ตอนที่ 425 ทําอะไรไม่ได้
ขณะมองกรงเล็บที่กําลังเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใจผมก็เต้นแรง แอบพูดว่าซวยแล้ว
ถ้าโดนมันเข้าไป ถึงจะไม่ตายก็ต้องมีเนื้อหลุดออกมาแน่
ผมรู้สึกกลัวจนผิดปกติ แต่ครั้งนี้ตัวผมไม่มีสติเหลือแล้ว
อย่าว่าแต่เบี่ยงตัวหลบ หรือต่อต้านเลย แม้แต่ยืนให้มั่นผมก็ยังทําไม่ได้
วินาทีนี้ ผมรู้สึกเย็นไปทั้งตัว ลมหายใจแห่งความตายครอบงําผมอย่างสมบูรณ์
หรือผมติงฝานคนนี้ จะต้องมาตายแบบนี้เหรอ
ในสมอง มีความคิดแบบนี้ผุดขึ้นมาอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
แต่ในช่วงเวลาเป็นตายนี้เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในขณะที่กรงเล็บพวกนั้นกําลังฟาดลงมา
นุ่ยเฉิงจิงก็พุ่งเข้ามาในวงล้อมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตอนนี้เธอรีบวิ่งมาขวางตรงหน้าผม
พอเห็นการกระทําของจุ่ยเฉิงจิง ผมก็ตะลึงในทันที
ผมกับเธอเพิ่งเคยเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นหรือแม้แต่ไม่เรียกว่าเพื่อนแท้เลยด้วยซ้ํา
แต่ตอนนี้เธอก็เอาร่างกายตัวเองมาปกป้องตัวผม
ฉากนี้ การกระทํานี้ทําให้ผมรู้สึกช็อกมาก
ดวงตาอดไม่ได้ที่จะเบิกกว้าง มันเขียนค่าว่าตกใจและสงสัยเต็มสองตา
และเสี้ยววินาทีต่อมาเสียง “ปัง” ก็ดังขึ้น
กรงเล็บของผีร้ายตนนั้น ฟาดลงมาใส่ดาบไม้ของจี่ยเฉิงจึง
ถึงจะเป็นอย่างงั้น แต่มันก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของผีร้ายตนนั้นได้อย่างสมบูรณ์
ปลายกรงเล็บ ฉีกกระฉากเสื้อผ้าตรงคอของเธอ ตรงลําคอของเธอ มีแผลที่ค่อนข้างตื้นปรากฎขึ้น
พอเจ้าผีร้ายตนนั้นเห็นว่าการโจมตีของตัวเองโดนขัด มันก็ดูโมโหสุดๆ เผยหน้าตาดุร้ายออกมาทันที
มันค่ารามใส่จุ่ยเฉิงจิงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็ตวัดกรงเล็บเข้ามาเป็นครั้งที่สองทันที
ระหว่างนั้น มันยังปลดปล่อยพลังหยินที่ทรงพลังออกมาอีกด้วย
พอนุ่ยเฉิงจึงรับรู้ได้ถึงพลังหยินระดับนี้ เธอก็ได้แต่ฝืนต้านการโจมตีต่อไป
แต่ทาสผีที่แข็งแกร่งขึ้นแล้ว จะเป็นสิ่งที่เธอผู้ซึ่งไร้พลังแล้วจะต้านไหวอย่างงั้นเหรอ
“ปัง” เสียงปะทะดังขึ้น ตัวฉัยเฉิงจิงโดนซัดกระเด็นออกไปทันที
ตัวผมที่อยู่ข้างหลัง ก็ยังล้มกลิ้งไปกับพื้นด้วย
ผมไม่เป็นอะไร มีจุ่ยเฉิงจึงคอยกันอยู่ข้างหน้า เลยไม่ได้เป็นอะไรมากนัก
แต่อาการของจุ่ยเฉิงจึงกลับไม่ดีเท่าไหร่ เผชิญหน้ากับพลังหยินที่ทรงพลังขนาดนี้แถมยังโดนซัดออกไปจนบาดเจ็บ
ยังไม่ทันลุกขึ้น “อัก” ฉียเฉิงจิงก็กระอักเลือดออกมาทันที
มันย้อมคอเสื้อและเสื้อเป็นสีแดงฉาน ส่วนตัวฉ่ยเฉิงจึงในตอนนี้ ก็ได้บาดเจ็บหนักจนสู้ไม่ได้อีกต่อไป
พอเห็นภาพนี้ ผมก็ท่าหน้าเครียด รีบวิ่งเข้าไปหาทันที “นุ่ยเฉิงจิง จี่ยเฉิงจิง !”
มุมปากนุ่ยเฉิงจึงเปื้อนด้วยคราบเลือด หายใจหอบเหนื่อย มองผมด้วยท่าทางอ่อนแรง “ฉัน ฉัน ฉันอาจจะ อาจจะตาย……”
หลังจากพูดจบ มุมปากของจี่ยเฉิงจึงยังยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ไม่ พวกเรายังออกไปฆ่าได้อีกหลายรอบ !” หลังจากพูดจบ ผมก็กําลังจะประคองฉียเจ๋งจึงขึ้น
ร่างกายของนุ่ยเฉิงจิงไร้เรี่ยวแรงแล้ว ตอนนี้ผมประคองเธอขึ้นได้ยากมาก
ส่วนเจ้าทาสพวกนั้นก็เข้ามาในระยะสังหารแล้ว ผมจับดาบไม้แน่น จัดการเจ้าทาสผีพวกนั้นไปพร้อมกับประคองตัวนุ่ยเฉิงจึง
นุ่ยเฉิงจึงในเวลานี้อ่อนแอมาก พลังหยินเมื่อกี้ทําเธอบาดเจ็บหนัก ตอนนี้เธอไม่มีแรงพูดด้วยช่า
ได้แต่มองผมอยู่แบบนั้น
ปากตะโกน “ย้าๆ” ออกมาอย่างบ้าครั้ง ท่าทางสู้สุดชีวิต ผมพยายามปกป้องจุ่ยเฉิงจึงต้านการโจมตีจากทาสผี และสู้กับซากศพที่อยู่รอบๆอย่างต่อเนื่อง
นอกจากผมตรงนี้ เสี่ยวเหมยที่กลายร่างเป็นสัตว์ ก็โดนศพตัวนึงทําให้บาดเจ็บ แล้วจากนั้นก็โดนพลังหยินของทาสผีจํานวนมาก
ตัวเธอล้มลงกับพื้น สุดท้ายร่างกายก็เปลี่ยนกลับมาเป็นจิ้งจอกน้อยที่ได้รับบาดเจ็บตัวหนึ่ง
“เสี่ยวเหมย !” ผมตะโกนเสียงดัง อยากจะเข้าไปช่วยเสี่ยวเหมย
แต่มีทาสผ่ขวางเอาไว้เยอะขนาดนี้ ผมจะเข้าไปใกล้ได้ยังไง
แม้แต่ตัวผมเอง ก็ยังปกป้องตัวเองยากเลย
“ปัง” ความเจ็บแลบแล่นมาที่หลังของผมอีกครั้ง จากนั้นตัวผมก็โน้มไปข้างหน้า และล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
นุ่ยเฉิงจึงที่ผมประคองอยู่ ก็ล้มอยู่ข้างๆผม
หางตาผมเห็นเธอพอดี
ฉียเฉิงจึงแทบจะขยับไม่ได้ เธอมองผมด้วยดวงตากึ่งหลับ
และระยะห่างระหว่างพวกเรา ทําให้ผมเห็นตรงหน้าอกของจี่ยเจ๋งจึงมีจี้หยกรูปคนห้อยอยู่อันหนึ่ง
ขณะมองท่าทางอ่อนแรงและใกล้จะหมดลมของจุ่ยเฉิงจิง ผมก็กลั้นความเจ็บเอาไว้จับไม่ได้แล้วลุกขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ใครจะคิดผมเพิ่งลุกขึ้นมาได้ ก็โดนทาสผีตนหนึ่งเล่นงานอีกรอบ ตัวล้มไปนอนกองกับพื้นอีกครั้ง
คราวนี้ ผมเริ่มจะลุกไม่ไหวแล้ว
ความเจ็บปวดแพร่ซ่านไปทุกอณูรูขุมขน
แต่ผมยังไม่ยอมแพ้ไม่อยากพอเพียงเท่านี้ ผมยังอยากลุกขึ้น แต่หลังจากลองทําไปสองครั้งผมก็ได้ลิ้มรส
ความล้มเหลว
ในเวลาเดียวกัน เจ้าจางจีเทาก็ออกมาปรากฏตัวตรงหน้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
พอจางจีเทาออกมาปรากฏตัว ทาสผีที่อยู่รอบๆก็หยุดโจมตี
จางเทาทําท่าทางเป็นผู้ชนะ “ติงฝาน ดูซิคราวนี้จะมีใครมาช่วยแก !”
หลังจากพูดจบ จางจีเทาก็ยกเท้ามาเหยียบหัวผม และยังออกแรงเหยียบอยู่พักหนึ่ง
หน้าเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง ปากยังหัวเราะ “ฮ่าๆๆ” ออกมาเสียงดังลั่น
“เก่ง เก่งจริงก็ฆ่าฉันให้ตาย ไม่อย่างงั้นฉันจะให้แกต้องชดใช้เป็นร้อยเท่า….” ผมท้าทายพูดปากกล้าออกไปแบบนั้น แต่ร่างกายกลับไม่ฟัง มันแทบจะขยับไม่ได้เลยสักนิด
“ฮ่าๆๆ ร้อยเท่า ? แกคิดว่าฉันจะไม่ฆ่าแกหรือไง ? ไอ้โง่ ไปตายซะไป !” จางจีเทาพูดอย่างเย็นชา
หลังจากพูดจบ เขาก็ยกเท้าขึ้นอย่างรวดเร็ว คิดจะกระทืบผมให้ตาย
เมื่อก่อนผมกลัวตายมาก ตอนผีน้ําจะมาเอาชีวิต ผมกลัวจนตัวสั่น
แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ ครั้งนี้ ผมไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด แต่เป็นความรู้สึกไม่พอใจมากกว่า
ฉียเจ๋งจึงที่อยู่ข้างๆ ทนดูไม่ได้จนต้องหลับตา
แต่ผมรู้ดี ถึงจะไม่พอใจแต่ผมก็ทําอะไรไม่ได้
ในป่ารกร้างแบบนี้ แถมที่นี่ยังเป็นสาขาย่อยขององค์กรตาผี
รอบๆเต็มไปด้วยทาสผีซากศพและตัวประหลาด ด้านนอกยังมีเรื่องต้องห้ามอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้
นอกจากพวกเราจะใช้ทางหลังเขาออกไปจากที่นี่แล้ว คนอื่นจะออกมาปรากฏตัวที่นี่ได้งั้นเหรอ
ราวกับในขณะนั้น ผมได้ถอนหายใจในส่วนลึกของจิตใจ
เหมือนกับว่าผมได้รับความตายที่จะมาถึงในเสี้ยววินาทีต่อไปแล้ว
แต่ ผมก็ดวงแข็งโชคชะตาชีวิตผมมักขึ้นๆลงๆอยู่เสมอ
ภายใต้สถานการณ์เป็นตายแบบนี้ เหตุการณ์แปลกๆก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง หยกเปื้อนเลือดของนุ่ยเฉิงจิง กลับเปล่งแสงสว่างจ้าออกมา ในช่วงเส้นยาแดงนั้นพอดี
เสียงสว่างนั้นเหมือนกับแสงจากหลอดไฟ ในหุบเขาที่มืดมิด จู่ๆก็สว่างขึ้นมา และยังมีพลัง แปลกๆปรากฏขึ้น
แสงสว่างที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันนี้ ทําให้ผมตกใจทันที ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ส่วนจางจีเทาที่กําลังยกเท้าจะกระทืบผมให้ตาย และพวกทาสผี ซากศพ และตัวประหลาดที่อยู่ข้างๆ
ก็กรีดร้องด้วยความตกใจ และแยกย้ายกันหันหน้าหนี ในวินาทีที่แสงสว่างนั้นปรากฏขึ้น
แสงสว่างสีขาวแสบตาแบบนั้น ทําให้พวกมันรู้สึกแย่มาก หรือแม้แต่รู้สึกเจ็บปวดจนผิดปกติ
“อ้า !”
“อร้าย !”
“โฮก….”
ผีพวกนั้นรีบถอยไปข้างหลัง ส่วนเจ้าจางจีเทาที่กําลังจะกระทืบผม เพราะแสงสว่างนี้ปรากฎขึ้นตัวมันเลยกรีดร้องออกมาเช่นกัน ราวกับโดนพลังมหาศาลโจมตี
หลังจากกรีดร้องออกมาได้หนึ่งครั้ง “ปัง” ร่างของเขาก็กระเด็นออกไปทันที
ถึงเหตุการณ์ประหลาดนี้ จะทําให้ผมมึนงง
แต่ผมกลับต้องตกใจ เพราะผมพบว่าในแสงสว่างแสบตานั้น มีร่างของใครบางคนกําลังรวมตัวเป็นรูปร่างคล้ายคน
ใครคนนั้นออกมาปรากฏตัวเร็วมากและพอออกมาปรากฏตัวแล้วเสียงทุ่มต่าอันทรงพลังของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นทันที“พวกชั่วตัวไหนกล้าทําร้ายลูกศิษย์ของข้า….”