ตอนที่ 487 ฝึกลมปราณฝึกจิตใจ
หลังได้ยินมู่หลงเหยียนพูดมาถึงตรงนี้ผมก็รู้สึกเสียใจพอสมควร
แต่ในขณะที่เสียใจผมเองก็ได้อะไรมาไม่น้อย
แม้ม่หลงเหยียนจะไม่สามารถอ่านอักษรโบราณพวกนี้ได้ แต่จากสามค่านั้น ผมกลับเห็นเบาะแสบางอย่างลางๆ
เนื้อหาที่บันทึกอยู่บนเกล็ด ไม่ใช่แค่ข้อความทั่วไป
มันต้องเป็นความลับที่เก่าแก่มาก หรือแม้แต่เป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง หรือบางทีอาจเป็นที่มาที่ไปของสายพวกเรา
ไม่อย่างงั้น “สงครามศักดิ์สิทธิ์ หกดินแดนกิเลน” ค่าพวกนี้คงไม่ปรากฏอยู่บนนั้น
ยังไม่พูดถึงสงครามศักดิ์สิทธิ์ ปกติแล้วมันจะอธิบายถึงการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่
กิเลนก็ไม่ต้องพูดถึงแล้วมันก็คือหนึ่งในสัตว์เทพ สัตว์มงคลนั่นเอง
ส่วนดินแดนทั้งหกมันคงพูดถึงเกี่ยวกับโลก
ในลัทธิเต๋ของพวกเรา บนโลกนี้นอกจากโลก สวรรค์ ยมโลกสามโลกใหญ่นี้แล้วยังมีโลกน้อยใหญ่อีกมากมาย เช่นดินแดนทั้งหก
ดินแดนทั้งหกไม่เหมือนพื้นที่เล็กๆบนโลก มันอยู่ภายใต้โลกทั้งสาม อยู่เหนือพื้นที่เล็กๆบนโลกนับไม่ถ้วน ทั้งหกดินแดนที่ว่าถือเป็นโลกขนาดใหญ่
แต่เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นมุมมองที่ลัทธิมีต่อโลกและความว่างเปล่า ส่วนจะมีดินแดนทั้งหกจริงไหม
ยังไม่มีใครบอกได้
แต่บนนี้กลับมีค่าพวกนี้อยู่จะสามารถจินตนาการได้ ว่าเรื่องราวที่อยู่บนเกล็ด
จะต้องเป็นตํานานอะไรสักอย่าง และอาจเป็นเรื่องจริง ที่เป็นความลับสุดยอดอะไรประเภทนั้น..
แต่ตอนนี้ผมท่าได้เพียงเดาเท่านั้น ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน
พอคิดมาถึงตรงนี้ ผมก็พยักหน้าใหมู่หลงเหยียน “ถ้ามีโอกาส ฉันจะไปหาท่านผู้อาวุโสของสํานักใหญ่ๆพวกนั้นอีกครั้ง”
“เอาเถอะ ! แต่เจ้าวิชานี่สืบทอดกันมายาวนานถึงขนาดนี้ ฉันละอยากเห็นตอนนายฝึกวิชาเป็นเทียนกงนี่สําเร็จจริงๆ” มู่หลงเหยียน
อย่าว่าแต่เธอเลย แม้แต่ตัวผมเองก็อยากเห็นตอนตัวเองฝึกสําเร็จมาก
แต่เจ้าวิชานี้ก็ฝึกยากมาก และไม่มีใครคอยชี้แนะ ผมเลยได้แต่คลาทางด้วยตัวเองไปที่ละนิด
แต่ผมยังยิ้มและพูดกับมู่หลงเหยียนว่า “วางใจได้! ตามความเร็วที่ฉันฝึกได้ ในตอนนี้น่าจะฝึกครบทุกจุดได้อีกไม่นาน และเดินลมปราณได้ตามแผ่นภาพ”
มู่หลงเหยียนยังมองความสามารถในการฝึกของผมในแง่ดีอยู่บ้าง เพียงแค่ปีเดียว
ผมก็เลื่อนมาถึงเต้าฉือขั้นสุดแล้ว
ความเร็วในการฝึกที่น่ากลัวแบบนี้ ถึงจะพูดไม่ได้ว่าเป็นพรจากฟ้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่ง
ต่อจากนั้น มู่หลงเหยียนก็ให้ผมลองขับเคลื่อนพลังที่นี่
เธอเองก็อยากลองสัมผัสดูสักหน่อย ว่าผมฝึกวิชาแบบนี้ มันจะมีความพิเศษอยู่ตรงไหนกันแน่
เมื่อผมได้ยินมู่หลงเหยียนพูดถึงขนาดนั้น ผมก็ไม่ลังเลเลยสักนิด
หากมู่หลงเหยียนสามารถชี้แนะอะไรผมได้บ้าง มันก็คงเยี่ยมไปเลย
ด้วยเหตุนี้ ผมเลยนั่งขัดสมาธิกับพื้น หลับตา กาหนดลมหายใจเคลื่อนพลังตามแผนภาพวิชาเฟินเทียนกง
จากจุดตันเถียน ค่อยๆเคลื่อนไปตามจุดทั้ง 38 จุดของวิชาเฟินเทียนกง
ในขั้นตอนนี้ผมทําได้ช้ามาก ผมค่อยๆเคลื่อนไปข้างหน้าที่ละนิด
มู่หลงเหยียนและยายโม่มองอย่างตั้งอกตั้งใจไม่เข้ามากวนผมแต่อย่างใด
จนกระทั่งผมเดินลมปราณมาจนถึงตําแหน่งที่ 23 แรงกดดันกลับเพิ่มเป็นสองเท่า
เดิมที่ผมคิดว่าจะก้าวข้ามจุดที่ 24 ให้ได้ แต่ลมหายใจผมกลับไม่นิ่ง ลมปราณที่จุดตันเถียนค่อยๆแตกกระจายสุดท้ายผมก็ล้มเหลวไม่อาจก้าวข้ามไปได้
หลังล้มเหลว ผมก็อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้น
เสียงถอนหายใจดังตามมาติดๆ “เฮ้อ ! ตอนนี้ฉันสามารถเดินลมปราณไปได้ถึงจุดที่ 23 ฉันติดอยู่ตรงนี้มาหลายวันแล้วข้ามไปถึงจุดที่
24 ไม่ได้สักทีเมื่อกี้ฉันลองอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวอยู่ดี !”
ผมค่อยๆพูดด้วยความผิดหวังพอสมควร
เมื่อหลงเหยียนเห็นแบบนั้น กลับพูดกับผมด้วยท่าที่ซีเรียส “ เมื่อกี้พวกเราลองสังเกตจากภายนอก
วิชาที่นายฝึกอยู่ตอนนี้ เป็นอะไรที่ค่อนข้างพิเศษจริงๆ มีความผันผวนในคลื่นพลังที่รุนแรงมาก แต่ในตอนที่นายไปถึงจุดตัดผ่านลมปราณในจุดตันเถียนของนายกลับดูปั่นป่วนผิดปกติ หรือแม้แต่มีการทวนกระแสที่อันตรายก็ว่าได้”
“และตอนที่นายกําลังจะข้ามจุดตัด ก็ดูเหมือนจะรีบร้อนพอสมควร เพราะนายยังไม่ได้จัดการลมปราณที่แปรปวนในจุดตันเถียน รีบร้อนก้าวข้าม ไม่ใช้หัวคิด…”
อย่างที่กล่าวไว้คนที่อยู่ในสถานการณ์อ่านเกมได้อย่างทะลุปรุโปร่ง มู่หลงเหยียนพูดได้อย่างลึกซึ้ง
มองเพียงแวบเดียวก็รู้สาเหตุที่ผมล้มเหลว
คิ้วผมอดไม่ได้ที่จะเลิกขึ้น “งั้นฉันจะลองผ่อนคลายหน่อย”
มู่หลงเหยียนกลับส่ายหน้า “ ไม่ต้อง การฝึกต้องใช้จิตใจที่สงบ หากนายใจร้อนถึงจะผ่อนคลายขนาดไหน
ก็ล้มเหลวอยู่ดีฉันคิดว่าตอนนี้วิชาที่นายฝึกอยู่ดูแปลกประหลาดมาก”
“ตอนนายเดินลมปราณ ลมปราณไหลทะลักราวกับทะเลเดือด พลังวิญญาณพลุ่งพล่าน แต่กลับต้องอาศัยความใจเย็นจิตใจที่มั่นคง การก้าวข้ามจําเป็นต้องใช้ลมปราณที่สงบนิ่งมันต้องใช้การควบคุมลมปราณและจิตใจเยอะมาก”
“หรือจะพูดอีกอย่างว่า ยิ่งนายพัฒนามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทําจิตใจให้สงบได้ยากเท่านั้น ยิ่งไม่อาจทําจิตใจให้มั่นคงหรือไม่อาจควบคุมลมหายใจได้”
ค่าพูดแต่ละค่าของมู่หลงเหยียนดูสาคัญมากราวกับทุกครั้งที่ผมคิดจะก้าวข้ามผมจะเป็นแบบนี้เสมอ
ตอนแรกสุด ผมพัฒนาได้เร็วมาก แต่ยิ่งก้าวไปข้างหน้าเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งควบคุมพลังวิญญาณที่คอยแต่จะปั่นป่วนได้ยากขึ้นเท่านั้น และไม่อาจพัฒนาต่อได้ง่ายๆอย่างเคย
และทุกครั้งที่ฝึกวิชาเดินลมปราณนี้ ลมปราณด้านในก็จะดูปั่นป่วน พลังวิญญาณด้านในก็ไหลเวียนเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันดูร้อนรนไปหมด
“งั้น งั้นมีวิธีอะไรไหม ?” ผมถามต่อ
มู่หลงเหยียนเงียบไปพักหนึ่ง “วิชาฝึกพลังของนาย เน้นฝึกลมปราณและจิตใจหากทําตามกระแสอาจจะดีขึ้นก็ได้”
“ทําตามกระแส ?” ผมไม่ค่อยเข้าใจ
ยายโม่ข้างๆที่ไม่พูดอยู่นาน กลับพูดแทรกขึ้นมาในเวลานี้ “คุณผู้ชาย คุณหนูหมายความว่า วิชานี้หากไม่มีอะไรทําก็ลองฝึกดูฝืนไม่ได้วิชาฝึกพลังของคุณผู้ชายยิ่งฝืนเท่าไหร่ ก็ยิ่งฝึกยากเท่านั้น เพราะเป็นแบบนี้ ทําไมไม่ลองผ่อนคลายหน่อยละเจ้าค่ะ”
พอได้ยินยายโม่พูดแบบนั้นออกมา ผมก็เข้าใจในทันที
ถึงว่าทําไมผมถึงหยุดอยู่ที่จุดที่ 23 มาหลายวันขนาดนี้ ดูท่าจะเป็นเพราะผมใจร้อนจริงๆ สูยเสียหัวใจแห่งการฝึกไป
ผมพยักหน้าเบาๆ บ่องบอกว่าเห็นด้วย
ต่อจากนั้นผมก็ไม่ได้เดินลมปราณต่อ แต่ก็ยังดื่มชาและพูดคุยอยู่ที่นี่อีกพักหนึ่ง
นอกจากสํานักสื่อเย่ก่อนหน้านี้แล้ว ผมยังถามถึงเรื่ององค์กรตาผี เรื่องปลูกหญ้าหยินจ่าวและเรื่องอื่นๆ
มู่หลงเหยียนบอกว่า การปลูกหญ้าหยินจ่าวไปได้ดีทีเดียว ตอนนี้กําลังอยู่ในขั้นตอนต่างๆ
สําหรับทางด้านเขาเขี้ยวหมาป่า ตั้งแต่พวกเราไปบุกสาขาที่เขาเขี้ยวหมาป่าทาง นั้นก็เงียบขึ้นเยอะ
กุยซานหยวน ยัยป้าคนสวยและผู้นําคนอื่นๆ ก็เก็บตัวไม่ออกมา ช่วงเวลาหลายวันนี้ล้วนอยู่ในหบเขาทั้งสิ้น
และมีกองกําลังของมู่หลงเหยียนจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะกลัวจะเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ทางฝั่งมู่หลงเหยียน ก็เริ่มส่งกองกําลังไปเตรียมโจมตีที่สาขาย่อยองค์กรตาผีที่เขาเขี้ยวหมาป่ากำจัดหนามหยอกอกพวกนั้นให้สิ้นซาก
แน่นอน หากผมคิดจะเข้าร่วมในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ มันต้องพัฒนาตัวเองไปอีกขั้น ไต่ไปให้ถึงเต้าชื่อ
แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ผมยังไม่รู้สึกถึงการเลื่อนระดับ ดังนั้นในการฝึกฝน ผมยังต้องล่าบากขึ้นอีกหน่อย
อาจเป็นเพราะช่วงหลายวันนี้ไปตากลมเย็นบ่อย พอพูดไปสักพักผมก็เริ่มไอขึ้นมา
ดื้อๆ
ตอนแรกมันก็ดูไม่มีอะไร เพียงไอเบาๆสองครั้ง ผมจึงไม่ได้สนใจ
แต่ยิ่งนานวันเข้าอาการไอก็เริ่มรุนแรงขึ้น และเริ่มเป็นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
หลังเวลาล่วงเลยมาถึงยามชื่อ หรือก็คือช่วงเวลา 23.00-01.00 น. ปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้น
ผมไม่ได้แค่ไอ แต่ร่างกายของผมยังมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติเกิดขึ้นด้วย
ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือเล็บบนมือของผม ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มันเริ่มมีเนื้องอกออกมาอย่างรวดเร็ว……