เมื่อผมเห็นคุณเหวินเสียใจ ผมก็อดไม่ได้ที่จะ รู้สึกแปลกๆ
และไม่อยากโกหกพวกเขา จึงพูดกับคุณเหวินว่า “คุณเหวิน คุณหนูเหวินก็อยู่ในห้องนี้ และอยู่ที่หน้าอกของคุณครับ!”
เมื่อคุณเหวินได้ยินคำพูดนี้ เขาถึงกับตัวสั่น เผยใบหน้าประหลาดใจ ค่อยๆก้มมอง
แม้แต่คุณนายเหวินเอง ก็รีบลุกขึ้น และตะโกนทันที “เยี่ยนเยี่ยน เยี่ยนเยี่ยน!”
หลังจากคุณเหวินตกตะลึง เขาก็ตะโกนเรียกคุณหนูเหวินเช่นกัน
คุณหนูเหวินเองก็ตอบรับอย่างไม่ขาดสาย แต่คุณเหวินและภรรยาไม่ได้ยินเสียงเธอก็เท่านั้น
สุดท้ายผมก็ได้ยินคุณนายเหวินพูดว่า “ท่านนักพรตติง พวกเรามองไม่เห็นเยี่ยนเยี่ยน คุณช่วยพวกเราด้วย ให้เยี่ยนเยี่ยนปรากฎตัวหน่อยนะคะ! ต้องการเงินเท่าไหร่ก็ได้ ขอให้พวกเราได้เห็นเยี่ยนเยี่ยนเถอะนะ พวก พวกเราจะยกบ้านในเมืองให้คุณ แล้วก็เงินสดอีกสามล้าน! หรือ หรือคุณจะขอเพิ่มอีกก็ได้!”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ใจผมก็เต้นแรงทันที
คฤหาสน์ในเมือง ก็คือราคาบ้านที่พวกเราอยู่ มันมีมูลค่าถึงหลายล้าน แล้วยังมีเงินสดอีกหลายล้าน
ผมโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นเงินเยอะขนาดนั้นเลย
แต่ว่า เมื่อทำงานนี้ ก็ต้องมีข้อห้ามอยู่บ้าง
ผมได้แต่กลืนน้ำลาย สุดท้ายก็ปฏิเสธข้อเสนอของพวกเขา
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะเปลี่ยนแปลงได้ ผมเองก็ไม่มีวิธีเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่กล้าทำลายกฎด้วย
เมื่อคุณเหวินและภรรยาเห็นผมปฏิเสธ ก็รีบวิ่งไปหาเฟิงเฉ่วหานที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างๆ
แต่เฟิงเฉ่วหานยิ่งพูดจาไม่ถนอมน้ำใจ เขาตอบกลับมาทันที “ไม่ได้” จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกเลย
ผมเห็นสองสามีภรรยาทุ้มเททั้งกายและใจ จึงพูดกับพวกเขาว่า “พวกคุณมีอะไรจะพูด ก็พูดกับคุณหนูเหวินที่นี่ได้เลย! เธอได้ยินพวกคุณทั้งหมด แม้ว่าพวกคุณจะมองไม่เห็นเธอ แต่เธอมองเห็นพวกคุณนะครับ!”
หลังจากพูดจบ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงเดินไปทางที่เฟิงเฉ่วหานยืนอยู่
เมื่อเฟิงเฉ่วหานเห็นผมเดินเข้ามา ก็ยื่นบุหรี่ให้กับผม และพูดออกมาเบาๆ “ทำงานแบบพวกเรา การเมตตาผู้คนไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไปนะ!”
ผมยิ้มอย่างลำบากใจ แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา
ตอนนี้คุณเหวินและภรรยากำลังมองไปในห้องโถงที่ว่างป่าว พูดคุยกับคุณหนูเหวินฝ่ายเดียวอย่างไม่หยุดหย่อน
ตอนแรกมันก็ดีอยู่ แต่หลังจากนั้นพวกเราก็ทนดูต่อไปไม่ได้ ผมและเฟิงเฉ่วหานจึงเดินออกไปข้างนอก
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง อาจารย์และนักพรตตู๋ก็เดินเข้ามา บอกสถานการณ์ตอนนี้ให้คนทั้งสองฟัง จากนั้นพวกเราก็ได้กลับมาพัก
เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น ผมและเฟิงเฉ่วหานก็กลับมาที่งานศพอีกครั้ง
พวกเราไม่รู้ว่าอาจารย์และนักพรตตู๋พูดอะไรกับคุณเหวินและภรรยา แต่เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนดีขึ้นมาก ไม่เสียใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
ทั้งสองคนอยู่ในงานศพจนถึงเวลาสี่ทุ่ม จากนั้นก็กลับไปพักผ่อน
ตอนนี้ในห้องโถง จึงเหลือเพียงพวกเราไม่กี่คน
แต่ว่าคืนนี้ทุกคนไม่คิดจะอยู่เฝ้าศพ แต่จะส่งคุณหนูเหวินไปล้างแค้น
ในเวลาเดียวกันพวกเรายังอยากถามอารองของคุณหนูเหวิน ว่าจริงๆแล้วเขาเชิญใครมา หรือผีแบบไหน
เพราะการทำแบบนี้ จะทำให้พวกเราหาตัวผีชั่วที่หนีไปเมื่อคืนได้เร็วที่สุด เพื่อทวงคืนความยุติธรรม และหยุดไม่ให้ผีชั่วไปก่อเรื่องได้อีก
หลังจากรอบๆไม่มีคน ทุกคนก็เริ่มเก็บข้าวของและออกเดินทางทันที
อารองและครอบครัวของคุณหนูเหวิน อาศัยอยู่ในพื้นที่เล็กๆ บ้านของเขาอยู่ใกล้กับที่นี่มากๆ
ดังนั้นหลังจากที่พวกเราออกจากเขตวิลล่า โดยการนำของคุณหนูเหวิน ใช้เวลาไม่นานพวกเราก็เดินทางมาถึงบ้านของอารอง
“ท่านนักพรต อารองของฉันอยู่ที่นี่ค่ะ!” ตอนพูด คุณหนูเหวินยังแสดงสีหน้าโมโหออกมา
อาจารย์พยักหน้า แต่ไม่พูดอะไร
ส่วนนักพรตตู๋ที่อยู่ข้างๆกลับดึงเศษเหล็กแหลมออกมาสองอัน จากนั้นก็สอดเข้าไปที่รูกุญแจ “แกร๊กแกร๊ก” ทันใดนั้นประตูเหล็กด้านนอกคฤหาสน์ก็เปิดออก
เมื่อเดินเข้าไปข้างใน พวกเราก็พบกับสวนดอกไม้
หลังจากเดินมาถึงประตูคฤหาสน์ นักพรตตู๋ก็ใช้วิธีเดิมในการเปิดประตู
จากนั้นทั้งห้าคน ก็เข้าไปในบ้าน และเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองทันที
ทันใดนั้น พวกเราก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิคักของชายหญิงที่กำลังจีบกันดังออกมาจากในห้อง
“ตาบ้า คุณทำฉันเจ็บแล้วนะคะ……”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ็บเหรอจ๊ะ อีกเดี๋ยวจะเจ็บยิ่งกว่านี้อีกนะคะคนดี!”
“แบบนั้นต้องเพิ่มเงินนะคะ คิคิคิ……”
เมื่อทุกคนได้ยินเสียงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
จิตใจของตาแก่นี้ไม่เลวจริงๆ เวลาดึกดื่นเที่ยงคืน ยังทำเรื่องอย่างว่าอยู่อีก
แต่พวกเราขี้เกียจรอนาน จึงเดินตามเสียงไปและเจอห้องหนึ่งที่กำลังเปิดไฟอยู่พอดี
เมื่อมาถึงที่นี่ เฟิงเฉ่วหานไม่พูดอะไร “ปัง” ใช้เท้า ถีบไปที่ประตูทันที
เมื่อประตูเปิดออก พวกเราบางคนก็พุ่งเข้าไป
พึ่งเข้ามาเท่านั้น พวกเราก็เห็นคนสองคนกำลังเร้าโรมกัน ฉากนั้นเป็นฉากที่ทั้งสองคนกำลังเมามันกันสุดๆ
หนึ่งในนั้น ก็คือเหวินจ้งอารองของคุณหนูเหวินนั้นเอง
เขาเป็นชายวัยกลางคนที่หัวล้าน หัวโตหูใหญ่ อ้วนเหมือนกับหมูไม่มีผิด ทั้งหน้าอก ท้อง และเท้าต่างมีผิวคล้ำดำมาก แค่มองจากภายนอกก็ดูน่าขยะแขยงมากแล้ว
แต่ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา กลับเป็นวัยรุ่นที่งดงาม เป็นสาวสวยตัวเล็กๆน่ารักน่าถนุถนอม
ทุกคนไม่มีเวลาสนใจมองภาพหญิงงามและสัตว์ร้ายอยู่ด้วยกัน ต่างมองด้วยสีหน้าดำมืด ดูท่าทางไม่สบอารมณ์
เมื่อทั้งสองคนเห็นพวกเราเข้ามาอย่างไม่มีปี้มีขลุ่ย พวกเขาก็ตกใจ
“อร๊าย…” ผู้หญิงคนนั้นกรีดออกมาและรีบหลบเข้าไปอยู่ในผ้าห่มทันที
เหวินจ้งเองก็ตื่นตกใจ “พวก พวกแกเป็นใคร ทำไม ทำไมถึงมาอยู่ในบ้านของฉัน”
ตอนที่เขาพูด เหวินจ้งยังรีบดึงกางเกงในมา ใส่ทันที
ทุกคนต่างกลอกตาใส่เหวินจ้ง จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงนักพรตตู๋พูดกับผู้หญิงที่อยู่ในผ้าห่มว่า “ใส่เสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อย และรีบออกไปจากที่นี่!”
ผู้หญิงคนนั้นตกใจจนเสียสติ เดิมทีเธอมาเพื่อขายตัว แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า ความกลัวก็ครอบงำจิตใจของเธอ รีบหยิบเสื้อผ้าของตัวเองและวิ่งออกไปข้างนอกทันที แม้แต่รองเท้ายังไม่ใส่ไปด้วย……
เหวินจ้งใส่กางเกงเรียบร้อยแล้ว และทำจิตใจให้สงบ
เขาเป็นถึงคนดังในแวดวงธุรกิจ ดังนั้นจะต้องมีสภาพจิตใจที่ยอดเยี่ยม
หลังจากได้สติคืนมา เขาก็นั่งอยู่ข้างๆเตียง หยิบซิการ์ที่หัวเตียงขึ้นมาสูบ “พวกแกคงเป็นคนที่เมียฉันส่งมาละซิ! บอกราคามา และลบรูปที่ถ่ายไว้ซะ ต่อไปก็มาทำงานให้ฉันแทน……”
หลังจากพูดจบ เขาก็เปิดลิ้นชัก หยิบเงินสดออกมา
“นี่เป็นเงินเล็กๆน้อยๆ! พวกแกรับไว้ก่อน วันนี้คงเหนื่อยกันมามากแล้ว เอาไปดื่มเบียร์กันให้สนุกนะ”
เหวินจ้งพูดด้วยน้ำเสียงลากยาว
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ผมก็อดหัวเราะในใจอย่างชั่วร้ายไม่ได้
เจ้านี้เห็นพวกเราเป็นนักสืบ และยังอยากซื้อตัวพวกเราด้วย ช่างน่าขำจริงๆ
จู่ๆอาจารย์ที่อยู่ข้างหน้าก็หัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “เหวินจ้ง ใกล้จะตายแล้ว ยังไม่รู้จักกลับใจอีกนะ!”
เหวินจ้งตกตะลึง “ใกล้ตายงั้นเหรอ ถึงพวกแกจะจับได้ว่าฉันคบชู้แล้วยังไงละ อย่างมากก็แค่ใช้เงินนิดหน่อยยัดหัวยัยนั้น ถ้าไม่อยากไว้หน้าก็ไม่ต้องไว้ นอกจากวันนี้จะฆ่าฉัน ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะหาคนไปฆ่าพวกแก……”
เสียงพึ่งตกลง จู่ๆที่หน้าประตูก็ปรากฎเสียงของคุณหนูเหวิน “อารอง คุณอยากฆ่าใครนะ”
ในเวลาเดียวกัน ร่างของคุณหนูเหวินก็ปรากฎขึ้นที่หน้าประตู
สวมใส่ชุดสีขาว ผมดำยาวปลิวไสว เธอค่อยๆก้มหน้าลง เผยรอยยิ้มที่น่าสยดสยองจ้องมองมาที่เหวินจ้ง
เดิมทีเหวินจ้งเป็นคนนิสัยก้าวร้าว เมื่อจู่ๆได้เห็นคุณหนูเหวิน ทันใดนั้นเขาก็กรีดร้องออกมาทันที
ซิการ์ที่อยู่ในมือ “บึก” ตกลงพื้นทันที
ไม่เพียงแค่นี้ ในแววตาของเขา ยังมีคำเขียนไว้ว่ากลัวและเครียด
“เยี่ยน เยี่ยนเยี่ยน!” เวลาผ่านไปสองสามวินาที เหวินจ้งถึงได้สติคืนมา
“อารอง ฉันตายไปหลายวันแล้ว แต่คุณยังดูสบายดีอยู่นะ” คุณหนูเหวินพูดพร้อมแสดงรอยยิ้มที่เย็นชา
จนถึงตอนนี้ สติของเหวินจ้งถึงกลับมาได้อย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็สั่นกลัว แสดงท่าทางหวาดกลัว จากนั้นก็ชี้มาทางพวกเรา “พวก พวก พวกแกไม่ใช่นักสืบที่เมียฉันส่งมา พวกแก พวกแกเป็นคนที่อยู่ในงานศพ นัก นักพรต……”
“ถูกต้อง คืนนี้ฉันจะมาเอาชีวิตแก! เพื่อให้เหวินเยี่ยนได้แก้แค้น” จู่ๆอาจารย์ก็ตะโกนออกมา ด้วยคำพูดข่มขู่
เจ้าเหวินจ้งคนนี้ได้ทำเรื่องเลวทรามเอาไว้ เมื่อเห็นวิญญาณของคุณหนูเหวินปรากฎตัว
และยังถูกอาจารย์ตะโกนใส่ เขาก็หวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้เขากลัวจนหน้าซีด หายใจไม่สม่ำเสมอ เหงื่อเย็นไหลออกมาจนทั่วร่าง
ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็อ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน “บึก” ร่างอันอวบอ้วนก็ล้มลงไปกับพื้นทันที……