ตอนที่ 85 หมาผี
ตอนที่เห็นหัวของหมาบิดไปมา และเมื่อมีเขี้ยวงอกและตาสีขาวโพนที่สามโผล่ออกมา
สิ่งแรกที่ผมคิดถึงก็คือ คำพูดที่มู่หลงเหยียนพูดกับผมเอาไว้ที่สุสาน
ถ้าเจอวิญญาณที่มีสามตา ห้ามทำอะไรมั่วซั่ว ยิ่งไปกว่านั้นห้ามเข้าไปต่อสู้ แถมยังบอกให้ผมวิ่งหนีทันที
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ สีหน้าของผมก็อดไม่ได้ที่จะมืดมนลง
ผมจ้องรูปร่างของหมาดำที่เปลี่ยนไป จากนั้นก็พูดกับอาจารย์ว่า “อาจารย์ นี่มันหมาอะไร ทำไมเหมือนผีชั่วที่ป่าช้าเก่า ที่มันมีตาที่สามโผล่ออกมาด้วยละ”
สีหน้าของอาจารย์ก็ไม่ดีเท่าไหร่ หลังจากได้ยินผมพูด เขาก็แสดงสีหน้ามืดมนเช่นกัน “อย่าพึ่งคิดมาก เจ้าสัตว์เดรัจฉานนี้ไม่ใช่ของดี ก่อนหน้านี้คงกินวิญญาณไปไม่น้อย ถ้าให้มันคาบวิญญาณของยายนี้กลับไปที่ภูเขาได้ เธอจะต้องถูกกินจนไม่เหลือซากแน่! ตอนนี้ฆ่ามันก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน”
หลังจากพูดจบ อาจารย์ก็จับดาบไม้ในมือพุ่งเข้าไปทันที
ผมเองก็ไม่สนใจสิ่งที่มู่หลงเหยียนบอกเอาไว้ มองไปรอบๆ นอกจากสัตว์เดนตายตัวนั้นแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอยู่อีก
แม้ว่าเจ้าสิ่งนี้จะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับมู่หลงเหยียนและโจวหยุน แต่ตอนนี้พวกเราจะต้องทำมันให้จบ ถ้าฆ่ามันแล้ว บางทีอาจจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ก็ได้
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ผมก็กัดฟัน กำดาบไม้ในมือให้แน่นและพุ่งตามเข้าไปทันที
ตอนนี้หมาดำกำลังก้มหัวลง ใช้ดวงตาที่สามจ้องพวกเรา จากนั้นก็คำรามเสียง “ฮือฮือฮือ” ออกมา
เมื่อเห็นอาจารย์พุ่งเข้ามา มันก็เห่า “โฮ่ง” ออกมาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่อาจารย์ทันที
อาจารย์ไม่กล้าลังเล กวาดดาบออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่เจ้าหมาตัวนั้นกลับไม่กลัวเลยสักนิด วินาทีนั้นมันใช้กรงเล็บเข้าฟาดฟันทันที
วินาทีที่เล็บนั้นโค้งลง ผมก็ได้ยินเสียงดัง “ปัง” กรงเล็บของหมาตัวนั้นสัมผัสเข้ากับดาบไม้ตรงๆ
แม้อาจารย์จะจู่โจมแรงมาก แต่ตัวของเขาก็ยังต้องถอยออกมาสองสามก้าว
จากนั้นเจ้าหมานั้นก็เห่า “โฮ่ง” ออกมาทันที มันอ้าปากกว้าง จนราวกับปากนั้นกำลังจะฉีกไปถึงหู เผยให้เห็นปากที่เต็มไปด้วยฟัน
มันเล็งมาที่หัวของอาจารย์ จากนั้นก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
อาจารย์ตกใจ แต่ก็สายเกินไปที่จะหลบพ้น จึงทำได้เพียงถอยหลังไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น
เมื่อเห็นอาจารย์กำลังจะถูกหมากัด ผมก็กังวลขึ้นมาทันที
แต่ผมไม่รอช้ารีบกระโดดขึ้น พุ่งเข้าไปหาอาจารย์ พร้อมกับดาบไม้ในมือ “ไอ้เดรัจฉาน!”
เสียงพึ่งตกลง ผมก็บิดดาบแทงลงไปทันที
เจ้าหมานั้นกำลังเพ่งสมาธิอยู่ที่อาจารย์ จึงไม่ได้สนใจคนที่อยู่ข้างหลังอย่างผม
ทันใดนั้นเสียง “ฉึก” ก็ดังขึ้น ดาบเล่มนั้นแทงเข้าที่หัวของหมาตัวนั้น
เมื่อผมเห็นว่ามันได้ผล ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าดีใจออกมา
แต่เสี้ยววินาทีต่อมา ผมก็กลับมาทำหน้านิ่งอีกครั้ง
เพราะผมพบว่า ดาบไม้ในมือทำร้ายมันไม่ได้เลยสักนิด หัวของมันแข็งราวกับหิวผา
กลับกันยังทำให้หมายิ่งโกรธ ปากของมันเห่า “โฮ่งโฮ่งโฮ่ง” ออกมาด้วยความโมโห
ตาที่อยู่บนหน้าผากของหมา หันมาจ้องผมทันที
สีขาวโพน ไร้ชีวิตชีวา ร่างกายแพร่ไอเย็นออกมา เมื่อเข้ามาอยู่ตรงหน้า ผมก็ยิ่งรู้สึกหนาวไปทั้งตัว
ความรู้สึกตอนที่ถูกจ้อง มันเป็นแรงกดดันที่ต่างออกไปจากเดิม จนผมรู้สึกอึดอัดมากๆ
และหมาชั่วตัวนั้น ก็รีบหมุนตัวอย่างรวดเร็ว เห่าใส่ผม “โฮ่งโฮ่ง” สองครั้ง จากนั้นก็พุ่งเข้ามาหาผมทันที
เจ้านี้เร็วมาก เพียงชั่วพริบตาก็กระโดดขึ้นไปสูงมาก แถมยังอ้าปากกว้างอีก
“เสี่ยวฝานเสี่ยวฝาน!” อาจารย์รีบตะโกนเรียก
ผมตกใจ รีบต้านทานมันเอาไว้
แม้แต่อาจารย์ก็ยังสู้ไม่ไหว แล้วผมจะมีปัญญาไปเอาชนะมันได้ยังไง
สุดท้ายดาบของผม ก็ถูกกรงเล็บของเจ้าหมานั้นปัดออก
ผมรู้สึกได้ถึงพลังที่มหาศาล ผมรู้สึกปวดระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ จากนั้นก็เริ่มรู้สึกถึงอาการชาที่แขน
ดาบไม้ที่อยู่ในมือของผม ได้หลุดลอยออกไปเป็นที่เรียบร้อย
และไม่รอให้ผมได้ตั้งตัว หมาตัวนั้นก็กระโดดขึ้นไปแล้ว มันอ้าปากกว้าง
เมื่อเห็นภาพนี้ ผมก็รีบถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ
ผลลัพธ์กลับบังเอิญมากๆ เท้าผมดันสะดุด ร่างกายจึงส่ายไปมา จนสุดท้ายก็ล้มลงไปกับพื้น
หมาตัวนั้นตกลงมาอย่างราบรื่น มันเข้ามาทับตัวของผมเอาไว้
มันอ้าปากกว้าง เห่า “โฮ่ง” ออกมา และเล็งมากัดที่คอของผม
ผมมองปากที่เต็มไปด้วยฟันอันแหลมคม มันน่ากลัวยิ่งกว่าของผีร้ายซะอีก
ถ้าถูกมันกัดละก็ มีหวังได้ตายทันทีแน่
เพราะทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจารย์เองก็ทำอะไรไม่ได้
ตอนที่มันพุ่งเข้ามากัด เห็นได้ชัดว่ามันลดความเร็วลงหนึ่งระดับ
แต่ขณะที่ทุกอย่างกำลังเกิดขึ้น ภายใต้ความต้องการจะมีชีวิตรอด ผมก็ยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็ว ชกเข้าไปที่กรามของหมาชั่วอย่างแรง
หมาชั่วนั้นมีแรงมหาศาล แม้ว่าจะโดนต่อยไปหนึ่งหมัด แต่ก็หยุดมันไว้ไม่ได้ อีกอย่างสิ่งนี้ยังไม่ทำให้มันรู้สึกเจ็บเลยด้วยซ้ำ
แต่ว่ามันก็สามารถเปลี่ยนทิศทางการโจมตีได้ ในเวลาเดียวกันผมก็หันหน้า หลบการโจมตีของมัน
ส่วนปากใหญ่ๆของหมาตัวนั้น ก็ได้เฉียดคอผมไป อีกนิดเดียวก็เกือบถูกกัดแล้ว
ช่วงเวลานั้น ในที่สุดอาจารย์ก็เข้ามาถึง
อาจารย์เสกคาถาด้วยมือข้างเดียว จากนั้นก็แปะยันต์ไปที่หมาดำ
ทันใดนั้นเสียง “แปะ” ก็ดังขึ้น ยันต์แผ่นนั้นถูกแปะลงบนหลังของหมาดำ
ในเวลาเดียวกัน ผมก็ได้ยินเสียงอาจารย์พูดว่า “ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง อัญเชิญ!”
หลังจากพูดจบ ผมก็ได้ยินเสียงระเบิดดัง “ปัง”
ทันใดนั้นหมาตัวนั้นก็ร้องโหยหวน “เอ๋งเอ๋งเอ๋ง” ออกมาทันที วินาทีนั้นมันถูกแรงระเบิดจนตัวปลิว จนทำให้ร่างของมันสะท้าน ในปากยังร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง
ม่านตาของอาจารย์หดตัวอย่างรวดเร็ว เขารีบใช้โอกาสนี้ ให้เป็นประโยชน์
เมื่ออาจารย์เห็นแบบนั้น ก็เตรียมเข้าไปแทงซ้ำ ฆ่าเดรัจฉานที่กินวิญญาณคนเป็นอาหารให้ตาย
แม้เจ้าเดรัจฉานนั้นจะบาดเจ็บ แต่มันยังไม่ตาย
เมื่อเห็นอาจารย์เข้ามา เจ้าหมานั้นก็พยายามลุกขึ้นมา
มันจ้องผมและอาจารย์อย่างไม่ละสายตา จากนั้นก็หมุนตัวกลับ วิ่งทะลุพุ่มไม้และตรงขึ้นบนเขาทันที
อาจารย์ไม่ยอมแพ้ ยังคงวิ่งตามขึ้นไป
ตอนแรกผมก็คิดจะไล่ตามไป แต่พึ่งตามไปได้ไม่กี่ก้าว อาจารย์กลับพูดว่า “เสี่ยวฝาน แกพาวิญญาณของยายหนิวกลับไปก่อน ไอ้เดรัจฉานนั้นบาดเจ็บ แค่อาจารย์คนเดียวก็พอแล้ว!”
หลังจากพูดจบ ร่างของอาจารย์ก็หายแวบ เข้าไปในพุ่มไม้ทันที
เมื่อได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ผมก็หันไปมองพื้นที่ที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ยายหนิวจับที่ขาของตัวเอง และร้องไห้ “ฮือฮือฮือ” ออกมาอย่างต่อเนื่อง
แม้หมาชั่วนั่นจะร้ายกาจ แต่เมื่อโดนยันต์ของอาจารย์เข้าไป ก็ถือว่ามาถึงจุดสิ้นสุดของมันแล้ว
อาจารย์แค่คนเดียวก็น่าจะสามารถจัดการได้ ดังนั้นผมจึงไม่ตามไป แต่หันหลังไปหาวิญญาณของยายหนิว
เมื่อผมมาถึงด้านหน้าของยายหนิว ก็พบว่าถึงย่าหนิวจะเป็นผี แต่ตอนนี้เท้าทั้งสองข้างของเธอ กลับเหมือนมีเลือดไหลนองออกมา แต่มันไม่ใช่เลือด
“ยาย ยังเดินไหวอยู่ไหมครับ” ผมพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
“เจ้าหนู ฉันเดินไม่ไหวแล้ว แต่ฉันยังไม่อยากถูกเจ้าหมานั่นกิน ช่วยพาฉันกลับไปหน่อยนะ! ลูกชายของฉันจะต้องตอบแทนเธออย่างดีแน่!” คุณย่าหนิวพูดด้วยความเจ็บปวด
“ยายวางใจได้เลย ผมจะไปส่งยายเองครับ!” หลังจากพูดจบ ผมก็นั่งยองๆ ให้คุณยายขึ้นมาบนหลัง
ย่าหนิวขอบคุณผมอย่างมาก จากนั้นก็ขึ้นมาบนหลังของผม
บอกว่าผมเป็นคนดี จะแนะนำหลานสาวให้ผมเอาไปแต่งเมีย
ผมทำหน้าอึดอัดใจ มียัยมู่หลงเหยียนเจ้าอารมณ์อยู่ ผมจะกล้าแต่งเมียได้ยังไงละ
ผมหัวเราะแห้งๆ บอกกับยายว่า ขอบคุณครับ แต่ไม่เป็นไรดีกว่า
จากนั้นก็แบกยายแก่คนนี้ไว้บนหลัง เดินตรงกลับมายังงานศพ
เพราะยายคนนี้เป็นผี ดังนั้นจึงไม่มีน้ำหนักอะไร ผมรู้สึกเพียงแค่ว่าด้านหลังเย็นๆ และมีอะไรกำลังลอยอยู่เท่านั้น……