สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน – ตอนที่ 226 การต่อสู้ การทหารต้องใช้เล่ห์กล

แม้คนชุดดำทั้งสามจะถูก JX1 JX2 JX3 และJX4 ขวางไว้ ทว่าเป้าหมายของพวกเขานั้นชัดเจนมาก พวกเขามีเพียงโอกาสเดียวจึงหันไปโจมตีซูจิ่นซี หลายครั้งที่ซูจิ่นซีเกือบจะตกอยู่ในเงื้อมมือพวกเขา ทว่าซูจิ่นซีก็รอดมาได้จากการป้องกันขององครักษ์เงาทั้งสี่

ทันใดนั้นระบบถอนพิษก็ส่งเสียง ‘ตี๊ดตี๊ดตี๊ด’ หลายครั้ง

“มีพิษ! ” ซูจิ่นซีรีบเตือน

ทว่าสายเกินไปเสียแล้ว ฝ่ายตรงข้ามเป็นยอดฝีมือการใช้พิษ อีกทั้งองครักษ์เงาทั้งสี่ยังไม่มีประสบการณ์ต่อสู้กับยอดฝีมือด้านพิษมาก่อน พวกเขาทั้งหมดจึงถูกพิษและล้มลงบนพื้น

“พี่จิ่นซี รีบหนีไป! ” ร่างเล็กๆ ของซูอวี้ยืนขวางอยู่ด้านหน้าซูจิ่นซีอย่างเข้มแข็ง

ซูจิ่นซีมองท่าทางนั้น ดูน่าขันอยู่บ้าง ทว่าในใจกลับรู้สึกซาบซึ้ง

“รีบไป ไปหาฉินเทียนที่เรือนฮั่นเซียง! ” ซูจิ่นซีผลักซูอวี้ไป

แววตาซูอวี้เด็ดเดี่ยวยิ่งนัก เขาไม่ยอมไปและยังกลับมายืนอยู่ข้างกายซูจิ่นซีอีกครั้ง “ลวี่หลี เจ้าไป! ข้าจะปกป้องพี่จิ่นซีเอง”

ลวี่หลีตกใจมาก ผ่านไปครู่ใหญ่นางยังไม่มีการตอบสนองใดๆ

“เจ้ารีบไปเถิด! ”

ซูอวี้ผลักลวี่หลีอีกครั้ง ลวี่หลีจึงกลับมาตอบสนอง นางวิ่งไปพลางร้องไห้เสียงดัง

“คุณหนู พวกท่านจะต้องอดทนเอาไว้ องครักษ์ฉินกับพวกกำลังมาถึงแล้ว”

“พวกเจ้า พวกเจ้าอย่าเข้ามา! ”

ซูอวี้ยังคงขวางอยู่ด้านหน้าซูจิ่นซี เขาหยิบมีดพกประจำตัวออกมาด้วยท่าทีเข้มแข็งไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย เพื่อปกป้องซูจิ่นซี

ซูจิ่นซีมองซูอวี้พลางขมวดคิ้วมุ่น

จากนั้นซูจิ่นซีก็เดินเข้าไปใกล้คนชุดดำทั้งสามอย่างเชื่องช้า พลางพูดเสียงสูงว่า “ทูตซ้าย ในเมื่อมาแล้ว เหตุใดต้องปิดหน้าด้วยเล่า? แม้เจ้าจะปิดบังใบหน้า ข้าก็ทราบอยู่ดีว่าเจ้าเป็นผู้ใด อนุซุนได้บอกกับข้าแล้ว! ”

“ผู้คุมกฎซุนพูดอันใดกับเจ้ากันแน่? ” คนชุดดำผู้หนึ่งกล่าวเสียงเย็นชา

ก่อนหน้านี้ซูจิ่นซีสงสัยมาโดยตลอด เมื่อครู่เป็นเพียงการหยั่งเชิงเท่านั้น เช่นนี้ยิ่งยืนยันได้ชัดเจนแล้วว่าผู้ที่เอ่ยปากพูด คือทูตซ้ายแห่งสำนักห้าพิษ

ซูจิ่นซีควบคุมความดีใจเอาไว้ นางแย้มยิ้มแล้วพูดว่า “น่าขัน อนุซุนพูดอันใดกับข้า ข้าจะบอกเจ้าได้อย่างไร? ข้าไม่ใช่คนโง่! ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่พูดก็ไม่เป็นไร อย่างไรคนที่ตายแล้วก็ไม่สามารถเปิดเผยความลับอันใดได้อีก ไม่ว่าผู้คุมกฎซุนจะพูดอันใดกับเจ้า วันนี้เจ้าก็นำความลับทั้งหมดไปพบกับยมบาลเสีย ซูจิ่นซี จงเอาความลับของเจ้าไปพูดในนรกเถิด! ”

ขณะที่พูด คนที่ถือกระบี่ยาวผู้นั้นก็โจมตีซูจิ่นซีด้วยท่าทีดุดันเต็มไปด้วยไอสังหาร

ซูจิ่นซีดึงตัวซูอวี้มาไว้ด้านหลัง นางปกป้องซูอวี้พลางก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว

“เยี่ยโยวเหยา! โจมตีด้านหลังของเขา เร็ว! ” ซูจิ่นซีพูดพลางมองไปทางด้านหลังของคนชุดดำด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ

เดิมทีคนชุดดำมุ่งเข้าจู่โจมซูจิ่นซี ทว่าเขากลับเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน และกวัดแกว่งกระบี่ไปด้านหลังของตน

ซูจิ่นซีสาดเข็มพิษไปทางคนชุดดำอย่างรวดเร็ว

คนชุดดำเพิ่งรู้ตัวว่าถูกซูจิ่นซีหลอกจึงคิดจะหลบหลีก ทว่าเข็มพิษได้แทงเข้าไปที่ร่างของเขาแล้ว

“เจ้ากล้าใช้แผนลวงหรือ! ”

แม้คนชุดดำจะล้มลงกับพื้น ทว่าเขากลับเดือดดาลมากยิ่งขึ้น ไอสังหารบนร่างก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น

“การทหารย่อมใช้เล่ห์กลในการต่อสู้! ทูตซ้ายยังไม่เข้าใจเหตุผลข้อนี้อีกหรือ? ”

“ยังยืนอึ้งทำอันใด? บุกเข้าไป สังหารซูจิ่นซีเดี๋ยวนี้! ”

ทูตซ้ายชุดดำออกคำสั่งกับคนชุดดำสองคนที่อยู่ข้างหลังด้วยเสียงเย็นชา

คนชุดดำทั้งสองต่างหยิบกระบี่ขึ้นมา พวกเขาเดินมาทางซูจิ่นซีและซูอวี้ด้วยท่าทีโหดร้ายดุดัน

ซูจิ่นซีไม่ได้ใช้กลอุบายอันใดอีก นางเพียงปกป้องซูอวี้และก้าวถอยหลังออกไปเรื่อยๆ

หลังจากที่ทูตซ้ายชุดดำล้มลงบนพื้น เขาก็พยายามถอนพิษ ทว่าซูจิ่นซีกลับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทูตซ้ายอย่าเสียแรงเปล่าเลย พิษชนิดนี้มีเพียงข้าเท่านั้นที่กำจัดได้ หากเจ้าขยับตัวอีก จะทำให้สารพิษในร่างกายของเจ้าแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลานั้น… เจ้าจะต้องตายอย่างน่าอนาถ”

ทูตซ้ายชุดดำไม่เชื่อ เขาลองถอนพิษหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถทำได้

เขาพูดกับคนชุดดำสองคนที่กำลังกดดันซูจิ่นซีด้วยความโกรธว่า “เร็วหน่อย แค่จัดการกับนางสารเลวที่ไม่มีวรยุทธ์ เหตุใดจึงชักช้าถึงเพียงนี้! บังคับให้นางมอบยาถอนพิษมาเดี๋ยวนี้”

“พระชายาโยวอ๋อง ข้าขอเตือนให้เจ้ารีบส่งยาถอนพิษมา เจ้าจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดทรมานมากนัก เพียงเจ้าส่งยาถอนพิษมา เหล่าพี่น้องของข้าจะเก็บศพของเจ้าไว้อย่างดี”

“ยังไม่มียาถอนพิษในตอนนี้ ข้าจะต้องปรุงยาขึ้นมา ทั้งยังขาดสมุนไพรบางตัว หากพวกเจ้าสังหารข้า ตลอดชีวิตนี้อย่าหวังว่าจะได้ยาถอนพิษเลย” ซูจิ่นซีพูด

“ซูจิ่นซี เจ้ากล้ายอกย้อนข้าหรือ! ”

ด้วยความเดือดดาลสุดขีด ทูตซ้ายชุดดำคิดจะลงมือสังหารซูจิ่นซี ทว่าขณะที่เขาเริ่มขยับตัว เส้นเอ็นทั่วทั้งร่างราวกับถูกฉีกขาด ไม่เพียงแต่เจ็บปวดเท่านั้น ทั้งยังไม่มีพละกำลังอันใดเหลือเลย

ซูจิ่นซีชำเลืองมองเขาด้วยท่าทีลำพองใจ

“ในเมื่อไม่ยอมมอบยาถอนพิษ เช่นนั้นเจ้าก็ตายเสียเถิด! ” ทันใดนั้นดวงตาของคนชุดดำพลันเปล่งประกาย พวกเขาถือกระบี่หมายแทงเข้าใส่ซูจิ่นซีอย่างรวดเร็ว

พวกเขาไม่เชื่อว่าหมอพิษจำนวนมากของสำนักห้าพิษ จะถอนพิษในตัวทูตซ้ายไม่ได้

“องครักษ์ฉิน ฆ่าเขา! ” ซูจิ่นซีหรี่ตาลง นางจ้องไปทางด้านหลังของคนชุดดำแล้วพูดขึ้น

คนชุดดำยกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “หึ อุบายเดิมอีกแล้วหรือ เจ้าคิดว่าข้าจะหลงกลเจ้าหรืออย่างไร? ”

ทว่า…

ขณะที่คนชุดดำกำลังถือกระบี่ยาวคมกริบแทงไปที่คอหอยของซูจิ่นซีนั้น เขากลับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ร่างที่เหินขึ้นกลางอากาศมีกระบี่แทงออกมา ร่างกายถูกตรึงไว้ราวกับเวทมนตร์ ทุกอย่างพลันหยุดนิ่งในทันที

คนชุดดำหันหลังกลับไปมองอย่างเชื่องช้า ทันใดนั้นก็เห็นฉินเทียนยืนถือกระบี่อยู่ในมือ ปลายกระบี่แทงเข้ามาที่ด้านหลังของตน จากนั้นฉินเทียนก็โยนคนชุดดำออกไปด้วยท่าทีดุดัน

ที่แท้ซูจิ่นซีไม่ได้หลอกลวง ฉินเทียนมาแล้วจริงๆ

ทว่าในช่วงเวลานั้น ซูจิ่นซีไม่ต้องการช่วยคนชุดดำ ในทางกลับกัน ซูจิ่นซีมั่นใจว่าคนชุดดำต้องไม่เชื่อคำพูดของนางอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงเบี่ยงเบนความสนใจ ร่วมมือกับฉินเทียนเพื่อให้เขาลงมือได้ง่ายขึ้น

เดิมทีคิดว่าแผนล่องูออกจากรูจะเป็นฉากการต่อสู้ที่ดุเดือด กลับคิดไม่ถึงว่าจะสามารถจัดการได้ง่ายดายเช่นนี้ ทูตซ้ายชุดดำถูกพิษของซูจิ่นซี อย่างไรเสียก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้ ต่อไปก็เหลือคนชุดดำเพียงผู้เดียวแล้ว

คนชุดดำผู้นี้ก็เหมือนกับคนชุดดำที่เสียชีวิตเมื่อครู่ วรยุทธ์เทียบกับทูตซ้ายชุดดำไม่ได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้ฉินเทียนลงมือ ฉินเทียนจึงมอบหมายให้ลูกน้องเป็นคนจัดการแทน

“จับเป็น! ”

จากนั้นฉินเทียนก็เดินไปทางทูตซ้ายชุดดำด้วยความสนใจ “ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าเป็นผู้ใด” ฉินเทียนพูดพลางเปิดผ้าคลุมหน้าของทูตซ้ายชุดดำ

“ระวัง มีพิษ! ” ซูจิ่นซีรีบเตือน

ทว่าฉินเทียนยังช้าไปหนึ่งก้าว กอปรกับที่เขาไม่ได้ชื่นชอบซูจิ่นซีเป็นทุนเดิม เมื่อซูจิ่นซีเตือนด้วยเจตนาอันดีเขาจึงไม่ได้สนใจ สุดท้ายก็ถูกพิษของทูตซ้ายชุดดำเข้า

“ฮ่าฮ่าฮ่า… พระชายาโยวอ๋อง หนึ่งชีวิตแลกหนึ่งชีวิต เจ้านำยาถอนพิษมา ข้าก็จะมอบยาถอนพิษให้เจ้า! ”

“หากข้าตอบว่าไม่เล่า? ”

ซูจิ่นซีปล่อยซูอวี้ นางเดินเข้าไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย

ดวงตาเปล่งประกายของฉินเทียนจ้องมองซูจิ่นซี

ทูตซ้ายชุดดำพูดด้วยใบหน้าเฉยเมย “เมื่อครู่เขาช่วยชีวิตเจ้า ในเมื่อเจ้าไม่ใส่ใจชีวิตของเขา เช่นนั้นข้าก็มีเพื่อนร่วมเดินทางสู่ความตายแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า… ”

ทันใดนั้น คาดไม่ถึงว่าซูจิ่นซีจะแบมือออก นางนำยาเม็ดที่อยู่ในมือส่งให้ฉินเทียน “ผู้ใดบอกว่าต้องแลกเปลี่ยนยาถอนพิษกับเจ้า? เจ้าคิดว่ามีเพียงเจ้าผู้เดียวที่มียาถอนพิษหรือ? ”

“เจ้ามียาถอนพิษได้อย่างไร? ” ทูตซ้ายชุดดำเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

ในช่วงเวลานี้เอง ฉินเทียนรีบฉีกหน้ากากของทูตซ้ายชุดดำออกทันที

โอ้ พระเจ้า!

เป็นเขา!!!

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน สามพันปีก่อนที่แผ่นดินเทียนเหอจะได้รับการจดบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ สกุลซู ตระกูลแพทย์ที่เก่าแก่และร่ำรวยแห่งแคว้นจงหนิง ภายในห้องที่รกร้างทรุดโทรมห้องหนึ่ง บุตรสาวคนที่เจ็ด ‘ซูจิ่นซี’ เสื้อผ้าขาดลุ่ย ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลถูกมัดติดกับเสา ข้างกายคือสาวงามนางหนึ่ง นางสวมอาภรณ์หรูหรา ในมือถือกริชค่อยๆ เฉือนลงบนร่างกายของซูจิ่นซี “ไอ้โง่ เจ้ายังไม่ยอมอ้าปากพูดอีกหรือ หยกกิเลนอยู่ที่ใด” ร่างของซูจิ่นซีสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ทว่าปากก็ยังถูกปิดสนิทให้ไม่สามารถพูดได้แม้แต่คำเดียว ดวงตาสีเข้มมืดมนคลอด้วยหยาดน้ำตา ส่งสายตาวิงวอนต่อสาวงามนางนั้น หญิงสาวยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วดึงผ้าที่อุดปากซูจิ่นซีออก สาวงามตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “พูด! ” แต่นางกลับคาดไม่ถึงว่าซูจิ่นซีจะร้องไห้ส่งเสียงดังสนั่นราวกับเด็กน้อยขึ้นมา “พี่หญิงเป็นคนหลอกลวง ฮือ…ฮือฮือ…บอกว่าจะให้ข้ากินปลา ท่านพี่หลอกข้า ฮือฮือ ลวี่หลี… ข้าเจ็บเหลือเกิน! ลวี่หลี…ฮือฮือฮือ…ข้าเลือดไหล ลวี่หลี…” ดวงตาส่องประกายของสาวงามหม่นแสงลงทันที กริชในมือยกขึ้นจ่อคอของซูจิ่นซีอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “หุบปาก! หากยังตะโกนอีก ข้าจะฆ่าเจ้าเสียตอนนี้! ” ซูจิ่นซีหวาดกลัวเสียจนหยุดส่งเสียงร้องไห้ในทันใด อีกทั้งยังมองสาวงามด้วยแววตาขยาด ทว่าในขณะที่ดวงตาอันสับสนของซูจิ่นซีมองทะลุผ่านสาวงามไปยังบุรุษผู้มีรังสีมืดมนบนเก้าอี้ไม้จันทน์สีแดงแปดเหลี่ยมข้างหลังนาง ซูจิ่นซีก็รู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset