ตอนที่ 515 ทําตามหัวใจตัวเอง
มุมปากของผมยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็พูดด้วยน้ําเสียงเรียบนิ่ง
แต่คนที่ทําหน้าอาบน้ําร้อนมาก่อน หรืออาจารย์ที่สั่งสอนผมเมื่อกี้ ตอนนี้กลับหน้าชาอย่างแรง และเผยสีหน้าตกตะลึงออกมาทันที
เสี้ยววินาทีต่อมา อาจารย์ก็หันมาทันที เขาขมวดคิ้วและมองผมด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ “ เสียวเสี่ยวฝาน
เมื่อกี้ เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ”
ผมยังมองหน้ากันตกตะลึงของอาจารย์ด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ ผมเลื่อนขั้นแล้ว ถึงขั้นเต้าชื่อแล้ว !”
“อะไรนะ แกเลื่อนขั้นแล้วจริงๆเหรอ ?” อาจารย์โยนเงินกระดาษในมือทิ้ง เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจมาก
แต่ผมกลับพูดด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ ผมพูดจริงๆ ! ผมหิวมากเลย อาจารย์เก็บข้าวเช้าไว้ให้ผมไหมเนี่ย !”
ผมพูดพร้อมเดินไปทางโต๊ะอาหาร ท่าทางชิวอย่างเห็นได้ชัด
แต่อาจารย์กลับนั่งไม่ติดแล้ว เขาลุกขึ้นยืนทันที “จะ จะเป็นไปได้ยังไง แกเพิ่งเลื่อนระดับมาได้นานเท่าไหร่เชียว ตอนนี้แกยังเลื่อนได้อีกแล้วงั้นเหรอ ?”
“ผมเลื่อนขั้นแล้วจริงๆ !”
หลังจากพูดจบ ผมก็ยกมือขึ้นมาประสานอินข้างนึ่ง เพื่อกระตุ้นพลังวิญญาณ
ในระหว่างนั้น มีคลื่นพลังไหลออกมาจากในตัวทันที
ส่วนอาจารย์ เพิ่งสัมผัสได้ถึงคลื่นพลัง EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq ว่านต้องเป็นขั้นเต้าชื่ออย่างแน่นอน
หรือแม้แต่มั่นใจว่าเจ้าขั้นเต้าชื่อนี้อยู่ในสถานะที่คงที่แล้ว ราวกับไม่ได้เพิ่งก้าวขึ้นมาถึงขั้นนี้
แต่เป็นมาถึงขั้นนี้ได้หลายวันแล้วอะไรแบบนั้น
หลังอาจารย์มั่นใจแล้ว เขาก็ตะลึงจนมีสภาพเหมือนคนทําอะไรไม่ถูก
ตั้งแต่อาจารย์ติดตามอาจารย์ตัวเองในวัยหนุ่ม หรือก็คือพระเฒ่านิรนามคนนั้น เพียงชั่วพริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปกว่า 40 ปีแล้ว
แต่อาจารย์ฝึกตนไปได้ถึงขั้นไหนละ ก็ไม่ได้แค่เต้าชื่อระดับกลางไม่ใช่เหรอ
แต่ผมกลับใช้ระยะเวลาสั้นๆเพียงหนึ่งปี ก็สามารถเริ่มจากศูนย์มาจนถึงเต้าซื้อขั้นแรกในตอนนี้ได้
ความเร็วในการฝึกอันน่าหลงใหลแบบนี้ จะไม่ทําให้อาจารย์ตะลึงได้ยังไง
อาจารย์อ้าปากตาค้าง รู้สึกว่าเวลาฝึกหลายสิบปีของตัวเอง ล้วนขึ้นอยู่กับร่างกายอันห่วยแตกของตัวเอง
หลังผ่านไปพักหนึ่ง อาจารย์ถึงได้กลับมาตอบสนองอีกครั้ง
เขากลืนน้ําลาย จากนั้นก็มองผมด้วยสายตาที่ค่อนข้างตกตะลึง “เสี่ยวเสี่ยวฝาน ที่แท้แกก็เลื่อนระดับแล้วจริงๆ”
ขณะมองสีหน้าอันแข็งที่อของอาจารย์ ผมก็พยักหน้าให้อาจารย์แรงๆ “อาจารย์ ผมไม่ได้แค่ เลื่อนเป็นขั้นเต่าชื่อนะ แต่เมื่อคืนผมยังฝึกวิชาเฟินเทียนกงสาเร็จแล้วด้วย !”
หากการที่ผมเลื่อนไปถึงขั้นเต้าซื้อได้ แล้วทําให้อาจารย์ตกใจ การฝึกวิชาเฟินเทียนกงสําเร็จ ก็คงเหมือนฟ้าผ่าเหนือหัว
ในสายของพวกเรา เจ้าเกล็ดที่ไม่รู้ว่าผ่านมากี่ยุคสมัย หรือตกทอดกันมากี่รุ่นอันนั้น
เป็นถึงตัวบันทึกวิชาเฟินเทียนกงเอาไว้ และคนที่ฝึกวิชาเฟินเทียนกงสําเร็จ ก็มีเพียงแค่หยิบมือเดียว
หนึ่งในนั้นก็มีศิษย์พี่ หรือคนที่อาจารย์ตัดขาดไปแล้วคนนั้น
แต่สิ่งที่ทําให้อาจารย์ตกใจยิ่งกว่าเดิมคือ ความเร็วในการฝึกของผมไม่เพียงอยู่เหนือเขา แม้แต่ความเร็วในการฝึกวิชาเฟินเทียนกงของผม ก็ยังอยู่เหนือศิษย์นอกคอกคนนั้นของเขาด้วย
อาจารย์เองก็เคยฝึกวิชาเฟินเทียนกง ก่อนหน้านี้เขาฝึกจนเลือดลมตีกลับ กระอักเลือดและ บาดเจ็บภายในเลยทีเดียว
การฝึกแบบนั้นเป็นอะไรที่ยากจนแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ผมล่ะ ไม่เพียงแค่ฝึกเร็วจนเหมือนปีศาจ ภายในระยะเวลาสั้นๆแค่สองเดือน ก็ฝึกวิชาเฟินเทียนกงชุดแรกสําเร็จแล้ว จะเห็นได้ว่ามันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก
จากคําพูดของอาจารย์ ศิษย์พี่ที่ผมไม่เคยเจอหน้ามาก่อน ใช้เวลาฝึกประมาณหนึ่งปีถึงจะสําเร็จ
“เสี่ยวเสี่ยวฝาน แกอย่ามาหลอกอาจารย์นะ เรื่อง เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ?” อาจารย์ทําท่าทางนิ่งอึ้ง การหายใจก็ดจะเร็วขึ้นเล็กน้อย
ผมรู้ว่าหลังอาจารย์รู้เรื่องนี้แล้ว อาจจะตกใจมาก แต่ก็คิดไม่ถึงว่าอาจารย์จะตกใจจนเป็นแบบ
ผมละกลัวจริงๆว่าอีกเดี๋ยวอาจารย์จะตื่นเต้น แล้วเลือดลมตีขึ้นจนสลบไป
ดังนั้นผมเลยทําท่าทางจริงจังมาก จากนั้นก็เปิดใช้งานวิชาเฟินเทียนกง พร้อมพูดกับอาจารย์ว่า “จริงๆ !”
หลังจากพูดจบ ผมก็ตัวสั่น แสดงวิชาเป็นเทียนกงออกมา ทันใดนั้นกลิ่นอายที่อธิบายไม่ได้ก็ปรากฏขึ้น
คลื่นพลังพวกนั้นไม่เหมือนกับพลังเต่ํา แต่มันก็คล้ายกับพลังเต๋า มันให้ความรู้สึกน่าเกรงข้ามหรือแม้แต่มีรังสีฆ่าฟัน
อาจารย์เพิ่งรับรู้ได้ถึงพลังนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที “ชะ ใช่ กลิ่นอายพลังแบบนี้แหละ กลิ่นอายพลังแบบนี้แหละ เสี่ยวฝาน แกฝึกสําเร็จแล้วจริงๆ สําเร็จแล้วจริงๆ…..”
อาจารย์ดูตื่นเต้นมาก หรือแม้แต่ยกมือทั้งสองข้างมาจับแขนผม
เนื่องจากเคล็ดวิชานี้ตกทอดกันมาหลายยุคสมัยแล้ว แต่พอมาถึงรุ่นของอาจารย์ ศิษย์สองคนที่เขารับไว้
กลับสามารถฝึกเคล็ดวิชานี้สําเร็จทั้งคู่ แล้วมันจะไม่ทําให้เขาตกใจ หรือตื่นเต้นได้ยังไง
“ ใช่ อาจารย์ ผมฝึกสําเร็จแล้ว เจ้าเคล็ดวิชานี้แข็งแกร่งมาก สามารถเพิ่มพลังให้ตัวเองได้ระยะหนึ่ง เป็นอะไรที่ทรงพลังมาก !” ผมพูดตามความจริง สาหรับอาจารย์ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวิชาเฟินเทียนกงมากนัก
ในเวลานี้เมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะใจเต้นแรง และรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา
ต่อจากนั้น ผมก็เล่าว่าตัวเองเลื่อนระดับได้ยังไงให้อาจารย์ฟัง ในเวลาเดียวกัน ผมก็หยิบมีดปลิดวิญญาณออกมาให้อาจารย์ดู
หลังอาจารย์รู้ว่ามีดปลิดวิญญาณเล่มนี้เป็นของที่น้องศพให้ผมมา เขาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเล็กน้อย
“เสี่ยวฝาน เมียแกนใช้ได้เลยนะ ถ้าพวกแกอยู่ด้วยกันได้จริงๆ คงเยี่ยมไปเลย! แต่ก็น่าเสียดาย เฮ้อ……”
พอพูดมาถึงตรงนี้ อาจารย์ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
สําหรับการแต่งงานกับผีของผม ตอนนั้นอาจารย์เองก็จําใจต้องทํา แต่เมื่อทําพิธีนี้แล้ว ผมก็ต้องเผชิญหน้ากับผลของการแต่งงานกับผี
ผมยิ้มให้อาจารย์ “อาจารย์ EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq แต่ตอนนี้ผมก็ยังเด็กมากอยู่ไม่ใช่เหรอ และเจ้าการแต่งงานนี้ก็อาจไม่ได้ยุติไม่ได้จริงๆสักหน่อย ไม่แน่วันข้างหน้า เราอาจหาวิธียุติเจอก็ได้ พอถึงตอนนั้น ผมก็จะได้กลับมามีชีวิตอิสระเหมือนเดิม ส่วนน้องศพ ผมคิดว่าชาตินี้คงไม่มีวาสนากับเธอแล้ว !”
พอพูดมาถึงตรงนี้ ผมก็ยิ้มอย่างขมขึ้นครู่หนึ่ง พร้อมหันไปมองทางป้ายวิญญาณมู่หลงเหยียน
คนกับผีมีเส้นทางที่แตกต่าง นี่เป็นสิ่งที่ผมไม่อาจเปลี่ยนได้ ระหว่างผมกับมู่หลงเหยียน มีชะตาที่ไม่อาจไปกันได้กําหนดเอาไว้แล้ว
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่อาจหยุดความรู้สึกชื่นชมที่ผมมีต่อเธอได้
ถึงจะบอกว่าอาจารย์ไม่เคยแต่งงานมาก่อน แต่เมื่อเห็นสายตาเศร้าสร้อย ตอนที่ผมพูดคําพูดประโยคนี้ออกมา
มันก็อาจเป็นเพราะเขารู้สึกได้ว่าผมมีความคิดความรู้สึกกับผีเมียคนนี้ต่างออกไปแล้ว
เขาจึงตบไหล่ผมแล้วพูดว่า “เสี่ยวฝาน อาจารย์จะพูดกับแกสั้นๆ”
พอเห็นอาจารย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง ผมก็เผยท่าทีสงสัยและคิดหนักออกมาเล็กน้อย
ต่อจากนั้นผมก็ได้ยินอาจารย์พูดว่า “ บางครั้งเราก็ตัดสินใจอะไรสักอย่างไม่ได้ แต่พอลองถามลมแล้ว
ลมก็ไม่ตอบ ได้แต่ทําตามเสียงในใจเท่านั้น”
ความหมายของคําพูดประโยคนี้เข้าใจได้ไม่ยาก หรือแม้แต่เป็นอะไรที่ง่ายมาก
ผมเข้าใจค่าพูดของอาจารย์ทันที แม้มันจะไม่ได้ชัดเจน แต่ท่าทางนั่นก็ชัดเจน เขาบอกให้ผมทําตามหัวใจของตัวเอง
นี่ไม่ใช่การยอมรับและสนับสนุน ความรู้สึกที่ผมมีต่อม่หลงเหยียนทางอ้อมเหรอ
แน่นอน มันอาจยังมีความหมายอื่นอยู่ แค่ผมไม่ได้ถาม และอาจารย์เองก็ไม่ได้พูดมากกว่านั้น
ต่อจากนั้น อาจารย์ก็บอกให้ผมพักเยอะๆหน่อยในช่วงหลายวันนี้ บอกว่าถึงผมจะเลื่อนเป็นเต้าชื่อแล้ว
แต่ก็ต้องทํารากฐานให้มั่นคงก่อน
การฝึกของพวกเรา เป็นการฝึกอย่างต่อเนื่อง กระบวนการที่ทําให้ร่างกายแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
หากรากฐานไม่มั่งคง การฝึกในวันข้างหน้า ก็จะยิ่งยากไปกว่าเดิม
สําหรับจุดนี้ ผมเห็นด้วยอย่างแรง
ดังนั้น ช่วงครึ่งเดือนต่อจากนี้ ผมเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้าน ไม่ออกไปไหนเลยสักที
ในเวลาเดียวกัน เรื่องที่พวกเรากังวล ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเลยสักเรื่อง
สําหรับเจ้าปีศาจเสือดาว สาวกสํานักสื่อเย่ องค์กรตาผี กุ่ยซานหยวนและอื่นๆก็ดูเหมือนกับซ่อนตัวอยู่
ทุกอย่างกลับมาสงบสุขเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้ง
แต่พวกเรารู้ดี ว่านี่ก็คือความสงบก่อนที่พายุจะมา