ตอนที่ 440 รถหรูและลูกเศรษฐี
ที่จริง ช่วงหลายวันมานี้ ก็ถือว่าเงียบสงบพอสมควร
ตั้งแต่กลับมาจากเขาเขี้ยวหมาป่าองค์กรตาผีก็เงียบไปเยอะ
ออกจากบ้านครั้งนี้ ผมเองก็ไม่กลัวว่าสมุนขององค์กรตาผีจะมาแก้แค้น
ผมขับรถตู้ของตัวเอง ฟังเพลงไปเดินทางสบายๆไปตลอดทาง
พอมาถึงตัวเมือง ผมก็เห็นเวลากําลังดี เพิ่งสิบโมงกว่าๆ
เลยคิดว่าอีกเดี๋ยวจะไปรอเสี่ยวม่านที่บริษัทหลังจากนั้นค่อยออกไปกินข้าวพร้อมกัน
ถ้าตอนบ่ายเธอว่าง ผมก็จะพาเธอไปดูหนังต่อ ทําตามสัญญาที่เธอช่วยดูแลพวกเราในตอนนั้น
ถ้าเธอไม่ว่างงั้นผมก็จะรอจนถึงตอนเย็น
ไม่ว่ายังไงผมก็มีเวลาเยอะเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
บริษัทของเสี่ยวม่าน ผมแค่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน แต่ยังไม่เคยไปสักครั้ง
รู้แค่ว่าบริษัทที่เธอทํางานอยู่ในตอนนี้ คือบริษัทลูกของพวกเธอชื่อว่าฮงหยูนพัฒนาค้าขาย ด้านอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ
ผมเปิดจีพีเอส ขับตรงไปหาจุดหมายทันที
บริษัทของเธอตั้งอยู่บนถนนเศรษฐกิจของเมืองเรา ทางเข้ากว้างมาก ส่วนใหญ่เป็นอาคารสํานักงานและบริษัทต่างๆ
ทํางานที่นี่ได้ ล้วนเป็นบุคลากรที่มีความสามารถ หรือระดับผู้จัดการอะไรประเภทนั้น
หลังมาถึงที่หมาย ผมกลับต้องตะลึง
บริษัทฮงหยูนพัฒนาที่ว่า เป็นตึกสูงระฟ้า
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง
เพิ่งลงจากรถ ผมก็ตะลึงทันที “แม่เจ้า แบบนี้ก็เรียกบริษัทลูกเหรอ บริษัทลูกยังใหญ่ขนาดนี้ แล้วบริษัทแม่จะขนาดไหนนะ”
ผมบ่นพึมพําคนเดียว ไม่เคยคิดฝัน ว่าธุรกิจบ้านเสี่ยวม่านจะใหญ่โตถึงขนาดนี้
มันเป็นอะไรที่จินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ บริษัทแม่ของบ้านเสียวม่านจะใหญ่ขนาดไหนนะ
เป็นบริษัทอะไรกันแน่
ในเรื่องนี้ ผมเองก็ไม่เคยถามมาก่อน รู้แค่ว่าบ้านของเธอทําธุรกิจใหญ่มาก และรวยมาก
มีลูกน้องจํานวนมาก เวลาเจอหน้าก็เรียกเธอว่าคุณหนูใหญ่ราวกับเป็นคนที่สูงส่งมาก
ผมยืนอยู่ข้างล่างตึก มองตึกสูงระฟ้าด้วยหน้าช็อกในสมองเต็มไปด้วยความคิดพวกนั้น
แต่ในตอนนั้นเอง จ่ๆข้างๆก็มีเสียงเหยียดของใครบางคนดังขึ้น “ไอ้หน้าจืด !”
พอได้ยินคําพูดนี้ ผมก็หันไปมองทันที
ทันใดนั้นผมก็พบว่าหลังรถตัวเองมีรถเฟอร์รารี่สีแดงมาจอดต่อตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
และข้างตัวรถเฟอร์รารี่ก็มีชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งยืนอยู่
เด็กหนุ่มคนนั้นใส่แว่นกันแดดท่าทางดูหล่อมาก
ในมือถือกุญแจรถเฟอร์รารี่ตอนนี้กําลังจ้องผมแบบไม่สบอารมณ์
ผมเหลือบมองเขาแวบหนึ่งจากนั้นก็ไม่สนใจอีก
รู้สึกว่าก็แค่ลูกเศรษฐีเจ้าสําราญคําหนึ่ง ในสายของพวกเขา ขอแค่ไม่มีเงินเท่าพวกเขา ก็จะโดนมองว่าเป็นคนธรรมดาไม่เอาไหนเห็นแล้วขัดหูขัดตาไปซะหมด
ผมเองก็ยืนพิงรถตู้ของตัวเอง เล่นพวงกุญแจรถ SGMW ในมือตัวเองต่อไป
เจ้าหมอนั้นเห็นผมทําท่าทางแบบนั้น เลยยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย “ไอ้หน้าจืดมารอคนเหรอ
ผมได้ยินเจ้าหมอนั้นพูดกับผม ผมเลยกวาดตามองเขา จากนั้นพูดด้วยน้ําเสียงไม่ใยดี “คือรอคน”
หลังเจ้าหมอนั้นได้ยินผมตอบกลับ มันก็เคาะรองเท้าหนังสีขาวของตัวเอง จากนั้นก็หยิบบุหรี่ออกมาสูบ “ฉันเองก็กําลังรอคนอยู่ แต่ที่ฉันรอคือว่าที่แฟนสาวแล้วนายละมารอใคร ?”
“เพื่อนธรรมดาคนหนึ่ง” ผมพูดต่อ
เจ้าหมอนั้นจุดบุหรี่ พันควันออกมาดื้อๆ “ฉันเดาว่าคงเป็นผู้หญิงละซิ ! นายน่าจะยังตามจีบเธออยู่ละซิ……”
เจ้าหมอนี่คิดเองเออเองทั้งนั้น คิดว่าตัวเองฉลาดไปซะหมดผมเองก็ไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่คิดว่าเจ้าหมอนี่ก็เหมือนคนปัญญาอ่อน
ส่วนเจ้าหมอนั้น เห็นได้ชัดว่ากาลังมั่นใจอยากหาความรู้สึกสําเร็จจากตัวคนอื่น
ผมยิ้มอ่อน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เจ้าหมอนั้นเห็นผมไม่พูดเลยเริ่มพูดแนะนํา “แต่อย่าว่าพี่ด่านายเลยนะ ผู้ชายธรรมดาหน้าตาบ้านๆแบบนาย ขับรถขยะแบบนี้มาพี่ว่าหมดหวังแล้วละ”
“ผู้หญิงสมัยนี้เรื่องเยอะไม่มีรถไม่มีบ้าน ใครเขาจะไปคบกับนาย นายดูฉัน รถเฟอร์รารี่ 458 ราคาตามท้องตลาด 5 ล้านได้ ! ขอแค่ขับรถแบบฉันถึงจะหาแฟนได้”
“ที่นายหาคือผู้หญิงหน้าเงินละซิ” ผมแนะนําสั้นๆ
ผลลัพธ์เจ้าหมอนี้กลับไม่เห็นด้วย “ผู้หญิงสมัยนี้ใครบ้างไม่ชอบเงิน พอดีเลย ว่าที่แฟนของฉันคนนั้นก็ทํางานที่ตึกนี้ ถึงพวกเราจะแค่มีวาสนาได้เจอหน้ากัน แต่รอให้เธอออกมาแล้ว เห็นรถเฟอร์รารี่ 458 ของฉัน เธอจะไม่รีบมาขึ้นเหรอฮะ ? ถึงตอนนั้นก็พาไปดื่มสักสองสามแก้ว ตกกลางคืนจะไม่ใช่ฉันเหรอที่ได้เป็นใหญ่ ?”
เจ้าหมอนี้ท่าทางเป็นพวกแสแสร้ง กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกเจ้าเล่ห์ด้วย
แต่จะว่าไปแล้วเจ้าหมอนี้ก็พูดถูกนะ
ในสมัยนี้ ไม่มีรถไม่มีบ้านการหาแฟนสักคนก็เป็นเรื่องยากจริงๆนั่นแหละ แน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นแบบนี้ทั้งหมด
และดูจากเงื่อนไขของเจ้าหมอนขอแค่เปิดประตูรถคงมีสาวๆหน้าเงินขึ้นรถเยอะมากแน่ๆ
แต่ในความรู้สึกของผม ผมไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้สุดๆ ไม่สบอารมณ์ที่จะคบหากับคนประเภทนี้
ดังนั้นผมเลยไม่สนใจเขาหรือแม้แต่ขี้เกียจจะพูดกับเจ้าหมอนี่ต่อ
อาจเป็นเพราะรออยู่ที่นี่จนเบื่อแล้วเจ้าหมอนี่เห็นผมเองก็รอคนอยู่ที่นี่ด้วย เลยเริ่มถามผมอีกรอบ
“น้องหน้าจืด ในเมื่อพวกเรามีวาสนาได้เจอกันแล้ว งั้นพวกเรามาแลกวีแชทกันไหม ถ้าอีกเดี๋ยวพี่ชายทําสําเร็จ พี่จะให้นายยืม 458 ไปขับสักสองวัน ถึงตอนนั้นจะได้โอบสาวๆขึ้นรถ นายเองก็จะได้ลองลิ้มรสดูบ้างว่าเป็นยังไง”
ไม่พูดไม่ได้ เจ้าหมอนี่น่ารังเกียจจริงๆ
ผมโดนเจ้าหมอนี่พูดพร่ํามานานสองนาน เลยรู้สึกรําคาญเช่นกัน
ผมดึงหน้าลง แล้วพูดกับเจ้าหมอนตรงๆ “ไสหัวไปไกลๆ ถ้ายังไม่หุบปากอีก ฉันจะอัดแกแน่
ผมนี่ตัวชา ขนาดมีแค่รถเฟอร์รารี่ยังพูดพร่ําอยู่ที่นี่นานขนาดนี้ แล้วถ้ามีโรลส์รอยซ์ขึ้นมา มันจะไม่ตัวลอยขึ้นฟ้าไปเลยหรือไง
ดูจากท่าทางของมัน เหมือนคนขับรถตู้อย่างพวกเราจะหาแฟนไม่ได้แล้วอย่างงั้น
ถ้าเป็นไปได้ ผมละอยากปล่อยเมียตัวเองออกมาทําให้เจ้าหมอนี่ตกใจตายไปเลย
ผมคิดในใจแบบนั้น แต่เจ้าลูกเศรษฐีคนนั้นกลับอึ้งคิดไม่ถึงว่าผมจะกล้าขู่เขาแบบนั้น
ปกติหยิ่งยโสจนเคยตัว ตอนนี้พอได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที “ไอ้หน้าจืดเมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ ?”
ขณะพูด เจ้าหมอนั้นก็ยกมือชี้หน้าผม
พอเห็นเจ้าหมอนี่กล้าชี้หน้าผม ถ้าไม่ได้เป็นเพราะตรงนี้คนเยอะ ผมคงได้หักนิ้วของเจ้าหมอนี่ไปแล้ว
ผมกดไฟในใจเอาไว้ “บอกให้แกหุบปาก ไสหัวไปไกลๆได้เท่าไหร่ยิ่งดี พูดพล่ามนานสอง นาน อย่างกับคนโง่”
เจ้าหมอนี่ได้ยินผมด่าเขาอีกรอบเขาเลยหัวร้อนขึ้นมา “แม่งเอ้ย ไอ้หน้าจืด ดูเหมือนถ้าฉันไม่ทําให้แกรู้ฤทธิของฉันสักหน่อย แกคงไม่รู้ว่าตายเขียนยังไงซินะ !”
พอพูดจบ เจ้าหมอนั้นก็ถอดแว่นกันแดดออกทําท่าทางอยากจะมีเรื่องกับผม
แต่หลังจากเจ้าหมอนี่ถอดแว่นกันแดดออกผมกลับพบว่าเจ้าหมอนตาตื่มาก
ถึงว่าทําไมใส่แว่นกันแดด ที่แท้ก็เอาไว้ซ่อนความน่าเกลียดนี่เอง
เมื่อเห็นเจ้าหมอนี่คิดจะมีเรื่องผมก็ไม่พูดพร่ําทําเพลง หันไปมองหน้าเขาทันที จากนั้นก็รอให้เจ้าหมอนต่อยเข้ามาก่อน
แต่ไม่รอให้เจ้าหมอนี่ได้เข้ามาทันใดนั้นเสียงหวานๆของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังมาถึงหูผม
“เอ๊ะ นายมาได้ยังไง !”
พอได้ยินเสียงนี้ ผมก็หันไปมองทันที
ตรงประตูที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมีสาวสวยในชุดทํางานกําลังยืนอยู่
ตัวสูง หน้าตาสะสวยไม่ใช่ใครอื่น เธอก็คือเสี่ยวม่าน
พอเห็นเสี่ยวม่าน ผมก็คลี่ยิ้มเล็กน้อยกำลังจะอ้าปากพูด
ผลลัพธ์เจ้าลูกเศรษฐีที่กาลังจะมีเรื่องกับผม กลับดูตื่นเต้นขึ้นมา
เจ้านั้นโบกมือทักทายเสี่ยวม่าน “เฮ้เสี่ยวม่าน ฉันมารับเธอไปกินข้าวโดยเฉพาะเลย !”
หลังจากพูดจบ เจ้าหมอนก็รีบใส่แววกันแดด เอาช่อดอกกุหลาบออกมาจากรถ แล้วเดินตรงไปทางเสี่ยวม่านทันที
ผมตกใจ ว่าที่แฟนสาวที่เจ้าหมอนี่พูดถึง คือเสี่ยวม่านงั้นเหรอ ?
ผมทําหน้าหนักใจนิสัยแบบนี้ เสี่ยวม่านชอบเขาลงเหรอ ? ถ้าเป็นผมตีให้ตายผมก็ไม่ยอมชอบ
อย่าพูดว่าขับรถเฟอร์รารี่ 458 เลย ด้วยนิสัยของเจ้าลูกเศรษฐีคนนี้ ถึงจะขับฮิวอายร่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาหรอก
ไม่รอให้ผมได้ตอบสนองใดๆ เจ้าหมอนั้นยังทําหน้าได้ใจ หันมาพูดกับผมว่า “ ไอ้หน้าจืด เห็นไหมฮะ ?
นี่เรียกว่าเสน่ห์ วันนี้ถือว่าแกโชคดี อย่าให้ฉันเจอหน้าแกอีกละ ! ”
ขณพูดเจ้าหมอนั้นก็เดินไปหาเสียวม่านแล้ว
ส่วนเสี่ยวม่านเองก็ดูดีใจมาก รีบวิ่งมาทางพวกเราทันที……