ตอนที่ 429 หนี
กว่าจะทิ้งระยะห่างจากพวกผี และปืนลงหน้าผาได้ พวกเราก็ใช้เวลาไปถึงสิบนาทีเต็มๆ
ท่านเกี่ยวกับนางพญาจากไปแล้ว ทางที่เหลือมีเพียงต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น
เราได้รับบาดเจ็บทุกคน และไม่ได้เจ็บเบาๆแต่เป็นเจ็บหนัก
แต่หลังจากผมกินยาของยายโม่แล้ว ผมก็สามารถกลับมาควบคุมร่างกายได้ในระยะสั้นๆ
ไม่พูดไม่ได้ ยาเม็ดนี้ร้ายกาจมากทีเดียว
คล้ายกับพวกยากระตุ้น ร่างกายไม่รู้สึกถึงความเจ็บที่มี พละกําาลังและพลังก็ฟื้นกลับมาไม่น้อย แถมยังทําให้รู้สึกใจเต้นแรงกว่าปกติ
ถึงจะให้นางพญามาสถิตร่างเมื่อก่อนหน้านี้ แถมตอนนี้ยังเพิ่มภาระให้ตัวเองมากกว่าเดิม แต่พลังของผมกลับไม่ลดลงเลยสักนิด ทําให้ผมอยู่นิ่งๆไม่ได้เลย
แน่นอน ยาแรงขนาดนี้ ก็ต้องมีผลข้างเคียงอย่างแน่นอน
และยายโม่ก็บอกแล้ว นี่เป็นแค่ผลที่เกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น
สามารถอยู่ได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับร่างกายและอาการบาดเจ็บของใครคนนั้น
แต่เรื่องนี้ไม่สาคัญอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่สําคัญก็คือ ตอนนี้พวกเราสามารถหนีออกไปได้แล้ว
ขอแค่พวกเราใช้เวลาสองชั่วโมงนี้หนีออกไปได้ งั้นพวกเราก็จะไม่เป็นไรแล้ว พอถึงเวลาลดฤทธิ์ มันก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตพวกเราแล้ว
ส่วนเหล่าเฟิง นุ่ยเฉิงจังและจิ้งจอกน้อย ก็กินเข้าไปคนละหนึ่งเม็ดเช่นกัน
เพราะความพิเศษของยาเม็ด ทําให้ฉยเฉิงจังและจิ้งจอกน้อยที่บาดเจ็บหนักขนาดนั้น ได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
แต่มันออกฤทธิ์ค่อนข้างสั้น ทําให้ตอนนี้พวกเธอยังต้องคอยให้คนอื่นช่วยประคอง ไม่อาจเดินด้วยตัวเองได้
สําหรับเหล่าเฟิง อาการบาดเจ็บของเขา เบาที่สุด
ดังนั้นเขาไม่เพียงไม่ต้องให้คนอื่นคอยประคอง กลับกันยังช่วยผมประคองจิ้งจอกน้อยและนุ่ยเฉิงจึงวิ่งไปข้างหน้าอีกด้วย
แต่ครั้งนี้ ในสายตาของเหล่าเฟิง มู่หลงเหยียนไม่ใช่ความว่างเปล่าอีกต่อไป เขาเริ่มเห็นรูปร่างหน้าตาของเธอรางๆ
เหล่าเฟิงรู้นานแล้วว่า “น้องสาว” ที่ผมเคยพูดถึงอยู่ด้วยนานแล้ว ตอนนี้พอเห็นภาพที่ลางเลือน
เขาเลยไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก
ส่วนจี๋ยเฉิงจึงกลับมองด้วยความสงสัยสองสามครั้ง เพราะเธอเพิ่งเคยเจอ “วิญญาณคุ้มครองบ้าน” ที่คอยปกป้องผมครั้งแรก
อีกมุมหนึ่งทางมู่หลงเหยียน ยายโม่และยังมีหวางเป่าเฉิง เทิงหนิวกับผู้นําผีที่ผมไม่รู้จักตนอื่นๆ
กลับไม่ได้สนใจมากนัก พวกเขาเพียงคอยคุ้มกันเรา หรือไม่ก็คอยเปิดทาง หยุดพวกที่ไล่ตาม ทําให้พวกเราไม่ได้รับอันตราย
หลังจากก่ยซานหยวนและยัยป้ามั่นหน้าถอยหนีไป พวกเขาก็เหมือนจะได้รับบาดเจ็บซ้ําสอง
และครั้งนี้ ก็เป็นแผลซ้อนแผล
ดังนั้น หลังจากหนีไป พวกเราก็ไม่ปรากฏตัวขึ้นอีก
ส่วนพวกที่ไล่ตามพวกเรามาข้างหลัง ก็เป็นพวกลูกสมนทั้งนั้น
พวกซากศพถือว่าดีหน่อย เพราะพวกมันเคลื่อนไหวช้า ไล่ตามพวกเราไม่ทัน
แต่พวกทาสผีกลับไม่เหมือนกัน สายลมอันหนาวเหน็บ พัดเข้ามาทางพวกเราเป็นพักๆ
พวกเราวิ่งหน้าตั้งไปทางหลังเขา ข้างหลังมีพวกผีตามมาไม่หยุด ระลอกคลื่นเกิดขึ้นลูกแล้ว ลูกเล่า ไม่จบไม่สิ้น
โชคดีที่ที่นี่คือทางหลังเขา และเป็นที่ต้องห้ามขององค์กรชั่ว บวกกับมีมู่หลงเหยียนและพวกผู้นําผีที่ทรงพลังคอยรุกรับ ทําให้เราแทบไม่ต้องรับมือเอง
ตอนนี้ พวกเราเข้าสู่พื้นที่ที่มีหมอกหนาแล้ว การมองเห็นเลยได้รับผลกระทบอย่างแรง
พวกเราเลยต้องใช้ความทรงจําของตัวเอง พาทุกคนวิ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ
ผ่านไปไม่นาน พวกเราก็มาทางแยกอีกครั้ง
ตอนเห็นทางแยก ผมก็ดีใจขึ้นมาทันที จึงรีบพูดกับมู่หลงเหยียนว่า “น้องศพ ที่นี้แหละ ขอแค่พวกเราออกไปตามทางซ้าย อย่างมากก็ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็จะออกจากเขาเขี้ยวหมาป่า ออกจากหมอกหนาพวกนี้ได้สักที”
พอม่หลงเหยียนได้ยินคําพูดนี้ ใบหน้าของเธอก็เปื้อนยิ้มเล็กน้อย “ เยี่ยมไปเลย ถึงทาสผี พวกนี้จะมีเยอะ
แต่พวกมันส่วนใหญ่ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่สามารถออกไปจากเขาเขี้ยวหมาป่าได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ
งั้นอีกไม่นานพวกเราก็จะปลอดภัยแล้ว ”
เมื่อก่อนมู่หลงเหยียนเคยเป็นหุ่นเชิดรุ่นแรกขององค์กรตาผี ดังนั้นสําหรับเรื่องทาสผี ศพ หรือสัตว์ประหลาดขององค์กรตาผี เธอรู้จักดีเลยละ
และสาขาย่อยขององค์กรตาผีแห่งนี้ ก็โดนจับตามองมาโดยตลอด สําหรับข้อมูลพวกนี้ มู่หลงเหยียนย่อมรู้ดีอยู่แล้ว
พอทุกคนได้ยินแบบนั้น ก็อดเผยท่าทางดีใจออกมาไม่ได้
เหล่าเฟิงพูดออกมาตรงๆ “ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นพวกเราก็อย่ารอช้าอยู่เลย รีบไปกันเถอะ! เหมือนผีพวกนั้นจะไล่ตามมาทันแล้ว”
เหล่าเฟิงหน้าซีด พูดขณะประคองเสี่ยวเหมยอยู่
ผลลัพธ์เสียงเพิ่งเงียบลง ข้างหลังก็มีเสียงคํารามดังขึ้น “โฮก”
เสียงดังมาก มันก้องไปทั่วป่า ต่อจากนั้นคลื่นพลังหยินอันเข้มข้นก็พัดตามมาติดๆ
ทันใดนั้น รอบๆก็มีเงาคนปรากฏขึ้น ทาสผีตนแล้วตนเล่าเริ่มออกมาโจมตี
พอเห็นถึงตรงนี้ ผมก็กลั้นหายใจทันที
มาได้จังหวะพอดี เมื่อกี้เพิ่งโดนซัดออกไปหนึ่งกลุ่ม ตอนนี้ดันมาอีกแล้ว
มู่หลงเหยียนดึงหน้าลง หันไปมองรอบๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า “ ยายโม่ คุ้มครองพวกเขาออกไปก่อน
เดี๋ยวพวกเราจะคอยสกัดเอาไว้ก่อน”
หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็กําลังจะออกไป
พอเห็นภาพนี้ ผมก็ทําหน้าเครียด พร้อมพูดกับมู่หลงเหยียนว่า “น้องศพ”
มู่หลงเหยียนได้ยินผมเรียกเธอ เธอเลยหันมามองด้วยหน้าสงสัย
พอเห็นถึงตรงนี้ ผมละอยากพูดมาก ถ้าจะไป เราก็ต้องไปด้วยกัน
แต่พออ้าปาก ผมกลับกลืนคําพูดพวกนั้นกลับเข้าไปอีกครั้ง
ผมรู้ตัวดี พลังอันน้อยนิดแบบนี้ ถ้าผมไปกับมู่หลงเหยียน มันก็ไม่ต่างอะไรจากไปหาเรื่องตาย หรือไปเป็นตัวถ่วงพวกเขาเปล่าๆ
ดังนั้นผมเลยเปลี่ยนคําพูด และพูดออกมาว่า “ระวังตัวด้วย รีบกลับมาเร็วๆนะ”
มู่หลงเหยียนเห็นผมทําหน้าจริงจัง และยังพูดคําพูดพวกนี้ออกมา เธอเลยส่งยิ้มให้ผม “วางใจได้ พวกนั้นทําอะไรฉันไม่ได้หรอก !”
หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็ไม่ลังเลที่จะอยู่ต่อ เธอหมุนตัว พุ่งตรงออกไปหาผีพวกนั้นทันที
ผู้นําผีอย่างหวางเป่าเฉิงกับเทิงหนิวที่อยู่ข้างๆ และยังมีผู้นําผีที่ผมไม่รู้จักอีกหลายตน ก็ออกไปหาผีพวกนั้นเช่นกัน
และครั้งนี้ ผมก็เห็นเต็มสองตาว่ามีร่างชุดเหลืองหลายร่าง และมีร่างชุดแดงสองร่าง
ไม่ต้องพูดผมก็รู้ดี พวกนั้นก็คือทาสผีชุดเหลืองกับชุดแดง
ระดับชุดเหลืองพวกม่หลงเหยียนจัดการได้สบายๆอยู่แล้ว แต่ระดับชุดแดง นั่นเป็นอะไรที่พูดยาก
ความแตกต่างของชุดแดงมันมีค่อนข้างเยอะ เมื่อมาถึงระดับนี้แล้ว อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีพลังอยู่ในขั้นเต้าจจิ้น หากสูงไปกว่านั้นก็อาจขึ้นไปถึงเต้าจงขั้นสุด เป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
ผมขมวดคิ้ว ในใจยังรู้สึกกังวลอย่างที่พูดออกมาไม่ได้
ส่วนยายโม่ที่อยู่ข้างๆ กลับพูดขึ้นมาดื้อๆ “คุณผู้ชาย พวกเราไปกันเถอะเจ้าค่ะ !”
ผมกัดฟัน มองร่างมู่หลงเหยียนที่ออกไปไกลเรื่อยๆอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็ขานรับว่า “ซื้อ”
“พวกเราไป……”
หลังจากพูดจบ พวกเราก็เริ่มวิ่งออกจากเขาอีกครั้ง
ทางเขาขรุขระ เดินล่าบากสุดๆ
ถึงพวกมู่หลงเหยียนจะคอยสกัดให้อยู่ข้างหลัง แต่ก็ยังมีทาสผีนิดหน่อยหลุดออกมาได้
ถึงทาสผีพวกนั้นจะมีไม่เยอะ แต่พวกมันก็สร้างปัญหาให้พวกเราไม่น้อยเลย
เราได้ยินเสียงคํารามดัง “โฮก” ซึ่งมันมาพร้อมกับทาสผีหลายตัวที่กําลังเข้ามาในรัศมีสังหาร
พอยายโม่เห็นแบบนั้น เธอก็ทําตาขวาง แล้วกวาดไม่เท้าในมือเป็นทางขวางทันที
“ปังปัง” ทาสผีสองตัวโดนซัดกระเด็นออกไป
ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ยายโม่เพิ่งลงมือ อีกทางด้านหนึ่ง ก็มีผีอีกตัวพุ่งเข้ามา
“แม่งเอ้ย !” ผมตะโกน จากนั้นก็ถือดาบไม่เข้าไปจัดการมันทันที
มียาเม็ดพิเศษของยายโม่ช่วยฟื้นกําลัง ทําให้ตอนนี้ผมยังมีพลังสู้อยู่
และผีไม่กี่ตนนี้ ก็เป็นแค่ทาสผีชุดขาว ท่าทางจะอยู่ในขั้นเต้าฉือระดับกลางเท่านั้น พวกมันเลยอยู่ห่างไกลจากค่าว่าคู่ต่อสู้
พวกมันแต่ละตัว ลอยเข้ามาหาผมด้วยท่าทางแยกเขี้ยวกางกรงเล็บ
แต่ผมไม่ได้ปรานี ฟันเข้าไปตรงที่ประตูชีวิตของพวกมันทันที….