ตอนที่ 459 แจ้งตํารวจ
สถานการณ์แบบนี้จะบอกว่าไม่อันตรายก็เป็นไปไม่ได้ พวกเราคนไหนจะกล้าหยุดอยู่ตรงนี้
เพราะไม่มีคนขวาง ดังนั้นพวกเราเลยรีบวิ่งไปทางที่รถตู้จอดอยู่ทันที
และปีศาจพวกนั้น ต่างออกมาไล่ตาม พวกเขาอยู่ห่างจากพวกเราไม่ถึง 50 เมตรแล้ว
“จับพวกมันเอาไว้ !”
“เร็วหน่อย !”
“จะให้พวกมันหนีรอดออกไปไม่ได้เด็ดขาด !”
“ฆ่าพวกมันซะ !”
เสียงทั้งหมดดังขึ้นพร้อมกัน แค่โดนจับได้ ต้องตายแน่ๆ
“เร็วเข้าเสียวฝาน !” อาจารย์เตือน และจองพวกปีศาจที่ตามมาด้วยความประหม่า
ผมรีบหยิบกุญแจรถออกมาจากเสื้อ แล้วกดเปิดรถทันที จากนั้นก็พูดกับอาจารย์ว่า “อาจารย์ขึ้นรถ !”
หลังจากพูดจบ ผมก็เข้าไปนั่งตรงที่นั่งคนขับ แล้วรีบสตาร์ทรถทันที
เมื่อเห็นอาจารย์ขึ้นรถแล้ว ผมก็ไม่ลังเลเลยสักนิด รีบเหยียบคันเร่ง ได้ยินเพียงเสียงเครื่องยนต์ดัง “บรื้น” จากนั้นรถก็แล่นออกไปจากที่นี่ด้วยความรวดเร็ว
ผมมองผ่านกระจกหลัง หลังจากพวกเราออกมาไม่นาน ปีศาจพวกนั้นก็วิ่งออกมาบนถนน
แต่คนพวกนั้นจะเร็วกว่ารถเหรอ หลังตามมาระยะนึ่ง ก็ได้แต่ยืนจ้องพวกเราจากไปเท่านั้น
แต่ผมไม่ได้ประมาท ยังเพิ่มความเร็วอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ผมเพิ่มความเร็วรถต้อย่างกับขับเฟอร์รารี
หลังจากขับออกมาได้สักพัก เมื่อเห็นด้านหลังไม่มีการเคลื่อนไหวแปลกๆแล้ว และไม่มีรถตามมา
ผมถึงได้ถอนหายใจออกมา และขับช้าลงมาหน่อย
“อาจารย์ ตอนนี้พวกเราน่าจะปลอดภัยแล้ว !” ผมมองกระจกมองหลัง แต่ก็ยังพูดด้วยความกลัว
คราวนี้ถือว่าเซอร์ไพรส์อย่างหนึ่ง เราถึงกับได้แอบเข้าไปในฐานที่มั่นของสํานักชั่วแห่งหนึ่ง
แม้จะโดนจับได้แต่สุดท้ายก็หนีออกมาได้
เพียงแต่ไม่รู้ว่าทั้งแปดคนที่ผมช่วยออกมา จะเป็นเหมือนพวกเราไหม ทุกคนจะหนี้ได้หรือเปล่า
แต่เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะควบคุมได้แล้ว
พวกเราทําเรื่องที่พวกเราทําได้แล้ว
เป็นตายล้วนมีชะตากําหนด ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับโชคของพวกเขา
อาจารย์เอนตัวพิงเบาะ เหล่ตามอง แล้วก็ถอนหายใจออกมาแรงๆเช่นกัน “ เฮ้อ ! คิดไม่ถึงเบื้องหลังเรื่องนี้
จะเกี่ยวข้องกับสํานักชั่ว ตอนนี้ก็ดีจริงๆ มีองค์กรตาผีแล้ว ยังจะมีสํานักสื่อเย่ขึ้นมาอีก ต่อไป โลกคงต้องวุ่นวายขึ้นแน่ๆ…..
อาจารย์พูดด้วยความท้อแท้ เต็มไปด้วยความรู้สึกจนปัญญา
ผมขับรถไป พูดกับอาจารย์ไป “อาจารย์ ตอนนี้เราจะทําอะไรต่อ ?”
อาจารย์ได้ยินผมพูดออกมาอีกครั้ง กลับทําตาเบิกกว้าง และหันมามองผมทันที “ถึงพวกเราไม่เข้าไปจัดการเรื่องนี้ และช่วยคนไม่ได้ขนาดนั้น แต่ก็มีคนนึงที่จัดการได้
“ใครเหรอครับ ?” ผมงงนิดหน่อย
อาจารย์กลับดวงตาเป็นประกาย “ตํารวจ”
“ฮะ ? ตํารวจ ?” เห็นได้ชัดว่าผมค่อนข้างตกใจ คนปราบภูติผีอย่างพวกเรายังจัดการไม่ได้ แล้วตํารวจจะทําอะไรได้
“ใช่ ตํารวจนั่นแหละ เสี่ยวฝาน แกโทรไปแจ้งตํารวจเร็วเข้า” อาจารย์พูดต่อ
“อาจารย์ เรื่องแบบนี้ ตํารวจจะทําอะไรได้เหรอ ? นั่นคือสํานักชั่วนะ ถึงจะเป็นตํารวจ ก็คงทําอะไรไม่ได้” ตอนแรกผมยังไม่เข้าใจความคิดของอาจารย์
แต่อาจารย์กลับยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ เสี่ยวฝาน แกลองคิดดูดีๆ ตํารวจจัดการปีศาจชั่วพวกนี้ไม่ได้
แต่อย่างน้อยก็สร้างความวุ่นวายเล็กๆน้อยให้สํานักชั่วนั่นได้นะ หรือว่าช่วงเวลาที่พวกเราออกมา
จะปล่อยให้พวกมันหลอมยาที่ใช้ชีวิตคนอะไรนั่นสําเร็จหรือไง ? ”
จู่ๆก็ได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ผมเลยเข้าใจความคิดของอาจารย์ขึ้นมาทันที
อีกฝ่ายเป็นสํานักปีศาจชั่วแน่นอน แต่พวกเราก็สามารถใช้วิธีพูดอีกอย่างนึ่งได้ คือบอกว่าอีกฝ่ายคือแก๊งค้ามนุษย์
ขอแค่พวกตํารวจแทรกซึมเข้าไปข้างใน แบบนั้นก็อาจเข้าไปขัดขวางการหลอมยาของอีกฝ่ายได้
ไม่แน่ อาจช่วยชีวิตคนมากกว่าสิบชีวิต สร้างความวุ่นวายให้สํานักสื่อเย่นั่นได้
แน่นอน ต่อหน้าปีศาจที่รู้วิชามารหลากหลายรูปแบบเช่นนี้ อยากให้ตํารวจช่วยชีวิตคนเป็นโห
ความเป็นไปได้แบบนี้มีเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น
เพราะสําหรับคนทั่วไป มี “วิธีปิดบัง” ตั้งมากมาย เช่นสามารถหลอกตา หรือแม้แต่ใช้คาถาทําให้จิตใจคนสับสนก็ยังทําได้
แต่ ผมก็ยังหยุดรถข้างทาง จากนั้นก็โทรแจ้งตํารวจอยู่ดี
โทรศัพท์ถูกรับสายเร็วมาก ผมเองก็ไม่ลังเล อธิบายเหตุผลที่โทรมาทันที และบอกว่าอาจมีการค้ามนุษย์เกิดขึ้นที่บริษัทหมิงโลจิสติกส์ ให้พวกตํารวจเข้าไปตรวจสอบ
หลังจากพูดจบ ผมก็รีบวางสายทันที
พอวางสายแล้ว อาจารย์ก็พูดกับผมอีกครั้ง “ วิธีนี้กําจัดปีศาจพวกนี้ไม่ได้จริงๆ ถ้าปีศาจพวกนี้ อยากเอาตัวรอด ยังไงก็ต้องใช้คาถาสารพัดรูปแบบแน่ๆ ดังนั้น เรื่องสําานักสื่อเย่เฉินนี่ ยังเป็นเรื่องของลัทธิเรา
ยังไงก็ต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพวกสํานักใหญ่ๆต่างๆ ให้พวกนั้นส่งคน มาจัดการแทนพวก เรา ”
“คือ อาจารย์วางใจได้ พรุ่งนี้เช้าผมจะไปบอกหยางเฉวกับจุ่ยเฉิงจิง ให้พวกเธอเอาเรื่องนี้ไปบอกสํานักของพวกเธอ” ผมพูดด้วยน้ําเสียงจริงจัง
เมื่ออาจารย์ได้ยินถึงตรงนี้ ก็พยักหน้าเบาๆ แล้วถอนหายใจออกมา “เสี่ยวฝาน ! พวกสํานักองค์กรชั่วพวกนี้ออกมาปรากฏตัวขึ้นเรื่อยๆ ทางลัทธิก็ต้องออกมาบรรเลงเลือดกันอีกแล้ว ! ทางเดินของแกในวันข้างหน้า คงต้องระวังให้มากแล้วละ
อาจารย์ดูท้อใจ แต่ผมกลับตื่นเต้น
แต่ไม่รอให้ผมได้พูดบ้าง อาจารย์ก็พูดกับผมอีก “ เสี่ยวฝาน พลังอํานาจของสานักชั่วพวกนี้มีเยอะเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างพวกเราจะเข้าไปยุ่งได้ แต่ในเมื่อเรารับเรื่องของคุณโจวแล้ว ยังไงเราก็ทําให้ถึงที่สุด
อีกเดี๋ยวพวกเราก็กลับไปซุ่มอยู่ที่บ้านคุณโจว แล้วรอให้คุณหวงกลับมา จากนั้นพวกเราก็จับเขาเค้นถามวิธีแก้……”
สําหรับเรื่องนี้ ผมเห็นด้วยสุดๆ
ในเมื่อรับปากคุณโจวแล้ว เราก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย
แม้จะมีสํานักขนาดใหญ่มากเกี่ยวข้อง แต่ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องทําเรื่องของบ้านคุณโจวให้เรียบร้อย
หลังจากนั้นผมก็สตาร์ทรถอีกครั้ง แล้วเริ่มขับไปยังหน้าหมู่บ้านของคุณโจว และคอยจับตามองรอบๆตลอด
ถ้าคุณหวงกลับมา พวกเราก็จะลงมือทันที
พอเหลือบมองดูเวลา ตอนนี้เพิ่งสี่ทุ่มกว่า
ผมกับอาจารย์ เฝ้ากันแบบเงียบๆแบบนี้ จนกระทั่งเวลาค่อยๆดึกขึ้นเรื่อยๆ คนบนถนนก็ค่อยๆน้อยลง
ต่อจากนั้นประมาณตีหนึ่ง รอบๆก็ไม่มีคนเดินผ่านอีก
ภายใต้แสงไฟสลัวๆถนนโทรมๆปรากฏสู่สายตา มันทําให้สัมผัสถึงบรรยายเงียบสงบจนถึงกับวังเวง
แต่ผมและอาจารย์กลับเบิกตากว้าง มองไปรอบๆอย่างไม่วางตา
ทันใดนั้นเอง ผมก็เห็นในความมืดที่ห่างออกไปมีร่างสีด่าของใครบางคนปรากฏขึ้น ผมเลยเริ่มตื่นตัวทันที
หลังรอให้ร่างสีดํานั้นเข้ามาใกล์ และได้ความช่วยเหลือของไฟบนถนน ทําให้ผมเห็นหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
เขาไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือคุณหวงที่พวกเรากําลังรออยู่
เห็นได้ชัดว่าคุณหวงค่อนข้างกระวนกระวาย เขาเดินเร็วมาก
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมก็รีบบอกอาจารย์ที่อยู่ข้างๆทันที “อาจารย์ คุณหวงมาแล้ว !”
อาจารย์เด้งตัวจากที่นั่งข้างคนขับ พร้อมบีบก้นบุหรี่ในมือทันที “มาได้เวลาพอดี ไป !”
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ผมกับอาจารย์ก็ไม่ลังเล เปิดประตูเบาๆ จากนั้นก็ออกมาจากซอยมืดๆแห่งหนึ่ง
ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ตัวคุณหวงที่กําลังกลับบ้าน
แต่ในขณะที่คุณหวงกําลังเดินเข้ามาในหมู่บ้าน ผมกับอาจารย์ก็ปรากฏตัวตรงหน้าเขา เราขวางทางเดินของเขาเอาไว้
พอคุณหวงเห็นผมกับอาจารย์ เขาก็อดอึ้งไปพักหนึ่งไม่ได้
แต่ต่อจากนั้นก็เผยแววตาที่ดุร้ายออกมาเล็กน้อย และเปิดปากให้เห็นเขี้ยวในปากอันน้อยนิดนั่น เล็บพวกนั้นก็เริ่มยาวออกมาเช่นกัน “ถ้าคิดจะปล้น พวกแกหาเรื่องคนผิดแล้ว !”
ผมอดยิ้มอย่างขมขึ้นในใจไม่ได้ เจ้าหมอนี่เห็นผมกับอาจารย์เป็นพวกโจร
แต่ผมก็ไม่สนท่าทีของเขา เพียงจ้องคุณหวง แล้วพูดออกมาเบาๆ “สํานักสื่อเย่เฉิน คุณคงเพิ่งกลายร่างในขั้นแรกซินะ ?”
เมื่อคําพูดนี้ดังขึ้น คุณหวงที่ดูจะโหดหน่อยๆ ก็ทําหน้าตกใจ อดไม่ได้ที่จะถอยไปข้างหลังสองก้าว
พร้อมมองผมกับอาจารย์ด้วยสีหน้าตกตะลึง “พวก พวกแกเป็นใคร ?”