สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน – ตอนที่ 235 กับระเบิดที่อันตรายมาก

“โยวอ๋อง วันนี้เจ้าไม่เพียงแต่มอบของขวัญอวยพระพรแด่ไทเฮาเท่านั้น ทว่าเจ้ายังมอบของขวัญให้ข้าด้วยเช่นกัน”

ฮ่องเต้ทรงเมาสุราจนเลอะเลือน พระสุรเสียงเศร้าสร้อย

“มา เสด็จพี่ดื่มให้เจ้าหนึ่งจอก”

ฮ่องเต้ตรัสพลางยกจอกสุราขึ้นต่อหน้าเยี่ยโยวเหยา

แม่ทัพสองท่านที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว เมื่อเห็นฮ่องเต้เพียงเข้ามาร่วมดื่มสุรากับเยี่ยโยวเหยา จึงวางใจ

เดิมทีซูจิ่นซีคิดว่าเยี่ยโยวเหยาดื่มสุราไม่เป็น กลับคิดไม่ถึงว่าเยี่ยโยวเหยาจะยกจอกสุราขึ้นมาชนกับจอกสุราของฮ่องเต้และดื่มลงไปทันที

“โยวเหยา เจ้ายังจำปีที่ยี่สิบสี่ของอดีตฮ่องเต้ได้หรือไม่ ข้าได้รับพระบัญชาจากอดีตฮ่องเต้ให้ไปบรรเทาทุกข์แก่ราษฎรที่เมืองฉวีโจว ทว่าเจ้าสี่กลับคิดวางแผนทำร้ายข้า คืนก่อนออกเดินทาง เจ้าสี่ท้าข้าแข่งดื่มสุรา แต่เจ้ากลับช่วยดื่มสุรากับเจ้าสี่แทนข้า ในเวลานั้นเจ้าดื่มสุราไปยี่สิบไหเต็มๆ แม้เจ้าจะชนะเจ้าสี่ แต่เจ้าก็นอนพับไปถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนทีเดียว”

ซูจิ่นซีฟังคำพูดของฮ่องเต้ นางได้กลิ่นแผนลวงอันใดบางอย่าง พลางคิดในใจว่าแย่แล้ว

ทว่าไม่ทันกาลเสียแล้ว ฮ่องเต้ไม่ให้โอกาสเยี่ยโยวเหยาได้พูดอันใด “เจ้าเจ็ด วันนี้ข้าขอทดแทนคุณที่เจ้าเคยช่วยข้าไว้ในตอนนั้น พวกเราสองพี่น้องมาแข่งดื่มสุรากันสักครั้งเป็นไร เจ้ากล้าหรือไม่? ”

ฮ่องเต้ตรัสว่าทดแทนคุณให้เยี่ยโยวเหยา ทว่าทุกคนต่างเข้าใจเป็นอย่างดี ฮ่องเต้จดจำบุญคุณครั้งนั้นของเยี่ยโยวเหยาได้หรือ?

หากพระองค์ยังทรงจำได้ เมื่อครั้งที่ฮ่องเต้ยังเป็นจิ้นอ๋องอยู่ เยี่ยโยวเหยาช่วยเหลือพระองค์ไปมากมายเท่าใด? หากฮ่องเต้ยังจดจำบุญคุณในปีนั้นได้ พระองค์ไม่มีทางคิดหาวิธีกำจัดโยวอ๋องตลอดเวลาเหมือนดั่งตอนนี้

ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้ฮ่องเต้ตรัสถามเยี่ยโยวเหยาว่า กล้าหรือไม่ ทว่าไม่ได้ถามว่ายินดีหรือไม่

ครั้งนี้จะแตกต่างอันใดกับครั้งที่องค์ชายสี่ท้าประลองดื่มสุรากับฮ่องเต้หรือ?

ซูจิ่นซีทราบดี ฮ่องเต้ในเวลานี้เป็นดั่งสัตว์ร้ายจนตรอก พระองค์สามารถดิ้นรนหาหนทางทุกอย่างเพื่อต่อต้านเยี่ยโยวเหยา และการประลองดื่มสุราในครั้งนี้จะต้องมากกว่ายี่สิบไหในครั้งที่แล้วอย่างแน่นอน

ซูจิ่นซีไม่รู้ว่าในปีนั้นเยี่ยโยวเหยาดื่มสุราไปกี่ไห แต่เมื่อได้ยินว่าเขาถึงกับนอนพับไปเจ็ดวันเจ็ดคืน นางจึงตระหนักได้ทันทีว่าเขาดื่มสุราได้ไม่เกินสิบไห

ซูจิ่นซีเป็นห่วงเยี่ยโยวเหยายิ่งนัก นางต้องการห้ามไม่ให้เยี่ยโยวเหยารับคำท้าประลองดื่มสุรากับฮ่องเต้

ทว่าเยี่ยโยวเหยาได้รับปากไปแล้ว

“ตกลง! ”

“ทหาร ยกสุราเข้ามาสี่สิบไห” ฮ่องเต้รับสั่งกับองครักษ์

สี่สิบไห?

ฮ่องเต้คิดจะดื่มให้ตายหรืออย่างไร?

ไม่เพียงแต่เยี่ยโยวเหยาเท่านั้น ทุกคนที่อยู่ในงานเกือบทั้งหมดต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง

พวกเขารู้ปริมาตรที่ท้องของคนสามารถบรรจุได้เป็นอย่างดี ไม่มีทางที่จะดื่มได้เยอะถึงเพียงนั้น

ฮ่องเต้ พระองค์คิดจะแข่งขันอย่างไร?

“ดีมาก! เจ้าเจ็ด เจ้าตอบได้สาแก่ใจยิ่งนัก วันนี้สุรามีทั้งหมดสี่สิบไห เราสองพี่น้องแบ่งกันคนละยี่สิบไห ผู้ใดดื่มหมดก่อนเป็นฝ่ายชนะ และใครล้มพับไปก่อนเป็นฝ่ายแพ้ ว่าอย่างไร? ”

เยี่ยโยวเหยาไม่พูดอันใด ทว่าแม่ทัพแห่งกองทัพส่วนกลางกลับลุกยืนขึ้น “ช้าก่อนพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ในเมื่อเป็นการแข่งขันดื่มสุรา ควรมีการกำหนดเวลาด้วยหรือไม่? สุรายี่สิบไห พระองค์คงไม่ดื่มไปเรื่อยๆ จนถึงสามวันสามคืน และให้พวกเราอยู่รอจนพระองค์ดื่มหมด ใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ”

“หึ น่าขัน ในเมื่อเราเป็นคนเสนอเรื่องการประลองดื่มสุรา แล้วจะใช้เวลาดื่มกันสามวันสามคืนได้อย่างไร? ทหาร จุดธูป กำหนดเวลาแข่งขันหนึ่งชั่วยาม”

“หลังจากหนึ่งชั่วยาม หากพระองค์กับท่านอ๋องยังดื่มไม่หมด ควรทำเช่นไร? ”

“เช่นนั้นผู้ใดดื่มได้มากที่สุด เป็นฝ่ายชนะ”

นางกำนัลในตำหนักเตรียมธูปพร้อมแล้ว ขนาดและความยาวของธูปที่นางกำนัลเตรียมมานั้น ต้องใช้ธูปทั้งหมดสามดอกจึงจะครบเวลาหนึ่งชั่วยาม

แม้ใบหน้าของเยี่ยโยวเหยาจะไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ มากนัก ทั้งท่าทียังสงบนิ่ง ทว่าซูจิ่นซีกลับเป็นห่วงเยี่ยโยวเหยาอย่างมาก

ซูจิ่นซีตัดสินใจแล้ว ขณะที่ทำการแข่งขัน นางจะต้องวางยาพิษไร้รูปในไหสุราของฮ่องเต้

ทว่าเยี่ยโยวเหยากลับแสดงท่าทีราวกับเข้าใจความคิดของซูจิ่นซี เขาบีบมือของนาง พลางมองนางด้วยใบหน้าลึกซึ้ง “วางใจได้ เจ้าคอยดูละครฉากนี้ก็พอ”

เมื่อเยี่ยโยวเหยาพูดเช่นนี้ ซูจิ่นซีจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เขา หากนางบุ่มบ่ามลงมือ ถึงเวลานั้นไม่เพียงช่วยเหลือเยี่ยโยวเหยาไม่ได้เท่านั้น ตรงกันข้าม นางอาจสร้างปัญหาใหญ่ให้เขาก็เป็นได้

ธูปกับไหสุราถูกจัดเตรียมไว้พร้อมสรรพ เยี่ยโยวเหยากับฮ่องเต้แบ่งโต๊ะสุราออกเป็นสองฝั่ง สุราทั้งหมดสี่สิบไหถูกจัดวางอยู่ด้านหน้าของเยี่ยโยวเหยากับฮ่องเต้คนละยี่สิบไห

เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาทคือฮ่องเต้ที่แท้จริง ทว่าไม่รู้ด้วยเหตุใด ขณะที่ทั้งสองพระองค์ลุกขึ้นยืน ผู้คนต่างรู้สึกว่าสง่าราศีของเยี่ยโยวเหยาสูงส่งกว่าฮ่องเต้มากนัก

ฮ่องเต้ในสายตาของเยี่ยโยวเหยานั้น เปรียบเสมือนตัวประกันด้อยค่า ต่ำต้อยไร้ราคายิ่งนัก

ผู้คนในวังที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการส่งเสียงเริ่มต้นการแข่งขัน เยี่ยโยวเหยากับฮ่องเต้ต่างยกไหสุราที่อยู่ข้างหน้าขึ้นดื่มทันที

เมื่อเริ่มต้น ความเร็วของทั้งสองพระองค์อยู่ในระดับเดียวกัน เยี่ยโยวเหยาดื่มหมดหนึ่งไห ฮ่องเต้ก็ดื่มหมดหนึ่งไหเช่นกัน เยี่ยโยวเหยาหยิบสุราขึ้นมาอีกหนึ่งไห ฮ่องเต้ก็หยิบสุราขึ้นมาอีกหนึ่งไหเช่นกัน พวกเขาดื่มเช่นนี้ไปคนละสามไห เห็นได้ชัดว่าเยี่ยโยวเหยาดื่มได้เร็วกว่าฮ่องเต้

สุราไหที่สี่ของเยี่ยโยวเหยาดื่มหมดแล้ว ทว่าฮ่องเต้กำลังจะดื่มสุราไหที่สี่

ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่ภักดีและสนับสนุนเยี่ยโยวเหยาต่างแสดงความดีใจ

ในเวลานี้ คนที่อยู่ฝ่ายฮ่องเต้เหลือเพียงไทเฮากับแม่ทัพอวี่เหวิน พวกเขาทั้งสองรู้สึกเป็นห่วงฮ่องเต้ยิ่งนัก

“ฝ่าบาท เข้มแข็งเข้าไว้! ฝ่าบาท โยวอ๋องเริ่มดื่มไหที่ห้าแล้ว พระองค์เร่งหน่อย! ” ไทเฮาตรัสด้วยความตื่นเต้น

ฮ่องเต้เริ่มร้อนพระทัยเช่นกัน พระองค์เห็นเยี่ยโยวเหยาดื่มสุราไหที่ห้าไปประมาณหนึ่งในสามส่วนแล้ว จึงยืดลำคอและเริ่มกรอกสุราลงไปโดยตรงทันที

ทุกคนต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน ฮ่องเต้ใช้วิธีดื่มถวายชีวิตจริงๆ

พวกเขาเห็นเพียงฮ่องเต้เปิดพระโอษฐ์ค้างไว้และกรอกสุราลงไปในลำคอโดยตรงไม่ได้หยุด สุราทั้งหมดถูกกรอกลงไปในลำคอ

ทว่าฝั่งเยี่ยโยวเหยากลับยังคงสงบนิ่ง

แม้เขาจะหยิบไหสุราขึ้นมาดื่มโดยตรง ทว่าอากัปกิริยาของเขาไม่รุนแรงหยาบกระด้าง ตรงกันข้าม เขามีท่วงท่าสง่างามยิ่งกว่าฮ่องเต้เสียอีก

วิธีดื่มสุราของฮ่องเต้เช่นนี้ ทำให้พระองค์สามารถไล่ตามเยี่ยโยวเหยาได้ทัน มิหนำซ้ำยังนำหน้าเยี่ยโยวเหยาอีกด้วย เยี่ยโยวเหยาเพิ่งจะดื่มไหที่ห้าหมด ฮ่องเต้ก็หยิบสุราไหที่หกกรอกเข้าปากไปแล้ว

ขณะที่ฮ่องเต้วางสุราไหที่หก เยี่ยโยวเหยากำลังดื่มสุราไหที่หกได้เพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น

“ท่านอ๋อง ฝ่าบาทเร็วกว่าท่านแล้ว! ”

คนผู้หนึ่งอดส่งเสียงเตือนเยี่ยโยวเหยาไม่ได้ ทว่าน่าเสียดายที่เยี่ยโยวเหยาทำราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ท่วงท่าการดื่มสุราของเยี่ยโยวเหยายังคงสง่างามเช่นเดิม

หลังจากนั้นไม่นาน ฮ่องเต้ก็ดื่มได้เร็วกว่าเยี่ยโยวเหยาหนึ่งไห

ฮ่องเต้หยิบสุราไหที่สิบเอ็ดขึ้นมา ทว่าเยี่ยโยวเหยายังคงดื่มไหที่สิบอย่างไม่รีบร้อน

ใบหน้าของกลุ่มคนที่อยู่ฝ่ายโยวอ๋องแสดงความกังวลมากขึ้น

ในใจซูจิ่นซีอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้

ในปีนั้นที่เยี่ยโยวเหยาแข่งดื่มสุรากับองค์ชายสี่ ทั้งสองพระองค์ต่างดื่มไปทั้งหมดยี่สิบไห หรือคนละสิบไห หลังจากการดื่มสุราในครั้งนั้น เยี่ยโยวเหยาก็นอนพับหลับไปถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน หมายความว่าขีดจำกัดในการดื่มสุราของเยี่ยโยวเหยามีไม่เกินสิบไห

เยี่ยโยวเหยาดื่มสุราไหที่เก้าหมดแล้ว เขาหยิบสุราไหที่สิบขึ้นมา ตามจำนวนการดื่มสุราของเขาในปีนั้น เขาจะสามารถดื่มสุราได้อีกกี่ไหกัน?

เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของฮ่องเต้ เหมือนพระองค์จะรู้จุดอ่อนของเยี่ยโยวเหยาเป็นอย่างดี พระองค์ได้กระทำการโดยเตรียมพร้อมไว้แล้ว เยี่ยโยวเหยาคงไม่แพ้ให้กับฮ่องเต้ใช่หรือไม่?

ความจริงแล้ว หากมองจากเหตุการณ์ในวันนี้ เยี่ยโยวเหยาไม่สมควรใส่ใจท่าทียั่วโมโหเช่นนี้ของฮ่องเต้ ยิ่งไม่จำเป็นต้องแข่งดื่มสุรากับพระองค์

ทว่าเขากลับยอมแข่งขันด้วย

ซูจิ่นซีเข้าใจเยี่ยโยวเหยาเป็นอย่างดี

ที่เยี่ยโยวเหยาทำเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะความผูกพันฉันพี่น้องกับฮ่องเต้ในปีนั้น ทว่าเขาต้องการแสดงถึงอำนาจที่มากยิ่งขึ้นต่อสายตาของขุนนางที่เพิ่งเข้ามาอยู่ฝ่ายเดียวกับเขา

การชิงชัยหรือการต่อสู้ระหว่างบุรุษนั้นง่ายดายนัก เพียงวัดกันที่กระบี่หรือไม่ก็สุราบนโต๊ะ

หากวันนี้เยี่ยโยวเหยาชนะฮ่องเต้ อิทธิพลที่มีในฝ่ายของเขาจะแข็งแกร่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากวันนี้เขาแพ้ให้กับฮ่องเต้ เหล่าผู้คนที่หันมาอยู่ฝ่ายเขา จะมีสักกี่คนที่กลับมาอยู่ฝ่ายเขาด้วยความจริงใจ?

หากพวกเขากลับมาอยู่ฝ่ายโยวอ๋องอย่างไม่จริงใจ ต่อไปฮ่องเต้จะต้องใช้ประโยชน์จากคนพวกนี้เพื่อพลิกสถานการณ์ขึ้นมา คนเหล่านี้จะกลายเป็นกับระเบิดข้างกายที่อันตรายมาก

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน สามพันปีก่อนที่แผ่นดินเทียนเหอจะได้รับการจดบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ สกุลซู ตระกูลแพทย์ที่เก่าแก่และร่ำรวยแห่งแคว้นจงหนิง ภายในห้องที่รกร้างทรุดโทรมห้องหนึ่ง บุตรสาวคนที่เจ็ด ‘ซูจิ่นซี’ เสื้อผ้าขาดลุ่ย ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลถูกมัดติดกับเสา ข้างกายคือสาวงามนางหนึ่ง นางสวมอาภรณ์หรูหรา ในมือถือกริชค่อยๆ เฉือนลงบนร่างกายของซูจิ่นซี “ไอ้โง่ เจ้ายังไม่ยอมอ้าปากพูดอีกหรือ หยกกิเลนอยู่ที่ใด” ร่างของซูจิ่นซีสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ทว่าปากก็ยังถูกปิดสนิทให้ไม่สามารถพูดได้แม้แต่คำเดียว ดวงตาสีเข้มมืดมนคลอด้วยหยาดน้ำตา ส่งสายตาวิงวอนต่อสาวงามนางนั้น หญิงสาวยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วดึงผ้าที่อุดปากซูจิ่นซีออก สาวงามตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “พูด! ” แต่นางกลับคาดไม่ถึงว่าซูจิ่นซีจะร้องไห้ส่งเสียงดังสนั่นราวกับเด็กน้อยขึ้นมา “พี่หญิงเป็นคนหลอกลวง ฮือ…ฮือฮือ…บอกว่าจะให้ข้ากินปลา ท่านพี่หลอกข้า ฮือฮือ ลวี่หลี… ข้าเจ็บเหลือเกิน! ลวี่หลี…ฮือฮือฮือ…ข้าเลือดไหล ลวี่หลี…” ดวงตาส่องประกายของสาวงามหม่นแสงลงทันที กริชในมือยกขึ้นจ่อคอของซูจิ่นซีอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “หุบปาก! หากยังตะโกนอีก ข้าจะฆ่าเจ้าเสียตอนนี้! ” ซูจิ่นซีหวาดกลัวเสียจนหยุดส่งเสียงร้องไห้ในทันใด อีกทั้งยังมองสาวงามด้วยแววตาขยาด ทว่าในขณะที่ดวงตาอันสับสนของซูจิ่นซีมองทะลุผ่านสาวงามไปยังบุรุษผู้มีรังสีมืดมนบนเก้าอี้ไม้จันทน์สีแดงแปดเหลี่ยมข้างหลังนาง ซูจิ่นซีก็รู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset