ตอนที่ 449 เซ่นไหว้
อาจารย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง บอกให้ผมอย่าเอาเรื่องที่ได้ตราอู่ฉางมาแล้วทําตัวได้ใจให้ผมรู้จักเก็บไว้บ้าง
ถึงจะฟังดูหัวโบราณไปบ้าง แต่อาจารย์ก็พูดถูก
เจ้าตราอ่ฉางนี่เป็นมนต์ที่ร้ายกาจมาก ถ้าเปิดใช้งาน ต้องปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ออกมาในเวลสั้นๆอย่างแน่นอน
พลังประเภทนี้ ต้องทรงพลังมากแน่ๆ
หากเก็บไว้ในตัว สามารถรักษาชีวิตได้สองครั้ง
ที่อาจารย์ให้ผมเก็บไว้ ก็เพื่อตัวผมเอง ไม่อย่างนั้นพอศัตรูมารู้เข้า ก็ต้องหาวิธีมาหักล้างแน่ๆ
ผมพยักหน้าให้อาจารย์ และอาจารย์ก็ดูใจเย็นลงมาก “ในเมื่อท่านอู่ฉางให้แกเซ่นไหวไปให้งั้นก็เผาไปเยอะๆหน่อย ท่านอฉางต้องการพันล้าน งั้นเราก็เผาไปให้พวกเขาสองพันล้าน”
“ ภูเขาเงินตําลึงกับเรือมหาสมบัติที่เขาต้องการ พวกเราก็เผาเพิ่มเป็นสองเท่า ส่วนเรื่องทาสสาว
ก็แค่คนกระดาษไม่ใช่เหรอ ในโกดังร้านเรามีอยู่ตั้งหลายสิบตัว ไม่ต้องห่วง พอเราสร้างสายสัมพันธ์ไว้ในวันนี้แล้ว วันข้างหน้ารอจนเราแก่แล้ว บางทีเราก็อาจได้รับการดูแลดีๆก็ได้นะ”
อาจารย์พูดด้วยสีหน้าซีเรียส แต่เพิ่งพูดถึงตรงนี้ จู่ๆผมก็คิดขึ้นมาได้ว่าท่านเฮ่ยอู่ฉางยังมีคําขออีกอย่าง
ก่อนหน้านี้ผมลืมพูดให้อาจารย์ฟัง
ผมเลยพูดกับอาจารย์ว่า “อาจารย์ เมื่อผมลืมบอกไปเรื่องหนึ่ง”
“หือ ยังมีเรื่องอะไรอีกละ ?” อาจารย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทําท่าทางสงสัย
“ตอนท่านเฮ่ยอู่ฉางพูดถึงทาสสาว เขาบอกว่าต้องมีสาวยุโรปสามตัวเป็นอย่างต่ำอาจารย์ว่าคนกระดาษของเรามีแต่แบบในประเทศถ้างั้นเราไม่ต้องทําสาวยุโรปให้เขาเหรอ ? อาจารย์อาจารย์ทําคนกระดาษแบบสาวยุโรปเป็นไหม ?” ผมดูเศร้านิดหน่อย
ผลลัพธ์อาจารย์กลับยิ้มอ่อน “โถ่ ! ฉันก็นึกว่าเรื่องอะไรอีกเดี๋ยวแกออกไปซื้อโปสเตอร์ดาราสาวต่างชาติหรือไม่ก็พวกนิตยสารกลับมา จากนั้นก็ตัดหน้าพวกเธอออกมาแล้วเอาไปติดบนหน้าคนกระดาษก็สิ้นเรื่องแล้ว”
คําพูดนี้เพิ่งดังขึ้น ผมก็ตกใจทันที
ให้ตายเถอะ ทําแบบนี้ก็ได้เหรอ
ข็งยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดจริงๆ คิดไม่ถึงว่าอาจารย์จะเข้าใจเรื่องคนกระดาษประเทศต่างๆขนาดนี้สมกับที่เป็นคนเก่าคนแก่จริงๆ
อาจารย์เห็นผมทําหน้าตกใจ แต่เขาก็หลี่ตามองเท่านั้น “ไปนั่งทางโน้นไปอย่ามากวนอาจารย์ทําก๋วยเตี๋ยว”
หลังจากพูดจบ อาจารย์ก็ไม่สนใจผมอีก
ส่วนผมก็ถอยไปข้างๆอย่างรู้ความ หลังกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ผมกับอาจารย์ก็เริ่มทํางาน
เงินกระดาษ ภูเขาเงินตําลึง เรือมหาสมบัติ คนกระดาษ ของพวกนี้มีจุดที่เหมือนกันหนึ่งอย่างคือไม่กล้าลดปริมาณ มีแต่ทําให้เพิ่มขึ้นเท่านั้น
เงินกับคนกระดาษและภูเขาเงินต่ลึงกับเรือมหาสมบัติต้องท่าขึ้นมาใหม่ ดังนั้นทั้งวันนี้เราเลยยุ่งกับเจ้านี่
เมื่อเวลามาถึงบ่ายวันถัดมา ของทุกอย่างก็พร้อมหมดแล้ว หลังจากนั้นพวกเราก็ขนพวกมันไปยังหลังเขา
อาจารย์ช่วยวางป้ายท่านอู่ฉาง และจุดธูปเทียนให้ผม จากนั้นก็บอกให้ผมเป็นคนเผาของพวกนี้ไปให้ท่านอ่ฉางเอง
ผมเองก็ไม่กล้าลีลา เผาเงินกระดาษก่อนเป็นอย่างแรก จากนั้นก็เผาภูเขาเงินตําลึงเรือมหาสมบัติแล้วสุดท้ายถึงเผาคนกระดาษ
แต่หน้าของคนกระดาษพวกนั้น มีรูปของสาวต่างชาติแปะอยู่ ผมเลยรู้สึกแปลกๆหน่อยๆ
แต่คิดไม่ถึงว่าฟานอู่จิ๋วคนนี้จะมีรสนิยมแบบนี้ ชอบสาวยุโรป
หลังจากทําเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว ผมก็ยังโค้งคํานับป้ายพวกท่านอู่ฉางด้วย หลังจากนั้นก็พูดกับป้ายว่า
“ท่านอู่ฉางทั้งสอง ผมเผาของทั้งหมดแล้ว โปรดรับด้วยนะครับ !”
เสียงเพิ่งเงียบลง ในหุบเขาที่เงียบสงบ ก็มีกระแสลมหมุน กวาดเข้ามาพัดขี้เถ้าพวกนั้นจนลอยเต็มฟ้า
ดูเหมือนพวกท่านอู่ฉางจะได้ยินค่าพูดของผมแล้ว เลยใช้วิธีนี้ตอบกลับ
ต่อจากนั้น ผมกับอาจารย์ก็กลับมาที่ร้าน
เราเองก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทํา เลยเปิดดูทีวี
ผลลัพธ์เพิ่งเปิดทีวี ผมก็เห็นรายการ “เรื่องสยองในเมือง” ประจําท้องถิ่นของพวกเรา
พอเห็นถึงตรงนี้ ผมก็หยุดการกระทําทุกอย่าง
หลังจากนั้นก็ได้ยินพิธีกรปากแหลมแก้มตอบเหมือนลิงพูดว่า “ รายการในวันนี้ขอเชิญทุกท่านรับชมห้องน้ำเหนือธรรมชาติเมื่อคืนก่อนจู่ๆร้านเหล้าแห่งหนึ่งในเมืองก็พบศพวัยรุ่นชายหญิงสีคนศพของพวกเขาไร้บาดแผล แต่กลับตายอย่างประหลาดพร้อมกันในห้องน้ำเป็นเพราะวิญญาณร้ายมาเอาชีวิต
หรือวิญญาณอาฆาตมาล้างแค้นกันแน่ เชิญดูรายละเอียดด้านล่างเลยครับ……”
ยังฟังไม่ถึงตรงนี้ ผมก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาทันที
สี่ศพในห้องน้ำ แถมยังเป็นเมื่อคืนก่อน
เขาไม่ได้กําลังพูดเรื่องคู่รักสี่คนที่โดนจับวิญญาณไปในร้านเหล้าเมื่อคืนก่อนเหรอ ?
ผมเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมาหน่อย เลยดูต่อ ระหว่างนั้นผมก็เห็นภาพถ่ายห้องน้ำที่น่าสยดสยองหลายรูป
บวกกับเสียงฟังชวนขนลุก ทําให้บรรยากาศดูเข้าทางยิ่งกว่าเดิม
ผ่านไปพักหนึ่ง ก็มีแต่การแนะนําแค่ตัวผู้ตายทั้งสี่
บอกว่าวัยรุ่นทั้งสี่ร่างกายแข็งแรง แต่จู่ๆก็เสียชีวิตกลางดึก สงสัยว่าอาจมีคนฆ่า ฆ่าตัวตาย
หรือข้อสันนิษฐานต่างๆมากมาย
สุดท้ายก็มีผู้ที่ถูกเรียกว่า “ผู้เชี่ยวชาญ” ออกมาพูด ผู้เชี่ยวชาญคนนี้ก็พูดเก่งใช้ได้
ได้ยินเสียงผู้เชี่ยวชาญคนนี้พูดว่า “อ๋อ เท่าที่ผมรู้ ห้องน้ำในบาร์แห่งนี้เป็นแบบปิดด้านในอาจมีก๊าซมีเทนมากเกินไปสําหรับเรื่องก๊าซมีเทนมากเกินไป ทางตํารวจบอกว่า ทั้งสี่คนกําลังทําเรื่องอย่างว่ากันในห้องน้ำทําให้พวกเขาอยากได้อากาศมากกว่าเดิมเลยรับก๊าซพิษเข้าไปเกินขนาด สุดท้ายจึงล้มสลบและหนาวตายอยู่บนพื้นใช่ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆหนาวตาย”
พอได้ยินค่าอธิบายแบบนี้ ผมก็อึ้งแล้วอึ้งอีก
ทําไมแกไม่พดว่าเจ้าพวกนั้นตายเพราะเหม็นขี้ตายเลยละฮะ ? ยังกล่าพูดว่าหนาวตายอีก
แต่ท้ายที่สุดยังมีคําอธิบายแบบเป็นทางการอีกอย่างหนึ่ง บอกว่าทั้งสี่คนเสพยาเกินขนาด
บวกกับดื่มแอลกอฮอล์เกินปริมาณ และเพราะยังใช้แรงอย่างหนักในห้องน้ำทําให้เลือดคั่งและตายในที่สุด……
เหตุผลนี้ฟังดูเข้าท่าเลยทีเดียว แต่คนที่รู้สาเหตุที่แท้จริง คงมีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น
ต่อจากนั้นเวลาก็ผ่านไปประมาณหนึ่งอาทิตย์กว่า ชีวิตเรายังสงบสุขเหมือนเดิมไม่เกิดเรื่องยุ่งอะไรขึ้น
และภาคการศึกษาใหม่ก็เริ่มขึ้นแล้ว หยางเฉวเองก็กลับมาจากเขาอู่ตั้งแล้ว และยังนัดผมและเหล่าเพิ่งไปกินข้าวในวันสุดสัปดาห์อีกด้วย
แต่บ่ายวันนี้ ผมกับอาจารย์ยังเฝ้าร้านกันตามปกติ
เวลาล่วงเลยมาถึงประมาณบ่ายสาม ผู้หญิงอายุสามสิบต้นๆคนหนึ่ง จู่ๆก็มาปรากฏตัวที่หน้าร้านของพวกเรา
ผมเห็นมีลูกค้าเข้าร้าน เลยเข้าไปต้อนรับทันที “สวัสดีครับ ไม่ทราบกําลังหาอะไรอยู่เหรอครับ
ผู้หญิงคนนั้นเหมือนคนธรรมดาทั่วไป สภาพดูเศร้าหน่อยๆ เหมือนมีเรื่องทุกข์ใจ
เธอมองผม จากนั้นก็พูดกับผมว่า “ฉัน ฉันอยากถามว่า ที่นี่คือร้านของนักพรตติงโย่วซานหรือเปล่าคะ ?”
“อ่อ ! นั่นเป็นอาจารย์ของผม ตรงนั้นครับ !” หลังจากพูดจบ ผมก็ชี้ไปที่อาจารย์ ตอนนี้เขากําลังถือกระบอกยาสูบและดูทีวีอยู่
พอผู้หญิงคนนั้นเห็นแบบนั้น ก็เดินผ่านผมไป รีบเข้าไปอยู่ตรงหน้าอาจารย์ผมทันที “ท่านนักพรตติ้ง
เพื่อนฉันแนะนําให้มาหาคุณ บอกว่าคุณเก่งมาก คุณต้องช่วยสามีฉันให้ได้นะคะไม่อย่างงั้นไม่อย่างงั้นฉันก็ไม่รู้จะทํายังไงแล้ว ”
เพิ่งพูดถึงตรงนี้ ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ท่าทางเสียใจมากออกมา
อาจารย์เห็นลูกค้ามาหาเขา และผู้หญิงคนนี้ยังร้องไห้ เขาเลยยืนขึ้น วางกระบอกสูบยาลงจากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงสงสัย“คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณอย่าเพิ่งใจร้อนมีอะไรค่อยๆพูดเสี่ยวฝานรินน้ำมาให้คุณผู้หญิงท่านนี้เร็วเข้า”
ผมเห็นผู้หญิงคนนี้ร้องไห้เศร้าน่าดู เลยคิดว่าเธอต้องไปเจอเรื่องอะไรมาแน่ๆ
ผมไม่รอช้า รีบรินน้ำแล้วยกเข้าไปทันที
ส่วนผู้หญิงคนนั้น ก็ไปนั่งที่โซฟา และสงบสติอารมณ์ลงมาได้บ้างแล้ว
เธอดื่มน้ำเข้าไปหนึ่งอีก จากนั้นก็พูดกับอาจารย์ผมอีกครั้ง “ท่านนักพรตติงเป็นแบบนี้ค่ะ ช่วงช่วงนี้สามีของฉันทําตัวแปลกๆเขาไม่หลับไม่นอนทุกคืน และยังชอบกินเนื้อดิบหรือแม้แต่มีฟันงอกออกมายาวผิดปกติด้วยค่ะ”
“ และ และตอนนี้เขาก็ ชอบดื่มเลือดสดๆด้วยค่ะเมื่อคืนพอเห็นมือลูกเป็นแผลมีเลือดไหลออกมาดวงตาของเขาก็เป็นประกายจับมือลูกขึ้นมาดูดเลือดและยังกัดมือลูกจนเป็นแผลน่ากลัวมากเลยค่ะฉันกลัว
กลัวว่าสามีจะโดนของไม่ดีเข้าสิง ดังนั้น ดังนั้นท่านนักพรตติงต้องช่วยเขา ต้องช่วยเขานะคะ……