ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 111 หลอกล่อ

ข่ายพลังกลางอากาศแปรเปลี่ยนเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง เวลาเพียงไม่ถึงชั่วครู่ ลักษณะเดิมของจวนตระกูลอวี๋ก็ปรากฏขึ้น ขึ้นมาตามขอบข่ายที่ข่ายพลังครอบคลุมยิ่งหดเล็กลง พลังสีดำด้านในเริ่มปั่นป่วนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง มันโจมตีข่ายพลังที่อยู่บนท้องฟ้า แต่ว่าข่ายพลังระดับสวรรค์ไม่สามารถทำลายได้ง่ายดาย พลังสีดำพวกนั้นเพียงแต่ทำลายข่ายพลังไม่ได้ อีกทั้งยังถูกข่ายพลังตีสลายไปอีก  

 

 

เหวินชิงมองดูข่ายพลังบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าซับซ้อน นี่เป็นเพียงข่ายพลังที่ผนึกโดยพลังลมปราณเท่านั้น หากใช้พลังเทพ…แม้แต่เทพก็คงหลุดออกมาไม่ได้ เขามีความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่อาจแทรกแซงเข้าไป ทำได้เพียงยืนดูคนทั้งสิบกว่าคนร่วมมือกันสร้างข่ายพลังอยู่ด้านข้างเท่านั้น  

 

 

ชือเซียวด้านในถูกบีบบังคับจนลนลาน ภายในข่ายพลังมีเสียงร้องโหยหวนแหลมบาดหูลอยออกมา ทำให้คนที่ได้ยินนั้นขนลุกซู่ แต่ว่ายิ่งพลังสีดำนั้นอยากหนีมากเท่าไหร่ ข่ายพลังก็รัดแน่นขึ้นมากเท่านั้น สุดท้ายร่างสีดำร่างหนึ่งก็ปรากฏอยู่ตรงกลาง แต่เนื่องจากรอบตัวห่อหุ้มไปด้วยแรงอาฆาต ทำให้ไม่สามารถมองเห็นหน้าตาของอีกฝ่ายได้ รู้เพียงว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงสาว มีผมยาวสีดำจรดพื้น ดวงตาส่องประกายแสงสีแดงอย่างประหลาด และกำลังจ้องเขม็งผู้คน  

 

 

ทุกคนต่างรู้สึกสั่นสะท้านภายในใจ นาทีถัดมาก็ได้ยินเสียงโกรธเคืองของอีกฝ่ายดังขึ้น “หึ พวกมนุษย์ต่ำตม พวกเจ้าทำอะไร?!” พูดจบนางก็สะบัดพลังสีดำขนาดใหญ่ออกมาพุ่งตรงไปยังข่ายพลัง นางราวกับใช้สุดแรง เห็นเพียงแต่พื้นหญ้าที่พลังสีดำนั้นพัดผ่านล้วนแห้งเหี่ยว ตามมาด้วยเสียงกระแทกของพลังสีดำกับข่ายพลัง  

 

 

ผู้อาวุโสที่รักษาตาข่ายพลังอยู่ทางตะวันตกนั้นรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างมหาศาลพุ่งตรงมา ทันใดนั้นรู้สึกถึงพลังในร่างกายปั่นป่วน ขาสั่นจนถอยออกไปหนึ่งก้าว ข่ายพลังสั่นไหวไปทีหนึ่ง แต่เขาก็กัดฟันกลืนเลือดในปากลง  

 

 

“ผู้อาวุโสหลี่!” เจ้าสำนักสวีตกใจ ข่ายพลังขังวิญญาณถึงแม้จะเป็นข่ายพลังระดับสวรรค์ แต่อีกฝ่ายเป็นถึงแม่ทัพผี หากนางโจมตีตาข่ายพลังหนึ่งอย่างสุดพลัง อย่างไรก็มีผลกระทบ ดังนั้นเขาจึงรีบตะโกนเสียงดัง “เปลี่ยนกลับไปเป็นข้อที่สาม”  

 

 

ทุกคนไม่มีความลังเล รีบทำการแปรเปลี่ยนข่ายพลังทันที ส่วนเจียวเหิงอีที่อยู่ด้านหลังผู้อาวุโสหลี่ก็รีบเดินหน้าขึ้นหนึ่งก้าว สลับตำแหน่งกับเขา ทันใดนั้นข่ายพลังบนฟ้านอกจากไม่แตกร้าวแล้ว ยังแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย ส่วนตาข่ายพลังที่ชือเซียวกว่าจะหาออกมานั้นก็หายไปโดยปริยาย พลังสีดำที่นางปล่อยออกมา ถูกแสงสีขาวโดยรอบดันกลับไป  

 

 

“อ๊ากกก…” ชือเซียวส่งเสียงร้องอย่างทรมานออกมา เมื่อมองดูข่ายพลังที่หดเล็กลงเรื่อยๆ สีหน้าของนางยิ่งมีความโกรธมากขึ้น ร่างกายของนางเริ่มบิดเบี้ยว ดวงตาสีแดงคู่นั้นยิ่งน่ากลัว “พวก…พวกมนุษย์บังอาจทำกับข้าเช่นนี้! พวกเจ้าต้องชดใช้!” เสียงของนางแหลมราวกับคมมีด ทำให้คนที่ได้ยินนั้นรู้สึกวิงเวียน  

 

 

เจ้าสำนักสวีผงะไป ก่อนที่จะตั้งสติได้ เขาดึงพลังลมปราณออกมาก่อนจะตะโกนเสียงดัง “ระวังการโจมตีทางเสียงของนาง! อย่าฟังเสียงของนาง ตั้งใจวางข่ายพลัง!”  

 

 

ทุกคนต่างตะลึง ก่อนที่จะได้สติกลับมา ไม่คิดว่าแม่ทัพผีที่ร่ำลือกันนั้นจะน่ากลัวแม้กระทั่งเสียง โชคดีที่ทุกคนมีความระวังกันตั้งแต่แรก สับสนแค่ชั่วครู่ก็ตั้งสติขึ้นได้ ก่อนจะรีบรัดข่ายพลังให้แน่นขึ้น!  

 

 

“อ๊าก…” ข่ายพลังยิ่งรัดแน่น ชือเซียวก็ยิ่งทรมาน แสงบนข่ายพลังล้วนเป็นศัตรูของแรงอาฆาตบนตัวนาง ไม่ว่านางจะโจมตีอย่างไร พลังผีพวกนั้นเมื่อกระทบเข้ากับข่ายพลังก็จะสลายหายไปในทันที อีกทั้งพวกเขายังร่วมมือกันสิบกว่าคน ครอบคลุมจวนตระกูลอวี๋ที่ใหญ่โตไว้ในข่ายพลัง ไม่หลงเหลือแม้แต่ร่อง ทำให้ชือเซียวหาโอกาสหนีไม่ได้  

 

 

สีหน้าของชือเซียวโกรธเคืองมากขึ้น นางโจมตีข่ายพลังอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเห็นว่าร่างกายของตนกำลังจะหายไปในข่ายพลัง นางก็หยุดลง ดวงตาสีแดงเลือดกวาดตามองผู้อาวุโสสิบกว่าคน ก่อนจะยกยิ้มขึ้นมา พร้อมพูดขึ้น “โง่เขลา พวกเจ้าคิดว่าข่ายพลังนี้สามารถทำอะไรข้าได้หรือ เฮอะๆๆ …”  

 

 

นางหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา ภายในน้ำเสียงเต็มไปด้วยเจตนาร้าย เจ้าสำนักสวีใจสั่นเทา ก่อนจะตะโกนบอกทุกคนเสียงดัง “เร็วเข้า เก็บข่ายพลัง!” ไม่ว่านางคิดจะทำอะไร จะปล่อยให้นางหนีออกไปจากที่นี่ไม่ได้  

 

 

ผู้อาวุโสทั้งหลายได้ยินดังนั้นจึงรีบท่องคาถา นาทีถัดมาข่ายพลังรัดแน่น เพิ่มความเร็วในการหดตัวเข้าไปยังศูนย์กลาง  

 

 

พลังสีดำด้านในสลายเร็วยิ่งขึ้น จนแทบจะกวาดเข้าไปบนตัวของชือเซียวที่อยู่ตรงกลาง แต่นางกลับไม่แม้แต่จะหลบ ดูเหมือนกับว่านางจะยอมแพ้ แต่รอยยิ้มมุมปากนั้นกลับลึกมากขึ้น เมื่อเห็นแสงจากข่ายพลังกำลังจะกลืนกินร่างกายของนาง เสียงเย็นยะเยือกของชือเชียวก็ดังขึ้นอีกครั้ง  

 

 

“เฮอะๆๆ …ข้าเกิดจากแรงอาฆาต หากแรงอาฆาตไม่หมดไป ข้าก็จะเป็นอมตะ!”  

 

 

พูดจบ ร่างของนางก็เหมือนกับเงาที่จางลง หายไปกลางข่ายพลังอย่างกะทันหัน ราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน  

 

 

หายไปแล้ว!  

 

 

ทุกคนตกตะลึง ทันใดนั้นรู้สึกเหมือนหัวใจตกลงไปอยู่ในก้นเหว  

 

 

เหวินชิงที่ดูสถานการณ์อยู่ด้านข้างเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ สีหน้าของเขาซีดเผือด ก่อนจะตะโกนออกมา “แย่แล้ว! ศิษย์หลาน!” พูดจบเขาก็หันไปยังทิศทางที่เพิ่งจากมา ก่อนจะหายตัวไปในทันที  

 

 

“แย่แล้ว!” เหล่าผู้อาวุโสก็หน้าซีดเผือดไป ก่อนจะตั้งสติได้ พวกเขารีบวิ่งกลับไปทางที่จากมา บางคนถึงขั้นใช้ยันต์ชั่วขณะ  

 

 

พวกเขาประมาทมากเกินไป! เมื่อเห็นว่าทางนี้มีแรงอาฆาตเข้มข้นมากที่สุด จึงมั่นใจว่าชือเซียวต้องหลบซ่อนอยู่ในจวนตระกูลอวี๋เป็นแน่ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ข่ายพลังล้อมจวนตระกูลอวี๋เอาไว้ ดูเหมือนจะไร้ทางหนี แต่กลับลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดไปอย่างหนึ่ง ชือเซียวไร้รูปร่างที่แท้จริง มันสามารถอาศัยแรงอาฆาตรอบด้านในการย้ายตำแหน่ง ดูจากสถานการณ์เมื่อครู่ อีกฝ่ายคงจะรับรู้ตั้งแต่แรกว่าพวกเขากำลังวางข่ายพลัง ดังนั้นจึงได้ย้ายร่างจริงไปยังที่อื่นก่อนแล้ว มีเพียงร่างแยกของแรงอาฆาตของนางที่หลงเหลือไว้ที่นี่  

 

 

ทั้งเมืองทางตะวันตก นอกจากจวนตระกูลอวี๋แล้ว ตำแหน่งที่มีแรงอาฆาตมากที่สุดก็คือ…ตำแหน่งที่สหายอวิ๋นอยู่ในตอนนี้  

 

 

นางกำลังรักษาผู้รอดชีวิตภายในเมือง ดึงแรงอาฆาตที่เกิดจากคำสาปสาวหวาออกจากร่างกายของพวกเขา คนสองคนยังพอว่า ตอนนี้ผ่านไปหลายชั่วยามแล้ว ปริมาณแรงอาฆาตที่ดึงออกมา…  

 

 

ทุกคนต่างรู้สึกว่าใจตกหล่นลงไป พวกเขารีบวิ่งมาทางนี้ แต่เสียดายที่สายเกินไป เห็นเพียงแต่แรงอาฆาตที่พุ่งทะยานขึ้นฟ้านั้นรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเมือง เหมือนกับก้อนเมฆดำพุ่งไปยังกลุ่มคนที่รวมตัวกันอยู่นอกเมือง เสียงได้ใจของชือเซียวดังขึ้นกลางอากาศ  

 

 

“ฮ่าๆๆๆ …พลังชีวิตสุดท้ายในเมืองนี้ ข้าขอนะ!”  

 

 

“ศิษย์หลาน!” เหวินชิงเป็นคนแรกที่ปรากฏที่ประตูเมือง แต่ว่าไม่ทันการ เขาเห็นเพียงแรงอาฆาตก้อนใหญ่มุ่งตรงไปยังกลุ่มคน เหวินชิงรู้สึกเย็นวาบขึ้นในใจ ความสิ้นหวังผุดขึ้นมา แย่แล้ว! เขารู้สึกได้ว่าครั้งนี้อาจารย์ต้องถลกหนังเขาเป็นแน่!  

 

 

เมื่อเห็นแรงอาฆาตสีดำก้อนนั้นกำลังจะกลืนกินคนนับร้อยบนพื้น  

 

 

ทันใดนั้นแสงสีขาวสว่างขึ้น ราวกับคลื่นทะเลที่ซัดกลับไปทางท้องฟ้า ก่อนจะสลายพลังสีดำไปจนหมดสิ้น  

 

 

“อ๊ากกก!!!!” เสียงร้องโหยหวนอย่างทรมานกว่าครั้งก่อนหลายร้อยเท่าดังก้องไปทั่วเมืองตะวันตก ร้องอย่างน่าเวทนา น่าอนาถ…  

 

 

ชือเซียวที่ได้ใจเมื่อครู่ราวกับลูกเจี๊ยบที่ชนเข้ากับไฟแรงดันสูง นางร่วงลงมาจากบนท้องฟ้า ก่อนจะกลิ้งกลับเข้าประตูเมืองไป  

 

 

เหวินชิง “…”  

 

 

เหล่าผู้อาวุโสที่เพิ่งวิ่งมาถึง “…”  

 

 

เอ๊ะ???  

 

 

(⊙_⊙)  

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset