ตอนที่ 488 ตัวเองเปลี่ยนเป็นปีศาจ
“แค่กๆๆ……
ตอนนี้อาการไอที่รุนแรงทําให้ผมรู้สึกเวียนหัวหน่อยๆ รู้สึกไม่สบายตัวมากๆ
พอมู่หลงเหยียนและยายโม่ที่อยู่ข้างๆเห็น ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
ตอนแรกมันยังไม่มีอะไร เป็นอาการไอของคนเป็นหวัด เพียงไอไม่กี่ครั้งเท่านั้น
แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาการไอของผมก็ไม่ลดลงเลยสักนิดกลับกันมันยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะในเวลานี้ หรือก็คือยามจอ
อาการไอของผมไม่เพียงไม่ทุเลาลง กลับกันเพราะเจ้าอาการไอนี้ ทําให้ผมรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจสั้น
เจ็บไปทั้งตัวอย่างกับโดนเข็มแทง เล่มแล้วเล่มเล่า
มู่หลงเหยียนเห็นผมไม่ดีขึ้น และเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่อาการเป็นหวัดตามปกติ
เธอจึงเข้ามาตบหลังผม และพูดกับผมว่า “เจ้ากาก นาย นายเป็นอะไรไป ? ทําไมถึงไอหนักขนาดนี้ ?”
“แค่กๆๆ ฉัน ฉัน ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่กๆๆ……” ผมไอจนแทบพูดไม่ออก
และหน้าผมก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ ตาแดงเริ่มมีเลือดคั่ง เส้นเลือดทั้งตัวเริ่มปูดขึ้นมา
สิ่งที่ผิดปกติและเป็นกุญแจหลักคือ ผมค่อยๆพบว่า ตัวเองเริ่มรู้สึกคันนิ้วและรู้สึก เสียวหน่อยๆ
เพราะความรู้สึกพิเศษแบบนี้ ทําให้ผมต้องยกนิ้วขึ้นมาด
แต่ในขณะที่ผมยกมือขึ้น ผมก็ต้องตกใจในทันที
เพราะเล็บบนนิ้วของผมยาวขึ้นมาก และภายใต้เนื้อใหม่ จากขอบข้างที่ยาวเรียวก ลับเปลี่ยนเป็นโค้งมนราวกับอุ้งเท้าของแมว
ตอนเห็นภาพที่แปลกประหลาดแบบนั้น ม่านตาผมก็ขยายใหญ่ และเผยสีหน้าตก ตะลึงออกมาทันที
“เฮ้ย” “นี่ นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น แค่กแค่ก……”
ผมกลัวมาก เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายสุดๆ
ส่วนยายโม่และมู่หลงเหยียนที่ยืนอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นภาพนี้เข้า ก็รู้สึกไม่อยากเชื่อ สายตาตัวเองขึ้นมาทันที
ผมไม่ได้กินยาปีศาจอะไรนะ และไม่ได้ฝึกวิชามารอะไรด้วย
แต่ทําไมตอนนี้ จู่ๆเล็บผมก็ยาวขึ้นละ
แถมยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ แม้แต่ร่างกายของผม ก็ยังปลดปล่อยกลิ่นอายแปลกๆ ออกมาจางๆ
เจ้กลิ่นอายนี่เหมือนของพวกสาวกสํานักสื่อเย่ไม่มีผิด เป็นกลิ่นอายปีศาจ
“เจ้ากาก มือ มือ มือนายก่าลังเปลี่ยนเป็นของปีศาจ…..” มู่หลงเหยียนตกใจมาก พูดออกมาตามที่ใจคิด
“จะเป็นไปได้ยังไง ? ฉัน ฉันเป็นอะไรไป ?” เพิ่งพูดถึงตรงนี้ เพราะอาการไออันรุน แรง “อั่ก” ทําให้ผมกระอักเลือดออกมา
“เจ้ากาก !” มู่หลงเหยียนดูกังวลมาก
ยายโม่เองก็ตะโกนตามมาติดๆ “คุณผู้ชาย !”
ผมเองก็ไม่สนที่ตัวเองกระอักเลือดออกมาเพราะอาการไอที่รุนแรง ผมกําลังตกใจกับมือตัวเอง
ทําไมมันถึงเปลี่ยนเป็นแบบนี้ได้
แม้จะตกใจสุดๆ แต่จิตใต้สํานึกผมก็ยังคิดถึงเรื่องของสํานักสื่อเย่ สานักที่มีพวกสาวกที่ไม่เป็นทั้งคนและปีศาจ
ผมมองเล็บที่กําลังยาว ตอนนี้มันยาวประมาณ 5 เซนติเมตรได้ เหมือนดาบโค้งห น่อยๆ แถมยังดูคมมากด้วย
ผมรับไม่ไหวแล้ว ผมหยิบกล่องมีดปลิดวิญญาณออกมา คิดจะดึงมีดปลิดวิญญาณ ออกมา แล้วฟันลงไปที่กรงเล็บของตัวเอง
แต่ไม่รอให้ผมได้เปิดกล่อง มู่หลงเหยียนกลับเข้ามาหยุดผมเอาไว้ “เจ้ากาก ทําแบบนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ นายฟังฉัน ตอนนี้นั่งขัดสมาธิ กาหนดลมหายใจ ควบคุมเงินหยวนของตัวเอง การาบพลังปีศาจที่ปั่นป่วนอยู่ในตัวนาย”
แม้ผมจะหัวร้อนมาก แต่ผมก็ได้ยินคําพูดของมู่หลงเหยียนเต็มสองหู
ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป ทําไมจู่ๆถึงเป็นแบบนี้ได้ แต่ก็ไม่มีเวลาคิดเยอะแล้ว ผมไม่อยากกลายสภาพไปเป็นตัวประหลาดที่ไม่ใช่ทั้งคนและปีศาจพวกนั้น
ผมกลั้นอาการไอที่รุนแรงเอาไว้ แล้วรีบนั่งลงกับพื้น
ในเวลาเดียวกัน มือทั้งสองก็ประสานกันที่หน้าตัก และเริ่มกระตุ้นพลังในร่างทันที
ผลลัพธ์เพิ่งกระตุ้นพลัง ผมก็สัมผัสได้จริงๆว่าในร่างมีกระแสพลังเพิ่มขึ้นมาจํานวน หนึ่ง
ไม่รู้ว่ากระแสพลังพวกนั้นปรากฏขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ในเวลานี้มันกําลังเคลื่อนตัวไปยังแขนขาของผม
เหมือนกาลังกลืนกินลมปราณในร่างผม และคิดจะครอบครองร่างผม
เมื่อสัมผัสได้ถึงตรงนี้ ผมก็เข้าใจอย่างชัดเจน ที่จู่ๆร่างกายผมเปลี่ยนไปแบบนี้ เพราะเจ้าพลังปีศาจพวกนี้นี่เอง
และอาการไอที่รุนแรง ก็น่าจะเกิดขึ้นเพราะพลังปีศาจนี่
ดังนั้นผมเลยเดินลมปราณในร่าง เริ่มจากการาบกระแสพลังที่บ้าคลั่งพวกนี้
ผมเพิ่งเริ่มการาบ ก็รู้สึกได้ว่าที่หลังมีฝ่ามือเข้ามาปะทับ จากนั้นกระแสพลังอันหนาวเหน็บก็ปรากฏขึ้น
พวกมันตรงเข้ามาในร่างผม
กระแสพลังอันหนาวเหน็บนี้ทรงพลังมาก และแรงกล้ามาก มันเพิ่งปรากฏขึ้น ก็เริ่มเคลื่อนไปทั่วร่างผมทันที
แต่ทุกครั้งที่ปะทะกับพลังปีศาจ มันก็จะกระจายตัวเข้ากราบทันที
ผมรู้ดี นี่คือมู่หลงเหยียน
ในเวลานี้ มู่หลงเหยียนกําลังร่วมมือกับผมกราบพลังปีศาจในร่าง
ปัญหาไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือหาปัญหาไม่เจอ
ตอนนี้พวกเราพบกุญแจสําคัญที่ทําให้ร่างกายผมเปลี่ยนไปแล้ว และลงมือแก้ไขได้ทันเวลา
ดังนั้น หลังจากพลังปีศาจที่ตื่นขึ้นมาในตัวผมโดนกราบแล้ว สถานการณ์ของผมก็ค่อยๆกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ส่วนสีหน้าท่าทางของผม ก็ค่อยๆกลับมาคงที่
สิ่งที่เห็นชัดที่สุดคือ อาการไอของผมเริ่มทุเลาลง เล็บที่ยาวออกมาก็เหมือนจะหดกลับไป กลายเป็นปกติอีกครั้ง
เส้นเลือดที่ปูดออกมา ก็ค่อยๆหายไปตามกาลเวลา ดวงตาแดงก่ําก็แดงน้อยลง
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง สภาพของผมก็ฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกัน มู่หลงเหยียนก็ปะทับฝ่ามือมาที่หลังผมแรงๆอีกครั้ง กระแสพลังอันหนาวเหน็บเข้าสู่ร่างผมทันที
หลังจากนั้นผมก็รู้สึกร้อนที่หน้าอก และกระอักเลือดออกมาทันที
ในเวลาเดียวกัน มู่หลงเหยียนก็ดึงมือกลับไป
ผมมองเลือดที่กระอักออกมาเป็นแดงเข้ม มันเข้มราวกับสีหมึก และยังมีลิ่มเลือดให้เห็นอย่างชัดเจน
เป็นอะไรที่แปลกสุดๆ
เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว ผมก็ค่อยๆยกมือที่กําลังกลับมาเป็นปกติของตัวเองขึ้นมาดูจากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ “ฉันเป็นอะไรไป ?”
เสียงเพิ่งเงียบลง มู่หลงเหยียนที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นว่า “เจ้ากาก ในร่างกายนายมีพลังปีศาจอยู่ เมื่อจู่ๆพลังปีศาจพวกนั้นก็คลุ้มคลั่งขึ้นมา กลืนกินพลังวิญญาณของนาย กระตุ้นให้ร่างนายกลายเป็นปีศาจ เมื่อกี้ฉันใช้พลังตัวเองบีบให้นายกระอักเลือดที่ปนเปื้อนพลังปีศาจออกมานิดหน่อย แต่พลังปีศาจในร่างนายยังไม่ได้ถูกขับออกมาทั้งหมด…..”
พอได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น ผมก็หันไปมองเธอทันที
เผยสีหน้าไม่อยากเชื่ออกมา “มันไม่ถูกนะ ในตัวฉันจะมีกระแสพลังแบบนี้ได้ไง ฉันไม่ได้กินยาที่ทําให้กลายร่างเป็นปีศาจได้สักหน่อย”
ผมทําหน้าไม่เข้าใจ เพราะข้อมูลที่ได้จากคุณหวงเมื่อก่อนหน้านี้
หากคิดจะเป็นปีศาจ จําเป็นต้องกินยาที่เรียกว่า “ยากลายร่างเป็นปีศาจ” เข้าไปจากนั้นร่างกายถึงจะค่อยๆเปลี่ยนไป
แต่อย่าว่ากินเจ้ายานี่เข้าไปเลย ตัวผมยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ํา
“ งั้นมันก็แปลกแล้วละเจ้าค่ะ คุณผู้ชายลองคิดดูดีๆเจ้าค่ะ คุณเคยสัมผัสกับของสิ่งนี้มาก่อนหรือเปล่า
หรือโดนคนอื่นแอบวางยา ตอนที่คุณไม่มีสติ เผลอกินของแบบนี้เข้าไปหรือเปล่า เจ้าค่ะ ? ” ยายโม่ลองเดา
พอได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็เริ่มเก็บไปคิด
โดนคนอื่นวางยา เรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ อีกฝ่ายไม่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหนด้วยซ้ํา
และตอนที่อยู่สํานักสื่อเย่ ผมก็ไม่ได้กินอะไรเข้าไป หรือแม้แต่น้ําก็ไม่ได้ดื่ม….
ผมขมวดคิ้ว จมดิ่งอยู่กับความคิด
เพราะทางเดียวคือการสืบหาสาเหตุ ถึงจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และหาทางออกที่ดีที่สุดเจอ
ม่หลงเหยียนและยายโม่ไม่ได้เข้ามากวนผม ส่วนผมก็เอาแต่นั่งคิด คิดถึงทุกราย ละเอียด หาสาเหตุทําไมพลังปีศาจถึงเข้าไปในร่างตัวเองได้
หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที ผมก็ตัวสั่นอย่างแรง จู่ๆก็มีภาพนึ่งผุดขึ้นมาในใจผม และมันก็ตราตรึงจนผมไม่อาจสลัดออกได้……