ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 96 อาจารย์กู่พิษตัวร้าย

ถึงแม้จะได้เบาะแสของเด็กแล้ว แต่สีหน้าของพวกเขากลับไม่สู้ดีนัก ฉีเฉิงบอกว่าอาจารย์กู่พิษที่จับเด็กไปนั้น เพราะอยากได้พลังบนตัวของเด็ก พลังลมปราณนอกจากฝึกฝนแล้วไม่มีวิธีอื่น หากเป็นเช่นนี้อาจารย์กู่พิษคนนั้นต้องฝึกฝนวิชามารอะไรเป็นแน่ ถ้าอย่างนั้น เด็กหลายสิบคนนั้นคงจะรอดกลับมายาก  

 

 

พวกเขาเดินอย่างรวดเร็ว กระทั่งใจยันต์ชั่วขณะ ไม่ถึงครึ่งดอกธูป ก็มาถึงหน้าวัดเก่าที่ฉีเฉิงบอก  

 

 

มันคือวัดที่ถูกทิ้งร้างไว้เป็นเวลานานจนไม่สามารถดูออกว่ามันคือวัดอะไร เหลือเพียงแต่กำแพงที่ผุพัง สถานที่นี้เห็นหมดได้เพียงแวบเดียว พวกเขาดูอยู่นาน ก็ไม่พบว่ามีเบาะแสอะไร  

 

 

“สหายอวิ๋น ท่านว่าอาจารย์กู่พิษนั้นจะอยู่ไหนได้” อาจเป็นเพราะนางสังเกตความประหลาดของฉีเฉิงได้ คนที่เหลือจึงหันไปถามความเห็นจากอวิ๋นเจี่ยวโดยอัตโนมัติ  

 

 

อวิ๋นเจี่ยวส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าคงจะไม่ไกลจากที่นี่” อาจารย์พิษกู่คงจะต้องหาสถานที่ที่คนน้อยในการฝึกหนอนกู่ อีกทั้งเขายังต้องมาสถานที่แห่งนี้จับเด็กเป็นประจำ ระยะทางคงจะไม่ไกลมาก  

 

 

เพียงแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ถึงแม้พวกเขาจะใช้ยันต์ติดตาม ก็ยังไม่สามารถหาเด็กเหล่านั้นเจอ  

 

 

นางอดจะหงุดหงิดไม่ได้ ครุ่นคิดอยู่สักพักจึงหันไปมองหาคนที่ไม่ออกเสียงทางด้านหลัง “อา…” เมื่อเห็นว่ายังมีคนนอกอยู่ นางจึงทำได้เพียงละทิ้งคำเรียกไป “ท่านมีวิธีหาอาจารย์พิษกู่คนนั้นออกมาได้หรือไม่”  

 

 

มีมื้อพิเศษนะ  

 

 

เยี่ยยวนหันไปมองอวิ๋นเจี่ยวแล้วถามกลับ “แค่ออกมาก็พอ?”  

 

 

“ฮะ?” นางผงะไปครู่หนึ่ง รู้สึกว่าประโยคนี้แปลกๆ แต่ก็ยังพยักหน้ากลับ “ใช่”  

 

 

“ได้” สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าเห็นแก่ที่เจ้าเป็นศิษย์ข้า ข้าจะตามใจเจ้าอย่างนั้น จากนั้นในมือของเขาปรากฏยันต์สีทองขึ้นมาหนึ่งใบ ยังไม่ทันที่นางจะได้มอง เขาก็โยนมันออกไป  

 

 

อวิ๋นเจี่ยวมีความรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที…  

 

 

เดี๋ยว!  

 

 

“ใบนั้นคงจะไม่ใช่…”  

 

 

นางยังพูดไม่ทันจบ เห็นเพียงแต่แสงสีขาวส่องสว่างขึ้น ทันใดนั้นเสียงหนึ่งดังกึกก้อง ยันต์ใบนั้นระเบิดออกบนพื้น พื้นดินสั่นไหวขึ้นมาราวกับถูกโยนระเบิด ไม่เพียงแต่วัดเก่า แต่ภูเขาขนาดเล็กก็ระเบิดออกด้วยเช่นกัน หินกรวด ดินทราย ต้นไม้ต่างๆ ล้วนร่วงลงมาเต็มพื้นราวกับฝนตก ที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยฝุ่นไปชั่วขณะหนึ่ง  

 

 

วัดเก่าหายไป ภูเขาหายไป ด้านหน้าปรากฏหลุมใหญ่ที่ไร้ที่สิ้นสุดขึ้นมา  

 

 

อวิ๋นเจี่ยว “…”  

 

 

ชายแก่ “…”  

 

 

ทั้งสี่คน “…”  

 

 

พวกเขาคือใคร พวกเขาอยู่ไหน เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น  

 

 

วัดละ? ภูเขาละ?  

 

 

w(゚Д゚)w  

 

 

คนบางคนกลับมีสีหน้าเรียบเฉย “ออกมาแล้ว”  

 

 

คนที่เหลือผงะ ยังไม่ทันได้เข้าใจ พวกเขาหันหน้าไปมองหลุมที่ปรากฏออกมาโดยอัตโนมัติ เห็นเพียงแต่ภายในหลุมที่เต็มไปด้วยเศษดินนั้นปรากฏบางอย่างที่มีสีดำขึ้น สิ่งนั้นกำลังแผ่ขยายออกไปทุกทิศทั่วทางราวกับของเหลว  

 

 

นี่คืออะไร อาจารย์ปู่ระเบิดน้ำมันออกมา?  

 

 

ไม่ใช่น้ำมันส่วนใหญ่อยู่ภายใต้พื้นดินลึกราวสองพันเมตรขึ้นไป ไม่ออกมาง่ายขนาดนี้ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทำให้นางหยุดความคิดเป็นไปไม่ได้นี้ ก่อนจะมองไปยังสิ่งสีดำนั้นอย่างตั้งใจ  

 

 

“นั้นคือ…คือหนอนกู่!” เทียนซือที่อยู่ด้านข้างอุทานออกมาด้วยความตกใจ  

 

 

ที่แท้สิ่งที่ผุดออกมาจากใต้ดินจำนวนมากราวกับน้ำนั้นคือหนอนกู่  

 

 

“ชายชราต้านพวกมันเอาไว้ อย่าให้พวกมันเข้าไปในหมู่บ้าน!” อวิ๋นเจี่ยวตะโกนเสียงดัง จากนั้นตัวเองหยิบธงสำหรับสร้างข่ายพลังออกมา  

 

 

คนที่เหลือต่างหยิบอาวุธและยันต์วิเศษออกมา เริ่มปฏิบัติการต้านหนอนกู่ ส่วนอวิ๋นเจี่ยวกำลังสร้างข่ายพลังโดยรอบ ครุ่นคิดถึงข่ายพลังปิดกั้นหลายอัน แต่ก็รู้สึกกังวล เพราะนั่นเป็นหนอนกู่ ไม่ใช่สิ่งธรรมดา ข่ายพลังของนางอาจใช้ไม่ได้  

 

 

“ข่ายพลังไฟ”เยี่ยยวนพูดเตือน  

 

 

อวิ๋นเจี่ยวตาลุกวาว จริงสิ! ข่ายพลังอื่นอาจใช้ไม่ได้ แต่ข่ายพลังไฟใช้ได้ นางรีบวางข่ายพลังในทันที ไม่ถึงชั่วครู่ ข่ายพลังก็สร้างเสร็จแล้ว  

 

 

“ชายแก่ มานี่!” นางพูด  

 

 

“ได้!” ไป๋อวี้ถอยกลับมาโดยอัตโนมัติ ก่อนจะถ่ายพลังเข้าไปในตำแหน่งที่นางชี้ ทันใดนั้นข่ายพลังก็ถูกกระตุ้นขึ้นมา  

 

 

แสงไฟสว่างขึ้น เปลวเพลิงสีแดงลุกไหม้ขึ้นทันที ก่อนจะลุกลามไปตามหลุม ล้อมรอบหนอนกู่ที่กำลังผุดออกมา เปลวไฟเมื่อเจอลมก็ยิ่งลุกโชนมากขึ้น ก่อนจะเผาไม้หนอนกู่ในหลุมจนหมดสิ้น  

 

 

บริเวณรอบข้างมีเสียงของหนอนและเปลวไฟดังขึ้น ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นของการเผาไหม้ เปลวเพลิงสีแดงส่องสว่างไปทั่ว  

 

 

“ที่นี่คือที่ไหนกัน” เทียนซือทั้งสี่ต่างตกตะลึง มองไปยังหลุมดำที่ถูกเผาไหม้ไปอย่างอึ้งทึ่ง”ทำ…ทำไมถึงมีหนอนกู่มากมายขนาดนี้” ทั่วไปแล้วการฝึกหนอนกู่จะมีความยาก บนตัวอาจารย์พิษกู่มีเพียงไม่กี่ตัวก็ถือว่าเก่งกาจมากแล้ว ไม่คิดว่าจะมีจำนวนเป็นฝูงขนาดนี้  

 

 

“ที่นี่คงจะเป็นถ้ำหนอนกู่!” อวิ๋นเจี่ยวพูด  

 

 

“หนอนกู่!” ทุกคนต่างสูดลมหายใจเข้าด้วยความตกตะลึง  

 

 

วิชาเลี้ยงหนอนกู่ที่พบมากที่สุดคือการเลี้ยงหนอนพิษทุกชนิดไว้ด้วยกัน ปล่อยให้พวกมันกลืนกินกันเอง ตัวที่เก่งที่สุดก็คือหนอนกู่ ส่วนถ้ำหนอนกู่ก็คือสถานที่ที่ใช้สำหรับเลี้ยงหนอนกู่ที่ถูกฝึกฝนแล้วไว้ด้วยกัน ให้พวกมันกลืนกินกันเอง ยิ่งกลืนกินมากหนอนกู่พิษตัวสุดท้ายยิ่งแข็งแกร่ง ดังนั้นตัวที่ชนะได้จะกลายเป็น…  

 

 

“มีคนเลี้ยงราชาหนอนกู่ที่นี่!” เฉินเทียนซือพูดออกมา  

 

 

คนที่เหลือยังไม่ทันได้ตกตะลึง เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธก็ดังขึ้นจากหลุม  

 

 

“พวกเจ้าบังอาจทำลายถ้ำหนอนกู่ของข้า!”  

 

 

ทุกคนต่างผงะไป หันไปมองหลุม ในหลุมนั้นมีร่างสีดำปรากฏขึ้นมา ท่าทางของเขาอนาถเล็กน้อย บนชุดนั้นเปื้อนไปด้วยคราบของเหลวสีดำที่ไม่รู้ว่าเป็นเลือดหรือว่าซากหนอน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยรอยแผล และขาดแขนไปข้างหนึ่ง ดูจากรอยแผลแล้ว คงได้มาจากการที่ยันต์ที่อาจารย์ปู่โยนออกไปเมื่อกี้  

 

 

“อาจารย์พิษกู่!” ชายแก่อุทานออกมา คนนี้คงจะเป็นคนทีฉีเฉิงเคยพูดไว้  

 

 

“เจ้าลักพาตัวเด็กในหมู่บ้านไป?” เฉินเทียนซือถามออกมา “เจ้าซ่อนเด็กพวกนั้นไว้ที่ไหน!”  

 

 

“เด็ก?” อาจารย์กู่พิษหัวเราะเสียงเย็น สายตาที่มองคนทั้งหลายราวกับกำลังมองคนตาย “นั่นเป็นอาหารชั้นดีสำหรับหนอนกู่ของข้า พวกเจ้าคิดว่าข้าจะเก็บเอาไว้หรือ”  

 

 

ทุกคนผงะไป ถึงแม้ในใจมีคาดเดาไว้ก่อนแล้ว แต่เมื่อได้ฟังความจริงว่าเขาว่านำเด็กมาเลี้ยงหนอนกู่นั้น ก็ยังทำให้ทุกคนตกตะลึง  

 

 

“เจ้าบ้าไปแล้ว!”  

 

 

“ฮึ! ไม่ต้องพูดมาก!” ชายหนุ่มไม่สนใจการกล่าวโทษของเขา แต่กลับหัวเราะเสียงเย็นแล้วพูดว่า “พวกเจ้าทำลายถ้ำหนอนกู่ของข้า เช่นนั้นก็ใช้พลังบนตัวของพวกเจ้ามาเลี้ยงราชาหนอนกู่ของข้าเสียเถอะ”  

 

 

ทันทีที่เขาพูดจบ พื้นดินสั่นสะเทือนขึ้นมา ก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งดังขึ้น เห็นเพียงแต่หนอนยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากก้นหลุม หนอนตัวนั้นมีรูปร่างขนาดใหญ่และสีดำสนิททั้งตัว มันอ้าปากที่มีฟันอันแหลมคมแล้วคำรามออกมา  

 

 

ทันใดนั้นลมสีดำก็พัดผ่านมา ข่ายพลังไฟที่เดิมยังลุกโชนอยู่นั้นดับไปทันที  

 

 

“นี่คือ…นี่คืออะไร” ทุกคนมองไปยังหนอนกู่ยักษ์ด้วยที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันด้วยความตกตะลึง นี่คือราชาหนอนกู่ที่เขาเลี้ยงไว้ มันเติบโตขนาดนี้แล้วเหรอ  

 

 

หัวใจของทุกคนถูกบีบแน่น พลางจับอาวุธภายในมือไว้  

 

 

อาจารย์พิษกู่กลับหัวเราะอย่างเย็นชา “เหอะๆ…ไม่มีประโยชน์หรอก บนโลกนี้ไม่มีใครที่สามารถต่อกรกับราชาหนอนกู่ของข้าได้ แค่เพียงกินพวกเจ้าเข้าไป ราชาหนอนกู่ของข้าก็สำเร็จแล้ว” พูดจบเขาก็โบกมือขึ้นแล้วพูดว่า “กินพวก…” เขา!  

 

 

โครม…  

 

 

เขายังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น แสงฟ้าผ่าสีม่วงผ่าลงมาอย่างไร้สัญญาณบ่งบอก ก่อนจะผ่าลงบนตัวราชาหนอนกู่โดยตรง ทันใดนั้นราชาหนอนกู่ขนาดยักษ์นั้นไม่มีแม้แต่เวลาดิ้นรน ถูกฟ้าผ่าจนไหม้และล้มลงกับพื้นทันที เหลือเพียงแต่กลิ่นไหม้ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ  

 

 

เยี่ยยวนวางมือลง ก่อนจะพูดเสียงเย็น “ยืดเยื้อ”  

 

 

อวิ๋นเจี่ยว “…”  

 

 

ชายแก่ “…”  

 

 

ทั้งสี่คน “…”  

 

 

อาจารย์พิษกู่ “…”  

 

 

เอ๊ะ?  

 

 

อาจารย์ปู่คือ…ใช้การกระทำพิสูจน์ความจริงที่ว่าตัวร้ายตายเพราะพูดมากหรือ  

 

 

(⊙_⊙)  

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบิน ขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่ง รัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset