ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 134 ศึกษาโจทย์ยาก

อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าตื่นเต้นของไป๋อวี้ ครุ่นคิดสักพักก่อนจะตอบตามความจริง “ยกตัวอย่าง ใยคาถาเสวียนซินมีบทสายฟ้า ในนั้นมีคาถาเกี่ยวกับการเรียกสายฟ้า ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถเรียกสายฟ้าที่ต้องการออกมาได้อย่างแม่นยำ”

“ที่แท้ก็คาถาเรียกสายฟ้า ง่ายมาก!” ชายแก่ยิ้มอย่างได้ใจ บทสายฟ้าเป็นบทที่เขาชำนาญที่สุด เพราะว่าตอนที่ทดสอบการขึ้นทะเบียนทำให้เขาฝังใจ อีกทั้งสายฟ้ายังเป็นศัตรูตัวฉกาจของสิ่งชั่วร้าย ดังนั้นเขาจึงฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ชำนาญอย่างยิ่ง เขาไม่ได้โม้ ถ้าให้เขาแข่งกับท่านอาวุโสแปดดอกไม้ในสำนักเทียนซือ วิชาสายฟ้าของเขาก็คงไม่แพ้เหมือนกัน

“แค่ก!” เขากระแอมไอเบาๆ ทีหนึ่ง พยายามข่มความได้ใจภายในใจ เขาลูบคลำหนวดเคราพร้อมทำสีหน้าห่วงใยคนรุ่นหลัง ก่อนจะอธิบายอย่างจริงจัง “วิชาเรียกสายฟ้านี้ เป็นเพียงพื้นฐานในบทสายฟ้าเท่านั้น ระดับความยากไม่มาก อีกทั้งไม่จำเป็นต้องสูญเสียพลังลมปราณภายในร่างกายมาก สิ่งสำคัญคือควบคุมพลังลมปราณสายฟ้ารอบด้าน จากนั้นใช้คาถาใยการชักนำ สายฟ้าก็จะก่อตัวขึ้นเอง!”

อวิ๋นเจี่ยวราวกับนึกอะไรขึ้นได้ ความสงสัยในดวงตายิ่งมากขึ้น “ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่ทุกครั้งที่ข้าลองเหมือนกับ…ผิดปกติ” เธอพูดเพียงครึ่งเดียวก็หยุดลง เหมือนกับสงสัยอะไรบางอย่าง สุดท้ายถอนหายใจออกมา “ข้าอธิบายไม่ได้ ช่างเถอะ ข้าไปถามอาจารย์ปู่ดีกว่า!”

“เอ่อ…อย่าสิ!”  ชายแก่รีบรั้งคนเอาไว้ “เรื่องเล็กแค่นี้ไม่จำเป็นต้องรบกวนอาจารย์ปู่”

“แต่ว่า…”

“วางใจเถอะ!. เขาตบอกตัวเองอย่างแรง “มอบให้ข้า…ข้าจะสอนคาถาเรียกสายฟ้าให้เจ้าเอง” ไม่รอเธอเปิดปาดพูด เขารีบลากอีกฝ่ายเดินไปทางสวน “มา ตอนนี้ข้าจะสอนเจ้า”

“ชายแก่…”

“เจ้าหนู…เจ้าเชื่อข้า!” ไม่รอเธอพูดจบ ไป๋อวี้ใช้น้ำเสียงคนผ่านมาก่อนพูดต่อ “ที่จริงแล้วคาถาที่เห็นในตำรานี้ แตกต่างจากที่ใช้จริงอย่างมาก เจ้าดูข้าคาถาเสวียนซินท่องมากี่ปีแล้ว ตอนนี้ก็ฝึกได้ถึงขั้นที่สี่เท่านั้น ดังนั้นข้าคิดว่า เจ้าหนู เจ้าแค่ขาดการฝึกฝน หากฝึกฝนให้มากก็ต้องทำได้แน่”

อวิ๋นเจี่ยวกวาดตามองเขาอย่างสงสัย “จริงหรือ”

“แน่นอน!” เขาพยักหน้าอย่างแรง “คาถาเรียกสายฟ้าที่จริงง่ายมาก ตอนนั้นอาจารย์ปู่ฟาดใส่ข้าจนข้าทำได้ จะให้ข้าสาธิตให้เจ้าดูก่อนหรือไม่ ไม่แน่ว่าเจ้าดูแล้วจะทำได้เลย”

อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้ารับ “ได้!”

ชายแก่เดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าว พลางท่องคาถาพลางชักนำพลังลมปราณภายในร่างกาย ก่อนจะพูดเสียงดัง “เสวียนซินสั่ง สายฟ้าสวรรค์ ลงมา!”

นาทีถัดมา ได้ยินเพียงเสียงฟ้าร้องดังขึ้น ก่อนที่จะมีสายฟ้าสีขาวฟาดลงมายังด้านขวาของสวน ระเบิดออกเป็นหลุมขนาดเล็ก

“เป็นอย่างไรเจ้าหนู ดูเข้าใจหรือไม่” ชายแก่หันไปมองอวิ๋นเจี่ยว ยิ้มด้วยความเมตตา แต่ในน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความได้ใจ

อวิ๋นเจี่ยวสีหน้าไม่เปลี่ยน ยังคงส่ายหน้า “ไม่!”

“ไม่เป็นไร ข้าสาธิตให้เจ้าดูอีกครั้ง” พูดจบเขาก็เสกคาถา ก่อนที่จะมีสายฟ้าฟาดลงมาอีกครั้ง “ดูชัดหรือยัง”

“ยัง!” เธอส่ายหน้า

“ข้าลองอีกครั้ง เจ้าดูให้ชัด”

ครั้งที่สาม…

“ยังไม่ได้! ท่านเสกอีกครั้ง”

ครั้งที่สี่…

“เมื่อกี้กะพริบตา ไม่ทันมอง”

ครั้งที่ห้า…

“ท่านยืนไปทางขวาหน่อย ข้าจะได้ดูชัดๆ”

ครั้งที่…

“หรือไม่พวกเราเปลี่ยนสวน ท่านเสกอีกสักสองสามครั้ง?”

ไป๋อวี้ที่เหนื่อยอย่างมาก: “…”

(╯°Д°)╯︵┻━┻

เจ้าจงใจใช่หรือไม่ ใช่แน่นอนเลย

“ไม่ได้ ข้าเสกไม่ไหวแล้ว…” พลังลมปราณมากแค่ไหนก็คงจะรับมือไม่ไหว ชายแก่นั่งลงบนพื้นหญ้าโดยตรง อารมณ์ได้ใจหายไปจนหมดสิ้น มองไปยังอวิ๋นเจี่ยวที่ยังคงสงสัยด้วยความตัดพ้อ ไหนบอกเป็นเทพแห่งการเรียน “เจ้าไม่เข้าใจตรงไหน”

“น่าจะเป็น…การควบคุมพลังลมปราณ?” อวิ๋นเจี่ยวตอบด้วยความลังเลเล็กน้อย

“พลังลมปราณเพียงแค่ชักนำก็พอแล้วไม่ใช่หรือ ไม่ต้องควบคุมอะไรเลย” เขาหอบหายใจหนัก ก่อนจะโบกมือ “หรือไม่เจ้าหนู เจ้าลองเองเลย ดูข้าเรียกสายฟ้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร”

“ข้า?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ

“ใช่ ไม่แน่เจ้าอาจทำได้แล้ว” เขาเสกต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ

“คงไม่ได้”

“ไม่ลองเจ้าจะรู้ได้อย่างไร” เขาพูดโน้มน้าวต่อ “ต้องฝึกฝนถึงจะคล่องแคล่ว ฝึกฝนมากจึงจะเป็นการดี”

อวิ๋นเจี่ยวหันกลับมามองเขาด้วยสายตาประหลาด “ท่านแน่ใจ?”

“แน่นอน!” เขาพยักหน้ารับ “ลองดูๆ มีข้าคอยดูอยู่ ไม่มีปัญหา”

ดวงตาของอวิ๋นเจี่ยวมีความลังเล สักพักเธอเดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าว ถอนหายใจยาว “ได้”

เธอเดินไปยังตรงกลางสวน สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ยกมือขึ้นเสกคาถาเหมือนกับชายแก่ เพียงแต่เทียบกับชายแก่ ท่าทางของเธอกลับอ่อนระทวย ราวกับไม่มีแรง ตามมาด้วยเสียงท่องคาถา “เสวียนซินสั่ง สายฟ้าสวรรค์ ลงมา!”

ทันทีที่พูดจบ บริเวณรอบข้างเงียบสนิท ไม่มีเสียงของสายฟ้าแม้แต่นิดเดียว

ไป๋อวี้มองท่าทางที่ยังคงค้างอยู่ของอวิ๋นเจี่ยว ทันใดนั้นก็รู้สึกใจอ่อนขึ้นมา เขาเดินขึ้นหน้าปลอบใจ “ไม่เป็นไร ครั้งแรกไม่สำเร็จเป็นเรื่องธรรม…”

“ยังไม่ถึง” เขายังพูดไม่ทันจบ อวิ๋นเจี่ยวก็พูดขัดขึ้น

“ฮะ?” ไป๋อวี้ผงะ หมายความว่าอะไร

“ต้องใช้เวลาหน่อย”

“อะไร”

“ตอนนี้มาแล้ว!”

“…”

ไป๋อวี้ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ทันใดนั้นท้องฟ้าเปล่งประกายแสงสีขาวขนาดใหญ่ ตามมาด้วยเสียงดังมหึมา เห็นเพียงแต่สายฟ้าขนาดใหญ่สีขาวฟาดลงมาจากฟ้า

เขารู้สึกเพียงลายตา นาทีถัดมา สวนกว่าครึ่งหนึ่งพร้อมทั้งพำนักหลายด้านหลังของห้องตำรากลายเป็นเถ้าถ่านในชั่วพริบตา อารามที่ถูกเหวินชิงซ่อมแซมอย่างสวยงามพังทลายไปกว่าครึ่ง หลงเหลือเพียงพื้นดินสีดำที่แผ่กลิ่นไหม้ออกมา

คางของไป๋อวี้ตกลงมาในทันใด ตาเบิกโตอย่างเหลือเชื่อ สติหลุดลอยไป

ต้องเป็นเพราะวิธีการลืมตาของเขาไม่ถูกเป็นแน่!

“เฮ้อ” อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจยาว ก่อนจะพูดขึ้น “ข้าบอกแล้ว คาถาเรียกสายฟ้าฝึกฝนยาก!”

ไป๋อวี้: “…”

นี่คือ…คาถาเรียกสายฟ้า??!!

เจ้ากำลังหลอกข้า!

w(゚Д゚)w

คาถาเรียกสายฟ้าบ้านใครเป็นแบบนี้?! เจ้าแอบไปทำลายลังของเทพเจ้าแห่งสายฟ้ามาอย่างแน่นอน?!

อย่าโจมตีเด็กเรียนแย่แบบนี้สิ!

***

สักพัก

อวิ๋นเจี่ยวมองไปยังพื้นดินที่ไหม้เกรียมด้วยความลังเล

“ตาแก่”

“อ้า! ฮะ?”

“เจ้าว่า หากให้อาจารย์อาออกมาจากห้องใต้ดินก่อนกำหนดจะเป็นไปได้หรือไม่” อย่างเช่นออกมาซ่อมแซมอารามทำนองนี้? อืม แบบทนต่อสายฟ้าหน่อย

ไป๋อวี้: “…”

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset