ตอนที่ 443 เสียงฉากรัก
โต๊ะเล็กมาก วางได้แค่ไวน์สองแก้วและผลไม้อีกหนึ่งจานเท่านั้น
ผมกับเสี่ยวม่านนั่งอยู่บนเก้าอี้ยกสูงทั้งคู่ การจะคุยกันในที่นี่ เราต้องตะโกนใส่กัน
เพราะบรรยายกาศของที่นี่คึกคักมาก ผ่านไปไม่นาน พวกเราก็ลืมเรื่องหนังไปจนเกือบหมดแล้ว
แต่ทันใดนั้นเอง ผมกลับรู้สึกปวดท้องขึ้นมา เลยตะโกนบอกเสี่ยวม่านว่า “ เสี่ยวม่าน ฉันปวดท้อง
จะไปเข้าห้องน้ําหน่อยนะ
เสียงในนี้ดังมาก เสี่ยวม่านไม่ได้ยิน ผมเลยต้องพูดกับเธออีกรอบ
คราวนี้เสี่ยวม่านเข้าใจแล้ว เธอเลยพยักหน้าให้ผม “อ่อ ! ห้องน้ําอยู่ทางนั้น !”
หลังจากพูดจบ เสี่ยวม่านยังชี้ไปทางด้านหนึ่ง
พอเห็นแบบนั้น ผมก็พยักหน้าให้เสี่ยวม่าน จากนั้นก็เบียดตัวเข้าไปในฝูงชน เพื่อไปยังห้องน้ํา
ห้องน้ําอยู่ข้างหลังเวที ที่นี่เสียงเบากว่าข้างนอกมาก
เพิ่งเข้ามาตรงนี้ ผมก็เห็นตรงหน้ามีวัยรุ่นทําผมสไตล์ร็อคอยู่สองสามคน
ชายหญิงสองคู่ นอกจากสองคนนี้จะทําผมหลากสีแล้ว ยังใส่ห่วงที่จมูกของตัวเอง ผู้หญิง แต่งตาแบบสโมคกี้ ทาปากตัวเองให้เป็นสีม่วง
ไม่ใช่แค่นั้น ในเวลานี้ผู้ชายทั้งสองคนยังกดผู้หญิงสองคนนั้นไว้กับผนัง และเริ่มบทรักอย่างเร้าร้อน
พอเห็นผมเข้ามา ทั้งสี่คนก็หยุดทํา ผู้ชายสองคนนั้นเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ หันมาจ้องผม อารมณ์ประมาณว่าผมไปทําลายบรรยากาศดีๆของพวกเขา
ผมเองก็ไม่ได้สนใจ ผมรีบเบียดตัวเข้าไปด้านข้าง ไม่อยากรบกวนบทรักอันเร้าร้อนของพวกเขา
เมื่อมาถึงห้องนี้ ผมก็รู้สึกสบายไปทั้งตัว แบบฟินสุดๆไปเลย
แต่ผมเพิ่งนั่งได้ไม่นาน ห้องขนาบข้างของผมก็มีคนเข้ามา
เดิมที่มันก็ไม่มีอะไร แต่ผ่านไปไม่นาน ผมก็ยินเสียงลมหายใจของผู้หญิง และยังมีเสียงแปลกๆตามมาด้วย
ต้องรู้ว่าที่นี่คือห้องน้ําชาย แล้วจะมีเสียงหอบหายใจของผู้หญิงได้ยังไง ?
ผมเพิ่งสงสัย ผมก็ได้เสียง “ปับๆ” ดังขึ้น และยังมีเสียง “อ่าอือ” ตามมา
ทันใดนั้น ผมก็เข้าใจทันที
นี่คือเสียงฉากรักอันเร้าร้อนของห้องน้ําห้องข้างๆ นี่ยังไม่นับว่าเป็นอะไรมาก สิ่งที่สําคัญก็คือ
ผมอยู่ตรงกลางของทั้งสองห้องนั้น
ห้องทางซ้ายเพิ่งมีเสียงดังขึ้น ห้องทางขวาก็มีเสียง “ปับๆๆ” ดังตามมาติดๆ
และฉากรักของทั้งสองคู่นี้ก็ไม่รู้ว่ามาเกิดขึ้นพร้อมกันได้ยังไง ทําเอาเสียงดังลั่นห้องเลยทีเดียว
แม่เจ้า พวกนี้ต้องเป็นคู่รักหน้าร็อคที่ทางเดินเมื่อกี้แน่ๆ
ผู้หญิงทั้งสองห้องก็ดูจะไม่สนอะไรเลยสักนิด พวกเธอร้อง “อืออออ่าอ่า” ดังเป็นพิเศษ แล้วสภาพแบบนี้จะทําให้คนอื่นนั่งอีต่อได้ยังไง
ผมนั่งบนชักโครก กลอกตาครั้งหนึ่ง แล้วคิดว่าจะออกไป
ผลลัพธ์ในวินาทีที่ผมลุกขึ้นและกําลังจะเดินออกไปข้างนอก ทันใดนั้นผมกลับสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แปลกไป
ต่อจากนั้น สายลมที่เยือกเย็นยิ่งกว่าอะไรดีก็พัดเข้ามาจากทุกสารทิศ
เมื่อความรู้สึกนี้ปรากฏขึ้น ผมก็ตัวสั่นตามสัญชาตญาณ
ดูเหมือนอุณหภูมิรอบๆ จะลดลงประมาณ 7-8 องศา
ไม่เพียงแค่นั้น ในระหว่างนั้น ภายในห้องน้ํา ยังมีลมอันเยือกเย็นอีกระลอกหนึ่งปรากฏขึ้น
ผมเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้าย พอเจอความรู้สึกแบบนี้และสัมผัสนี้เพิ่งเกิดขึ้น ในใจผมก็มีเสียงดัง “ถูก” ขึ้นมาทันที ต่อจากนั้นก็เผยท่าทางเคร่งขรึมออกมาเล็กน้อย
นี่คือ นี่คือพลังหยิน และเป็นพลังหยินที่ทรงพลังมาก
ผมค่อยๆขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยดี
พลังหยินที่ทรงพลังแบบนี้ ปรากฎขึ้นในสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่นขนาดนี้ มันจะต้องไม่ใช่เรื่องดีอะไรแน่
ผีเร่ร่อนทั่วไป มีพลังหยินที่ทรงพลังขนาดนี้แน่นอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ากล้าปรากฏตัวในสถานที่ที่มีคนเยอะแบบนี้เลย
เพราะคนเยอะ พลังหยางก็ยิ่งเข้มข้น
พลังหยางเข้มข้นขนาดนี้ สามารถทําให้ผีเร่ร่อนพวกนั้นรู้สึกเหมือนอยู่ในกองไฟ ทําให้พวกนั้นทรมานมาก
แต่ทําไม ที่นี่ถึงมีพลังหยินปรากฏขึ้นได้ และยังทรงพลังขนาดนี้ด้วย
สัญชาตญาณคนปราบสิ่งชั่วร้าย บอกผมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไป
ภายในบาร์แห่งนี้ อาจซ่อนวิญญาณร้ายที่ร้ายกาจมากเอาไว้ หรือแม้แต่มันอาจทนพลังหยางที่เข้มข้นถึงขนาดนี้ได้ และคอยทําเรื่องชั่วช้าอยู่แถวนี้
พอคิดถึงตรงนี้ ผมก็ตัดสินใจทันที
ใช่ อาจเป็นแบบนั้น
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นก็เก็บวิญญาณร้ายแบบนี้ไว้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นต้องมีคนตายอีกแน่ ถึงจะไม่ใช่วิญญาณร้าย ผมก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ในฐานะคนปราบสิ่งชั่วร้าย ผมปล่อยเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้
ผมไม่ลังเลเลยสักนิด หยิบขวดน้ําตาวัวที่พกติดตัวออกมา แล้วป้ายไปที่เปลือกตาอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกเย็นๆปรากฏขึ้น หลังลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ตาสวรรค์ก็เปิดขึ้นแล้ว
ตาสวรรค์เพิ่งเริ่มเปิดออก ผมก็เห็นพลังหยินที่กระจายอยู่ในห้องน้ํา
มันเข้มข้นมาก ต่างกลายเป็นหมอกขาว
พลังหยินที่เข้มขันขนาดนี้ จะเป็นผีอะไรกันแน่ ขณะที่ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ผมก็เปิดประตูห้องน้ําออก อยากจะหาที่มาของพลังหยินพวกนั้น
แต่ทันใดนั้นเอง เสียงแปลกๆของใครบางคน ก็ดังขึ้นมาจากข้างนอกห้องน้ํา “เต้าเทียนหยู่ ฉู ตงอี ลู่เจียฮุย โฉวเจียซุ่น……ถึงเวลาแล้ว……”
จู่ๆเสียงแปลกๆนั่นก็ดังขึ้น และเพิ่งเริ่มดังขึ้น เสียง “ปับๆๆ” “อือๆๆ” ในห้องน้ําข้างๆ ก็เงียบลงทันที
หรือแม้แต่มีเสียง “บึกๆ” ของการล่มดังขึ้น ไม่ใช่แค่นั้น ในขณะที่เสียงนี้ดังขึ้น
ผมก็สัมผัสได้ว่ามีพลังวิญญาณเอ่อล้นออกมา ต่อจากนั้นวิญญาณสองดวง ก็เดินออกมาจากในห้องน้ํา
วิญญาณสองดวงนี้เพิ่งปรากฏขึ้น ผมก็จําพวกเขาได้ทันที
พวกเขาก็คือคู่รักที่บรรเลงฉากรักสุดเร้าร้อน ไม่ใช่แค่นั้น วิญญาณคู่รักหน้าร็อคสองตนนี้เพิ่งปรากฏตัว ด้านหลังของพวกเขาก็มีวิญญาณอีกสองดวงตามออกมาติดๆ
ร่างกายของพวกเขาทะลุประตูห้องน้ําออกมาดื้อๆ สีหน้าหมองคล่า ค่อยๆเดินออกไปทีละก้าวๆ
ภายใตดวงตาสวรรค์ ผมเห็นพวกเขาเต็มสองตา
ตอนนี้ ผมรู้สึกเย็นหลังขึ้นมาทันที
นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน คู่รักสองคู่นี้ไม่ได้กําลังบรรเลงฉากรักกันอยู่ดีๆเหรอ ? เมื่อกี้ยังดูสนุกกันถึงขนาดนั้น แต่ทําไมตอนนี้ถึงลอยออกมาเป็นวิญญาณละ แถมสีหน้ายังหมองคล้ําอีก
ผมเริ่มกลัวหน่อยๆ สิ่งที่คิดได้ในตอนแรกสุดคือ มีคนจับวิญญาณออกจากร่าง และพลังหยินพวกนั้นก็ออกมาจากคนจับวิญญาณ
คู่รักสี่คนตรงหน้า กลายเป็นเป้าหมายของคนจับวิญญาณคนนั้น ดังนั้นวิญญาณเลยออกจากร่างในเวลานี้
พอคิดถึงตรงนี้ ผมก็อยากเข้าไปขวางแล้วปลุกพวกเขาให้ได้สติ ทําให้พวกเขากลับเข้าร่างของตัวเอง ไม่อย่างนั้นอาจตายได้
ดังนั้นผมเลยเอื้อมมือออกไปจับตัววัยรุ่นคนหนึ่ง แล้วตบเขาทีนึง “ไอ้หนู ไอ้หนูตื่นเร็ว !”
แต่ไม่ว่าผมจะตบเขายังไง เจ้าหนูนี่ก็ไม่ตอบสนองเลยสักนิด เขาเป็นเหมือนศพเดินได้ เหม่อลอยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ผมเห็นไม่มีประโยชน์ เลยหันไปตีวิญญาณตนอื่นบ้าง หวังว่าพวกเขาจะโดนตีแล้วได้สติขึ้นมา
แต่ผลลัพธ์กลับทําให้ผิดหวัง ผมล้มเหลวไม่เหลือชิ้นดี ทุกตนเหมือนกับวิญญาณตนแรก
ผมไม่มีเครื่องมือติดตัว จึงหยุดพวกเขาไม่ได้ ได้แต่มองพวกเขาค่อยๆเดินออกไปจากห้องน้ํา
ผมเริ่มกระวนกระวายแล้ว และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นต่อหน้าผม ผมเลยจะปล่อยผ่านไปทั้งๆแบบนี้ไม่ได้
ในเวลาเดียวกันผมก็อยากรู้ว่า ใครกันแน่ที่เป็นคนจับวิญญาณ ต้องจัดการคนจับวิญญาณเท่านั้น
ถึงจะช่วยชีวิตทั้งสี่คนนี้ได้
ผมดึงหน้าลง จากนั้นก็เดินตามพวกเขาไปทันที
เพิ่งออกมาจากห้องน้ํา ผมก็เห็นวิญญาณทั้งสี่ตนเดินไปที่ประตูหลัง
ผมรีบตามไปทันที แต่ร่างของวิญญาณทั้งสี เพิ่งสัมผัสกับประตู พวกเขาก็ทะลุผ่านไปทันที
ผมทําไม่ได้ เมื่อมาถึงหน้าประตูผมก็เอื้อมมือออกไปถึงประตู กําลังจะเดินตามเข้าไป
แต่เพิ่งเข้าไป พอเห็นภาพที่อยู่ด้านหลังประตูเท่านั้น ตัวผมก็เหมือนโดนไฟฟ้าช็อต ยืนนิ่งอยู่กับที่
แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ในสมองมีเสียงระเบิดดัง “ตูม” เหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ วินาทีนั้นผมก้าวต่อไปข้างหน้าได้ยากมาก
ไม่ใช่แค่นั้น ในวินาทีนั้นในใจของผมยังมีคลื่นพายเกิดขึ้น
“พรึบ” สีหน้าผมเปลี่ยนไปอย่างแรง ดวงตาเบิกกว้าง ขนลุกอย่างกับหนังไก่ รู้สึกหวาดกลัวไปทั้งตัว
แม้แต่หลัง ก็ยังมีเหงื่อเย็นๆไหลออกมา
มันเป็นความกลัวและความตกใจที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ไม่ว่ายังไงผมก็คิดไม่ถึง ว่าตัวเองจะต้องมาเจอกับเรื่องที่น่ากลัวถึงขนาดนี้
ฉากนี้น่าเหลือเชื่อเกินไป และฉากนี้ ก็ไม่มีคนเป็นคนไหนได้มาเห็น……