เบาะแสที่ท่านยมราชซิวหลิงสามารถให้ได้มีน้อยมาก นอกจากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นปีศาจไม้แล้ว ก็รู้เพียงอีกฝ่ายชื่อหลินติง ร้อยปีก่อนถูกพากลับมาจากป่าโบราณวั่นกู่ทางด้านใต้ของโลกปีศาจ แต่ร่างจริงของอีกฝ่ายเป็นปีศาจอะไรยังไม่แน่ชัด
อวิ๋นเจี่ยวไม่คุ้นเคยกับโลกปีศาจ สถานที่แห่งเดียวที่เคยไปคือราชวังปีศาจ ดังนั้นพวกนางจึงมุ่งตรงไปยังราชวัง เมื่อราชามารเห็นพวกเขาก็รีบเดินออกมาต้อนรับ
“หมออวิ๋น ท่านมาได้อย่างไร! ไม่เจอกันนาน ท่านสบายดีหรือไม่” ราชามารยิ้มด้วยความดีใจ เพียงแต่สายตาอดมองไปด้านหลังของนางไม่ได้ “ท่านมาคนเดียวหรือ ข้างหลังยังมีคนอีกหรือไม่ จะมาถึงเมื่อไหร่”
หยวนเจียง “…”
ไป๋อวี้ “…”
พวกเขาไม่ใช่คน?
ราชามารหาอยู่สักพัก เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอื่น ถึงได้หันหน้ากลับมาด้วยความผิดหวัง ก่อนจะเหลือบเห็นชายหนุ่มที่ทำหน้าตาเย็นชายืนอยู่ด้านข้าง เขาผงะไปเล็กน้อย “เอ๊ะ? เฉินเอ๋อร์! เจ้าฝึกฝนอยู่ตำหนักหลังไม่ใช่หรือ ทำไมอยู่กับหมออวิ๋นได้”
มองดูคนที่ขมวดคิ้วมุ่นเตรียมจะอาละวาด ทั้งสามคนรู้สึกใจสั่นขึ้นมาในทันที โชคดีที่อวิ๋นเจี่ยวตั้งสติได้เร็ว นางรีบบังสายตาราชามารเอาไว้ “เรื่องนี้ไม่สำคัญ!” นางรีบเบี่ยงเบนประเด็น “ท่านราชามาร พวกข้ามาครานี้มีเรื่องอยากจะขอให้ท่านช่วย”
ราชามารถูกเบี่ยงเบนความสนใจทันที ก่อนจะถามออกมาอย่างสงสัย “หืม? เรื่องอะไร”
“พวกข้าอยากรู้ว่าท่านรู้จักปีศาจไม้ที่ชื่อหลินติงหรือไม่ พลังของเขาเก่งกาจ ไม่รู้ว่าท่านเคยได้ยินไหม” อวิ๋นเจี่ยวถาม
“หลินติง?” ราชามารครุ่นคิด ก่อนจะส่ายหัว “ชื่อนี้ข้าได้ยินเป็นครั้งแรก เพียงแต่ปีศาจไม้…” เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที สีหน้าของเขาลังเลเล็กน้อย
“มีอะไรพิเศษเหรอ” อวิ๋นเจี่ยวถาม
ราชามารถอนหายใจ ก่อนจะอธิบาย “พืชไม้ถึงแม้จะมีอายุยืนนาน เพียงแต่หากจะมีความคิดของตนเองได้กลับยากลำบาก จะกลายเป็นปีศาจยิ่งน้อย ด้วยเหตุนี้ พืชไม้ที่กลายเป็นปีศาจได้นั้นล้วนเป็นปีศาจเก่งกาจของพื้นที่ ถึงแม้จะเป็นระดับต่ำ แต่ก็เพียงพอที่จะมองข้ามเหล่าปีศาจได้ เพียงแต่พืชไม้ไร้หัวใจ อีกทั้งเผ่าพันธุ์ของพวกมันยังเป็นต้นไม้ที่ไม่อาจเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นถึงแม้จะฝึกฝนจนเป็นปีศาจ แต่พวกมันก็ไม่ชอบจับกลุ่มกับปีศาจอื่น อีกทั้งไม่รับคำสั่งจากโลกปีศาจ ดังนั้น…” เขามองไปทางอวิ๋นเจี่ยวอย่างเสียใจ “เรื่องของปีศาจไม้ ข้าคงจะช่วยอะไรไม่ได้”
ทั้งสามคนสีหน้าหนักใจ หมายความว่าแม้แต่ราชามารก็ไม่รู้เรื่องของอีกฝ่าย อวิ๋นเจี่ยวครุ่นคิด ก่อนจะถามต่อ “เช่นนั้นท่านเคยได้ยินเรื่องของป่าโบราณวั่นกู่หรือไม่ นั่นเป็นสถานที่แบบไหน”
“ป่าโบราณวั่นกู่!” ราชามารเบิกตาโตในทันที สีหน้าตกตะลึง
“ท่านรู้?”
ราชามารสีหน้าเปลี่ยนไป สายตาของเขาแปลกประหลาด คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้น ก่อนจะพูดออกมา “นั่นเป็นป่าไม้ทางตอนใต้สุดของโลกปีศาจ เล่ากันว่าหลายหมื่นปีก่อน ที่นั่นเคยเกิดสงครามใหญ่ และเป็นสถานที่ที่ราชามารองค์แรกเสียชีวิต จนกระทั่งตอนนี้ สถานที่แห่งนั้นยังคงเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังปีศาจปะปนกับลมพายุ ดังนั้นปีศาจทั่วไปไม่กล้าเข้าใกล้ที่นั่น”
“ราชามารองค์แรก?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ
“ใช่แล้ว เล่ากันว่านางคือปีศาจไม้เช่นกัน” ราชามารมองพวกนางด้วยสายตากังวล “หมออวิ๋น ป่าโบราณวั่นกู่อันตรายเกินไป พวกท่านอย่าเข้าใกล้จะดีกว่า”
“ขอบคุณที่เตือน” อวิ๋นเจี่ยวกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็ถามเรื่องเกี่ยวกับป่าโบราณวั่นกู่และปีศาจไม้อีกหลายเรื่อง เสียดายที่ราชามารรู้ไม่มาก พวกนางจึงตัดสินใจขอตัว
ราชามารกลับลุกขึ้นยืนอย่างรีบร้อน ก่อนจะรั้งพวกนางไว้ “หมออวิ๋นจะไปแล้วหรือ ท่านไม่มาโลกปีศาจนาน ไม่อยู่ต่ออีกเสียหน่อย?”
“ไม่ ขอบคุณ”
“ไม่ใช่…” เขายิ่งรีบร้อน “อยู่ต่ออีกหน่อยเถอะ อีกสักพักก็พอ”
“ไม่ต้องจริงๆ !” ราชามารชอบรับแขกขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“ต้องๆ ! ท่านรออีกหน่อย”
“ยังมีธุระ ไม่รอแล้ว!”
“อย่าสิ รออีกหน่อย ไม่แน่ว่าจะมีคนมา?!”
“ฮะ?” ใครมา
“คนที่ต่อยข้าครั้งที่แล้ว!” ทันใดนั้นดวงตาของเขาเป็นประกาย สีหน้าแดงก่ำ ทั้งๆ ที่เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ แต่กลับทำท่าทีเขินอายบิดไปบิดมา “แค่เพียงท่านอยู่ที่นี่ เขาจะต้องมาต่อยข้าอย่างแน่นอน ข้าเตรียมตัวไว้แล้ว อ้า คิดถึงจังเลย”
อวิ๋นเจี่ยว “…”
ท่านเป็นพวกชอบถูกทารุณกรรม?
凸(艹皿艹)
อีกทั้งราชามารยังไม่รับรู้ เขายังคงทำหน้าตาหลงใหล เขายังคงพูดต่อ “ความรู้สึกตอนที่เขาต่อยข้า ข้ายังจำได้ถึงตอนนี้ หมออวิ๋นท่านให้เขามาเร็วหน่อยได้หรือไม่ ท่านไม่รู้ว่าตั้งแต่ที่ข้าเจอเขาครั้งก่อน ข้าก็รู้สึกคิด…อ๊าก!”
ตู้ม!
เขายังพูดไม่ทันจบ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น พลังมหาศาลกลุ่มหนึ่งซัดไปยังหน้าของเขา ราชามารยังไม่ทันได้ตอบสนอง ร่างกายของเขาก็ลอยออกไปราวกับดาวตก ก่อนจะชนเข้ากับกำแพง และลอยออกไปนอกราชวังปีศาจ หายไปลับตา
เยี่ยยวนสีหน้าดำทะมึน พลังเย็นรอบตัวแผ่ออกมามากมาย ครั้งที่แล้วยังไม่พอ!
“…”
หยวนเจียงและไป๋อวี้ทำหน้าฉงน มองดูหลุมบนกำแพงด้านหน้า ก่อนจะมองเยี่ยยวน สุดท้ายหันไปมองอวิ๋นเจี่ยว ในดวงตาเต็มไปด้วยความงงงวย เกิดอะไรขึ้น ทำไมอาจารย์ปู่โกรธขึ้นมาอย่างกะทันหัน
อวิ๋นเจี่ยวเหลือบมองทั้งสองคน รู้สึกว่าพวกเขาไม่รู้จะดีกว่า ก่อนจะเดินขึ้นหน้าลากอาจารย์ปู่เดินออก “หาคนสำคัญกว่า พวกเรารีบออกจากที่นี่กันเถอะ”
“ฮะ ทำไม” ทั้งสองคนถาม
อวิ๋นเจี่ยวชะงักฝีเท้าลง ก่อนจะมองพวกเขาด้วยสายตาเรียบเฉย “ตามเพศสภาพของพวกท่าน ข้าคิดว่าหากอยู่ที่นี่ต่อไปคงจะเป็นอันตรายอย่างมาก!”
หยวนเจียง “…”
ไป๋อวี้ “…”
…
ทั้งสามคนออกจากราชวังปีศาจรวดเร็ว จนกระทั่งเดินจากมาหลายลี้ หยวนเจียงขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดขึ้น “ศิษย์หลาน ข้าว่าราชามารมีอะไรปิดบังพวกเราอยู่”
“อืม” อวิ๋นเจี่ยวครุ่นคิดคำพูดของราชามาร ก่อนจะพยักหน้า “คงเป็นเพราะเรื่องของราชามารองค์แรกนั้น” เรื่องการแย่งชิงบัลลังก์ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องคงพูดไม่ได้ “อาจารย์อาหยวนรู้เกี่ยวกับราชามารนั้นมากแค่ไหน”
“โลกบนกับโลกปีศาจไม่ได้ติดต่อกัน” หยวนเจียงส่ายหัว “เพียงแต่ได้ยินว่าเมื่อหลายหมื่นปีก่อน โลกปีศาจไม่มีราชามาร เผ่าปีศาจล้วนปกครองตนเอง อีกทั้งยังบุกรุกโลกมนุษย์บ่อยครั้ง ลูกศิษย์เสวียนเหมินนอกจากขับไล่ผีแล้ว สิ่งที่ทำมากที่สุดก็คือปราบปีศาจ เพียงแต่ตอนนั้นเป็นช่วงที่เสวียนเหมินรุ่งเรืองที่สุด โลกปีศาจไม่อาจรับมือได้ ทำให้อยู่ในสภาพที่ใกล้จะสูญพันธุ์!”
“ต่อมาล่ะ?” อวิ๋นเจี่ยวถาม
“ต่อมาโลกปีศาจมีราชามาร” หยวนเจียงครุ่นคิด ก่อนจะพูดต่อ “ราชามารรวมเผ่าพันธุ์เป็นหนึ่งเดียว เริ่มควบคุมฝูงปีศาจ ไม่ให้เผ่าปีศาจบุกรุกเข้าโลกมนุษย์ เพียงแต่ต่อมาไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ตายไป เจ้าปีศาจหมาป่าตัวนี้คงจะเป็นราชามารองค์ที่สาม”