ตอนที่ 492 ท่านเทพสื่อเย่
ในขณะที่พวกเราทุกคนกําลังกระวนกระวาย เสียงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น จากความมืดมิดที่อยู่รอบๆ
พอได้ยินเสียงนี้ ในใจผมก็มีเสียงดัง “บิ๊ก” พร้อมกันนั้นก็หันไปมองทางต้นเสียงทันที
ผลลัพธ์พอหันไปมอง ผมกลับพบว่าในพุ่มไม้ที่ห่างออกไป มีเงาของคนกลุ่มหนึ่งกําลังเดินออกมา
พอเห็นถึงตรงนี้ ผมก็อดหวาดระแวงขึ้นมาไม่ได้
ผมคิดว่าเจ้าพวกนั้นไม่ได้มาดีแน่นอน อย่างแรกคืออีกฝ่ายมองแค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่านี่คืออาการกลายสภาพเป็นปีศาจมันบอกอย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายเป็นคนวงใน
อย่างที่สองคือ เจ้าพวกนี้บอกว่าการกลายร่างเป็นปีศาจเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์
หรือมีโอกาส 80-90% ที่เจ้าพวกนี้จะเป็นสาวกของสานักปีศาจลื่อเย่นั่น
พอคิดได้ถึงตรงนี้ ผมก็เริ่มคิดหนักในทันที และเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พร้อมพูดกับกลุ่มคนชุดด่าที่ก่าลังเดินออกมา “พวกนายเป็นใคร ?”
กลุ่มชายชุดดําพวกนั้นไม่ได้ตอบกลับทันที พวกเขาเพียงค่อยๆเดินออกมาจากมุมมืด
สุดท้าย ชายชุดดําไม่กี่คนนั้นก็ออกมาปรากฏตัวท่ามกลางไฟถนนที่สลัวๆ
ทั้งหมดสามคนทุกคนอยู่ภายใต้ผ้าคลุมดํายาว และมองไม่เห็นหน้ากันสักคน
แต่ในเวลานี้ ผู้นําของชายชุดดําพวกนั้นกลับถอดหมวกดําออก
ทันใดนั้นเองใบหน้าที่แท้จริงของเขาก็ปรากฏสู่สายตาทุกคน
แต่หลังจากที่ทุกคนเห็นใบหน้าของชายชุดดําคนนี้แล้วก็อดทําหน้าช็อกไม่ได้
เพราะพวกเราพบว่าชายชุดดําคนนี้ไม่ใช่มนุษย์อย่างเราๆ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นตัวประหลาดที่มีหัวเป็นเสือดาว
หัวกลมๆ ลายจุดเชกเช่นเดียวกับเสือดาวจมูกดํา บนหน้ายังมีเคราให้เห็น
ภาพแบบนี้ สําหรับพวกเราแล้วเป็นอะไรที่น่าตะใจสุดๆ หัวใจเต็มแรงอย่างเห็นได้ชัด
พอซ่งซานเหอหรือศิษย์พี่สามของสํานักเหมาชานคนนั้นเห็นสภาพแบบนั้นเข้าไปก็เผลอพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ “ปีศาจ……”
เสียงเพิ่งเงียบลงทุกคนในที่นั้นก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มระวังตัวในทันที
แต่หยางเจ่วที่ยืนอยู่อีกทางด้านหนึ่งกลับพูดว่า “ไม่ใช่ บนตัวเจ้าหมอนี่ไม่มีไอปีศาจอยู่ !”
ส่วนผมที่กําลังมองอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น ก็พูดด้วยน้ําเสียงเคร่งเครียดขึ้นมาในเวลานี้ “ ใช่เขาไม่ใช่ปีศาจ
ถ้าดูไม่ผิด เขาน่าจะเป็นสาวกปีศาจของสํานักสื่อเย่ !”
“อะไรนะ ? สํานักสื่อเย่ ?” ซึ่งซานเหอพูดด้วยความตกใจ
แม้เขาจะเคยได้ยินชื่อสํานักสื่อเยู่แล้ว แต่สําหรับตัวสาวกสํานักสื่อเย่ เขากลับไม่เคยเห็นมาก่อน
ตอนนี้พอได้ยินว่าเป็นสาวกปีศาจของสํานักสื่อเย่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าตะลึงออกมา
เหล่าเฟิง พี่เฟิง ในเวลานี้ต่างเริ่มหวาดระแวง เตรียมตัวพร้อมสู่ตลอดเวลา
ส่วนปีศาจเสือดาวที่ยืนอยู่ห่างออกไป กลับฉีกยิ้มพิลึกออกมา “ฮ่าๆๆ สํานักสื่อเยฉินของข้าไม่ใช่สํานักนอกรีต ศิษย์ที่ข้าสอน ล้วนเป็นภูติแห่งสุริยันจันทราทั้งนั้น จะเรียกว่าสาวกปีศาจได้อย่างไร
เจ้าปีศาจนั่นเถียงกลับ หลังกวาดสายตามองพวกเรา ท้ายที่สุดเขาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “แต่พวกเจ้า กําลังขัดขวางการวิวัฒนาการอันศักดิ์สิทธิ์ !”
“เหลวไหล สํานักนอกรีตย่อมเป็นสํานักนอกรีตวันยังค่ํา ยังกล้าพูดว่าเป็นสํานักศักดิ์สิทธิ์ ช่างกลายกยอตัวเองซะจริงนะ” ซึ่งซานเหอพูด เขาดูจะไม่พอใจสุดๆ
ผลลัพธ์เสียงเขาเพิ่งเงียบ ชายชุดด่าคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆปีศาจเสือดาว กลับตะโกนใส่ซงซานเหอทันที
“บังอาจ กล้าเสียมารยาทต่อท่านเทพสื่อเย่ของเราเจ้าต้องตาย”
ซึ่งซานเหอเกิดในครอบครัวที่มีชื่อเสียง และด้วยความเป็นศิษย์คนที่สามของสํานักเหมาชานเดิมทีก็เกลียดคนชั่วหรือสิ่งชั่วร้ายอยู่แล้ว
และไม่ว่าจะเป็นฐานะหรือระดับพลังของเขาก็โดดเด่นในหมู่คนรุ่นเดียวกัน
และปกติชายคนนี้ก็ค่อนข้างหยิ่งยโสอยู่แล้ว ตอนนี้พอถูกอีกฝ่ายพูดแบบนั้นด้วย ไฟโทสะของเขาก็ลุกโชดช่วงขึ้นมาทันที
เขาตัวสั่น เปิดใช้พลังทั้งหมด พร้อมปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมา
หลังสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่เจ้าซงซานเหอจอมร็อคคนนี้ปลดปล่อยออกมา ผมก็อดตกใจในใจไม่ได้
เพราะผมพบว่าระดับพลังของเจ้าหมอนสูงมาก เขาก้าวไปถึงเต้าชื่อขั้นกลางแล้ว สูงกว่าผมถึงสองขั้น
หรือก็คือ พลังของเจ้าหมอนี่อยู่ในระดับของอาจารย์แล้ว
แต่หากดูจากอายุ เขาน่าจะมีอายุห่างจากผมไม่มากนัก อย่างมากสุดก็อายุมากกว่าผม 1-2 ปี
สมแล้วที่เป็นศิษย์สํานักใหญ่อย่างสํานักเหมาชาน อายุเพียงเท่านี้ ก็ก้าวมาถึงขั้นนี้แล้ว ช่างน่าประทับใจจริงๆ
ถึงว่าพอเผชิญหน้ากับปีศาจสามตัวนี้ที่จู่ๆก็ปรากฏตัวออกมา เขากลับไม่กลัวเลยสักนิด
àยเฉิงจึงรู้จักศิษย์พี่สามของตัวเองดี เมื่อเห็นศิษย์พี่สามปลดปล่อยพลัง เตรียมตัวจะลงมือเธอก็เอื้อมมือไปหยุดซ่งซานเหอเอาไว้ แล้วพูดกับเขาว่า “ศิษย์พี่อย่าวู่วาม สาวกปีศาจของสํานักลื่อเย่พวกนี้ ร้ายกาจมากนะ !”
ซึ่งซานเหอกลับไม่สบอารมณ์ “ ฮ! วันนี้ฉันอยากเห็นอยู่พอดี ว่าเจ้าปีศาจพวกนี้จะร้ายกาจขนาดไหน !
ให้ศิษย์พี่ได้ลองสู้กับพวกมันเถอะ”
หลังจากพูดจบ ซงซานเหอก็สะบัดมือ สลัดมือของฉัยเฉิงจึงออกทันที จากนั้นก็เล็งไปที่ปีศาจสามตนนั้น ก่อนที่จะพุ่งตัวออกไป
ปีศาจเสือดาวที่เป็นผู้นําคนนั้น เผยรอยยิ้มสุดพิลึกออกมาอีกครั้ง “วัยรุ่นสมัยนี้ ใจร้อนจริงๆ เลย ไปทําให้มันได้เห็นดีสักหน่อย !”
“ขอรับ ท่านเทพ” ชายชุดดําที่เคยพูดก่อนหน้านี้
เสียงเพิ่งเงียบลง เขาก็หันมาเร็วมากเล็งมาที่ซึ่งซานเหอจากนั้นก็พุ่งเข้ามาทันที
ทางฝั่งของพวกเราจําเป็นต้องคุ้มกันท่านนักพรตทั้งสอง และยังมีเหล่าฉันกับคนอื่นๆด้วย ในเวลาเดียวกันก็เห็นความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย เพื่อเตรียมตัวเอาไว้ก่อน
ด้วยเหตุนี้ พวกเราเลยไม่ได้ทําอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า เพียงจับตาดูอย่างใกล้ชิด
หากซงซานเหอสู้ไม่ได้พวกเราก็จะพุ่งเข้าไปช่วยทันที
ซึ่งซานเหอวิ่งไปประสานมือไป
เมื่อเข้าไปใกล้ชายชุดดําคนนั้น เขาก็ยกมือขึ้นเล็งจะฟาดไปที่ชายชุดดําคนนั้น
ในระหว่างนั้น ผมสัมผัสได้เพียงลมปราณที่ระเบิดออกมาจากมือเขาภายใต้ความคลุมเครือเหมือนจะยังมีภาพคาถาบางอย่างปรากฎขึ้นด้วย
หลังหยางเจ่วที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นแบบนั้น ก็ทําหน้าตกใจในทันที “นี่มันวิชาลับของเหมาชานฝ่ามือสยบมาร !”
ตอนผมได้ยินคําว่า “ฝ่ามือสยบมาร” สี่ค่านี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
เพราะก่อนหน้านี้ผมรู้จักกับหยางเจ่วและนุ่ยเฉิงจิง ทั้งสองคนยังเป็นศิษย์ในสํานักเหมาชานและอู่ตั้ง
ดังนั้น ในบางครั้งเราก็คุยเรื่องของสานักเป็นการส่วนตัวอยู่บ้าง ผมเลยได้รู้ข้อมูลและวิชาของสองสํานักนี้ไม่น้อย
ส่วน “ฝ่ามือสยบมาร” ที่หยางเจ่วพูดด้วยความตกใจนั้น ก็คือวิชาลับที่ร้ายกาจวิชาหนึ่งของสำนักเหมาชาน
ผมได้ยินมาว่าฝ่ามือนี้ทรงพลังมาก และมีโอกาสเอาชนะศัตรูได้สูงมาก
หรือจะพูดอีกอย่างว่า แม้ว่าผู้ฝึกจะอยู่แค่ขั้นเต้าชื่อ แต่หากเรียนวิชาฝ่ามือลับนี้ได้ แม้แต่ศัตรูในขั้นเต้าจจิ้นก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
จะเห็นได้ว่า วิชาฝ่ามือลับวิชานี้ร้ายกาจขนาดไหน
แต่วิชาลับนี้ฝึกยากมาก หากไม่มีพรสวรรค์ไม่มีทางฝึกได้อย่างแน่นอน
ผมเคยได้ยินเรื่องวิชาฝ่ามือนี้นานแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นสักครั้ง
แม้แต่ศิษย์ร่วมสํานักเหมาชานอย่างนุ่ยเฉิงจิงก็ยังเรียนวิชาฝ่ามือนี่ไม่ได้เลย
ตอนนี้ ซงซานเหอหอบคลื่นพลังหมาศาลไปข้างหน้า หากเจ้าปีศาจตนนั้นโดนเข้า ต้องจบไม่สวยแน่ๆ
ในสายตาของพวกเรา แม้เจ้าปีศาจตนนั้นจะโง่ขนาดไหน แต่ก็น่าจะหลบถึงจะถูก
แต่ไม่ว่ายังไงเราก็คิดไม่ถึงว่า ปีศาจตนนั้นไม่เพียงไม่หลบ แต่กลับยื่นฝ่ามือออกมา คิดจะปะทะกับซงซานเหอให้ตายไปคนละข้าง
การเคลื่อนไหวของทั้งสองคนเร็วมาก เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเสียงปะทะก็ดังขึ้น “ปัง”
คลื่นพลังทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน เกิดเป็นระลอกคลื่นสาดซัดไปรอบๆ
เดิมที่ผมคิดว่าฝ่ามือสยบมารของซึ่งซานเหอ น่าจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะมันทรงพลังมาก
แต่ผลลัพธ์ กลับทําให้ทุกคนผิดหวัง
แม้แต่ฝ่ามือสยบมารของซงซานเหอ หลังปะทะกับฝ่ามือของอีกฝ่ายแล้ว เขากลับถูกซัดกระเด็นออกไป
ไกลกว่า 3-4 เมตร จนตัวเองแทบจะยืนไม่ติดพื้น
หันกลับมามองทางปีศาจชุดดําเขายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
หลังคลื่นพลังระเบิดออกหมวกคลุมหน้าของเขาก็เปิดออก
ในวินาทีที่หมวกของชายชุดด่าคนนั้นเปิดออก ทุกคนก็ตกตะลึงทันที และอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ
เพราะพวกเราพบว่า ภายใต้หมวกดําอันนั้น มีหัวของงซ่อนอยู่
ชายคนนั้นไม่มีผม ไม่มีหูใบหน้าเต็มไปด้วยเกล็ดงสีเขียว เกล็ดนึ่งซ้อนทับเกล็ดนึ่งไปเรื่อยๆ ภายใต้แสงไฟบนถนนมันส่องแสงประกายแวววาว
ดวงตางคู่นั้นของเขา ทําให้คนขนลุกเป็นพิเศษ ในปากยังทําเสียง “ซื่อๆๆ” ออกมา และยังมีลิ้นแฉกของงูแลบออกมาไม่หยุด……