี่ได้ พวกเราก็จะหนีไปได้ไม่ไกล
ถ้าพวกมันรู้ว่าหินลี่ลั่วหายไป คนขององค์กรตาผีต้องออกตามหากันอย่างบ้าคลั่งอย่างแน่นอน
พอถึงตอนนั้น พวกเราไม่เพียงจะไม่ได้หินลี่ลั่ว หรือน้ําลี่ลั่วกลับไปเท่านั้น แต่ยังออกไปจากเขาเขียวหมาป่าไม่ได้อีกด้วย
พอคิดได้ถึงตรงนี้ ผมก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “แม่งเอ้ย น่าเสียดายจริงๆ ที่เอาเจ้านี่ไปไม่ได้”
เห็นได้ชัดว่าผมรู้สึกเสียใจพอสมควร แต่นุ่ยเฉิงจิงที่อยู่ข้างกลับพูดว่า “ไม่มีอะไรน่าเสียดาย ตอนนี้ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว เรามีเวลาเหลือไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว พวกเรารีบออกไปจากที่นี่เถอะ เอาหินลี่ลั่วออกไปไม่ได้ก็ช่างมัน”
พอได้ยินจี่ยเฉิงจึงพูดแบบนั้น ผมก็พยักหน้าแรงๆ แล้วคิดจะเดินออกไปจากที่นี่
แต่ทันใดนั้นเอง เหล่าเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับพูดขึ้นมาอีกครั้ง “รอเดี๋ยว”
หลังจากพูดจบ เหล่าเฟิงก็ค่อยๆชักดาบเล่มที่สองของเขาออกมา นั่นคือดาบจักรพรรดิที่ครอบครัวหลงให้มา
“เหล่าเฟิง นายคิดจะทําอะไร ? นายคงไม่คิดจะฟันลงไปบนหินก้อนนี้หรอกนะ” ผมพูดด้วยความตกใจ
เจ้าหินก้อนนี้แข็งมาก สามารถจินตนาการได้ว่ามันหนาขนาดไหน แล้วดาบเล่มนี้จะทําอะไรมันได้งั้นเหรอ ถึงตอนนั้นดาบเล่มนี้ต้องหักแน่ๆ
“เฟิงเฉิวหาน ดาบนายจะหักได้นะ !” ฉู่ยเฉิงจิงเองก็พูดออกมา
เจ้าผอมดําคนนั้นก็ทําหน้าลําบากใจ “ เจ้า เจ้านี่ไม่ได้ผลหรอก เหล็กกล้ายังทําอะไรหินก้อนนี้ไม่ได้
ท่านนักพรต อย่าเสียแรงเปล่าเลย”