ตอนที่ 438 ฝึกวิชาใหม่สําเร็จ
การบาดเจ็บของมู่หลงเหยียน อยู่เหนือความคาดหมายของผม ผมไม่คิดว่ามู่หลงเหยียนจะบาดเจ็บกลับมา
แถมยังหนักขึ้นขนาดนี้ นี่ก็ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆแล้ว แต่มู่หลงเหยียนก็ยังเก็บตัวพักฟื้นอยู่
ถึงจะบอกว่ามู่หลงเหยียนบาดเจ็บ แต่ยายโม่กลับช่วยผมเปิดเกล็ดสีม่วงทองได้ และได้เห็นอักษรพิเศษและวิชาลับที่เขียนไว้ในนั้นแล้ว
จินตนาการได้ไม่ยาก คนที่สามารถซ่อนวิชาไว้ในเกล็ดสีม่วงทองอันนี้ และยังต้องใช้วิธีแบบนั้นเปิด
เจ้าของวิชาเฟินเทียนกงคนนี้ ต้องเป็นคนที่ร้ายกาจมากแน่ๆ
มันต้องเป็นวิชาระดับปรมาจารย์อย่างแน่นอน ผมสงสัยว่า เขาต้องเป็นคนระดับหน้าๆของลัทธิแน่ๆ
ถ้าฝึกเดินพลังตามวิธีนั้น ผมต้องได้รับบางอย่างมาแน่ๆ
ตอนนี้สิ่งที่ผมคิดถึง ก็คือฝีมือและพลัง
มีเพียงฝึกจนแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ถึงจะเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง เผชิญหน้ากับความท้าทายที่มากกว่าเดิมได้
และไม่ต้องเรียกคนมาช่วยทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับอันตราย
ดังนั้นผมเลยถือภาพเดินพลังและคําอธิบายพวกนั้น เดินออกมาจากป่ากุ่ยหม่า และรีบกลับมาที่ร้านทันที
ตอนผมกลับมาถึงบ้าน ก็ดึกมากแล้ว
อาจารย์นอนหลับไปแล้ว ผมเองก็ไม่ได้ไปรบกวนเขา เพียงนั่งศึกษาภาพเดินลมปราณและคําอธิบายพวกนั้นในห้องตัวเอง
ผมไม่รู้จักอักษรพวกนี้ แต่ผมกลับเข้าใจภาพเดินลมปราณพวกนั้น
ดังนั้นผมเลยเริ่มฝึกจากภาพเดินลมปราณแผ่นแรก
ภาพเดินลมปราณแผ่นนี้แปลกมาก วิธีฝึกและวิธีเคลื่อนลมปราณไม่เหมือนกับวิธีฝึกพลังทั่วไป
หรือแม้แต่ค่อนข้างพิลึก แต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงฝึกตามวิธีเคลื่อนลมปราณด้านบนนั้น
แต่ฝึกตามภาพเดินลมปราณบนเกล็ดม่วงทองนั้น กลับเป็นอะไรที่ยากมาก
เพราะทุกครั้งที่เคลื่อนลมปราณไปถึงจุด ลมปราณพวกนั้นก็จะสลายตัวออกไปดื้อๆ ยากมากที่จะฝึกสําเร็จในครึ่งอาทิตย์ หนึ่งอาทิตย์ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย
เรื่องนี้ท่าให้ผมหัวเสียพอสมควร แต่ผมก็ยังลองทําเรื่อยๆ
ตั้งแต่จุดตันเถียนรวมไว้ตรงกลาง ค่อยๆเดินลมปราณ และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ……
ตําแหน่งจดตัดในรูปภาพพวกนี้ ดูง่ายมาก แต่ตอนลองทํา ผมกลับพบว่ามันยากมาก
ผมลองทําดูหลายต่อหลายครั้ง ถึงผืนผ่านไปได้สองจุด
ทุกครั้งที่อยากผ่านจุดที่สาม ลมปราณก็จะแตกซ่าน ไม่สามารถก้าวผ่านไปได้สักที
และในภาพการเดินลมปราณแผ่นแรก ก็มีจุดให้เคลื่อนพลังถึง 38 จุด
และตัวผม กลับผ่านไปได้แค่สองจุด จะเห็นว่าการฝึกวิชาเฟินเทียนกงมันยากถึงระดับไหน
ยิ่งฝึกยิ่งยาก แต่ผมยิ่งไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ก็ยิ่งฝึกต่อไปเท่านั้น
ผลลัพธ์ในคืนนั้น ผมฝืนจนไม่ได้นอนเลยสักยก
จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น ตอนอาจารย์มาเคาะประตู ผมก็ยังฝึกอยู่เลย
แต่ตอนนี้ผมผ่านไปถึงจุดที่สี่แล้ว ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งคืนเต็มๆ ผมถึงผ่านไปได้อีกสองจุด
สิ่งที่แปลกในวิชานี้คือวิธีเคลื่อนลมปราณและการควบคุม ถ้ามีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็จะฝึกไม่สําเร็จทันที
ผมเองก็ใช้เวลาถึงหนึ่งคืน ถึงได้รู้เรื่องนี้
ตอนนี้อาจารย์เปิดประตูเข้ามา เห็นผมกําลังนั่งขัดสมาธิฝึกวิชาอยู่บนเตียง เลยอดพนักหน้าให้ไม่ได้
“เสี่ยวฝาน วันนี้เริ่มฝึกแต่เช้าเลยเหรอ ? พอแล้ว ออกมากินข้าวเถอะ !”
พอได้ยินเสียงอาจารย์ ผมก็ค่อยๆลืมตาขึ้น
เอื้อมมือไปเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก หลังจากนั้นก็พูดกับอาจารย์ด้วยหน้าตามีความสุข “อาจารย์จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าผมกําลังฝึกอะไรอยู่”
“ฝึกอะไร ?” อาจารย์เงียบไปครู่หนึ่ง
แต่แล้วเลี้ยววินาทีต่อมาอาจารย์ก็ตัวแข็งที่อไปทันที “เสี่ยวฝาน อย่า อย่าบอกนะว่าแกหาวิธีได้แล้ว เห็นวิชาลับในนั้นแล้ว ?”
ผมหัวเราะ “แฮะๆ” “ใช่อาจารย์ ! ตอนนี้ที่ผมกําลังฝึกอยู่ คือวิชาเฟินเทียนกง เพียงแต่วิธีฝึกของวิชานี้ค่อนข้างแปลก แผ่นแรกมี 38 จุด ตอนนี้ผมเพิ่งผ่านไปแค่สี่จุดเอง”
พอพูดถึงประโยคสุดท้าย น้ําเสียงผมก็ฟังดูเศร้าอยู่หน่อยๆ
ผลลัพธ์พออาจารย์ได้ยินทั้งหมดแล้ว เขาก็อดสูดหายใจเข้าลึกๆไม่ได้ “พระเจ้าช่วย ! เสี่ยวผ่าน แก แกอย่ามาหลอกอาจารย์ นี่ นี่มันเพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเอง แก แกกลับรู้วิธีเปิดมันแล้วงั้นเหรอ ?”
อาจารย์ทําหน้าไม่อยากเชื่อ สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงของตกทอดจากอาจารย์เขา ที่ผ่านมากว่า 40 ปีแล้ว
แต่อาจารย์ยังใช้เวลากว่า 40 ปี ก็ยังไขความลับในนั้นไม่ได้
แต่ผมละ ? เพิ่งรับไปไม่กี่วัน
ทั้งหมดก็ราวๆประมาณหนึ่งอาทิตย์ได้ ผมไม่เพียงสามารถไขความลับในนั้นได้ แต่ยังเริ่มฝึกแล้วด้วย
ความแตกต่างแบบนี้ จะทําให้อาจารย์ใจเย็นหรือไม่ตกใจได้ยังไง
“ฮ่าๆๆ อาจารย์ ที่จริงมันก็ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนเจอวิธีหรอก เมื่อคืนผมไปป่ากุยหม่ามา ผมเอาเจ้านี้ออกมาให้ยายโม่ดู……” ผมพูดเบาๆ
พออาจารย์ได้ยินคําว่า “ยายโม่” เขาก็ขมวดคิ้วทันที “พี่ พี่สาวคนนั้นนะเหรอ”
“อ๋อ ! ใช่ เธอนั่นแหละ สุดท้ายเธอเพิ่งมองมัน ก็เห็นความพิเศษของเจ้าเกล็ดสีม่วงทองอันนี้ทันที……”
ต่อจากนั้น ผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้อาจารย์ฟังทั้งหมด
หลังฟังจบ อาจารย์ก็ดูตกใจมาก
เขาเองก็คิดไม่ถึงว่า เจ้าของที่เขาเห็นเป็นของล้ําค่ามาโดยตลอด จะต้องใช้การดํารงอยู่ของสองสิ่งที่ไม่เหมือนกันมาประสานเข้าด้วยกัน ถึงจะไขความลับในนั้นได้
แต่ความพิเศษของเจ้าเกล็ดสีม่วงทองอันนี้ ไม่เคยออกมาแสดงต่อหน้าอาจารย์หรือคนรุ่นก่อนหน้านี้มาก่อน เลยไม่ต้องพูดถึงเรื่องร่วมมือกับสิ่งมีชีวิตธาตุหยินเลย
ดังนั้น ก่อนหน้านี้ เลยไม่มีใครค้นพบความลับนี้ นอกจากศิษย์พี่คนนั้นของผม
“เอ้ย ! สงสัยมันจะเป็นโชคชะตา เสี่ยวฝาน แกฉลาดมีพรสวรรค์ แถมยังมีโชคชะตาที่ไม่ธรรมดา ถึงเจ้าศิษย์พี่ของเจ้าคนนั้น จะห่างไกลจากเจ้ามาก ตอนนั้นนะถึงเขาจะเริ่มฝึกวิชานี้แล้ว แต่ก็ไม่เคยมาเล่าให้อาจารย์ฟัง ยิ่งทําตัวห่างเหินกับอาจารย์มากกว่าเดิม จนกระทั่งวันที่ใจเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ทุกอย่างก็สายไปแล้ว” อาจารย์พูดด้วยน้ําเสียงท้อแท้
แต่ผมกลับลงมาจากเตียง หยิบกระดาษที่จดคําอธิบายและภาพการเดินลมปราณเอาไว้ มายื่นให้อาจารย์ อาจารย์ นี่เป็นสิ่งที่ผมจดเอาไว้ เราศิษย์อาจารย์มาฝึกด้วยกันเถอะ ! ถึงตอนนี้จะมีเนื้อหาแค่หนึ่งในสาม
แต่การเดินลมปราณนี้ยากมาก ไม่มีทางฝึกภาพนี้สําเร็จได้ในเวลาสั้นๆแน่”
อาจารย์มือสัน มองภาพเดินลมปราณที่อยู่บนกระดาษ เขาซาบซึ้งมาก
เขาหายใจแรงๆ “นี่ นี่ก็คือ นี่ก็คือวิชาเฟินเทียนกง ภาพการเคลื่อนลมปราณของวิชาเฟินเทียนกงเหรอ ?”
ขณะพูด อาจารย์ก็เอามือลูบภาพวาดและตัวอักษรพวกนั้น
พอเห็นท่าทางตื่นเต้นและดีใจของอาจารย์ ผมก็ฉีกยิ้มออกมาทันที “อาจารย์ นี่เป็นแผ่นแรก ผมจําได้หมดแล้ว อาจารย์เอาไปฝึกเถอะ”
อาจารย์มองภาพการเดินลมปราณในกระดาษแผ่นแรก เขาจับมันจนแทบไม่อยากวาง จากนั้นก็มองผมแล้วถอนหายใจออกมา “ แม้แต่พรสวรรค์แบบแก ฝึกมาทั้งคืนก็ผ่านไปได้แค่สองจุด คนแก่อย่างอาจารย์ ใช้ทั้งชีวิตก็คงฝึกไม่สําเร็จ”
คราวนี้อาจารย์ไม่ได้พูดโม้กับผมอีก
อาจารย์มีพรสวรรค์เหมือนคนปกติ เขาฝึกมานานขนาดนี้ ก็ยังเพิ่งถึงเต้าซื้อขั้นกลางอยู่เลย
มันแทบจะเป็นเวลา 50 ปีสําหรับอาจารย์ แต่พอมาเทียบกับผม ผมกลับใช้เวลาแค่หนึ่งปี ก็มาถึงเต้าฉือขั้นสุดแล้ว และยังเริ่มแตะเขตขั้นเต้าชื่อแล้ว
พรสวรรค์ของผมกับอาจารย์ เป็นอะไรที่เรียกว่าอยู่กันคนละระดับ
ดังนั้นอาจารย์ถึงได้พูดแบบนั้นออกมา เขาเองก็เข้าใจพรสวรรค์ของตัวเองดี
แต่ผมกลับไม่คิดอย่างงั้น “อาจารย์ รับไปก่อน มันอาจสําเร็จก็ได้ !”