ตอนที่ 417 ตกใจ
ตรงประตูทางเข้าออกมาของสาขาย่อยแห่งนี้ มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา
เพียงสาวกที่เฝ้าอยู่ตรงนี้ ก็มีกว่าสี่คนแล้ว และพลังของแต่ละคนยังไม่น้อยไปกว่าพวกเรา
นอกจากสาวกคน ยังมีทาสผีอีกแปดตัว
ถึงพวกทาสจะไม่ได้มีพลังสูงมาก แต่ก็อยู่ในระดับผีร้ายชุดขาว ความแข็งแกร่งอยู่ในช่วงเต้าฉือขั้นแรกจนไปถึงขั้นกลาง ความร้ายกาจของผีชุดขาวทั้งแปดตัวเลยไม่ใช่สิ่งที่เราจะมองข้ามได้
แต่ภายใต้การนําของเจ้าผอม ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
ขณะมาถึงทางออก และเจ้าผอมก็ออกคําสั่ง ให้สาวกที่เฝ้าประตูอยู่ไม่กี่คนนั้นไปเปิดประตูแล้ว ขณะเดียวกันก็บอกให้พวกทาสผีที่อยู่ข้างๆถอยไป แต่ทันใดนั้นเองเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นแล้ว
วินาทีนั้น ภายในสาขาย่อย ได้มีเสียงระฆังดังขึ้น
“เป้ง……”
เสียงดังก้อง ไปทั้งหุบเขาเขี้ยวหมาป่า
ภายในช่วงนี้ ทั้งสาวกทุกคนที่อยู่ในเขาเขี้ยวหมาป่า ตื่นตัวขึ้นมาทันที
สาวกและวิญญาณนับไม่ถ้วน ต่างออกมาจากถ้ําหิน
ไกลออกไป เสียงตะโกนของใครบางคนก็ดังขึ้น “ผู้นําสาขามีคําสั่ง ให้ปิดประตูเข้าหุบเขา ผู้นําสาขามีคําสั่งให้ปิดประตูเข้าหุบเขา…..”
เสียงนี้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกําลังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
พอได้ยินเสียงนี้ ในใจของพวกเราก็มีเสียงดัง “ถูก” สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ปิดประตูเข้าหุบเขา พวกมันคิดจะทําอะไร หรือว่าพวกเราโดนจับได้แล้วงั้นเหรอ
ผมตกใจ คิดว่าอาจเป็นไปได้
ในวินาทีนั้นพวกเราหันไปมองหน้ากันทันที ดวงตาแต่ละคนต่างเขียนเอาไว้ว่าตกใจและเครียด
ส่วนสาวกสองคนที่เพิ่งเปิดประตูเมื่อกี้ กลับยืนนิ่งในทันที หลังจากนั้นก็หันมามองหน้าเจ้าผอม
ในเวลาเดียวกัน สาวกคนนึงก็พูดกับเจ้าผอมว่า “ท่าน ท่านหัวหน้าคง เสียงระฆังดัง หัวหน้าสาขาก็ออกคําสั่งแล้ว แสดงว่าด้านในต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่ๆ ท่านหัวหน้าคงรอหน่อยแล้ว ค่อยออกไปนอกหุบเขาเถอะ ! ถึงยังไงข้าน้อยก็เปิดประตูให้ไม่ได้แล้ว !”
หลังจากพูดจบ เจ้าหมอนี่ก็คิดจะปิดประตูอีกครั้ง
“ติงฝาน ทํายังไงดี มันจะปิดประตูแล้วนะ” เห็นได้ชัดว่าฉยเฉิงจึงเริ่มกลัว และทําอะไรไม่ถูก
จิ้งจอกน้อยที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วแน่น เผยให้เห็นเขี้ยวเล็กน้อย พร้อมหวาดระแวงรอบๆตลอดเวลา
“เหล่าติง ลงมือเถอะ !” เหล่าเฟิงพูดอย่างเย็นชา เขาเองก็รู้สึกไม่ดีแล้ว
ตอนนี้ ตัวผมกลับมีความรู้สึกมากมายผสมปนเปไปหมด
ทําไมจู่ๆอีกฝ่ายก็สั่งให้ปิดประตู ทําไมต้องลั่นระฆัง
มันอาจเป็นไปได้มากว่าเจ้าพวกนั้นเห็นว่าน้ําลี่ลั่วหายไป หรือสงสัยว่ามีคนนอกแอบเข้ามา
นี่คือเป็นแค่เรื่องสมมติ ถ้าเราลงมือที่นี่ พวกเราก็ต้องเปิดเผยตัวตน
และตําแหน่งที่โดนเปิดโปง ก็อาจทําให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก
ถึงจะออกไปได้ พวกเราก็ต้องโดนไล่ล่าแน่ๆ
พอถึงเวลานั้นเราจะต้องหนีเอาชีวิตรอดจากหุบเขาแห่งนี้ แต่มันก็ยากที่จะหนีรอดได้ หรืออาจตายในหุบเขาด้วยซ้ํา อันตรายมากถึงมากที่สุด
แต่ถ้าไม่ลงมือ ปล่อยไปตามสถานการณ์ แอบแทรกซึมเข้าไปในหุบเขาดังเดิม ผลที่ตามมาจะเป็นยังไง
ก่ยซานหยวน ยัยป้ามั่นหน้าและคนอื่นๆ จะต้องสั่งให้รุมสังหารพวกเราอย่างแน่นอน
ที่นี่ใหญ่ขนาดนี้ คน วิญญาณและซากศพเดินได้ก็มีเยอะถึงขนาดนั้น
ถึงจะรอดอยู่ได้ระยะนึง แต่ก็ซ่อนต่อไปตลอดไม่ได้ การค้นหาทีละที่ๆจะต้องบีบให้พวกเราออกมาอย่างแน่นอน
เมื่อถึงเวลานั้น พวกเราน่าจะต้องเผชิญกับอันตรายที่มากกว่า
ทางที่สอง เหมือนจะอันตรายมากกว่า
ขอแค่พวกเราเร็วพอ หนีออกไปจากเขี้ยวหมาป่าได้ก่อนจะถูกจับ ใช้ยันต์ปิดลมหายใจ อาจยังพอมีทางรอดอยู่บ้าง และก็ดูจะดีกว่าทางเลือกที่สองมาก
สมองของผมหมุนอย่างรวดเร็ว พิจารณาความเป็นไปได้ของทั้งสอง
แต่ในสายตาของทุกคน ทุกอย่างนี้เป็นแค่เพียงการลังเลครู่หนึ่ง ผ่านไปแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น
ตอนนี้ผมเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เผยสีหน้าดุดันออกมา ในมือเองก็กําดาบไม่ไว้แน่น “ฝ่าออกไป !”
ทุกคนพร้อมลุยอยู่แล้ว ต่างรู้สึกกดดันไม่แพ้กัน
เพราะด้านหลังของพวกเรา มีสาวกสิบกว่าคนกําลังวิ่งมาทางนี้ ในเวลาเดียวกันยังมีสายลมจากพลังหยินอันมหาศาลที่ปะทะเข้ามา
ด้านหลังของสาวกพวกนั้น มีผีร้ายหลายสิบตน แต่มันก็ยังไกลพอสมควร
ตอนนี้พอได้ยินผมพูดแบบนั้น ทุกคนก็ไม่ลังเลแต่อย่างใด
เหล่าเฟิงและฉียเฉิงจึง “ฟรีบๆ” ดึงดาบออกมาทันที
เจ้าจิ้งจอกน้อยก็คราม “สื่อ” มือทั้งสองอย่างเปลี่ยนเป็นอุ้งเท้าจิ้งจอกอย่างรวดเร็ว ดวงตาเปล่งประกาย
เผยให้เห็นคมเขี้ยวที่แหลมคม
เจ้าจิ้งจอกน้อยเปลี่ยนไปเร็วมาก ไม่รอให้พวกศัตรูได้ทันตั้งตัว
ขาทั้งสองข้างพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว กรงเล็บชี้ตรงไปที่สาวกที่เป็นคนเฝ้าประตูอยู่
เหล่าเฟิงและนุ่ยเฉิงจึงเองก็เล็กคิ้วขึ้น พวกเขาไม่ลังเลเลยสักนิด แบ็คแฮนด์ใส่ทาสผีสองตนที่อยู่ข้างๆทันที
เจ้าผีสองตัวนี้ไม่ได้คิดระแวงแต่อย่างใด พวกมันคิดไม่ถึงว่าพวกเราจะเป็นศัตรู
บวกกับระยะห่าง และพลังของพวกมันก็ไม่ได้สูงมาก ผลลัพธ์วินาทีนั้นพวกมันก็โดนเหล่าเฟิง และนุ่ยเฉิงจึงสังหารในทันที
“ศะ ศัตรู !”
จิ้งจอกน้อยลงมือ หลังจากเหล่าเฟิงและนุ่ยเฉิงจึงจัดการทาสผีทั้งสองตนเสร็จแล้ว สาวกทั้งสี่คนถึงได้สติกลับมา และตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
ส่วนตัวผมเองก็ดึงดาบไม้ออกมา เตรียมกําจัดเจ้าผอม จากนั้นค่อยไปสังหารสาวกและพวกผีที่เฝ้าประตู
ในเวลาเดียวกันก็จะวิ่งออกไปตามถนนเลือด
แต่พอเงยหน้าขึ้นมอง ผมกลับพบว่าเจ้าผอมที่นําทางให้พวกเราก่อนหน้านี้ มือเท้าไวทิ้งระยะห่างจากพวกเราช่วงหนึ่ง ตั้งแต่ตอนที่พวกเรากําลังลังเลอยู่แล้ว
ในเวลานี้มันกําลังวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้ามกับพวกเรา ทิ้งระยะเอาไว้ประมาณห้าหกเมตรได้
ในขณะเดียวกันก็ตะโกนออกมาไม่หยุดปาก “รีบ รีบมาช่วยข้าเร็ว !”
ในเวลาปกติ ระยะห่างเพียงเท่านี้ไม่ถือว่าไกลเท่าไหร่
บวกกับอีกฝ่ายโดนผนึกพลังเอาไว้ ส่วนตัวถ้าผมกลับเคลื่อนไปทั้งร่าง อย่างมากที่สุดเพียงให้เวลาผมประมาณสามสิบวินาที ผมก็จะสังหารเจ้าหมอนได้แล้ว
แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ อย่าว่าแต่สามสิบวินาทีเลย แม้แต่วินาทีเดียวพวกเราก็ไม่กล้าเสียไปด้วยซ้ํา
สาวกข้างหลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และยังมีผีอีกขโยงใหญ่
ถ้าโดนล่อมละก็ พวกเราไม่ได้ออกจากเขาเขี้ยวหมาป่าแน่
หลังจากกวาดสายมองเจ้าผอมที่กําลังวิ่งหนี ผมก็ได้แต่แอบกัดฟัน แล้วไม่สนใจเจ้าหมอนั่นอีก จากนั้นก็หมุนตัวไปทางประตู แล้ววิ่งไปทางนั้นทันที
ส่วนเจ้าสาวกตัวผอมด่าคนนั้นกลับกําลังวิ่งจนล้มและลุกขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ตะโกนเสียงดังลั่นอีกรอบ “ เร็ว เร็วรีบฆ่าพวกมันซะ พวกมันเป็นนักพรตฝ่ายธรรมะ และรีบไปบอกหัวหน้าสาขากับนายน้อยเร็ว
หนึ่งในพวกนั้นมีเจ้าติงฝานอยู่ด้วย”
เจ้าหมอผีผอมดําตะโกนเสียงดัง ผ่านไปไม่นานก็มีสาวกคนอื่นมาสมทบกับเขา
พวกเราไม่สนใจอย่างอื่น เริ่มสู้พวกทาสผีและสาวกที่เฝ้าประตูแล้ว
แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีจํานวนมากกว่าพวกเราเยอะ ถึงพวกเราจะเริ่มจู่โจมก่อน กําจัดผีร้ายไปสองตนและสาวกอีกคนได้ แต่ตอนนี้ก็ยังมีสาวกเฝ้าประตูอีกสองคน และผีร้ายอีกหกตัว
ตอนนี้พวกมันเฝ้าอยู่หน้าประตูไม่ขยับไปไหน สู้กับพวกเราอย่างไม่ยั้งมือ
จิ้งจอกน้องดร้ายมาก ตอนนี้เธอกวาดแกว่งอุ้งเท้าอย่างดุดัน สาวกพวกนั้นแทบรับมือไม่ไหว
ผม เหล่าเฟิง และฉียเฉิงจิงเองก็ทุ่มสุดกําลัง อยากรีบออกไปจากที่นี่ให้ได้เร็วๆ
แต่เจ้าพวกนั้นใช้ข้อดีที่ตัวเองมีคนเยอะกว่า และประโยชน์จากพวกทาสผี
เอาแต่ป้องกันไม่โจมตี พยายามรั้งพวกเราอยู่ตรงนั้น รอให้ทัพเสริมมาช่วยอีกแรง
ถึงพวกเราจะทุ่มสุดกําลัง แต่มันก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปได้ในระยะเวลาสั้นๆ
ผมเห็นสถานการณ์อยู่ในขั้นอันตรายมากๆ จะปล่อยให้ช้ากว่านี้ไม่ได้ เลยหยิบกระดิ่งกุมวิญญาณออกมา เตรียมสยบทาสผีพวกนั้น
ทางเหล่าเฟิงไม่ลังเลเลยสักนิด กลืนยาเม็ดสีดําเข้าไป ประสานมืออีกข้างหนึ่ง จากนั้นก็ตะโกนออกมาทันที “หานเจ่วเฟิง ออกมาเดี๋ยวนี้ !”