ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 21 วาดยันต์ม่วงใหม่

มีอัจฉริยะอย่างอวิ๋นเจี่ยวคอยชี้แนะ (กดดัน) อยู่ด้านข้าง ความสามารถในการวาดยันต์ของไป๋อวี้พุ่งพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่อัตราความสำเร็จมีเพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้กลายเป็นในสิบใบมีเพียงหนึ่งถึงสองใบที่เป็นยันต์เสีย นอกจากนี้เขายังวาดยันต์นำสายฟ้าออกมาได้อีกสองใบด้วย ถึงแม้จะเป็นขั้นต่ำสุดก็ตาม แต่ก็ถือว่าการฝึกฝนของเขาได้ก้าวขึ้นไปอีกระดับแล้ว  

 

 

ยันต์นำสายฟ้าถือเป็นยันต์วิเศษชั้นกลาง คนทั่วไปไม่สามารถวาดออกมาได้ ไป๋อวี้มีความรู้สึกว่าหากตัวเองยังคงฝึกต่อไป เขาต้องทะลุระดับการฝึกฝนของตัวเองได้เป็นแน่  

 

 

“เจ้าหนู พวกนี้พอใช้แล้วหรือยัง” เขาสะบัดมือที่เมื่อยล้า มองไปยังกระดาษยันต์เต็มโต๊ะ ไม่ถึงพันใบแต่อย่างน้อยก็มีร้อยใบได้ เป็นครั้งแรกที่เขาวาดยันต์ออกมาได้มากเท่านี้ในครั้งเดียว อีกทั้งยังเป็นยันต์ที่ใช้ได้อีก  

 

 

“อืม” ยันต์วิเศษไม่มีประสิทธิภาพทับซ้อนกัน ไม่เหมือนกับยันต์เสียก่อนหน้านั้น ประสิทธิภาพของการโยนหนึ่งใบกับโยนหนึ่งกองนั้นเหมือนกัน ถึงจะวาดมากกว่านี้พวกเขาก็คงไม่ได้ใช้  

 

 

“ไม่รู้ว่าพวกนี้จะต้านผีร้ายพวกนั้นได้หรือไม่!” ไป๋อวี้สีหน้าเต็มไปด้วยความหนักใจ เขาวาดได้เพียงยันต์วิเศษขั้นต่ำอย่างยันต์ชะล้างวิญญาณ ถึงแม้จะหยุดยั้งผีร้ายได้ชั่วคราว แต่หากอยากจะทำร้ายหรือโจมตีวิญญาณของผีร้ายให้สลายไปเขายังทำไม่ได้ “ถ้ายันต์ม่วงที่อาจารย์ให้ข้ามายังอยู่ก็คงดี” เขาคิดถึงยันต์ม่วงใบนั้นอย่างสุดซึ้ง  

 

 

“ท่านวาดไม่ได้เหรอ” อวิ๋นเจี่ยวมองเขา  

 

 

“นั่นเป็นถึงยันต์สะกดวิญญาณเชียวนะ!” ไป๋อวี้ถอนหายใจ “มีเพียงนักวาดยันต์ที่มีการฝึกฝนระดับปฐพีขึ้นไปถึงจะวาดออกมาได้ อีกทั้งตอนนั้นอาจารย์ข้าฝึกฝนไม่สำเร็จ ทำให้ยันต์นั้นขาดการสืบทอดสูญหายไป ถึงแม้ข้าอยากจะวาดก็ไม่รู้ว่ายันต์วิเศษนั้นต้องวาดอย่าง…”  

 

 

เขายังพูดไม่ทันจบ อวิ๋นเจี่ยวก็ถือพู่กันขึ้นมา ลงมือวาดตัวอย่างของยันต์วิเศษแล้วยื่นมาให้ “แบบนี้เหรอ”  

 

 

ไป๋อวี้ “…” เฮ้ย!  

 

 

Σ(°△°|||)︴  

 

 

เขารับมาพินิจอย่างจริงจัง เหมือนกับยันต์ม่วงใบนั้นจริงด้วย ต่างกันตรงที่ยันต์ใบนั้นเป็นสีม่วงแต่  

 

 

ของอวิ๋นเจี่ยวเป็นกระดาษสีเหลือง “เจ้า…เจ้าวาดออกมาได้อย่างไรกัน?!”  

 

 

ถึงแม้จะรู้ว่ายันต์น่าตาเป็นอย่างไร แต่วาดออกมาได้คืออีกเรื่อง อย่าว่าแต่องศาของรายละเอียดเลย ขนาดลำดับการวาด วิธีการวาดก็มีความแตกต่าง ผิดแค่ขั้นตอนเดียวก็ใช้ไม่ได้แล้ว ต้องวาดรวดเดียวเท่านั้น  

 

 

อีกทั้งยังง่ายต่อการถูกพลังของตนเองย้อนกลับมาทำร้ายอีก  

 

 

ดังนั้นตอนนั้นอาจารย์ของเขาฝึกฝนมาทั้งชีวิต ขนาดมียันต์ม่วงเป็นตัวอย่างให้ดู แต่ก็ไม่เคยวาดได้สำเร็จ แต่เจ้าหนูเห็นยันต์ใบนั้นแค่รอบเดียวกลับสามารถวาดออกมาได้  

 

 

“อ่อ ข้าวาดตามความรู้พื้นฐานของยันต์วิเศษในตำรา แล้วก็ลองเอาสัญลักษณ์พวกนี้มาเรียงลำดับ รวมกับหลักการห้าธาตุ แล้วก็กฎการใช้พลังลมปราณ ก็เลยได้วิธีการวาดออกมา” นางพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ราวกับกำลังทำเรื่องที่ง่ายแสนง่าย อีกทั้งยังเอ่ยเสริม “คิดออกมาได้ง่ายมาก!”  

 

 

“…” ไป๋อวี้นั่งทึ่ง ราวกับมีเลือดจุกอยู่ที่คอไม่รู้จะกระอักออกมาดีหรือไม่  

 

 

ง่าย…ก็บ้าแล้ว! เขาฟังไม่รู้เรื่องเลยไหม อีกทั้งเจ้าอ่านตำรามาไม่ถึงสองเดือนเท่านั้น ทำไมถึงคิดออกมาได้กัน!  

 

 

เชื่อไหมว่าอาจารย์ข้าจะฟื้นขึ้นมาหาเจ้า!  

 

 

(╯°Д°)╯︵┻━┻  

 

 

“ช่างเถอะ อย่าสนใจมากขนาดนั้น ท่านลองวาดดู” อวิ๋นเจี่ยวเร่ง  

 

 

ไป๋อวี้มองนางด้วยสีหน้าที่พูดไม่ออก ก่อนจะหยิบพู่กันขึ้นมา อวิ๋นเจี่ยวที่ยืนอยู่ด้านข้างเริ่มอธิบายขั้นตอนในการวาดอย่างละเอียดไว้ อีกทั้งยังเขียนตัวเลของศา ระดับความหนาของเส้น อีกทั้งเรื่องที่ต้องระวังกำกับไว้ด้วย ยันต์วิเศษขั้นสูงถูกนางถอดขั้นตอนการวาดออกมาจนเด็กทารกยังวาดได้  

 

 

“…” ไป๋อวี้ในใจเต็มไปด้วยหลายอารมณ์ ราวกับถูกมีดปักที่อก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้สึกว่าการฝึกฝนของตัวเองเมื่อหลายสิบปีมานี้ล้วนเสียเปล่า  

 

 

พรสวรรค์และการซึมซับของเจ้าหนูนี้มันช่างเหลือเชื่อ เสียดายที่นางไม่สามารถใช้พลังลมปราณจากฟ้าดินได้ ยันต์ตัวอย่างที่นางวาดแต่ละใบล้วนดีกว่าของเขาหลายร้อยเท่า แต่ในนั้นกลับไม่มีพลังลมปราณแม้แต่นิดเดียว  

 

 

เขารู้สึกเสียดายขึ้นมา ทำไมนางถึงไม่มีเส้นชีพจรเสวียนกันนะ! หากนางมีเส้นชีพจรเสวียน เขาคงไม่ได้ลงมือวาด อีกฝ่ายคงจะวาดออกมาเป็นปึกได้อย่างง่ายดาย อย่าว่าแต่ยันต์ระดับนักพรต ระดับปฐพี ถึงขั้นระดับสวรรค์นางก็สามารถวาดได้ในไม่นานเป็นแน่!  

 

 

“รูปนี้ดูเข้าใจไหม” อวิ๋นเจี่ยวชี้ไปยังรูปตัวอย่าง  

 

 

“อ้า!” ชายแก่อึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะดึงสติกลับมาพร้อมพยักหน้า “เข้าใจ!” อธิบายละเอียดขนาดนี้แล้ว มีเพียงคนสติไม่ดีถึงไม่เข้าใจ  

 

 

“อืม งั้นวาดเถอะ!” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า นึกอะไรขึ้นได้จึงเอ่ยเสริม “อาจจะเหนื่อยหน่อย ท่านอดทนไว้”  

 

 

ไป๋อวี้นึกว่านางพูดถึงเรื่องวาดยันต์ทั้งวัน เขาอาจะรู้สึกเหนื่อยเกินไป จึงตอบกลับ “ไม่เป็นไร ร่างกายข้าแข็งแรงอยู่!” ด้วยความไม่ใส่ใจ ดูรูปที่นางวาดก่อนจะหยิบพู่กันขึ้นมาแล้วเริ่มวาดตาม  

 

 

เพิ่งเริ่มลงมือวาดเส้นขวาง กำลังจะชักนำพลังลมปราณโดยรอบแต่กลับรู้สึกไม่เพียงพอ เขาถึงเพิ่งค้นพบว่าพลังลมปราณโดยรอบที่ตัวเองชักนำมาใช้ตามไม่ทันความเร็วในการไหลเข้าไปในยันต์ เขาตัดสินใจใช้พลังลมปราณในร่างกายของตน ทันใดนั้นพลังลมปราณรวมไปอยู่ที่ปลายพู่กันอย่างรวดเร็ว รวมเข้าไปในยันต์ที่เขาวาด ไป๋อวี้ตะลึงงัน ไม่คิดว่ายันต์วิเศษนี้ต้องใช้พลังมากเพียงนี้ ทำได้เพียงอดทนในการชักนำพลังลมปราณรอบด้านและอดทนวาดต่อไป  

 

 

ตอนแรกยังดี พอวาดไปได้ครึ่งหนึ่งเท่านั้น เขารู้สึกกินแรงอย่างมาก พลังลมปราณในร่างกายราวกับกำลังสลายไปอย่างรวดเร็ว บนบ่าราวกับกำลังแบกของหนักเป็นพันจิน แม้แต่จะเคลื่อนย้ายปลายพู่กันยังลำบาก แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดได้ หากเขาหยุดไม่เพียงแต่พลังลมปราณที่ใช้เสียเปล่าไม่พอ ยันต์ก็จะเสียด้วย  

 

 

เขาเข้าใจในทันทีว่าคำว่าอาจจะเหนื่อยหน่อยของอวิ๋นเจี่ยวหมายถึงอะไร นี่มันแค่เหนื่อยหน่อยที่ไหนกัน นี่เขากำลังจะถูกแรงดันจากยันต์ทับจนตายอยู่แล้ว  

 

 

w(゚Д゚)w  

 

 

ไป๋อวี้ไม่เคยรู้สึกเลยว่าการวาดยันต์จะลำบากขนาดนี้ เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาจากหน้าผาก พลังลมปราณรั่วไหลออกอย่างรวดเร็ว อีกทั้งหน้าก็เริ่มซีดเผือด พลังลมปราณภายในร่างกายเขาล้วนถูกถ่ายเข้าไปภายในยันต์ แต่ยันต์วิเศษกลับยังคงหลงเหลือหนึ่งในสามที่ยังวาดไม่เสร็จ ดูท่ายันต์นั้นจะใกล้จะเสียแล้ว  

 

 

อวิ๋นเจี่ยวพูดขึ้นกะทันหัน “สัมผัสพลังลมปราณรอบด้านแล้วชักนำเข้าสู่ร่างกาย”  

 

 

ชายแก่อึ้งแต่ก็ไม่ทันได้คิด รีบละทิ้งการชักนำพลังลมปราณรอบด้านเข้าสู่ยันต์ แต่กลายเป็นตัวเองดูดซับพลังเหล่านั้นเอง ทันใดนั้นเขารู้สึกร่างกายผ่อนคลายลง ไม่อึดอัดเท่าเมื่อกี้แล้ว พลังลมปราณถ่ายเข้าไปในร่างกายของเขา แต่ก็ถูกยันต์ดูดซับไปโดยเร็ว  

 

 

ไป๋อวี้กัดฟัน วาดส่วนที่เหลืออย่างรวดเร็ว  

 

 

นาทีถัดมา ยันต์วาดได้สำเร็จ!  

 

 

เห็นเพียงแต่กระดาษสีเหลืองนั้น ส่องแสงสว่างที่เข้มกว่ายันต์วิเศษอื่น ยันต์นั้นราวกับถูกย้อมด้วยสีอะไรบางอย่าง จากหัวของยันต์เริ่มกลายเป็นสีม่วง และกระจายออก เพียงแต่สีม่วงนั้นหยุดอยู่เพียงครึ่งเดียว สุดท้ายกลายเป็นยันต์ที่มีครึ่งหนึ่งเป็นสีม่วงครึ่งหนึ่งเป็นสีเหลือง  

 

 

มีเพียงครึ่งเดียว เป็นยันต์ม่วงที่ขั้นต่ำที่สุด แต่ว่าวาดครั้งแรกก็สำเร็จ ถือว่าไม่ง่าย ไป๋อวี้พ่นลมหายใจ มองไปยังยันต์ใบนั้น ร่างกายผ่อนคลายลง รู้สึกถึงความวิงเวียนเล็กน้อย ก่อนจะสลบไป  

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset