ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 128 เทพเจ้า

ทันใดนั้นเหวินชิงมีความรู้สึกมากมายผุดขึ้นมา รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง หานซูเป็นศิษย์เอกของเขา อีกฝ่ายกำเนิดในครอบครัวที่มีฐานะไม่ดี แต่ว่านิสัยไม่เลว เขาจึงให้ความสำคัญกับศิษย์คนนี้อย่างมาก

ดังนั้นเขากับศิษย์พี่สองมาสืบเรื่องของชือเซียวในยมโลกกับหานซูโดยตรง ไม่คิดว่าต่อหน้าอีกฝ่ายทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่ลับหลังกลับวางกับดักให้พวกเขาตกเข้าสู่ข่ายพลังทำลายเทพ หากไม่ใช่ศิษย์พี่สองคอยคุ้มกัน เขาคงจะตายอยู่ที่นี่เป็นแน่ สุดท้ายอีกฝ่ายก็ไร้วิธี ถึงได้ขังพวกเขาไว้ในนี้ ค่อยๆ ทรมานพวกเขาจนตาย

รับศิษย์เนรคุณเช่นนี้ เขาเสียใจอย่าง ก่อนว่าอีกฝ่ายภายในใจเป็นพันหมื่นครั้ง แต่ศิษย์หลานกลับบอกเขาว่า คนนั้นไม่ใช่หานซู อีกทั้งหานซูมีความเป็นไปได้ว่าถูกทำร้ายเมื่อหลายเดือนก่อนแล้ว และผู้อาจารย์อย่างเขายังไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย

ทันใดนั้น อารมณ์แปรเปลี่ยนเร็วเกินไป รู้สึกปวดตึบที่หน้าอกขึ้นมา พร้อมกับสงสัยความเหมาะสมในการเป็นอาจารย์ของตนเอง นึกถึงเรื่องสำนักไท่ชิงที่ดับสูญไปเมื่อหลายพันปีก่อน พร้อมทั้งสีหน้ารังเกียจของอาจารย์ตนเอง ความเชื่อมั่นภายในใจก็หดเล็กลงไปเหลือเท่าเม็ดงา ก่อนจะจมอยู่ในความรังเกียจตัวเอง

“ลืมบอกท่านไป” อาจเป็นเพราะสภาพของเขา อวิ๋นเจี่ยวจึงอดไม่ได้ที่จะพูดเตือนขึ้น “ตราประทับสี่เหลี่ยมครั้งก่อน ยังมีเสี้ยววิญญาณของหานซูหลงเหลืออยู่ ข้าเก็บมันเอาไว้ อาจช่วยเขาได้!”

“จริงหรือ!” เหวินชิงตะลึง สีหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ

“เจ้าพูดจริงหรือ” เถิงสีที่อยู่ด้านข้างก็ตกตะลึงเช่นกัน “ศิษย์พี่หานของข้ายังมีเสี้ยววิญญาณหลงเหลืออยู่?”

“อืม” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า หาชายแก่แอบซ่อนไว้ได้ดี ไม่ถูกอาจารย์ปู่ตบให้แหลกไปก่อน

ทั้งสองคนโล่งใจในทันใด แค่มีเสี้ยววิญญาณอยู่ ก็ยังพอจะมีความหวัง สักวันคงจะรวบรวมวิญญาณให้ครบ

ศิษย์พี่สองที่อยู่ด้านข้างเหวินชิงหันไปมองเถิงสี นึกบางอย่างได้ก่อนจะพูดขึ้น “เจ้าเป็นลูกศิษย์ของศิษย์พี่หลงฉาง?”

“พวกเจ้ารู้จักอาจารย์ข้า!”

เถิงสีผงะ เห็นได้ชัดว่าการสนทนาเมื่อสักครู่ไม่ได้ทำให้เขาเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้

“แน่นอน!” อีกฝ่ายยิ้มพร้อมพยักหน้า  “อาจารย์ของเจ้ามาจากสำนักเดียวกับพวกข้า อีกทั้งยังเป็นศิษย์พี่ของพวกข้า”

“เช่นนั้นท่านก็คือ…” เถิงสีเพิ่งจะรู้ตัว เขามองไปทางเหวินชิงด้วยความตกตะลึง เขารู้ว่าอาจารย์ศิษย์พี่หานเป็นคนของสวรรค์ แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ของยมโลกและสวรรค์ที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้เขาไม่เคยพบอาจารย์ของอีกฝ่ายมาก่อน ไม่คิดว่าจะเจอหน้ากันในสถานการณ์เช่นนี้ เขาเกาหัวด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย อีกทั้งยังพยุงคนอยู่ทำให้ไม่สะดวกทำความเคารพ จึงทำได้เพียงพยักหน้า “เถิงสีทักทายอาจารย์อาทั้งสอง”

เหวินชิงยังคิดจะถามเรื่องของหานซูต่อ อวิ๋นเจี่ยวกลับดึงเข็มบนตัวพวกเขาคืนมา หยุดการรักษาชั่วราว “ที่นี่พลังวิญญาณหนักไป ไม่เหมาะกับการรักษาพวกท่าน ตอนนี้พวกท่านน่าจะขยับได้แล้ว เรื่องอื่นหรือให้ออกไปก่อนค่อยว่ากันต่อเถอะ”

เหวินชิงกับศิษยพี่สองสบตากัน ก่อนจะพบว่าตนเองสามารถลุกขึ้นยืนได้แล้ว ความเจ็บปวดบนร่างกายก็ลดลงไปไม่น้อย เหมือนกับถูกอะไรบางอย่างปิดกั้นความเจ็บปวดไปชั่วคราว อีกทั้งเส้นชีพจรหัวใจเหมือนกำลังฟื้นฟูอย่างเชื่องช้า

ศิษย์พี่สองมองไปยังอวิ๋นเจี่ยวอย่างประหลาดใจเล็กน้อย เขาได้ยินเพียงเหวินชิงเรียกนางว่าศิษย์หลาน แต่เขาไม่เคยหน้าของนางมาก่อน คิดว่าคงจะเป็นลูกศิษย์ของศิษย์น้องคนใดคนหนึ่ง แต่เมื่อครุ่นคิดดูแล้ว บรรดาศิษย์น้องของตนมีคนไหนที่มีวิชาทางการรักษาเก่งกาจถึงเพียงนี้กัน

เหวินชิงเหมือนกับคุ้นเคยอย่างยิ่ง เขาลุกขึ้นยืนขึ้นทันที ก่อนจะพยักหน้าอย่างแรง “ใช่ๆ ต้องรีบออกไป ศิษย์หลาน พวกเราควรเดินไปทางไหน” เขาถามอวิ๋นเจี่ยว มองว่าอีกฝ่ายเป็นผู้นำไปโดยอัตโนมัติ

ศิษย์พี่สองมองอวิ๋นเจี่ยวอย่างตกตะลึงอีกครั้ง ที่สำคัญคือทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์กลับไม่รู้สึกประหลาดใจที่เหวินชิงถามความเห็นของอวิ๋นเจี่ยวเป็นคนแรก อีกทั้งยังหันไปมองอีกฝ่ายด้วยความเชื่อใจ

“กลับไปยังทางแยกสามทางนั้นก่อนเถอะ” อวิ๋นเจี่ยวตอบกลับ ต้องมีสักเส้นที่ออกไปได้

คนที่เหลือพยักหน้าเห็นด้วย เหวินชิงและศิษย์พี่สองเพิ่งก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว ทันใดนั้นบริเวณรอบด้านสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง ห้องหินที่พังทลายไปแล้วหนึ่งชั้นมีหินหล่นลงมามากยิ่งขึ้น ผนังหินบริเวณโดยรอบมีพลังวิญญาณซัดเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ห้องที่สว่างจ้าพลังลมปราณด้านบนมืดลงไปทันตา

ราวกับมีอะไรบางอย่างถูกกระตุ้น เสียงร้องคำรามดังขึ้น พลังวิญญาณมากมายรวมตัวกันเป็นรูปร่าง

ศิษย์พี่สองสีหน้าเปลี่ยนไป “แย่แล้ว! ราชาผี!”

“หานซู” ที่วางกับดักพวกเขาให้ราชาผีมาเฝ้าพวกเขาที่นี่ หากพวกเขาจากไปจะปลุกมันตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป หากไม่ใช่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหวินชิงและศิษย์พี่สองคงไมเกรงกลัวราชาผี แต่ตอนนี้พวกเขาแม้จะยืนยังลำบาก อย่าว่าแต่รับมือกับราชาผีเลย

“ข้ารับมือกับมันเอง!” เถิงสีส่งหานซูให้เจียวเหิงอีที่อยู่ด้านหลัง หยิบมีดยาวออกมาพร้อมกับฟาดฟันไปยังฝ่ายตรงข้าม เห็นเพียงแต่มีดยาวนั้นลุกโชนไปด้วยเปลวไฟขึ้นมาในทันตา ก่อนจะฟันเข้าที่ราชาผีที่ใกล้จะรวมตัวเป็นรูปร่างสำเร็จ

พลังวิญญาณถูกตีสลายไปในทันที แต่ไม่ถึงชั่วครู่ พลังเหล่านั้นกลับรวมตัวขึ้นอีกครั้ง อีกทั้งยังเร็วและมากกว่าเดิม เปลวไฟที่เถิงสีเรียกออกมา ไม่เพียงแต่หยุดยั้งอีกฝ่ายไม่ได้แล้ว ยังทำให้พลังวิญญาณของอีกฝ่ายแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้” เขาผงะไป มองไปยังราชาผีที่รวมตัวกันอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเหลือเชื่อ

“ราชาผีตัวนี้ผิดปกติ!” ศิษย์พี่สองสีหน้าเปลี่ยนไป พลังนี้ไม่เหมือนกับพลังวิญญาณในยมโลก ราวกับมีพลังบางอย่างปะปนอยู่ในนั้น ไม่อาจแยกออกได้ “ศิษย์หลานสี รีบกลับมา”

เถิงสีกำลังจะถอยกลับมา ราชาผีนั้นกลับปล่อยพลังสีดำกลุ่มหนึ่งออกมาทางเขา เขาใช้มีดต้านเอาไว้ พลังสีดำที่เดิมทีสามารถสลายได้อย่างง่ายดายกลับทะลุไปที่เขา ก่อนจะโจมตีเข้าที่หน้าอกของเขาราวกับไร้สิ่งกีดขวาง

เขาตกใจอย่างมาก รีบถอยหลังในทันที แต่ว่าไม่ทันการ สายตาของเขามองเห็นพลังวิญญาณกลุ่มนั้นกำลังจะทะลุหน้าอกไป เจียวเหิงอีที่เฝ้าจับตาดูสนามรบอยู่ตลอดเวลานั้นท่องคาถา เสกเกราะกำบังขึ้นมากั้นระหว่างเถิงสีและราชาผี

ตามมาด้วยเสียงดัง แขนของราชาผีนั้นถูกเกราะกำบังของเจียวเหิงอีตัดขาด เถิงสีคุกเข่าลงกับพื้น ถึงแม้หัวหน้าห้องเจียวช่วยได้ทันเวลา แต่ก็ยังช้าไปเล็กน้อย ร่างวิญญาณของเถิงสีถูกราชาผีโจมตีโดน หน้าอกของเขาปรากฏพลังสีดำขึ้นมาก้อนหนึ่งทันที มันเหมือนกับมีฤทธิ์เป็นกรด กำลังแผ่ขยายไปบริเวณโดยรอบ

อวิ๋นเจี่ยวรีบหยิบยันต์ป้องกันออกมาห้อมล้อมทั้งห้าคนเอาไว้ แต่เนื่องจากหยิบออกมาด้วยความรีบร้อน เถิงสีถูกแสงบนยันต์ป้องกันตีโดนไปครั้งหนึ่ง เขาหดขาข้างหนึ่งตามสัญชาตญาณ ก่อนจะมองอวิ๋นเจี่ยวด้วยสีหน้าตกตะลึง จากนั้นมองไปยังหัวหน้าห้องเจียวที่กำลังเสกคาถาอยู่ด้านนอก “วิชาเสวียน?! พวก…พวกเจ้าเป็น…คน?” นี่คือวิชาของลูกศิษย์แห่งเสวียนเหมินโดยเฉพาะ!

“อืม คนเป็นร้อนเปอร์เซ็นต์!” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า ไม่สนใจเจ้าไซบีเรียที่รู้ตัวช้า เธอตรวจดูบาดแผลของเขาอย่างละเอียด ก่อนที่สีหน้าจะจริงจังมากกว่าเดิม

“…” เถิงสีตกตะลึงอย่างมาก คนของสวรรค์ก็แล้วไป อย่างน้อยพวกเขาก็มีความสามารถที่จะมายังยมโลก แต่ทำไมคนธรรมก็มาได้?

(⊙_⊙)

“อย่าขยับ!” อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้อธิบาย พบว่าพลังสีดำของราชาผีกำลังกลืนกินร่างวิญญาณของเถิงสี หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของราชาผี

ราชาผีของยมโลกมีความสามารถถึงเพียงนี้?

ใจของเธอหนักหน่วง รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง กำลังจะฝังเข็ม แต่เมื่อครุ่นคิดแล้วก็เปลี่ยนเป็นเข็มทองชุดพิเศษที่อาจารย์ปู่ให้เอาไว้ เถิงสีไม่เหมือนกับเหวินชิง เขาเป็นร่างวิญญาณโดยสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังไม่ใช่ร่างสามหยิน เข็มเงินใช้กับเขาไม่ได้

อวิ๋นเจี่ยวพยายามหยุดการขยายของพลังสีดำ ส่วนเหวินชิงกำลังมองเจียวเหิงอีที่รับมือกับราชาผี ศิษย์พี่สองหันไปมองเหวินชิงด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “ศิษย์น้อง เขา…ที่เขาใช้คงจะไม่ใช่…คาถาเสวียนซิน?!” ตั้งแต่เมื่อไรกันที่ศิษย์เสวียนเหมินสามารถฝึกคาถาเสวียนซินได้ง่ายเช่นนี้

“…อืม” เหวินชิงพยักหน้ารับ เขาไม่อยากจะบอกศิษย์พี่ของตนเองว่า ตอนนี้โลกมนุษย์ไม่ว่าใครก็ฝึกคาถาเสวียนซินได้ นอกจากนี้ยังมีคาถาฟ้าประทาน คาถาห้าธาตุ คำสาปหยินหยาง…

ทางเจียวเหิงอีเริ่มรับมือไม่ไหว คาถาเสวียนซินแม้จะเก่งกาจ แต่เขาก็เป็นเพียงเทียนซือธรรมดา พลังมีจำกัด รับมือกับราชาผีคนเดียวถือว่าฝืนมากแล้ว อีกทั้งราชาผีตัวนี้ยังมีความแปลกประหลาด

เจียวเหิงอีทำได้เพียงถอยกลับเข้าไปในยันต์ป้องกันของอวิ๋นเจี่ยว เมื่อเห็นว่าราชาผีกำลังเข้าใกล้ อีกทั้งจะทะลุเกราะป้องกันเข้ามาแล้ว “สหายอวิ๋น บนตัวท่านยังมียันต์วิเศษหรือไม่” เขาถามอย่างร้อนรน

อวิ๋นเจี่ยวพลางฝังเข็มให้เถิงสี พลางวางข่ายพลังป้องกัน ได้ยินคำถามจึงส่ายหน้า กำลังจะบอกเขาว่าราชาผีไม่อาจโจมตีเข้ามาได้ อาศัยจังหวะนี้วางข่ายพลังทำลายล้างก่อน

เขากัดฟันหยิบยันต์สองใบสุดท้ายในตัวออกมา “ไม่มีวิธีแล้ว ตอนนี้คงทำได้แค่ลองดู” เขาใช้ยันต์วิเศษภายในมือ ก่อนจะท่องพึมพำ “หวังปรมาจารย์คุ้มครอง เห็นแก่ความศรัทธาของลูกศิษย์ สามารถทำได้สำเร็จ!” พูดจบ พลางท่องคาถาพลางตะโกน

“ประตูสวรรค์และปฐพี สิ่งมีชีวิตทั่วหล้า กำจัดมารปราบปีศาจ อัญเชิญเทพเจ้า! ลูกศิษย์เหิงอี ใช้ยันต์อัญเชิญเทพเจ้านี้ ขออัญเชิญปรมาจารย์ไท่ชิงซู่เสีย ท่านเทพเจ้าเหวินชิงปรากฏกาย กำจัดมารปราบปีศาจ!”พูดจบ ยันต์นั้นส่องแสงสว่างสีทองขึ้นมา ราวกับไฟฉายส่องไปยัง…บนตัวของเหวินชิง!

อวิ๋นเจี่ยว: “…”

ศิษย์พี่สอง: “…”

ท่านเทพเหวินชิง: “…”

ส่วนเจียวเหิงอียังไม่รู้สึกว่ายันต์อัญเชิญเทพเจ้าที่ตนเองใช้ในตอนนี้ผิดปกติอย่างไร เพียงแค่คิดว่าไม่สำเร็จ จึงทำการใช้อีกใบ พร้อมทั้งเปลี่ยนประโยค

“ประตูสวรรค์และปฐพี สิ่งมีชีวิตทั่วหล้า กำจัดมารปราบปีศาจ อัญเชิญเทพเจ้า! ลูกศิษย์เหิงอี ใช้ยันต์อัญเชิญเทพเจ้านี้ ขออัญเชิญเทพเจ้าหยวนเต๋อกว่างเซิ่ง ท่านปรมาจารย์หยวนเจียงปรากฏกาย กำจัดมารปราบปีศาจ!”

อวิ๋นเจี่ยว: “…”

เหวินชิง: “…”

ปรมาจารย์หยวนเจียง: “…”

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset