สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! – ตอนที่ 12 โดนจับเป็นตัวประกัน + ตอนที่ 13 ความเหี้ยมโหดของพญายม

ตอนที่ 12 โดนจับเป็นตัวประกัน
เมื่อปาหู่เอ่ยขึ้น ชายชุดดำกว่าสิบคนด้านหลังเขาจึงหัวเราะเสียงดัง ซึ่งการหัวเราะเยาะเย้ยอย่างดูถูกดูแคลนนั้น ทำให้เล่อเหยาเหยาที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะโมโหเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
มารดาเจ้าสิถึงผู้หญิงก็ไม่ใช่ชายหนุ่มก็ไม่เชิง ทุกคนในครอบครัวพวกแกล้วนเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่ชายหนุ่มก็ไม่เชิง!
เมื่อเปรียบเทียบกับเล่อเหยาเหยาที่โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ จนทั่วใบหน้าเล็กแดงก่ำ มือเล็กทั้งสองข้างกำหมัดแน่น แทบอยากจะเข้าไปทุบตีคนกลุ่มนี้
เหลิ่งจวิ้นอวี๋ที่อยู่ข้างกายเธอ กลับนิ่งเฉยกลับภาพตรงหน้า
ทว่ามีเพียงเล่อเหยาเหยาที่อยู่ในอ้อมกอดเขาที่รู้ ความจริงว่าพญายมได้โมโหแล้ว อีกทั้งสิ่งที่ตามมานั้นรุนแรงยิ่งนัก
แม้ใบหน้าของเหลิ่งจวิ้นอวี๋จะเหมือนกับบ่อน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง ราบเรียบไม่สั่นไหว ทำให้ผู้คนที่พบเห็นไม่อาจล่วงรู้ความคิดของเขาได้ แต่ทว่ากลิ่นอายอันน่าเกรงขามบนตัวเขาที่แผ่ออกมา ราวกับอสุรกายจากนรกขุมชั้นที่สิบแปด ร่างกายเต็มไปด้วยไอสังหารที่รุนแรง
เขาไม่พูดอะไรเลย แต่การเคลื่อนไหวของเขากลับบอกถึงสิ่งที่เขาคิดทั้งหมด
เล่อเหยาเหยาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายตลอดหลายปีที่ผ่าน จึงไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน เคยเห็นเพียงในหนังจีนกำลังภายในบนโทรทัศน์เท่านั้น
แต่เมื่อเทียบกับการต่อสู้ที่ไม่เจ็บปวดไม่รู้สึกพวกนั้น ฉากการเข่นฆ่าในตอนนี้ถึงทำให้เธอเข้าใจว่าสิ่งใดที่เรียกว่ายอดฝีมือ!
พร้อมกันนั้นภายในหัวของเธอ จึงคิดถึงคำพูดที่เสี่ยวมู่จื่อเคย
รุ่ยอ๋องวรยุทธสูงส่ง ลึกล้ำเกินคาดเดา  ลงมือเหี้ยมโหด บ้าคลั่งเต็มไปด้วยอุบาย
คำพูดของเสี่ยวมู่จื่อไม่ผิดแม้สักนิดเดียวเลย
สายตามองยังชายที่โอบกอดตนเอง ที่ไม่จำเป็นต้องมีอาวุธใดเลย เพราะมือของเขาคืออาวุธที่ดีที่สุดบนโลกนี้แล้ว
เสียง ‘ฉั๊วะ’ ดังขึ้น พร้อมกับศีรษะของใครบางคนบิดเบี้ยวหมุนไปด้านหลังอย่างแปลกประหลาด
เสียง ‘ปัง’ ดังขึ้น พร้อมศีรษะของใครบางคนหลุดออกและสมองระเบิดกระจัดกระจายออกมา
เสียง ‘อา’ ดังขึ้น พร้อมลำไส้ของใครบางคนหลุดออกมา
ณ เวลานี้เมื่อเห็นภาพนองเลือดอันดุเดือดเบื้องหน้า พร้อมกับร่างกายของตนเองที่โดนเหวี่ยงไปมาเหมือนถุงทรายตามการเคลื่อนไหวของใครบางคน เล่อเหยาเหยาจึงทนไม่ไหว เมื่อกรดในกระเพาะอาหารโหมซัดขึ้นมาไม่หยุด
ใบหน้างามรูปไข่นั้นพลันเปลี่ยนเป็นซีดขาวราวกระดาษ ไม่มีสีเลือดเลยแม้แต่น้อย
เหลิ่งจวิ้นอวี๋คล้ายสังเกตถึงความผิดปกติของเล่อเหยาเหยา จึงขมวดคิ้วเล็กน้อยและพุ่งตัวไปนำตัวเล่อเหยาเหยาวางลงข้างต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะหมุนตัวพุ่งกลับไปเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว
ส่วนเล่อเหยาเหยาหลังจากถูกส่งเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย สมองของเธอยังคงว่างเปล่าอยู่เช่นเดิม
เนื่องจากตกตะลึงกับภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างถึงที่สุด
คนตาย คนตายเต็มไปหมด
ระหว่างนั้นจมูกของเธอยังได้กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป นั่งคุกเข่าลงที่ข้างต้นไม้ใหญ่แล้วโก่งคออาเจียนออกมา
ถ้าทำได้จริง เธออยากจะทำตาปะหลับปะเหลือก แล้วหมดสติให้สิ้นเรื่องไปจริงๆ
ทว่าน่าเสียดายที่ตอนนี้เธอตกใจจนเสียสติไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่หมดสติ อีกทั้งจู่ๆ เธอก็พลันรู้สึกเย็นเฉียบจากดาบเล่มใหญ่ที่พาดติดอยู่บนคอ คมของมันบาดลึกเข้าไปจนเลือดเธอไหลออกมา
เล่อเหยาเหยาอยากร้องไห้อย่างมาก ทว่าไม่มีน้ำตาสักหยด
เธอยังไม่ทันได้ทำใจกับเรื่องที่รุนแรงอย่างการข้ามเวลามาอยู่ที่นี่เลย ตอนนี้กลับต้องมาเจอเรื่องพวกนี้และถูกจับเป็นตัวประกันอีก เธอจะต้องเจอโศกนาฏกรรมเช่นนี้อีกหรือไม่?
เล่อเหยาเหยาอยากจะร้องไห้ออกมา…
“เหลิ่งจวิ้นอวี๋ เจ้าหยุดมือซะ ไม่งั้นข้าจะฆ่านางทิ้งซะ!”
ผู้ที่จับเล่อเหยาเหยาเป็นตัวประกัน ก็คือปาหู่ที่ยโสโอหังอยู่เมื่อครู่นี้
เดิมทีปาหู่และพี่น้องกว่าสิบคนได้วางแผนกันอยู่นานและพยายามทุกวิถีทางเข้ามาที่นี่ แล้วลอบสังหารเหลิ่งจวิ้นอวี๋โดยไม่ให้ทันได้ตั้งตัว เพื่อแก้แค้นให้กับพี่น้องหนึ่งร้อยแปดสิบชีวิตบนเขาเหลียงซาน
…………………………………………………………………..
ตอนที่ 13 ความเหี้ยมโหดของพญายม
ผู้ใดจะรู้ว่าเหลิ่งจวิ้นอวี๋นั้นน่ากลัวกว่าที่ลือกันเสียอีก
วรยุทธล้ำเลิศ ลงมือโหดเหี้ยม มีมือเป็นอาวุธ ไม่น่าเชื่อว่าเพียงไม่นานพี่น้องกว่าสิบคนที่เขานำมาจะล้มลงหมดทุกคน
เมื่อเห็นปาหู่จึงตระหนักได้ว่าตนประเมินรุ่ยอ๋องผู้นี้ต่ำเกินไป ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าเขาต้องตายสถานเดียวแน่ จึงรีบหาโอกาสจับขันทีน้อยนี้เป็นตัวประกัน
เพราะจากการเคลื่อนไหวของเหลิ่งจวิ้นอวี๋และขันทีน้อยเมื่อครู่นี้ จะเห็นได้ว่าในสายตาของพญายมผู้นี้ขันทีน้อยมีความสำคัญมากทีเดียว เพียงมีไพ่ตายนี้อยู่ในมือ เขายังต้องกลัวสิ่งใดอีก!?
ดังนั้นเมื่อมีไพ่ตายใบนี้ปาหู่จึงพยายามควบคุมอารมณ์ของตน ทำให้จิตใจที่หวาดกลัวอย่างบ้าคลั่งค่อยๆ สงบลง
ทางด้านเหลิ่งจวิ้นอวี๋ หลังได้ยินคำพูดของปาหู่ในที่สุดเขาจึงหยุดมือลง ทว่านั่นเป็นเพราะเขาได้สังหารคนชุดดำคนสุดท้ายข้างกายลงไปแล้ว
ฝ่ามือที่เคลื่อนไหวรวดเร็วดังสายฟ้าถูกฟาดลงไปที่ด้านหน้าชายชุดดำนั้น จากนั้นชายชุดดำจึงร้องครางขึ้นมาอย่างเจ็บปวด ก่อนที่จะล้มลงไปทันที
นัยน์ตาคู่นั้นของชายชุดดำเบิกกว้าง ราวกับนอนตายตาไม่หลับ
ส่วนป่าหู่เมื่อเห็นพี่น้องกว่าสิบคนที่ตนนำมา ตอนนี้ได้ตายอย่างน่าอนาจด้วยน้ำมือของเหลิ่งจวิ้นอวี๋หมดแล้ว มุมปากจึงกระตุกไปมา พร้อมกับสายตาที่ดูตื่นตกใจ
ยามเห็นสถานที่ตรงหน้าเต็มไปด้วยศพและสภาพการตายที่แตกต่างกันของแต่ละคน
บางคนถูกฝ่ามือซัดเข้าที่หัวใจ บางคนศีรษะถูกผ่าออกเป็นซีกจนน้ำสมองไหลกระจัดกระจาย บางคนถูกหักคอ…
แม้ปาหู่จะเคยสังหารผู้คนเหมือนผักปลามาก่อนในใจก็ยังหวาดผวาอย่างมาก ทว่ากลับรู้สึกโมโหยิ่งกว่า!
ไม่ว่าอย่างไรพี่น้องเหล่านี้ล้วนร่วมเป็นร่วมตายกับเขามานานหลายปีทั้งปล้นข่มขืน ฆ่าคนชิงสินค้า วันนี้ต้องตายอย่างอย่างน่าอนาจด้วยน้ำมือชายผู้นี้ ในใจเขาจะไม่มีความเกลียดชังได้อย่างไร!?
ขณะที่ปาหู่ที่เกลียดและแค้นตัวเองอยู่ เหลิ่งจวิ้นอวี้หลังจากจัดการชายชุดดำคนสุดท้ายเสร็จลง ก็ค่อยๆ พับเก็บมือลง ก่อนจะจัดการเสื้อผ้าที่ระเกะระกะจากการต่อสู้ที่ดุเดือดให้เข้าที่
การเคลื่อนไหวนั้นช่างสง่างามและเยือกเย็น
เส้นผมดำขลับดังไหม ยาวสลวยพริ้วไหว ชายผ้าโบกสะบัด และรูปร่างหน้าตาดุจหยกอันล้ำค่า ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ยังตกตะลึงในความงดงามนั้นเช่นเดิม
เมื่อเห็นเหลิ่งจวิ้นอวี๋ยังคงมีสีหน้าปกติเช่นเดิมตอนที่ได้ยินคำพูดของตน ปาหู่จึงคล้ายเสียหน้า
ตั้งแต่ต้นจนจบเขาล้วนมองชายตรงหน้านี้ไม่ออกเลย
ก่อนนี้เมื่อได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับชายผู้นี้ เขาจะเย้ยหยันและคิดว่าผู้คนบนโลกนี้ล้วนคุยโวโอ้อวด บนโลกนี้จะมีบุรุษที่มีวรยุทธที่ไม่ธรรมดาและล้ำเลิศไร้เทียมทานเช่นนี้ได้อย่างไร?
พอเห็นวันนี้ถึงได้รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้ น่าหวาดกลัวกว่าในข่าวลืออย่างยิ่ง
เสื้อคลุมบางเบา  ทำให้ร่างกายตรงแน่วของเขาเหมือนดาบวิเศษที่ออกมาจากฝัก
ใบหน้าที่เย็นชาและนัยน์ตาดำขลับราวบ่อน้ำพันปีที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง ไร้อารมณ์ความรู้สึก จึงไม่อาจรู้ว่าแท้จริงในใจเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่
แม้ตอนนี้เขาจะยืนอยู่ตรงนั้นอย่างผ่อนคลาย บนร่างกายแผ่กลิ่นอายเยือกเย็นที่แปลกประหลาดออกมา ดูน่าเกรงขามและแฝงด้วยความโอหัง
สำหรับชายหนุ่มที่เกิดมาเพื่อยืนอยู่บนจุดสูงสุดอย่างเหลิ่งจวิ้นอวี๋ ทำให้ชายหนุ่มด้วยกันเองอย่างปาหู่ทั้งริษยาและคับแค้นใจ
แต่ที่มากกว่านั้นคือความหวาดกลัว
เพราะเมื่อปาหู่เห็นมือของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ที่อยู่ตรงหน้าคู่นั้นขาวสะอาดราวกับหิมะแรก ในใจจึงอดหวาดหวั่นจนขนพองสยองเกล้าขึ้นมาไม่ได้
เมื่อครู่ชายตรงหน้านี้ใช้มือเปล่าที่ไร้อาวุธสังหารพี่น้องกว่าสิบชีวิตของเขา ทว่าตอนนี้บนมือกลับไม่มีคราบเลือดติดอยู่เลย นี้มันความสามารถที่ล้ำเลิศอะไรกันแน่
………………………………………………………………….

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset