ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 152 มีคนส่งข่าว

ทุกคนล้วนรู้สึกว่า ที่ชวีฉิวหมิงสามารถดูดพลังวิญญาณและพลังปีศาจได้ เป็นเพราะว่าผนึกบนตัวเขาเขา หลักฐานคือตั้งแต่ผนึกนั้นหายไป ชวีฉิวหมิงราวกับไม่มีความสามารถวิเศษนั้นอีก

เพียงแต่ผนึกนั้นหายไปเร็วเกินไป ไม่มีใครรู้ว่ามันคือผนึกอะไร ใครเป็นคนปิดผนึกให้เขา

“ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าผนึกเพียงอันเดียวจะสามารถกำจัดพลังวิญญาณและพลังปีศาจได้” เจ้าสำนักสวียิ่งคิดยิ่งรู้สึกประหลาด

“อาจจะไม่ใช่การกำจัด” อวิ๋นเจี่ยวพูดขึ้น

ทุกคนผงะไปในทันใด ก่อนจะหันมามองเธอพร้อมกัน “ไม่ใช่กำจัด?” หมายความว่าอะไร

“ยังจำนายพรานคนนั้นได้หรือ” เธอพยักหน้า “ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”

เจ้าสำนักสวีไม่เข้าใจความหมายของเธอ แต่ก็ยังคงตอบคำถาม “ลูกศิษย์มารายงานว่า เขาฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่บาดแผลต้องใช้เวลาในการรักษา”

“อย่าลืม ก่อนที่ชวีฉิวหมิงจะรักษา ในร่างกายของเขายังคงมีเสี้ยวพลังชีวิตอยู่” อวิ๋นเจี่ยวมองพวกเขา “พวกท่านไม่รู้สึกว่าเขาฟื้นเร็วเกินไปหรือ”

ทุกคนตะลึง ทันใดนั้นเข้าใจในทันที ใช่! ตอนที่นายท่านอวี๋ต้องคำสาปสาวหวานั้น ในร่างกายของเขาก็เหลือเพียงเสี้ยวพลังชีวิตเช่นนั้น แต่ว่าเขานอนสลบอยู่กว่าครึ่งเดือนถึงจะฟื้น แต่ร่างกายของนายพรานนี้ไม่เหมือนกับลูกศิษย์เสวียนเหมินที่ผ่านการฝึกฝน กลับใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็ฟื้นขึ้น

“ท่านหมายความว่า…” เจ้าสำนักสวีเบิกตาโต “ชวีฉิวหมิงเรียกพลังชีวิตเขากลับมาด้วย!”

“ไม่!” อวิ๋นเจี่ยวส่ายหัว “ข้าหมายถึง ความสามารถของฉิวหมิงไม่ใช่การกำจัดพลังวิญญาณและพลังปีศาจ แต่เป็นการถ่ายพลังชีวิตเข้าร่างกายของอีกฝ่าย”

“…” เฮ้ย! ทำไมถึงเป็นพลังชีวิตอีกแล้ว

เจ้าสำนักสวีและคนอื่นล้วนตะตกลึง แต่เมื่อครุ่นคิดแล้วก็มีเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นพลังวิญญาณหรือว่าพลังปีศาจ เมื่อมันรุกรานเข้าร่างกายมนุษย์ ก็จะกลืนกินพลังชีวิตคนผู้นั้น หากความสามารถของชวีฉิวหมิงเป็นการถ่ายพลังชีวิตจำนวนมากเข้าร่างกาย เช่นนั้นพลังวิญญาณและพลังปีศาจในร่างของอีกฝ่ายก็จะถูกขับไล่ออกไป ดูแล้วเหมือนกับกำจัดทิ้งไป!

“แต่ว่า” เจ้าสำนักชิวหวาจิ้นซ่างเหมือนนึกอะไรขึ้น ถามขึ้น “แล้วผีเสื้อน้อยล่ะ? พลังปีศาจบนตัวนางเกิดอะไรขึ้น” พลังของนาถูกดึงออกมา

“อาจเป็นเพราะว่านางเป็นปีศาจ!” อวิ๋นเจี่ยวพูดต่อ “ชวีฉิวหมิงทำได้เพียงเรียกคืนพลังชีวิตของคน”

ทุกคนถึงได้กระจ่างแจ้ง พลังชีวิตของปีศาจและคนแตกต่างกัน ชวีฉิวหมิงถ่ายพลังชีวิตของคนเข้าร่างของปีศาจ ทำให้ขับไล่พลังปีศาจออกมา ทำให้ผีเสื้อน้อยที่มีพลังต่ำนั้นดูเหมือนคนธรรมดา นอกจากอวิ๋นเจี่ยวที่เปิดตาทิพย์แล้ว ไม่มีใครสามารถรู้ตัวตนที่แท้จริงของนางได้

“หากพูดเช่นนี้…” มีเจ้าสำนักอดอุทานออกมาไม่ได้ “วิชาของชวีฉิวหมิงยังพอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง เสียดายที่ผนึกนั้นหายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นอาจรักษาคนได้มากขึ้น…”

“ไม่แน่!” อวิ๋นเจี่ยวโต้แย้งขึ้น

“ทำไม”

อวิ๋นเจี่ยวมองเขายังจริงจัง ก่อนจะอธิบาย “เขาสามารถถ่ายพลังชีวิตของคนเข้าร่างกายของคนอื่นได้ แต่พวกท่านไม่สงสัยหรือว่าพลังชีวิตพวกนี้มาจากไหน”

ทุกคนผงะ ทันใดนั้นสีหน้าเปลี่ยนไป จริงสิ พลังชีวิตไม่ใช่กุยช่ายที่สามารถเก็บเกี่ยวได้เป็นกอบเป็นกำ เมื่อพลังชีวิตสลายไป ทำได้เพียงค่อยๆ เลี้ยงกลับมา อย่างชวีฉิวหมิงที่ยัดมั่วแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่พลังชีวิตเดิมของคนเหล่านั้น อย่างน้อยไม่ใช่ของปีศาจผีเสื้อ! เช่นนั้น ลังชีวิตเหล่านี้มาจากไหน หรือ…ของใคร?

พวกเขายิ่งคิดยิ่งกังวล เจ้าสำนักชิวหวาลุกพรวดขึ้นทันที “ไม่ได้ ข้าต้องไปเมืองเถียนฟางดูอาการของคนที่เขารักษาก่อนหน้านี้อีกครั้ง”

เจ้าสำนักสวีพยักหน้า ก่อนจะเรียกหมอรักษาพลังลมปราณมาอีกสองคนตามเขาไป จากนั้นส่งข่าวไปทั่วเสวียนเหมิน หากพบเจอความผิดปกติ ให้รีบรายงานขึ้นมา

ทันใดนั้นทั้งเสวียนเหมินตกอยู่ในความวุ่นวาย แม้แต่เรื่องการทดสอบขึ้นทะเบียนก็รีบเร่งขึ้นมา

อวิ๋นเจี่ยวกลับนึกถึงเรื่องของชือเซียว ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพลังชีวิตเหมือนกัน เธอรู้สึกว่าผนึกแปลกประหลาดบนตัวชวีฉิวหมิงอาจมีความเกี่ยวข้องกับยมโลก

ผนึกแสดงถึงพลังของคน ตัวผนึกนั้นไม่มีประโยชน์อะไร เพียงแต่สามารถทำให้เกิดความเชื่อมโยงบางอย่างกับคนที่ต้องผนึกเท่านั้น เหมือนกับตอนที่เธอถูกอาจารย์ปู่ดึงกลับมาจากยมโลก อาจารย์ปู่ต้องเคยลงผนึกไว้บนตัวเธอ ดังนั้นถึงสามารถใช้คาถาขนส่งระหว่างสองโลกได้

เพียงแต่ผนึกของชวีฉิวหมิงหายไปรวดเร็วเกินไป เนื่องจากมุมที่เธอยืนนั้น ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัด

ครุ่นคิดอยู่สักพัก เธอตัดสินใจว่าหลังจากคุมสอบเสร็จ ต้องกลับไปถามอาจารย์ปู่ ผนึกของคนแบบไหนถึงจะสามารถฟื้นคืนพลังชีวิตได้ในชั่วพริบตา

แต่ยังไม่รออวิ๋นเจี่ยวคุมสอบเสร็จ ทางชิงหยางกลับเร่งให้เธอกลับไป

“เจ้าหนู อาจารย์อาหยวนเจียงบอกว่ามีคนมาหาเจ้า ถามว่าเจ้ามีเวลากลับไปหรือไม่” ชายแก่พลางถือยันต์ส่งสาร พลางหันมาถาม

“ใคร” อวิ๋นเจี่ยวผงะ คนที่เธอรู้จักมีไม่มาก คนที่สามารถหาไปถึงชิงหยางยิ่งนับนิ้วได้

“ไม่รู้” ชายแก่ส่ายหัว “อาจารย์อาหยวนบอกเพียง มาจากด้านล่าง รอเจ้าอยู่สองวันแล้ว ราวกับมีเรื่องด่วน!”

“ด้านล่าง?” เธอผงะไป ยมโลก?

เมื่อนึกถึงเหวินชิงที่หายไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่า เธอจึงส่งต่อการทดสอบการขึ้นทะเบียนให้ชายแก่คิดจะกลับไปดู โชคดีที่สำนักเทียนซือมีข่ายพลังขนส่ง กลับไปได้สะดวก

เมื่อเดินไปถึงตำหนักในสำนักชิงหยาง เธอก็เห็นหยวนเจียงและชายหนุ่มในชุดยาวสีดำนั่งอยู่ด้านใน ด้านหน้าของทั้งสองคนยังกองเต็มไปด้วยยันต์วิเศษ พวกเขากำลังช่วยกันตรวจดู

“อาจารย์อาหยวน?” ทั้งสองคนตรวจอย่างตั้งใจเกินไป ไม่ได้สังเกตเห็นเธอแม้แต่น้อย เธอจึงทำได้เพียงส่งเสียงเรียก

“ศิษย์หลานกลับมาแล้ว” หยวนเจียงมองเธอ จากนั้นยิ้มอย่างเป็นมิตรพร้อมกับหมุนพู่กันในมือ กากบาทใส่ยันต์วิเศษในมือ จากนั้นเขียนประโยคหนึ่งไว้ด้านหลัง: คัดหนึ่งร้อยรอบ ก่อนที่จะวางไว้ด้านข้าง และลุกขึ้นยืน “เขาคือลูกศิษย์ของเหวินชิง มาส่งข่าวแทนเขา”

ชายชุดดำด้านข้างยืนขึ้น”ศิษย์น้องอวิ๋น!”

“ท่านคือ…จี้ฉี?” อวิ๋นเจี่ยวพูด

ชายหนุ่งผงะไปเล็กน้อย ดวงตาฉายแววตะลึง “เจ้ารู้จักข้า?”

“เคยได้ยินอาจารย์เหวินพูด” เหวินชิงบ่นถึงลูกศิษย์ทั้งสองในยมโลกไว้มาก หนึ่งในนั้นคือหานซู ส่วนอีกคนคือจี้ฉี คนตรงหน้ามีพลังวิญญาณแผ่อยู่รอบตัว อีกทั้งยังมาจากยมโลก ตัวตนของเขาก็เดาได้ไม่ยาก “ท่านมีธุระอะไรกับข้า”

“ข้ามาส่งข่าวแทนอาจารย์” จี้ฉีตอบ “อาจารย์บอกว่าท่านไม่อาจหลุดออกมาได้ในเวลานี้ อาจต้องอยู่ต่ออีกสักพัก ดังนั้นจึงมอบหมายให้ข้ามาส่งข่าว” พูดจบเขาก็ยื่นจดหมายในมือออกมา

หลุดออกมา? หมายความว่าอะไร

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset