หญิงสาวปิดประตูห้องนอนของตัวเองแรงๆ อย่างขัดใจ จากนั้นก็เดินไปเปิดไฟจนสว่างไปทั่วทั้งห้อง กำลังจะเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง แต่สายตาก็เห็นว่าใครบางคนบุกลุกเข้ามาในห้องส่วนตัวของตนเองเสียก่อน ความรู้สึกแรกคือตกใจ แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็เปี่ยมไปด้วยความยินดี
“อาเสือ…”
แต่พอเห็นสีหน้าท่าทางเย็นชา เฉยเมย ทำเหมือนหล่อนเป็นแค่เพียงอากาศธาตุของเขาเท่านั้นแหละความยินดีก็เปลี่ยนเป็นความน้อยใจทันควัน
“ออกไปจากห้องของวดีค่ะ วดีจะพักผ่อน”
“เมื่อก่อนวดีชอบให้อาอยู่ด้วยไม่ใช่หรือ”
คนฟังหัวใจกระตุก เจ็บปวดเหมือนถูกกรีดด้วยมีดโกน
“นั้นมันก่อนที่พี่อรรถจะมาค่ะ”
คนตัวโตที่ยืนนิ่งอยู่ริมหน้าต่าง จ้องหน้าหล่อนเขม็ง นัยน์ตาคมกริบสีนิลวาววับขึ้นจนน่าประหลาดใจ
“เธอหมายความว่ายังไงวดี”
หญิงสาวเชิดหน้าสูง ความน้อยใจทำให้หล่อนเลือกจะโกหกออกไป
“ก็หมายความว่าวดีถูกใจพี่อรรถมากเลยยังไงล่ะคะ”
เมื่อเห็นเขาเงียบหล่อนจึงพูดต่อ
“วันนี้เราสนุกกันมาก และก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ พี่อรรถเป็นผู้ชายน่ารักมากค่ะ เทคแคร์เอาใจใส่วดีราวกับวดีเป็นเจ้าหญิง”
เขายังคงยื่นนิ่งเหมือนเดิม แต่สายตานั้นกระด้างขึ้นเรื่อยๆ
“อาเห็นแล้วล่ะว่าพวกเธอสองคนสนิทกันมากแค่ไหน อายินดีด้วย”
แทนที่เขาจะรู้สึกรู้สาอะไรบ้าง แต่นี่ไม่มีเลย ราชาวดีเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ขอบคุณมากค่ะอาเสือ ขอบคุณที่คัดสรรผู้ชายดีๆ มาให้วดี และวดีสัญญาว่าจะไม่ยอมปล่อยให้ผู้ชายคนนี้หลุดมือไปอย่างแน่นอน”
“เธอชอบนายอรรคจริงๆ หรือวดี”
หล่อนหมุนตัวหันหลังให้กับเขา และปั้นเสียงราบเรียบที่สุดตอบออกไป
“ใช่ค่ะ ชอบมาก”
“ก็ดี…”
นี่เขาพูดเป็นได้แค่นี้หรือไง
“วางใจได้เลยนะคะ เพราะว่าต่อจากนี้เป็นต้นไป อาเสือจะไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวที่วดีคิดถึงแล้วล่ะค่ะ”
ให้ตายเถอะ ไม่ว่าหล่อนจะพูดจะประชดประชันยังไงเขาก็ยังเป็นเขาที่ยืนสงบนิ่ง และไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาเลย
‘คนใจน้ำแข็ง คนไม่มีหัวใจ’
“ถ้าเธอทำได้ยังงั้นก็ดี อาจะได้ไม่ต้องลำบากใจอีก”
กระบอกตาของหล่อนร้อนผ่าว หยาดน้ำตาหลั่งรินออกมา หัวใจเจ็บปวดทรมานเป็นที่สุดเมื่อเขาแสดงให้เห็นว่าไม่ใยดีหล่อนเลยสักนิด
“ค่ะ ถ้าอาเสือไม่มีธุระอะไรกับวดีแล้ว กรุณาออกไปเถอะค่ะ”
ไม่มีเสียงตอบรับจากเขา นอกจากเสียงปิดประตูเท่านั้นที่ดังขึ้น ราชาวดีหันกลับไปมองก็เห็นแต่เพียงบานประตูที่ถูกปิดลงเท่านั้น
“คนใจร้าย… ใจร้ายที่สุด”
ร่างอรชรทรุดฮวบลงกองกับพื้น ร้องไห้ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน ไม่มีหวังอีกแล้วสินะกับผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่หล่อนทั้งรักทั้งเทิดทูน
“ระยำ!”
เสียงสบถดังลั่น พร้อมๆ กับแก้วเหล้าที่ถูกปาลงบนพื้นจนแตกละเอียด เศษแก้วกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ แต่นั่นก็ยังไม่สามารถดับไฟที่สุมอยู่ในอกของชาติพยัคฆ์ได้
ทำไมเขาจะต้องรู้สึกแย่แบบนี้ รู้สึกคลั่งแบบนี้ด้วย ทั้งๆ ที่ควรจะดีใจสิ ควรจะดีใจที่ทุกอย่างที่ตัวเองเตรียมพร้อมเอาไว้ให้กับราชาวดีมันกำลังเดินหน้าไปอย่างสวยงาม ไม่มีสิ่งกีดขวาง แต่เขา… เขากลับเจ็บลึกเข้าไปในอก เจ็บเหมือนถูกกรีดลึกด้วยใบมีดโกน
“เจ็บ…”
มือหนายกขึ้นจับที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง ใบหน้าหล่อลากดินแดงก่ำด้วยความสับสนอย่างหนัก เขาควรจะทำยังไงดี จะทำยังไงกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นดี เขารัก… รักแม่เด็กสาวจอมยั่วอย่างราชาวดี แต่ก็แตะต้องไม่ได้ จำต้องผลักไสหล่อนให้กับผู้ชายคนอื่น แต่พอเห็นหล่อนกำลังไปได้ดีกับคนที่เขาเลือกให้ เขากลับทุกข์ทรมานแสนสาหัส เจ็บหัวใจจนแทบแหลกเลว
ทั้งๆ ที่เคยคิดว่าทนได้ แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ ร่างกายของเขา หัวใจของเขามันกลับทรยศ เขาทนไม่ได้! ทนไม่ได้จริงๆ!
“อาเสือมีธุระอะไรกับผมเหรอครับ ถึงให้ป้าแก้วไปตามผมถึงห้องเลย”
เสียงของอรรถพรดังขึ้น และมันก็ช่วยเรียกสติของเขาให้กลับคืนมา แม้ว่ามันจะไม่ได้กลับมาทั้งหมดก็ตาม
“นั่งก่อนสิ”
“ขอบคุณครับอาเสือ”
อรรถพรมองหน้าของชาติพยัคฆ์สลับกับขวดเหล้า
“พ่อไม่เห็นเคยพูดให้ผมฟังเลยว่าอาเสือดื่มเหล้าด้วย”
เจ้าของชื่อแค่นยิ้มหยัน
“คนเรามันก็ต้องมีมุมมืดบ้าง”
อรรถพรยิ้มรับ
“ผมรู้สึกว่าอาเสือกำลังคลั่ง”
นัยน์ตาของชาติพยัคฆ์ตวัดมาสบประสานกับคู่สนทนานิ่ง แม้ว่าจะอ่านความรู้สึกไม่ออก แต่อรรถพรก็อดตัวสั่นด้วยความหวั่นเกรงไม่ได้
“อย่าเดาความรู้สึกของคนอื่นมั่วซั่วแบบนั้นสิ อาไม่ได้เป็นอะไร และที่เรียกมาหานี่ก็แค่มีเรื่องอยากจะตักเตือนเท่านั้น”
“เรื่องอะไรเหรอครับอาเสือ”
อรรถพรเอ่ยถามและตั้งใจฟัง
“วดียังเด็ก อายุพึ่งสิบแปด อาไม่ต้องการให้อรรถแตะเนื้อต้องตัววดีหลานสาวของอา”
“ผม… ไม่ได้แตะต้องอะไรน้องวดีเลยนะครับ ผมแค่…”
“เอาเป็นว่าตามที่อาสั่งก็แล้วกัน ไปได้แล้ว”
ชาติพยัคฆ์ตัดบทเสียงกระด้าง จากนั้นก็หันไปสนใจเหล้าของตัวเองต่อ
อรรถพรมองชายหนุ่มที่หล่อราวกับเทพบุตรกรีกเบื้องหน้าด้วยความเคลือบแคลงใจเป็นที่สุด ชาติพยัคฆ์ทำเหมือนกับหวงราชาวดี แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อชาติพยัคฆ์เองนั่นแหละที่ต้องการให้เขาคบหาดูใจกับหลานสาวของตัวเอง
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนะ?
“งั้นผมกลับห้องก่อนนะครับ”
“ตามสบาย”
อรรถพรลุกขึ้นยืน และก็อดเป็นห่วงชาติพยัคฆ์ไม่ได้ เพราะเห็นเขายกขวดขึ้นกระดกอักอักทั้งขวด
“อาเสือก็อย่าดื่มหนักนักนะครับ ผมเป็นห่วง”
ชาติพยัคฆ์ไม่ตอบและไม่สนใจอะไรเลย นั่นจึงทำให้อรรถพรต้องเดินจากไปอย่างเงียบๆ และก็สวนทางกับป้าแก้วที่ยังไม่เข้านอนพอดี
“ป้าแก้วครับ อาเสือดื่มอยู่ที่ริมสระ ดื่มหนักเสียด้วย”
หญิงสูงวัยระบายลมหายใจออกมาเบาๆ อย่างหนักอก
“ป้าก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันค่ะ ขัดใจได้ที่ไหนกันล่ะคะคุณเสือน่ะ”
“แล้วนี่อาเสือดื่มหนักแบบนี้ทุกวันเลยหรือเปล่าครับ”
คู่สนทนาสูงวัยส่ายหน้า
“พึ่งมาเป็นได้อาทิตย์เดียวเองค่ะ ป้าก็ไม่รู้จะห้ามยังไง”
อรรถพรจ้องหน้าป้าแก้ว และถามด้วยความสงสัย
“แล้วป้าแก้วไม่รู้จริงๆ เหรอครับว่าอาเสือดื่มเพราะเรื่องอะไร”
คนถูกถามชะงัก หน้าตามีพิรุธแต่ก็สามารถแก้ตัวได้สำเร็จ
“ไม่รู้หรอกค่ะ ป้าขอตัวก่อนนะคะ”
ป้าแก้วรีบเดินจากไป ในขณะที่อรรถพรมองตามไปด้วยสายตาเคลือบแคลง