ตอนที่ 478 ไม่ยอมอยู่เพียงลาพังแน่นอน
ในเวลานี้พวกสํานักสื่อเย่เฉินก่าลังฮึกเหิมสุดๆ ดูหัวร้อนกันสุดๆ ปากแต่ละตัวตะ โกนสโลแกนนั่นออกมาดังลั่น
ส่วนทางฝั่งเรา แต่ละคนดูเหมือนกําลังตกเหวไม่มีผิด
คาดไม่ถึงเลยสักนิด ว่าท่านผู้อาวุโสที่สองที่ดูมั่นใจขนาดนั้น จะโดนอีกฝ่ายทําร้ายครั้งเดียวจอด
ผลลัพธ์แบบนี้ทําให้ทุกคนไม่อยากยอมรับเท่าไหร่
ตอนมาผู้อาวุโสสองท่านนี้ยังดูมั่นอกมั่นใจ
สีหน้าท่าทางของพวกเขาในเวลานั้น ทําให้รู้สึกเหมือนการมาที่นี่ไม่ต่างอะไรจากการนั่นมันเทศ
หรือแม้แต่คิดว่าจะสังหารบอสได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็จะได้บดขยี่ฐานสํานักสื่อเย่เฉินให้สิ้นซาก
ตอนนี้ละ กลายเป็นคุยโวซะใหญ่โตไม่เพียงฆ่าบอสไม่ได้ แต่ยังโดนอีกฝ่ายจัดการในเวลาไม่กี่วินาที
ตอนนี้นักพรตหวังเฉิงกานและนักพรตเฉินจื่ออี้ก่าลังนอนไอเป็นเลือดอยู่บนพื้นพวกเขาแทบลุกขึ้นสู้ไม่ไหว
หากเจ้าผู้นําชุดว่านั่นเล็งมาที่พวกเราเมื่อไหร่ จะมีพวกเราคนไหนสู้กับเขาไหวบ้าง
ท่านหวังเฉิงกานและท่านเฉินจื่ออี้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้น ยังสู้กับอีกฝ่ายไม่ไหว
แล้วพลังอันน้อยนิดอย่างพวกเรา จะพอเป็นของเล่นให้เขาเหรอ
ในขณะที่พวกเรากําลังตกใจ จู่ๆหยางเจ่วและนุ่ยเฉิงจึงก็เคลื่อนไหว
พวกเธอสองคนตะโกนออกมาพร้อมกัน “อาจารย์ลง” จากนั้นก็วิ่งไปหานักพรตทั้งสองทันที
ตอนนี้ปู่หลิวและยายเจ็ดก่าลังถอยออกมาอย่างรวดเร็ว ทิ้งระยะห่างจากชายชุดด่าคนนั้น และมาอยู่ที่ข้างกายผม
ในเวลาเดียวกัน ผมก็ได้ยินปู่หลิ่วพูดกับผมด้วยน้ําเสียงเคร่งเครียด “ชูหม่า ไม่รู้เจ้าปีศาจนี่ใช้วิชามารอะไรตอนนี้มันมีพลังเยอะข้าเองก็ดูไม่ออกพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน อีกเดี๋ยวพอข้าลงมือชูหม่าก็สนแค่เรื่องวิ่งออกไปข้างนอก ส่วนพวกข้าจะคุ้มกันให้ท่านหนีออกไปเอง !”
ขณะพูด ปู่หลิ่วและยายหูชีก็มองสาวกปีศาจรอบๆ ที่ล้อมเราอยู่อย่างหวาดระแวง
ผมกลับขมวดคิ้ว หนึ่งั้นเหรอ ที่นี่มีคนอยู่เยอะขนาดนี้ เราจะหนีไปไหนได้
“ปู่หลิ่ว คนเยอะเกินไป หนีไม่รอดหรอก แผนในตอนนี้ มีแค่ฆ่าชายชุดดําคนนั้นเท่านั้น !” ผมดึงหน้าลงจ้องชายชุดดําที่อยู่ห่างออกไปและกําลังหัวเราะอย่างชั่วร้ายด้วยสายตาเย็นชา
แต่เสียงเพิ่งเงียบลงยายหกลับพูดขึ้นมาว่า “ จนถึงพลังของพวกเรา สู้มันไม่ได้ตอนนี้มีแต่หนี้เท่านั้น
หนีได้แค่คนเดียวก็ต้องทํา แต่จนถึงวางใจได้ ถึงพวกเราจะต้องตาย ก็จะปกป้องให้จินถงออกไปอย่างปลอดภัยแน่นอน”
ตอนนี้ท่านผู้อาวุโสทั้งสองบาดเจ็บหนักไม่มีใครสามารถสู้กับชายชุดด่าได้อีก
ยายหูชีก็พูดอย่างรีบร้อน แนะนําผมว่าอีกเดี๋ยววิ่งออกไปข้างนอกอย่างไม่ต้องคิดชีวิตเพราะไม่อยากให้ผมมาเป็นอะไรอยู่ที่นี่
เนื่องจากพวกเขาได้รับคําสั่ง ให้มาคุ้มครองความปลอดภัยของผม
แต่ผมกลับขมวดคิ้ว แล้วส่ายหน้าทันที “ ไม่ ยายเจ็ด หลิ่ว ถ้จะหนี ถึงผมจะรอด แล้วคนอื่นละ ?
อาจารย์ผม เหล่าเฟิง ท่านนักพรตต์แล้วยังมีพวกท่านผู้อาวุโสที่บาดเจ็บหนักอีกตอนนี้เราได้แต่สู้ตายอยู่ที่นี่แล้วเกิดใหม่เท่านั้น”
แม้ผมจะค่อนข้างเครียด แต่ก็เผชิญอะไรมาตั้งมากมายขนาดนั้น มีหลายต่อหลายครั้งที่ชีวิตแขวอยู่บนความเป็นความตาย
พอได้มาเจอเรื่องพันนี้อีกครั้ง ผมเลยค่อนข้างใจเย็น มองสถานการณ์ออกอย่างชัดเจน
อย่าเพิ่งพูดว่าจะหนีรอดได้ไหม ถึงจะทําได้ผู้อาวุโสที่บาดเจ็บหนักทั้งสองท่านก็ต้องตายแน่นอน
เพราะพวกเขาเสียการควบคุมร่างกายไปแล้ว ไม่มีทางที่จะหนีได้ด้วยตัวเอง
แล้วก็ ถ้าท่านผู้อาวุโสทั้งสองหนีไปไม่ได้ หยางเจ่วและนุ่ยเฉิงจึงจะทํายังไงละ
พวกเธอเองก็ต้องถูกจับ และตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
แล้วยังมีเหล่าฉันขาของเหล่าฉัน เขาเคลื่อนไหวได้ล่าบาก แล้วจะหนีได้งั้นเหรอ
แต่ผมไม่อยากทิ้งคนพวกนี้ไว้แล้วต้องอยู่ต่อเพียงล่าพัง ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่อยากหนีเอาตัวรอดคนเดียว
เรื่องพันนี้ผมทําไม่ลง และไม่อยากทําด้วย
นอกจากนี้ พวกเราเองก็มีตัวช่วยที่อาจพลิกสถานการณ์อยู่ไม่ใช่เหรอ
ตอนอยู่เขาเขี้ยวหมาป่าพวกเรายังมีชีวิตรอดกลับมาได้ แล้วฐานสํานักสื่อเย่เฉินใน วันนี้จะทําให้พวกเราต้องทิ้งชีวิตไว้งั้นเหรอ
จากนั้นผมก็พูดต่อ “ปู่หลิ่ว ยายเจ็ก ผมจะไม่หนีไปคนเดียว ถ้าจะรอดก็รอดไปด้วยกัน จะตายก็ตายพร้อมกัน และพวกปีศาจสมควรตาย พวกนี้ก็ไม่คิดจะไว้ชีวิตพวกเราอยู่แล้ว”
ผมทําหน้าจริงจังพูดอย่างไม่ลังเลใดๆ
พอหเหมยที่อยู่ข้างๆเห็นแบบนั้น แม้เธอจะไม่พูดอะไร แต่สีหน้าของเธอกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย
และอดหันมามองผมสองสามครั้งไม่ได้
พอยายหูชีเห็นผมเป็นแบบนั้น ก็มีค่าว่ากังวลเขียนเอาไว้เต็มหน้า “ จนถง ท่านจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ ไม่อย่างงั้นเจ้าแม่และทั้งเผ่าจิ้งจอกไม่ไว้ชีวิตพวกเราแน่”
ผมมองยายหุชี ทันใดนั้นรอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่มุมปาก “พวกเราไม่เป็นอะไรแน่ !”
หลังจากพูดจบ ผมก็ยกมือขาวๆขึ้นมาอย่างช้าๆ
แต่ทันใดนั้นเองพวกเขาก็เห็นบนหลังมือขวาของผม มีรูปหยินหยางปรากฏขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
และยังมีไอเย็นแพร่ออกมาทีละนิด
ใช่ ผมคิดจะเรียกมู่หลงเหยียนมาช่วย
ตอนนี้ก็มีแค่มู่หลงเหยียนเท่านั้น ถึงอาจจะพลิกสถานการณ์ ทําให้ทุกคนรอดจากวิกฤติไปได้
“มู่หลงเหยียน” ผมตะโกนออกมา
คราวนี้ ปู่หลิ่วและยายหูชีต่างได้ยินอย่างชัดเจน ปู่หลิ่วย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่า “มู่หลงเหยียน” ที่ออกจากปากผมคือใคร
พอได้ยินเสียงนี้ สีหน้าเขาก็อดเปลี่ยนไปไม่ได้ “ชูหม่า หรือว่าท่านคิดจะเชิญแม่นางมู่หลงออกมาช่วย ?”
ผมกลับเค้นเสียงดัง “ ไม่ใช่แค่จะเรียกน้องศพออกมาอีกเดี๋ยวผมจะเชิญนางพญามาด้วยผมจะรอดู
ว่าเจ้าปีศาจพวกนี้จะร้ายขนาดไหน จะร้ายจนสู้กับนางพญาได้ไหม”
มีเพียงปุ่หลิ่วและยายหูชีเท่านั้นที่ได้ยินค่าพูดของผมตอนได้ยินถึงตรงนี้ ทั้งสองคนก็อดสูดหายใจเข้าไม่ได้
นางพญาจิ้งจอกร้ายกาจขนาดไหน พวกเขาเผ่าจิ้งจอกด้วยกันเองย่อมรู้ดี
นางพญาเป็นจิ้งจอกที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบพันปี และยังเป็นจิ้งจอกที่บําเพ็ญจนสําเร็จแล้ว ได้พลังเก้าหางมาตั้งนานแล้ว
เขาฉินนับพันลี้ ไม่มีปีศาจตนใดแข็งแกร่งกว่านางพญาจิ้งจอก
ในขณะที่ปู่หลิ่วและยายหชีกําลังตกใจ อาจารย์ ท่านนักพรตต์ เหล่าเฟิงและคนอื่นๆก็เข้ามาใกล้
พวกเขายกดาบไม้ขึ้น คอยจ้องรอบๆอย่างเยือกเย็น
อาจารย์หันหลังพูดกับผม “เสี่ยวฝาน ไม่ต้องกลัว อาจารย์อยู่นี่แล้ว !”
ในจิตใต้สํานึกของอาจารย์ ตาแก่อย่างเขายังอยากปกป้องผม
ตอนนี้เหล่าเพิ่งหยิบยาเม็ดสีดาออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาจะปลุกพี่เฟิง หรือหานเจิ่วเฟิงในร่าง
สําหรับผู้นําชุดด่าและสาวกปีศาจพวกนั้น ได้หยุดท่าตัวหัวร้อนแล้ว ตอนนี้ชายชุดดําที่มีรูปพระจันทร์และพระอาทิตย์บนหน้าผากก็ไม่ได้หัวเราะอย่างชั่วร้ายแล้ว
ตอนนี้พวกเราโดนล้อมเอาไว้อย่างมิดชิด ส่วนผู้นคนนั้น กําลังเดินยึดเชิดหน้าอย่างยิ่งผยองมาหาพวกเรา
ในเวลาเดียวกัน เจ้าผู้น่าคนนั้นก็พูดอย่าเย็นชา “พลังเศษเดนระดับพวกแก ก็ยังกล้ามาทําโอทั้งต่อหน้าข้าหลิงเทียนวันนี้ข้าจะทาให้พวกแกได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของสานักสื่อเย่ และความร้ายกาจของข้าหลิงเทียน !”
ขณะพูด เจ้าหมอนั้นก็ยกมือขึ้น คิดจะโจมตีฆ่าพวกเราให้ตาย
ผมค่านวณเวลาเสร็จ ในวินาทีที่เจ้าหมอนั้นยกมือขึ้น ผมก็ตะโกนครั้งสุดท้าย “มู่หลงเหยียน”
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ตราประทับดําบนมือก็เริ่มทํางาน
ได้ยินเพียงเสียง “ปัง” ดังขึ้นกลางอากาศ และยึดตัวผมเป็นกึ่งกลาง ช่วงเวลานั้นมีพลังหยินที่แข็งแกร่งระเบิดออกมาทันที
ไม่เพียงเท่านั้น หมอกขาวยังไหลออกมาจากตราประทับด่าที่ข้อมือขวาผมอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นก็รวมตัวอยู่ตรงหน้าผมอย่างรวดเร็ว มันค่อยๆปรากฏเป็นรูปร่างของคนคนหนึ่ง
เดิมที่เจ้าหลิงเทียนคนนั้นคิดจะลงมือ แต่พอเห็นทางผมมีการเคลื่อนไหวผิดปกติมันก็อดเผยสีหน้าสงสัยออกมาไม่ได้
มือที่ยกขึ้น หยุดเคลื่อนตัวพักหนึ่ง
แต่ทันทีที่หยุด ร่างนางฟ้าของมู่หลงเหยียน ก็ปรากฏขึ้นสู่สายตาของทุกคน และ ตอนนี้เธอก็กําลังยืนขวางอยู่ตรงหน้าพวกเราหันหน้าไปทางเจ้าผู้นําสํานักชั่วที่ชื่อหลิงเทียนคนนี้……