ตอนที่ 457 หนี้
หลังจากชายคนนั้นโดนผมห้ามเอาไว้ ก็เห็นได้ชัดว่าเขาเดิมตามหลังด้วยท่าทีหวาดระแวง
ส่วนตัวผมกลับรีบเปิดโลงที่สอง
ในโลงที่สองก็ใส่คนเอาไว้
แต่ครั้งนี้เป็นหญิงสาวแถมยังหน้าตาสะสวยอีกด้วย
แต่ตอนนี้ ผมกลับไม่มีอารมณ์มามองความงดงามของเธอ ผมรีบแกะยันต์ที่ตัวเธอออกทันที
เธอเหมือนกับคนแรก หลังแกะยันต์ออกมาแล้ว ก็ปิดปากอีกฝ่าย ไม่อย่างนั้นเธออาจร้องออกมาได้
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นกลัวมาก เธอพยายามดิ้นสองสามครั้ง ขณะเดียวกันก็ร้อง “อย่าฆ่า ฉันอย่าฆ่าฉัน” ด้วยคําพูดแบบนี้ไม่หยุด
แต่หลังจากผมอธิบายและเตือนเสร็จแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ค่อยๆสงบลง
เรื่องก็เป็นแบบนี้ หลังช่วยคนที่สองเสร็จแล้ว
ผมก็ใช้วิธีแบบนี้ เปิดโลงและช่วยอีกแปดคนติดๆกัน
ทั้งแปดคนนี้ตัวสั่น ตอนนี้พวกเขาไม่รู้ฐานะของผม แม่ใบหน้าจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสงสัย
แต่เพราะความหวาดกลัวที่อยู่ในใจ พวกเขาเลยไม่มีใครกล้าพูดออกมา
พวกเขามองรอบๆอย่างต่อเนื่องมีสองสามคนที่ตัวสั่นอย่างไม่รู้ตัว
ส่วนผมก็ไม่สนใจพวกเขา เตรียมจะไปช่วยคนที่เก้าต่อ
แต่ทันใดนั้นเองจู่ๆอาจารย์ก็พุ่งเข้ามา แล้วพูดกับผมว่า “เสี่ยวฝาน รีบหนีเร็ว มีคนมา”
จู่ๆก็ได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้นผมเลยอดไม่ได้ที่จะเครียดจากนั้นก็หันไปมองอาจารย์
“แต่ แต่ยังมีคนอีกตั้งเยอะ”
อาจารย์กลับขมวดคิ้ว ทําหน้าซีเรียส “มัวสนใจพวกเขาไม่ได้แล้ว รีบหนีเร็ว ไม่อย่างงั้นถ้าโดนจับได้แล้วละก็อย่าหวังว่าพวกเราจะหนีรอดไปได้สักคน !”
น้ําเสียงของอาจารย์จริงจังเห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างกังวล
ส่วนอีกแปดคนที่เหลือก็เริ่มลนลาน “ทํายังไงดีทํายังไงดี”
“พวก พวกเรารีบหนีกันเถอะ !”
“ใช่ใช่ใช่ พวกเรารีบหนีกันเถอะ……”
คนพวกนี้เริ่มพูดไม่หยุดท่าทางดูหวาดกลัวมาก
หนึ่งในนั้นมีผู้หญิงคนนึง เธอดึงเสื้อผม ขอร้องให้ผมพาพวกเธอออกไป และยังบอกว่าบ้านเธอมีลูกชายอายุสามขวบ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ และยิ่งไม่อยากโดน “พวกค้ามนุษย์” จับตัวกลับไป
แม้จะไม่พอใจ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วผมเองก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้
กําลังมีจํากัด สิ่งที่ผมพอทําได้ก็มีแค่เท่านี้แล้ว
เหมือนกับที่อาจารย์พูดไว้ถ้าโดนจับได้
อย่าว่าแต่ช่วยคนเลย แม้แต่พวกเราเองก็ยากที่จะหนีออกไปจากที่นี่ได้
ผมกัดฟันพูดกับทุกคนว่า “ตามผมมา อย่าส่งเสียงไม่อย่างนั้นพวกเราได้ตายกันหมดแน่ !”
คนพวกนี้โดนสํานักชั่วแห่งนี้ใช้ทุกวิธีทาง จับมาที่นี่
ตอนนี้เพื่อเอาชีวิตรอดย่อมไม่กล้าส่งเสียง ต่างพยักหน้าให้ผมทันที
ส่วนผม ก็พาทั้งแปดคนออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
เพิ่งมาถึงตรงประตู อาจารย์ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “เร็วเข้า มีคนจํานวนมากกําลังเข้ามาไปทางนี้ระวังกันหน่อย อย่างส่งเสียงออกมา……”
ขณะพูด เขาก็ชี้ทางหนีให้คนพวกนี้ ส่วนผมก็เป็นคนเดินนํา
หลังคนพวกนี้เดินออกมาแล้วอาจารย์ก็ล็อกประตู แล้วรีบตามมาทันที
พวกเราเดินตามทางขามา
ใช้สิ่งของหรือพวกที่อยู่รอบๆมากําบังตัวเอง และรีบวิ่งไปยังหน้าต่างที่ปืนเข้ามาอย่างรวดเร็ว
พวกเราไม่กล้าทําอะไรเสียงดัง บวกกับทุกคนไม่อยากตายอยู่ที่นี่
ดังนั้น ทุกอย่างเลยผ่านไปอย่างราบรื่น
เมื่อมาถึงหน้าต่างแล้วผมก็กวาดสายตามองรอบๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีคนผมก็กระโดดออกไปคนแรก
ด้านนอกหน้าต่างคือความมืดมิด และยังไม่มีแสงไฟไม่มีใครสังเกตเห็นตรงนี้อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นรอบๆไม่มีคนผมก็ส่งสัญญาณให้แปดคนนั้นกระโดดตามออกมา
หน้าต่างไม่สูงมากสําหรับพวกวัยรุ่น มันไม่มีปัญหาอะไรใหญ่โต
ผ่านไปสักพักทุกคนก็กระโดดออกมาจนหมด
แต่ในขณะทกคนเพิ่งออกมาจากหน้าต่างจนครบ ด้านในโกดังก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจดัง
“ใครก็ได้ช่วยด้วย ! คนของเราโดนทําร้ายจนสลบไปแล้ว……”
เสียงเพิ่งเงียบลงในโกดังก็มีการเคลื่อนไหวทันที
ส่วนกลุ่มของพวกเรา กลับมีผมเป็นผู้นําวิ่งตรงไปที่กําแพงแล้ว
แต่เพิ่งมาถึงกําแพงเสียง “วู่ๆ” ของสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น และมันยังดังมาก
พวกปีศาจในบริษัทหมิงโลจิสติกส์โดนกระตุ้นให้ตื่นตัวกันทั้งหมด
เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทุกที่ และมีเสียงร้องตะโกนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง “เกิดอะไรขึ้น ?”
“ใครกดสัญญาณเตือนภัย ?”
“เกิดอะไรขึ้นฮะ ?”
เสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มของพวกเรากลับประหม่ามาก เวลาที่เหลือให้พวกเรามีไม่มากแล้ว
ในสายตาของคนพวกนี้ พวกเขาโดนพวกค้ามนุษย์จับมา พวกมันอยากจะชําแหละร่างของพวกเขา
แล้วเอาอวัยวะต่างๆไปขาย
ตอนนี้สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นแล้ว คนพวกนี้เลยตกใจจนเหมือนตายไปแล้วครึ่งตัว
ส่วนผมรีบพูดกับคนพวกนี้ทันที “อย่าตกใจ ปืนจากตรงนี้ออกไป จากนั้นก็วิ่งขึ้นไปทางเหนือก็จะถึงในเมืองที่จะมีทางหลวงอยู่”
เสียงเพิ่งเงียบลง เด็กหนุ่มคนหนึ่งกลับพูดกับผมและอาจารย์ว่า “ผู้มีพระคุณทั้งสองไม่ทราบ พวกคุณชื่ออะไร ? ถ้าวันนี้ผมหลวงตาฟาหนีจากเงื้อมมือพวกค้ามนุษย์ได้ผมต้องตอบแทนพวกคุณอย่างดีแน่นอน”
“ใช่ผู้มีพระคุณ อย่างน้อยก็หาทางติดต่อเอาไว้ ต่อไปพวกเราต้องตอบแทนพวกคุณอย่างแน่นอน” ชายหนุ่มอีกคนพูดขึ้น
แต่อาจารย์ผมกลับกังวลสุดๆ ผมโบกมือให้พวกเขาทันที “ตอบแทนหรือไม่ก็ไม่สําคัญ รีบหนีออกไปก่อนเถอะ ! ถ้าพวกนายยังไม่รีบหนีอีกจะหนีออกไปไม่ได้แล้วนะ”
พอผู้ชายสองสามคนได้ยินคําพูดนี้ ก็ไม่สนใจมากแล้ว
พวกเขาไม่ลังเลเลยสักนิดกระโดดจับขอบกําแพงแล้วปืนออกไปทันที
ชายหนุ่มสองคนที่บอกว่าจะตอบแทนพวกเรา ตอนนี้ก็ไม่มัวพูดหนีเอาชีวิตรอดสําคัญที่สุดพวกเขาเองก็กระโดดปืนกําแพง หลังจากนั้นก็กระโดดลงไปข้างนอกแล้ววิ่งหนีต่อทันที
แต่ในบรรดาคนพวกนี้ กลับมีผู้หญิงสองคนและเจ้าอ้วนอีกหนึ่งคน
พวกเขากําลังมองกําแพงสูงสองเมตรท่าทางเหมือนจะไม่มีแรงปืนขึ้นไป
ตอนนี้ผมเองก็ไม่สนเรื่องชายหญิงอะไรพันนั้น ผมจับเอวผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วยกตัวเธอขึ้นทันที
ผู้หญิงคนนั้นไม่คิดว่าผมจะทําแบบนั้นเธอเลย “กรี๊ด” ออกมาทันที และยังคิดว่าผมจะลวนลามเธอ
“อย่าร้อง ฉันจะอุ้มขึ้นกําแพงปืนไหล่ฉันออกไป !” ผมรีบพูด
พอผู้หญิงคนนั้นได้ยินค่าพูดของผม เธอถึงได้สงบสติอารมณ์ลง
จากนั้นก็ขานรับ “อือๆ” แล้วทําตามที่ผมพูด ค่อยๆปืนขึ้นบนตัวผม แล้วปีนขึ้นไปบนกําแพงทันที
อาจารย์อุ้มผู้หญิงคนหนึ่งเธอเองก็เริ่มปีนออกไปข้างนอกเช่นกัน
แต่ใครจะรู้ในวินาทีนั้น เพราะเสียงร้องของผู้หญิงคนนี้ ทําให้ปีศาจบริษัทหมิงโลจิสติกส์สองคนวิ่งมาถึงตรงนี้
ตอนเห็นพวกเรา สีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไปและตะโกนออกมาทันที “นั่นใคร ?”
หลังจากพูดจบปีศาจสองตนนั้นก็วิ่งเข้ามาหาพวกเราทันที
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมและอาจารย์ก็อดตกใจไม่ได้เราคิดไม่ถึงว่าจะโดนจับได้ในเวลาสําคัญแบบ
ไม่รอให้ผู้หญิงสองคนนั้นพร้อม เราก็ออกแรงดันตัวพวกเธอออกไปทันที
ในเวลาเดียวกันอาจารย์ก็ดึงดาบไม้ออกมา แล้วพูดกับผมว่า “เสี่ยวฝาน แกไปส่งพวกเขา ออกไป ฉันจะไปถ่วงพวกมันเอาไว้ !”
หลังจากพูดจบ อาจารย์ก็วิ่งไปทางปีศาจสองตนนั้น
พอปีศาจสองตนนั้นเห็นภาพนี้ นอกจากจะวิ่งมาทางพวกเราแล้วยังตะโกนออกมาเสียงดังลั่น “ใครก็ได้รีบมาที่นี่เร็วเข้า”
“มีผู้บุกรุก มีผู้บุกรุกอยู่ที่นี่”
เสียงเพิ่งเงียบลงอาจารย์ก็ยกดาบเข้าไปปะทะแล้ว
ส่วนเจ้าสองคนนั้นถือท่อนไม้พอเห็นอาจารย์พุ่งเข้ามาพร้อมดาบ เขาก็รีบรับการโจมตีทันที
ส่วนผม กลับออกแรงยกเจ้าอ้วนคนนั้น
เจ้าอ้วนคนนั้นหนัก 100 โลเป็นอย่างต่ำ อ้วนอย่างกับถังน้ํา ถึงจะเคลื่อนพลังแล้ว แต่ผมก็ยังรับน้ําหนักเขาไม่ไหว
ขณะยกเจ้าหมอนขึ้น เรื่องใช้พลังแบบสุดตัวคงไม่ต้องพูดถึง แต่ผมแทบยกเจ้าหมอนันแทบไม่ไหวด้วยซ้ํา
เจ้าหมอนี่ก็เงอะงะเคลื่อนไหวช้าอย่างกับอะไรดี
ตอนนี้พอเหยียบบนไหล่ผมได้แล้ว กว่าจะปีนขึ้นไปได้เจ้าหมอนั้นก็ใช้เวลาอยู่นานสองนาน
ผมพูดเร่ง “เจ้าอ้วน แม่งเอ้ย เร็วๆหน่อยซิวะ……”
“สูง สูงหน่อยฉัน ฉันปืนขึ้นไปไม่ได้……” เจ้าอ้วนรีบพูด
ทําอะไรไม่ได้ ผมได้แต่ออกแรงเพิ่ม ยืนตัวตรง
แต่น้ําหนัก 170-180 โลแบบนี้ กดอยู่บนตัวอย่าว่าแต่ยืนตรงเลย แม้จะหอบหายใจแล้ว ผมก็รู้สึกว่ามันกินแรงมาก
ทางอาจารย์ ตอนนี้เขาเริ่มสู้กับสาวกชั่วสองคนนั้นแล้ว
ถึงเจ้าสองคนนั้นจะไม่ร้ายกาจมาก แต่เพิ่งเริ่มสู้ ร่างกายของพวกมันก็เปลี่ยนไปทันที
สิ่งที่เห็นชัดที่สุดคือ ขนสัตว์ที่อยู่บนหน้า เขี้ยวที่งอกออกมาจากปาก และกรงเล็บที่แหลมคมในมือ
บนตัว ปล่อยไอแปลกๆออกมา อีกคนหนึ่งมีหางหนูที่คล้ายกับแม่คุณโจวออกมาด้วย สภาพดูผิดมนุษย์สุดๆ
เมื่อคนธรรมดาเห็นแล้วต้องตกใจอย่างแน่นอน
เหมือนปีศาจแต่ก็ไม่ใช่ปีศาจ เหมือนคนแต่ก็ไม่ใช่คน สาวกสํานักชั่วพวกนี้ ล้วนอยู่อย่างครึ่งคนครึ่งปีศาจทั้งนั้น
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสําคัญ เรื่องที่สําคัญก็คือ จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้ามาทางพวกเรา และต่อจากนั้นก็ มีสิบกว่าคนปรากฏตัวออกมา
พวกเขาเพิ่งมาถึง ก็เห็นพวกเรา
หนึ่งในผู้นํา ตะโกนออกมาทันทีพร้อมเผยให้เห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวของสัตว์ร้าย “กล้าบุกสํานักของพวกเรา ฆ่าไม่เว้นฆ่า…