ตอนที่ 517 กู้ภัย
ดึกดื่นป่านนี้ กําลังจะเตรียมตัวเข้านอน จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่ามีคนโทรมา ผมก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย ห้าทุ่มแล้ว ดึกขนาดนี้แล้ว ยังจะมีใครโทรมาหาผมได้ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมความสงสัย แต่เพิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ผมก็อึ้งในทันที บนหน้าจอเป็นเบอร์โทรของอู่ฮุ่ยฮุ่ย
พอเห็นว่าเป็นอู่ฮุ่ยฮุ่ย ผมก็รู้สึกคิดไม่ถึงพอสมควร
เพราะความสําเร็จอันยิ่งใหญ่จากหนังภูติจิ้งจอก ความนิยมของอู่ฮุ่ยฮุ่ยในช่วงนี้จึงมีแต่คําว่า “ปังปังปัง”
บวกกับรูปลักษณ์และทักษะการแสดงของอู่ฮุ่ยฮุยข่มนางเอก เธอเลยดังยิ่งกว่านางเอกของเรื่อง
ไม่เพียงแค่ได้รับงานโฆษณาจากบริษัทในพื้นที่ของเรา เธอยังเข้าร่วมกิจกรรมของร้านค้าหลายแห่งในเมืองเราอีกด้วย
ชื่อเสียงในพื้นที่ของพวกเรา เธอจัดว่าเป็นที่หนึ่งเลย
เธอในตอนนี้ ไม่ใช่คนที่ผมรู้จักในตอนแรก ที่เป็นแค่นักแสดงตัวเล็กๆ เพิ่งเข้าวงการหมาดๆ ตอนนี้ไม่ว่าจะพูดยังไงเธอก็ถือเป็นนักแสดงหมายเลขส์เลขห้าได้
ช่วงนี้เธอน่าจะกําลังยุ่งอยู่ถึงจะถูก แต่ดึกดื่นขนาดนี้ เธอกลับโทรมาหาผมเนี่ยนะ
แม้จะสงสัย แต่ผมก็ยังกดรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
แต่เพิ่งรับสายเท่านั้น ยังไม่ทันได้พูดทักทาย จ่ๆทางอู่ฮุ่ยฮุยก็พูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียงที่หวาดกลัว
“ติง ติงฝาน รีบ รีบมาช่วยฉัน รีบมาช่วยฉัน……”
น้ําเสียงดร้อนรนมาก แต่เธอกลับทําเสียงเบามาก
ราวกับอู่ฮุ่ยฮุ่ยกําลังเจอกับเรื่องอะไรที่น่าหวาดกลัวมากอยู่ เธอถึงได้ไม่กล้าพูดเสียงดัง
เพิ่งได้ยินค่าพูดนี้ ผมก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติทันที
ผมเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที จากนั้นก็พูดว่า “เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม ?” ผมขมวดคิ้ว สัมผัสได้ลางๆว่าต้องเป็นเรื่องไม่ดี
อู่ฮุ่ฮุยยังดูกลัวมาก เธอกดเสียงลงต่า “ฉัน ฉันกลัวมาก……”
พอพูดมาถึงตรงนี้ อู่ฮุ่ยฮุ่ยก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป “ฮือๆๆ” เธอร้องไห้ออกมาทันที
ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องเร่งด่วน เลยถามต่อว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปหาเธอ เดี๋ยวนี้แหละ !”
ผมพูดด้วยน้ําเสียงจริงจังสุดๆ ส่วนทางอู่ฮุ่ยฮุ่ย ดูเหมือนจะหวาดกลัวเหมือนเดิม “ฉัน ฉันซ่อนอยู่ในตู้
ใน ในบ้านฉันมีผี……”
คําพูดนี้เพิ่งหลุดออกมา ในใจผมก็มีเสียงดัง “ถูก” มีผี ทําไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
แม้จะไม่เข้าใจ แต่อู่ฮุ่ยฮุ่ยต้องเจอปัญหาที่ตัวเองจัดการไม่ได้แน่นอน และปัญหาก็ค่อนข้างใหญ่ด้วย
ผมไม่ได้นั่งบนเตียงต่อ เสี้ยววินาทีนั้นผมรีบลุกขึ้น แล้วเดินไปใส่เสื้อผ้าและคุยโทรศัพท์ไปในเวลาเดียวกัน
“ไม่ต้องกลัวนะ ! ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ ยันต์คุ้นครองที่ฉันให้ไว้เมื่อครั้งก่อน เธอยังพกติดตัวเอาไว้หรือเปล่า มีเจ้านั่นอยู่ ผีทั่วไปเข้าใกล้เธอไม่ได้แน่นอน !” ผมรีบพูด
อู่ฮุ่ยฮุ่ยพูดด้วยน้ําเสียงร้องไห้ และพยายามทําเสียงเบาๆ “ฉัน ฉันกําอยู่ มันยืนอยู่ที่ห้องรับแขกหน้าซีดมาก ตายัง ตายังไม่มีนัยน์ตา เท้าลอยเหนือพื้น ฉัน ฉันกลัวมาก ฉันไม่รู้ต้องทํายังไง……”
ผมทําหน้าหนักใจ จากนั้นก็พูดต่อว่า “ไม่ต้องกลัว เธอหยิบยันต์แผ่นนั้นออกมา เอามันไปแปะไว้ที่ประตูตู้ ทําแบบนี้มันจะปกป้องเธอได้ แล้วก็ เธอส่งที่อยู่มา เดี๋ยวฉันก็ไปถึงแล้ว !”
หลังจากพูดจบ ผมก็คว้าดาบ และยังมีพวกยันต์กับของอื่นๆ เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน ผมเลยลืมบอกอาจารย์ ตอนนั้นรีบพุ่งออกจากบ้านไปทันที
อู่ฮุ่ยฮุ่ยกลัวมาก แต่เธอก็ส่งรายละเอียดของที่อยู่ตัวเองมาให้ผม
ที่อยู่คือเมืองภาพยนตร์ แต่ไม่ใช่ตึกเก่าๆที่ฉิงหมิงเฉิวอยู่ มันเป็นตึกในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง
ผมเพิ่งออกมาถึงหน้าบ้าน ก็เดินตรงไปที่รถ จากนั้นสตาร์ทรถ แล้วเริ่มขับไปที่เมืองภาพยนตร์ ทันที
เดิมที่ผมคิดจะปลอบใจอฮียฮุยตลอดทางที่ไป แบบนี้เธอจะได้ไม่ต้องกลัวมาก และผมเองก็จะได้ควบคุมสถานการณ์ฝังนั้นได้
ผลลัพธ์ผมเพิ่งสตาร์ทรถติด ไม่รู้เป็นเพราะอะไร จู่สายผมก็โดนตัดไปดื้อๆ
เดิมที่คิดจะโทรกลับไปอีกครั้ง แต่มันดันเตือนตลอดว่าไม่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ
ผมค่อนข้างร้อนใจ กลัวอู่ฮุ่ยฮุ่ยเป็นอะไรไป
จากที่นี้ ถึงผมจะขับเร็วเว่อร์ขนาดไหน ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
หนึ่งชั่วโมงนี้จะพูดว่าสั้นก็สั้น แต่หากพูดว่ายาวมันก็ยาว
แต่ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นวิญญาณร้ายที่จ้องเอาชีวิตคน ในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงนี้ พวกมันคงก่อเรื่องไม่น้อยอย่างแน่นอน
ผมไม่รู้ว่ายันต์ของตัวเอง จะปกป้องอู่ฮุ่ยฮุ่ยได้นานขนาดไหน เวลาเป็นสิ่งที่กดดันกับผมมาก
ถึงผมจะรีบเดินทางไปจากที่นี่ประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่ถ้าให้หยางเจ่วที่อยู่ในเมืองรีบไปก่อนแบบนั้นเวลาจะที่ใช้จะน้อยลงกว่าเดิมเยอะมาก
จากมหาลัยของเธอ ถ้ารีบหน่อย ก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
ผมไม่ลังเล รีบโทรหาหยางเฉ่วทันที ผมอยากให้หยางเฉ่วไปถ่วงเวลาที่นั่นก่อน
ตอนผมโทรไป หยางเฉ่วนอนเรียบร้อยแล้ว
เธอยังถามผมแบบน้ําเสียงคนง่วงนอนว่าโทรมาทําไม ผมไม่มีเวลามาอธิบายกับหยางเจ่วเลยรีบพูดกับเธอว่า “เกิดเรื่องแล้ว ดูเหมือนอู่ฮุ่ยฮุ่ยจะโดนผีร้ายจ้องเล่นงาน ! เธออยู่ใกล้กว่า เธอรีบไปดูก่อน เดี๋ยวฉันจะตามไปให้เร็วที่สุด !”
“อะไรนะ ? ผีร้าย ?” หยางเนิ่วตื่นทันที ราวกับเธอช็อกไปพักหนึ่ง
“ใช่ ที่อยู่คือตึกในเมืองภาพยนตร์…..”
ผมรีบพูด บอกให้หยางเฉ่วไปที่นั่นก่อน
หยางเฉ่วเองก็ไม่รอช้า บอกว่าจะรีบไปทันที
หลังวางสาย ผมยังโทรไปหาเหล่าเฟิงต่อ
ก่อนหน้านี้เหล่าเพิ่งยังเล่นเกมอยู่กับผมหนึ่งตา ตอนนี้จึงยังไม่นอนเหมือนกัน
หลังรับสายผมแล้ว เขาก็บอกให้ขับรถมารับเขาเลย
พอผมขับรถไปถึงหน้าร้านไปฉาว เหล่าเฟิงก็ยืนอยู่หน้าประตูร้านแล้ว
หลังรับเหล่าเฟิงมาแล้ว ผมก็เหยียบคันเร่ง รีบวิ่งมาที่เมืองภาพยนตร์ทันที
เหล่าเฟิงนั่งอยู่ข้างคนขับ เขาขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ อยู่ดีๆจะมีผีร้ายเข้ามาในบ้านเธอได้ยังไง ?”
พอได้ยินเหล่าเฟิงถามแบบนั้น ผมก็ส่ายหัว สําหรับเรื่องนี้ ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจอยู่เหมือนกัน ส่วนสาเหตุของเรื่องนี้ ผมเองก็ไม่รู้ ตอนนี้รู้แค่ว่ามีผีกําลังจ้องเล่นงานอู่ฮุ่ยฮุ่ยอยู่เท่านั้น
และเมื่อกี้ก็รีบ ผมเลยไม่มีเวลาถาม
เพียงตอบกลับเหล่าเพิ่งไปว่า “ฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ เมื่อกี้ไม่ทันได้ถาม โทรศัพท์ก็โดนตัดสายไปแล้ว
อู่ฮุ่ยฮุ่ยบอกว่า เจ้านั่นยืนอยู่ที่ห้องรับแขก ตอนนี้เธอซ่อนอยู่ในตู้……”
พอเหล่าเพิ่งฟังจบ สีหน้าเขาก็อดบิดเบี้ยวขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ “ ถ้าแบบนั้น เจ้าผีร้ายตนนั้นก็อยู่ในบ้าน
อู่ฮุ่ยฮุ่ยแล้วน่ะซิ พวกเราอยู่ไกลขนาดนี้ คงไปไม่ทัน ”
สิ่งที่ผมกําลังกังวลในตอนนี้ ก็คือเรื่องนี้แหละ
แต่ผมก็ยังพูดกับเหล่าเฟิงว่า “ฉันบอกหยางเจ่วแล้ว ให้เธอเข้าไปก่อน แล้วก็ ในมืออู่ฮุ่ยฮุ่ยยังมียันต์ของฉันอยู่หนึ่งแผ่น หวังว่าเจ้ายันต์แผนนั้นจะถ่วงเวลาได้หน่อย….”
เหล่าเฟิงพยักหน้าเบาๆ ต่อจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
ช่วยคนเหมือนช่วยดับไฟ ผมเยียบคันเร่งจนมิด จนเครื่องยนต์แทบจะระเบิดออกมา
ระยะทางที่ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ผมใช้เวลาไป 50 นาที ก็มาถึงสถานที่ที่อู่ฮุ่ยฮุ่ยอยู่ก่อน
10 นาที
แต่ในระหว่างการเดินทางครั้งนี้ พวกเราไม่ได้รับโทรศัพท์หรือข่าวจากหยางเฉวกับอู่ฮุ่ยฮุ่ยอีกเลย
ผมและเหล่าเฟิงจึงกังวลกันสุดๆ
ในเวลานี้เมื่อรถเพิ่งจอด ผมและเหล่าเฟิงก็รีบคว้าอาวุธแล้วพุ่งเข้าไปในหมู่บ้านทันที
เราสองคนไม่มีบัตรผ่านประตู ได้แต่ปืนเข้าทางก่าแพง
กําแพงรอบๆไม่สูง พวกมันเลยหยุดผมกับเหล่าเฟิงไว้ไม่ได้
หลังผมและเหล่าเฟิงปืนกําแพงเข้ามาแล้ว เราก็มาถึงตึกที่อู่ฮุ่ยฮุ่ยอยู่เร็วมาก ต่อจากนั้น ผมสองคนก็รีบวิ่งไปที่บันไดหนีไฟ
แต่เพิ่งมาถึงสถานที่ ผมและเหล่าเฟิงก็มีนกันทันที
เพราะผมกับเหล่าเฟิงพบว่า ในเวลานี้บนดาดฟ้าของตึกหลังนี้ มีผู้หญิงกําลังยืนอยู่สองคนท่าทางเหมือนพวกเธอกําลังจะกระโดดลงมาจากดาดฟ้า
วันนี้แสงจันทร์ไม่สว่างมาก แต่ผมกับเหล่าเฟิงจ่าพวกเธอได้ทันที
ไม่ใช่ใครอื่น พวกเธอก็คืออู่ฮุ่ยฮุ่ยที่โทรมาขอความช่วยเหลือจากผม และยังมีหยางเฉวที่รู้ข่าวจากผม
แล้วรีบมาช่วยก่อน…..