ตอนที่ 464 ตะลึง
สาวกสํานักสื่อเย่เฉินช็อกเป็นที่เรียบร้อย พวกเขาเห็นแล้วว่าอีกฝ่ายมีพลังเหนือกว่า เห็นแล้วว่าพลังของตัวเองไม่อาจเทียบหรือแม้แต่คิดจะเอาชนะได้เลย
ระหว่างยกมือ ก็ฆ่าตายไปหลายสิบคนแล้ว
แต่ละคนเลยรู้สึกเหมือนเห็นภาพหลอน ไม่รู้ว่าเรื่องตรงหน้าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
แต่หลังจากพวกเขาได้สติแล้ว ทุกคนก็ตัวสันในทันที
นี่จะยังสู้ต่อได้งั้นเหรอ ? แค่พริบตาเดียวก็ฆ่าไปถึงหลายสิบคน แถมยังแค่ยกมือ ถ้าลงมือจริงๆ พวกเขาจะยังสู้ได้กับผนะซิ
ในใจของแต่ละคนมีความหวาดกลัวเกิดขึ้น ระหว่างนั้นไม่มีใครกล้าเดินมาข้างหน้า หรือแม้แต่ถอยหลังตามสัญชาตญาณ
“นี่ นี่…”
“แข็ง แข็งแกร่งมาก……”
ทุกคนตาโต มองมาทางพวกเราด้วยสีหน้าหวาดกลัว
ผมละไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง นี่ถึงจะเป็นความแตกต่างที่แท้จริง
เมื่อกี้พวกเรายังโดนรุมอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบแล้ว
ตอนนี้ ไม่มีใครกล้าเข้ามา เนื่องจากแตกต่างกันเกินไป ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะชนะได้เลยสักนิด
ถ้ายังเข้ามาอีก งั้นก็เป็นการรนหาที่ตายของจริงแล้ว
นอกจากความแข็งแกร่งของนางพญา จะทําให้สาวกสํานักสื่อเย่เฉินทุกคนช็อกแล้ว
สิ่งที่ทําให้ผมคิดไม่ถึงที่สุด คือฉากต่อไปนี้
ไฝดําที่ผมหยุดกระตุ้นไปก่อนหน้านี้ กลับไม่รู้เริ่มทํางานเองตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้มันกลายร่างเป็นรูปปลาหยินหยางแล้ว
และในเวลาเดียวกันนั้น ก็มีพลังหยินระเบิดออกมา
ในช่วงที่พลังหยินปรากฏขึ้น ร่างสีขาวของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ความหนาวเย็นจนเข้ากระดูกก็เริ่มแพร่ไปรอบๆ
พอพวกสาวกสํานักสื่อเย่เฉินรับรู้ได้ถึงสิ่งนี้ ก็ทําหน้าหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง และอดไม่ได้ที่จะหันไปมองรอบๆ
“หนาว หนาวมาก !”
“เกิด เกิดอะไรขึ้น หิมะจะตกแล้วเหรอ ?”
ผมที่มองอยู่ ก็ตกใจสุดๆเช่นกัน
ขั้นตอนนี้ พลังแบบนี้
มัน มันคือ มันคือตอนที่มู่หลงเหยียนออกมาน
เห็นอยู่ชัดๆว่าผมไม่ได้เปิดใช้งานไฝดําสองเม็ดนั้นแล้ว แต่มู่หลงเหยียนจะออกมาได้อีกงั้นเหรอ ?
ในขณะที่ผมกําลังตกใจ ร่างนั้นก็รวมตัวเสร็จแล้ว
มู่หลงเหยียนเป็นเธอ เธอยังสวย ราวกับนางฟ้า สาวงามล่มเมืองเหมือนเดิม ทําให้คนที่เห็นลืมทุกอย่าง
ผมจะตะโกนเรียกมู่หลงเหยียนตามสัญชาตญาณหนึ่งรอบ แต่กลับพบว่าร่างกายไม่ทําตามที่ผมสั่ง
ไม่อาจส่งเสียงได้เลยสักนิด
หลังมู่หลงเหยียนออกมาปรากฏตัว เธอก็หันมามองแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองอาจารย์ที่กําลังหอบหายใจอยู่ “อาจารย์ ไอ้สถุลพวกนี้มันทําร้ายอาจารย์เหรอ ?”
อาจารย์จมู่หลงเหยียนได้ เลยพยักหน้าให้เบาๆ
ผลลัพธ์พออาจารย์พยักหน้า มู่หลงเหยียนก็หัวร้อนขึ้นมาทันที เธอหันหน้ามาอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเอง ลมกระโชกแรงอันหนาวเหน็บ ก็พัดผ่านเส้นผมมู่หลงเหยียน และใบไม้ที่อยู่รอบๆ
และแล้วผู้รอดชีวิตอีกสิบคนที่อยู่รอบๆ ก็โดนยึดร่างให้อยู่กับที่ ไม่อาจขยับตัวได้ง่ายๆ
ไม่ใช่แค่นั้น มู่หลงเหยียนก็ลงมือในวินาทีนี้เช่นกัน
เธอระเบิดพลังหยินที่รุนแรงออกมา เหมือนระลอกคลื่น ทันใดนั้นคนที่เหลืออีกสิบคนก็รู้สึกเจ็บท้อง
จนกระอักเลือดออกมา แล้วแยกย้ายล้มลงไปกับพื้น หลังกระตุกประมาณสองครั้ง พวกเขาแต่ละคนก็ไม่ขยับอีกเลย
เพราะนางพญาและมู่หลงเหยียนปรากฏตัว วิกฤตตรงหน้าเลยโดนการาบทันที
นี่ก็คือความแข็งแกร่ง นี่ก็คือความทรงพลัง
และในตอนนี้เองนางพญาก็พูดกับผมว่า “จินถง เหยียนเอ่อร์มาแล้ว งั้นขากลับเลยแล้วกัน ไม่อย่างงั้นจะกินพลังเจ้ามากเกินไป”
พอได้ยินนางพญาพูดแบบนั้น ผมก็ตอบกลับด้วยถ้อยคําที่ฟังดูเคารพสุดๆ “น้อมส่งนางพญา
ขณะที่ผมพูด นางพญาก็พูดกับมู่หลงเหยียนและอาจารย์ของผมอีกครั้ง “ ท่านนักพรตติง เหยียนเอ๋อร์
จบเรื่องแล้ว ขากลับก่อนนะ ! ”
อาจารย์ทํามือคํานับนางพญา ส่วนมู่หลงเหยียนกลับพูดกับนางพญาว่า “เซียนจิ้งจอก ท่านกลับไปรอก่อนนะ เดี๋ยวข้าก็กลับไปแล้ว !”
พอนางพญาได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น เธอก็พยักหน้าเบาๆ ต่อจากนั้นผมก็รู้สึกว่าพลังในร่างหายไป
แล้วเสี้ยววินาทีต่อมา ผมก็รู้สึกว่าร่างกายไม่มีแรงเหลือเลย เหมือนกับพลังในร่างโดดดูดไปหมด
ผมเลยล้มตัวลงพื้นทันที
นี่คือผลที่ตามมาหลังนางพญาสถิตร่าง แต่เพราะคราวนี้เธอไม่ได้อยู่นาน ผลที่ตามมาเลยไม่ร้ายแรงมากนัก
พอมู่หลงเหยียนและอาจารย์เห็นภาพนี้ ก็รีบเข้ามาประคองผมเอาไว้ทันที
ต่อจากนั้นผมก็ค่อยๆกลับมาควบคุมร่างตัวเองได้อีกครั้ง ผมเลยยิ้มให้มู่หลงเหยียนทันที
“น้อง น้องศพ เธอมาได้ยังไง ?”
พอมู่หลงเหยียนได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็มองผมด้วยสายตาเย็นชาทันที “ยังต้องพูดอีกเหรอยะ ! เมื่อกฉันสัมผัสได้ถึงวงเวทย์ แต่จู่ๆนายก็ตัดไปดื้อๆ ทําให้ฉันต้องใช้วิธีของตัวเองมาที่นี่ และ ตอนนั้นพี่เซียนจิ้งจอกก็อยู่ที่นั้น ขนาดพี่เซียนจิ้งจอกยังมาแล้ว แล้วนายว่าฉันจะไม่มาดูบ้างหรือไง ?”
พอได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็ไล่ถามต่อทันที “เธอหายดีแล้วเหรอ ?”
มู่หลงเหยียนกลับขมวดคิ้ว “หรือว่าที่นายตัดเวทย์เมื่อครู่ดื้อๆ เพราะกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บของฉันเหรอ ?”
ผมยิ้มอ่อน ถือเป็นการเงียบยอมรับ
มู่หลงเหยียนกระพริบตา หรือค่อนข้างซาบซึ้ง “งี่เง่าเอ๊ย ถ้าพี่เซียนจิ้งจอกไม่อยู่ และอีกฝ่ายร้ายกาจมากละ ?จะทํายังไง นายกับอาจารย์จะตายเอานะ”
“ตอน ตอนนี้ก็ไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่เหรอ !” ผมพูดด้วยรอยยิ้ม
อาจารย์เองก็ไอออกมาสองครั้ง เหมือนเขาจะกระอักกระอ่วนที่อยู่ข้างๆพวกเรา โชคดีที่เขาก้าวออกไปทางด้านหนึ่งโดยไม่พูดอะไรออกมา
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายผมเองก็ฟื้นกลับมาพอสมควร ผมเลยเริ่มกลับมายืนได้เองอีกครั้ง
มู่หลงเหยียนกลอกตาให้ผม แล้วพูดออกมาอีกรอบ “ ฉันเพิ่งเลิกเก็บตัวเมื่อวาน แต่คนพวกนี้คือใคร ?
ทําไมถึงเป็นครึ่งคนปีศาจ ? ”
พอได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น ผมก็ทําตัวเคร่งขรึมขึ้นมา “ คนพวกนี้เป็นสาวกของสํานักลือเย่เฉิน
กินยาที่ทําให้กลายร่างเป็นปีศาจเข้าไป ทําให้ตัวเองกลายเป็นครึ่งคนครึ่งปีศาจ ”
“สานักลือเย่เฉิน” มู่หลงเหยียนทําท่าสงสัย
มันชัดเจน มู่หลงเหยียนเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อสานักนี้มาก่อน
ส่วนผมกลับรีบเล่าเรื่องที่ผมรู้และข้อมูลที่มีทั้งหมดให้มู่หลงเหยียนฟังทันที พอมู่หลงเหยียนได้ยินว่าสํานักนี้จะสู้กับองค์กรตาผี เธอก็อดเผยสีหน้าตกใจออกมาเล็กน้อยไม่ได้
แต่ผมกลับพูดว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องดีเหรอ ? ตาผีกับเจ้าสํานักสื่อเย่เฉินนั้น ไม่มีอันดีสักอัน ให้เสือสองตัวสู้กันเอง พวกเราก็จะได้รอรับผลประโยชน์ไง !”
มู่หลงเหยียนพยักหน้าเบาๆ “ถือกลับไปแล้ว ฉันจะให้คนไปสืบเรื่องพวกเขา !”
เสียงของมู่หลงเหยียนเพิ่งเงียบลง เสียงไอสองสามครั้งก็ดังขึ้นจากที่ห่างออกไป
“แคกๆๆ !”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ พวกเราก็หันไปมองทันที
“ยังไม่ตายงั้นเหรอ !” มู่หลงเหยียนพูดอย่างเย็นชา และจะลงมือทันที
แต่ผมกับอาจารย์กลับเห็นว่าคนที่กําลังไออยู่คือคุณหวง
อาจารย์รีบพูดขึ้นมาทันที “ช้าก่อน”
“ทําไมละอาจารย์ ?” มู่หลงเหยียนไม่เข้าใจ
ผมกลับอธิบายอยู่ข้างๆเธอ “เป็นแบบนี้ เมียของชายคนนี้เชิญพวกเรามาช่วยเขา แต่เราดันไปเจอกับสํานักสื่อเย่เฉินนี่เข้า”
พอพูดมาถึงตรงนี้ ผมก็เดินตามอาจารย์ และพามู่หลงเหยียนมาหาคุณหวง
ตอนพวกเรามาถึงตรงหน้าคุณหวง เราพบว่ามุมปากของคุณหวงมีคราบเลือดติดอยู่ และ สภาพเหมือนคนกําลังจะตาย
เขาจ้องพวกเรา “ตอน ตอนนี้ จะ จะฆ่าฉันแล้วซินะ ?”
ผมเห็นท่าทางที่ใกล้หมดลมหายใจของเขา ที่จริงไม่ต้องทําอะไร เจ้าหมอนี่ก็โดนพลังหยินของมู่หลงเหยียนทําให้บาดเจ็บสาหัสแล้ว และก็คงรอดไม่ถึงพรุ่งนี้เช้า
ดังนั้น ผมเลยไม่ได้พูดอะไร
เพียงแต่อาจารย์ที่อยู่ข้างๆกลับถามว่า “คุณหวง ข้าเคยบอกว่า เราเห็นใจคุณแต่ไม่ได้สงสารคุณ ตอนนี้มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณเสียใจไหม ? เสียใจที่ฆ่าคนพวกนั้น แล้วเอาชีวิตคนมาหลอมยา”
พอคุณหวงได้ยินถึงตรงนี้ เขากลับหัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆๆ เสีย เสียใจงั้นเหรอ ? ฉัน ฉันมีทางเลือกด้วยเหรอ ? ฉันไม่มีทางเลือก ฉันโดนบังคับทั้งนั้น….”