ตอนที่ 519 ผีร้ายสิงร่าง
เหล่าเฟิงหันหลังในขณะที่อธิบายให้อู่ฮุ่ยฮุ่ยฟัง เสียงเพิ่งเงียบลง เหล่าเฟิงก็ออกแรงอีกครั้ง
แขนอีกข้างหนึ่งของผม ส่งเสียงดัง “บิ๊กก๊ก” มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
แขนหลุดไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ขอแค่ทําให้มันกลับเข้าที่ได้ทันเวลา แขนก็จะกลับมาขยับได้อีกครั้ง
เพียงแต่ตอนเชื่อมกระดูก จะเจ็บมากหน่อย
หลังช่วยต่อแขนให้ผมแล้ว เหล่าเฟิงก็ถอนหายใจออกมา “เหล่าติง นายลองขยับดู ส่วนฉันจะขึ้นไปดูข้างบนก่อน !”
หลังจากพูดจบ เหล่าเฟิงก็ไม่สนใจผมกับอู่ฮุ่ยฮุ่ย รีบวิ่งขึ้นไปบนตึกทันที
เพราะหยางเฉ่วยังอยู่ข้างบน และผีร้ายตัวนั้น ก็อาจยังไม่จากไปยังอยู่ตรงนั้นต่อ
ส่วนผม ก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่งในพุ่มไม้ แล้วขยับแขนทั้งสองข้าง พวกมันยังเจ็บอยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นอะไรมากแล้ว
เนื่องจากช่วยอู่ฮุ่ยฮุ่ยไว้ได้แล้ว และพวกเราสองคนยังไม่ได้เป็นอะไร นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ผมเห็นว่าไม่เป็นอะไรแล้ว เลยลุกขึ้นยืน “โชคดีที่ร่างกายฉันแข็งแรงพอ….”
ผมแขวะตัวเอง หลังจากนั้นก็ก่าลังจะขึ้นไปบนตึก
แต่ในวินาทีที่ผูกขึ้น ผมกลับพบว่าอู่ฮุ่ยฮุ่ยก่าลังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม และใช้ดวงตาอันแดงก่ํามองมาที่ผม
อู่ฮุ่ยฮุ่ยเป็นนักแสดง รูปร่างดีมาก หน้ารูปไข่คงไม่ต้องพูดถึงแล้ว
ตอนนี้เธอกําาลังใส่ชุดนอน และมองผมด้วยดวงตาแดงก่า
หากคนนอกมาเห็นฉากนี้เข้า พวกเขาคงเข้าใจผิดว่าผมไปรังแกเธอ
ผมอึ้งไปพักหนึ่ง “อู่ฮุ่ยฮุ่ย เธอเป็นอะไรไป ?”
ทันใดนั้นในดวงตาของอู่ฮุ่ยฮุ่ย ก็แวววาวขึ้นมา อู่ฮุ่ยฮุ่ยถามผมกลับ “ติง ติงฝาน……”
ในวินาทีนั้น ผมพบว่าน้ําเสียงของอู่ฮุ่ยฮุ่ยเปลี่ยนเป็นน้ําเสียงของคนร้องไห้ คําพูดที่ออกมาก็ไม่ค่อยชัดเจน
เมื่อเห็นถึงตรงนี้ ผมก็เริ่มเข้าใจ เธอคงซาบซึ้งกับการกระทําของผมเมื่อก่อนหน้านี้
เนื่องจากพอเธอโทรมา ผมก็รีบมาทันที และเมื่อกี้ยังช่วยชีวิตเธอเอาไว้อีก แต่ผมกลับยิ้มอ่อน “เรื่องเล็กน่า ถ้าจะขอบใจไม่ต้องแล้วนะ”
ผมตบไหล่เธอ “เรื่องข้างบนยกให้พวกเราจัดการเอง เธอรออยู่นี้แป๊บนึงนะ !”
หลังจากพูดจบ ผมก็รีบขึ้นไปบนตึกทันที
เวลานี้ไม่ใช่เวลามาถนอมบุปผา ช่วยคนสําคัญกว่า ฟ้ารับรู้หากชักช้าในตอนนี้ หยางเจ่วอาจได้เจ็บตัวอีกรอบ
หลังผมรีบขึ้นไปบนชั้นห้า ผมกลับได้ยินเสียงต่อสู้ดังมาเบาๆ
ไม่ใช่แค่นั้น ในชั้นห้านี้ ยังมีพลังหยินที่แรงมากอยู่ด้วย
เห็นได้ชัด ว่าที่นี่มีผีร้ายอยู่ ผมตั้งสติ ไม่กล้าลีลาแต่อย่างใด ต่อจากนั้น ผมก็วิ่งไปตามเสียงต่อสู้ และเจอเข้ากับประตูบานหนึ่ง
และที่นี่ ก็คือห้องของอู่ฮุ่ยฮุ่ย ผมไม่ลังเลเลยสักนิด รีบพุ่งเข้าไปทันที
แต่เพิ่งเข้ามาในห้อง ผมกลับเห็นเหล่าเฟิงกําลังสู้กับหยางเจ่ว หยางเจ่วทั้งตบทั้งกัด สภาพดุร้ายสุดๆ
พอเห็นถึงตรงนี้ สีหน้าผมก็เข้มขึ้น และถามออกไปทันที “เกิดอะไรขึ้น ?”
เหล่าเฟิงมีสีหน้าจริงจัง เขาตอบกลับทันที “หยางเฉวโดนสั่ง เข้ามาช่วยเร็ว เอาเจ้านั้นออกมา……
หลังจากพูดจบ เหล่าเฟิงก็เข้าไปคิดจะโจมตีด้วยยันต์
แต่หยางเฉ่วกลับแคลื่อนไหวเร็วมาก เธอรีบหลบ ขณะเดียวกันมุมปากก็ยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมตวัดมือไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ผมได้ยินเพียงเสียงดัง “ปัก” เหล่าเฟิงโดนซัดกระเด็นออกมา ตัวล้มกระแทกเข้ากับโต๊ะชา
“ปัง” โต๊ะชาแยกออกเป็นชิ้นๆ
เมื่อเห็นถึงตรงนี้ ผมก็โมโหสุดๆ ตะโกนใส่หยางเนิ่วทันที “เดรัจฉาน !”
หลังจากพูดจบ ผมก็หยิบยันต์ออกมา แล้วพุ่งเข้าไปหาหยางเจ่ว
ที่ไม่ใช้ดาบไม้เพราะ กลัวจะไปทําให้หยางเจ่วบาดเจ็บ
เนื่องจากร่างกายนี้ ยังเป็นของหยางเจ่ว
ผมเพิ่งพุ่งเข้าไป หยางเฉวก็หันมามองผมทันที
เธอไม่เพียงไม่หลบ แต่ยังแลบลิ้นออกมาเลียปากสองสามครั้ง บนหน้ายังเปื้อนรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์
พอเห็นสภาพของอีกฝ่าย ผมก็โมโหหนักกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกําลังดูถูกผม ไม่เห็นผมอยู่ในสายตา
ในวินาทีนั้น ผมเปิดใช้พลังทั้งหมด มันเป็นพลังขั้นเต้าชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย
พอเหล่าเฟิงที่เพิ่งลุกขึ้นมาสัมผัสได้ถึงพลังที่ผมปล่อยออกมาในตอนนี้ เขาก็อดทําหน้าตกใจไม่ได้
“เต้าชื่อ นายเลื่อนระดับแล้ว !” ในวินาทีที่เหล่าเฟิงตกใจ ผมก็ได้ลงมือไปแล้ว
ยันต์ตรงเข้าไปที่หน้าของหยางเฉ่ว ส่วนหยางเฉวก็เบี่ยงตัวหลบ จากนั้นก็รีบถีบมาทางผมทันที
การเคลื่อนไหวของเธอเร็วมาก ถ้าเป็นผมเมื่อก่อน คงหลบไม่ทันแน่นอน
แต่ตอนนี้ ผมเป็นคนปราบสิ่งชั่วร้ายขั้นเต้าชื่อ พลังที่มีสูงกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย หลังเห็นทิศทางการโจมตีของอีกฝ่ายแล้ว ผมก็รีบเบี่ยงตัวหลบทันที
เท้าข้างนั้นของหยางเจ่ว ลอยผ่านตัวผมไป
แต่มันยังไม่จบเท่านี้ ผมพลิกมือคิดจะจับขาของหยางเจ่ว ขณะเดียวกันก็ตะโกนออกมาว่า “อ้า !”
ต่อจากนั้น ผมก็ออกแรงเหวี่ยงตัวเธอไปยังโซฟาที่อยู่ข้างๆ
ผีร้ายที่สิงอยู่ในตัวหยางเฉ่ว คงคิดไม่ถึงว่าผมจะทําแบบนั้น หรือไม่ก็คงคิดไม่ถึงว่าผมจะอยู่ในขั้นเต้าชื่อ
มันเลยอดไม่ได้ที่จะตกใจ
แต่ มันช่าไปแล้ว
ได้ยินเพียงเสียงดัง “ปัก” ตัวหยางเฉวโดนผมโยนลงไปบนโซฟาแล้ว
เหล่าเฟิงที่ลุกขึ้นยืน ก็ได้สติกลับมาจากการตกใจแล้ว
เนื่องจากก่อนหน้านี้พลังของผมยังอยู่ต่ํากว่าเขา แต่ตอนนี้ ผมกลับอยู่เหนือเขาแล้ว ขึ้นไปถึงขั้นเต้าซื้อก่อนเขาแล้ว
แต่เหล่าเฟิงไม่ใช่คนลังเล ตอนนี้เขาไม่คิดมาก เขาเด็ดขาดมาก ยกกระจกหยินหยางในมือขึ้น แล้วส่องไปที่อีกฝ่ายทันที
ในขณะเดียวกันก็ตะโกนออกมาว่า “ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพียง !”
ในระหว่างนั้น ภายในกระจกหยินหยาง ก็มีล่าแสงสีขาวปรากฎออกมาทันที
ล่าแสงสีขาวไม่โอนเอียงเลยสักนิด มันพุ่งตรงไปที่หน้าของหยางเฉ่วทันที
หยางเจ่วที่กําลังคิดจะลุกขึ้น กรีดร้องเป็นเสียงผู้ชายออกมาทันที
“อ้า !” เสียงนั่นแสบหูมาก เห็นได้ชัดว่าเขาทรมานมาก
และหน้าของหยางเจ่ว ในตอนนี้กลับมีหน้าของผู้ชายคนหนึ่งซ้อนทับอยู่
แม้แต่ร่างกายของหยางเฉ่ว ก็ยังมีรูปร่างของผู้ชายปรากฏขึ้น
ผมและเหล่าเฟิงเข้าใจดี รูปร่างและหน้าตาของผู้ชายคนนั้น ก็คือผีร้ายที่สิงอยู่ในตัวหยางเฉ่ว เมื่อเห็นถึงตรงนี้ ผมก็ไม่หยุดอยู่กับที่ หลังเค้นเสียงดัง แล้ว ผมก็กระโจนเข้าไปทันที ในขณะเดียวกันผมก็หยิบยันต์แผ่นหนึ่งขึ้นมา แล้วตรงไปแปะลงบนหน้าผากของหยางเจ่ว “เดรัจฉา ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้ !
เสียงเพิ่งเงียบลง ยันต์แผ่นนั้นของผมก็แปะลงบนหน้าผากของหยางเจ่วแล้ว
ยันต์เพิ่งสัมผัสกับหน้าผากหยางเจ่ว พลังของยันต์ก็ระเบิดออกมาทันที
ผีผู้ชายที่สิงอยู่ในตัวหยางเฉ่ว กรีดร้องออกมาอีกครั้ง อ้า……
ต่อจากนั้น ผมก็เห็นร่างอันเลือนลางของใครคนหนึ่ง พุ่งออกมาจากหัวหยางเจ่ว แล้วสุดท้ายก็ไปยืนอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
นี่คือผีผู้ชายตนหนึ่ง เขาใส่ชุดขาว ใบหน้าขาวซีดและดุร้าย ตาปลาตายจองพวกเราตาไม่กระพริบ
ผมมองเขา แล้วถามออกมาตรงๆ “ผีร้ายจากที่ไหนฮะ ? ถึงได้กล้ามาทําตัวโอหังที่นี่ !”
ผีผู้ชายตนนั้นจ้องพวกเรา เขาไม่ได้พูดออกมาในทันที เพียงทําตัวให้ดูดุร้ายกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็ทําเสียง “ฮือๆๆ” ออกมาเบาๆ ราวกับโมโหและไม่พอใจพวกเราสุดๆ
เมื่อเหล่าเฟิงเห็นแบบนั้น เขาก็พูดเพิ่มว่า “เจ้าหมอนี่ คงไม่เหลือสตินานแล้ว อย่าไปพูดได้สาระกับมันเลย เราสองคนเข้าไปพร้อมกัน วันนี้ต้องทําให้มันวิญญาณแตกสลายให้ได้ !”
หลังจากพูดจบ เหล่าเฟิงก็กระตุ้นพลังอีกครั้ง เขาคิดจะลงมือเลย แต่ทันใดนั้นเอง ผีผู้ชายที่ทําหน้าดุ ตัวก็สั่นในทันที
ในระหว่างนั้น เสื้อที่เคยเป็นสีขาว ก็เปื้อนอะไรสักอย่าง มันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอย่างรวดเร็ว
พอเห็นถึงตรงนี้ ม่านตาผมก็ขยายใหญ่ และอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยความตกใจ
“แย่แล้ว มันกําลังจะเลื่อนระดับ กลายเป็นผีร้ายชุดเหลือง….”