เกมรักแสนร้อนแรงและยาวนานของชาติพยัคฆ์ทำให้หล่อนเพลียหลับเป็นตายไปหลายชั่วโมงเลยทีเดียว กว่าจะสามารถมีแรงลืมตาตื่นขึ้นมาได้ หญิงสาวขยับตัวแผ่วเบา เพราะเจ็บระบมไปทั่วทั้งกายสาว โดยเฉพาะร่องรักที่ถูกเขาย้ำสวาทเข้าใส่อย่างหนักหน่วงและแสนจะยาวนาน ดวงหน้างามแดงก่ำ เหลือบแลมองร่างใหญ่เปลือยทั้งตัวของอาหนุ่มด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยชื่นชมระคนขัดเขิน
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นโดยที่หล่อนไม่ทันได้สักตัวเลยสักนิด มันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ก็ร้อนแรงมากพอๆ กัน หญิงสาวเม้มปากแน่น ภาพที่เกิดขึ้นยังคงติดแน่นอยู่ในสมอง ความรู้สึกยามที่ถูกเขาดูดด้วยริมฝีปากกระด้าง ความรู้สึกยามที่ถูกลิ้นสากตวัดเลียไปทั่วทั้งกายสาว หล่อนเสียวซ่าน จนหยาดรักทะลักไหลเยิ้มออกมา หล่อนมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นยิ่งนัก เพราะรอคอยเวลานี้มานานเหลือเกิน แต่เขาล่ะ…
ความอิ่มเอมในหัวใจค่อยๆ สลายจางหายไป โดยมีความปวดร้าวแล่นเข้ามาแทนที่ เมื่อความเป็นจริงที่พยายามลืมมันหวนกลับมาย้ำเตือนในอกอีกครั้ง หญิงสาวเม้มปากเป็นเส้นตรง กะพริบตาถี่ๆ เพื่อขับไล่หยาดน้ำตาให้ไหลกลับเข้าไปภายในอก จากนั้นก็ค่อยๆ ขยับตัวออกห่างจากเขา
“อาเสือไม่ได้รักวดี…”
ใช่… นี่มันคือความจริง ความจริงที่หล่อนไม่มีทางลืมมันลงได้ ความจริงที่คอยตอกย้ำให้หล่อนทั้งปวดร้าวและทรมานแสนสาหัส ทำยังไงชาติพยัคฆ์ก็ไม่มีทางรักหล่อน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เพราะโทสะและฤทธิ์เดชของแอลกอฮอล์เพียงเท่านั้น มันไม่มีอะไรสำคัญเลยในความรู้สึกของผู้ชายคนนี้
หยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ทะลักออกมาอาบแก้มอย่างท่วมท้น หญิงสาวกัดปากแน่นเพื่อสะกดกลั้นเสียงสะอื้นไห้เอาไว้ รีบยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะรีบลนลานใส่เสื้อผ้าให้กับตัวเองด้วยมือไม้ที่สั่นเทา แต่กระนั้นก็ยังไม่เท่าความสั่นสะท้านในหัวใจเลยแม้แต่น้อย
ชาติพยัคฆ์ไม่ได้ใยดีหล่อน ทุกอย่างที่เกิดมันคือความผิดพลาด และหล่อนก็จะไม่ใช่ความผิดพลาดนี้บังคับให้เขารับผิดชอบอย่างเด็ดขาด หล่อนจะลืมมัน… จะลืมทุกอย่าง หญิงสาวสะอื้นไห้แผ่วเบา จากนั้นก็ก้าวลงไปจากกระท่อมเงียบๆ ทิ้งให้ร่างของคนตัวโตนอนอยู่ข้างในอย่างเดียวดาย
“คุณหนูวดี… หายไปไหนมาคะเนี้ย ป้าเป็นห่วงแทบแย่”
ป้าแก้วร้องทักด้วยความดีใจ เมื่อเห็นราชาวดีเดินเข้ามาในบ้าน แต่พอมองใกล้ๆ แล้วนั้น สภาพของเด็กสาวช่างน่าตกใจเป็นที่สุด
“คุณหนู… คุณหนูไปทำอะไรมานะ ทำไม… เสื้อผ้าถึงได้…”
ราชาวดีส่ายหน้าน้อยๆ พลางฝืนยิ้ม
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะป้าแก้ว วดีขอตัวขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะคะ”
แล้วหญิงสาวก็รีบวิ่งหนีขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง ป้าแก้วได้แต่มองและยืนอึ้งด้วยความเป็นกังวล เพราะสภาพของราชาวดีที่เห็นนั้นมันเหมือนถูกรุมโทรมมาไม่มีผิด ปากบวมเบ่ง ผิวขาวๆ ช้ำเป็นจ้ำๆ ไปทั่วทั้งแขน แถมที่ลำคอระหงยังมีรอยดูดอีก
“คุณหนู… ใครทำคุณหนู…”
ป้าแก้วแทบล้มทั้งยืน เพราะมั่นใจว่าต้องมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับราชาวดีอย่างแน่นอน แต่ตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องรอให้ชาติพยัคฆ์กลับมาที่บ้าน ซึ่งชายหนุ่มก็จ้ำอ้าวๆ ตามหลังราชาวดีกลับมาบ้านเพียงแค่สิบห้านาทีเท่านั้นเอง
ป้าแก้วเตรียมตัวจะรายงาน แต่ท่าทางที่เต็มไปด้วยความเดือดดาล ราวกับเสือร้ายของชายหนุ่มก็ทำให้หญิงสูงวัยเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนพูดไม่ออก
“คุณหนูของป้าแก้วกลับมาถึงบ้านหรือยังครับ”
“เอ่อ มาถึงแล้วค่ะ อยู่บน… ห้อง”
ชาติพยัคฆ์แทบจะกระโจนจากไปทันที แต่ป้าแก้วก็คว้าแขนของชายหนุ่มเอาไว้เสียก่อน
“เอ่อ คุณเสือคะ คือว่า…”
“ผมไม่มีเวลาฟังป้าแก้วหรอกนะตอนนี้ ผมมีเรื่องจะต้องเคลียร์กับคุณหนูของป้า…”
ชายหนุ่มแกะมือของป้าแก้วออก และจะเดินไป แต่ป้าแก้วก็วิ่งไปขวางหน้าเอาไว้
“คุณเสือคะ… คือว่า…”
“หลีกไปครับป้าแก้ว ผมรีบ”
ท่าทางของชาติพยัคฆ์เต็มไปด้วยความเดือดดาลอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ป้าแก้วก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบอกออกไป
“ป้า… ป้าคิดว่าคุณหนูวดี…”
“ป้าแก้ว…”
ชายหนุ่มเค้นเสียงกระด้างออกมาอย่างสิ้นสุดความอดทาน
“คุณหนูวดีน่าจะถูกคนงานในไร่รุมข่มขืนมาค่ะ”
คิ้วเข้มของชาติพยัคฆ์เลิกสูงด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะตามด้วยความขบขันในอก เพราะคนที่ป้าแก้วกล่าวหาคือเขานั่นเอง
“ทำไมป้าแก้วคิดแบบนั้นล่ะครับ”
“ก็…”
หญิงสาวสูงวัยตาแดงก่ำ เพราะสงสารในชะตากรรมของราชาวดียิ่งนัก
“ก็… คุณหนูวดีกลับมาด้วยสภาพบอบช้ำ เสื้อผ้าขาดวิ่น ปากคอก็บวมช้ำ สภาพไม่ต่างจากถูกผู้ชายเป็นสิบรุมโทรมมาเลยค่ะ ป้า… ป้าสงสารคุณหนูวดีเหลือเกิน…”
แล้วป้าแก้วก็ร่ำไห้ออกมา ในขณะที่ชาติพยัคฆ์ยืนนิ่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
‘นี่เราตะกละตะกลามกับวดีจนขนาดนั้นเชียวหรือ’
“ทำไมคุณเสือไม่เห็นรู้ร้อนรู้หนาวเลยล่ะคะ หรือว่าไม่รักไม่เอ็นดูคุณหนูวดีแล้ว”
ป้าแก้วตัดพ้อทั้งน้ำตาเมื่อเห็นชาติพยัคฆ์ยืนนิ่งไม่สะทกสะท้าน
ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมา ก่อนจะตามออกมา
“ผมยังรู้รักกับวดีเหมือน… ไม่สิ มากกว่าเดิม ขอตัวนะครับ”
“เดี๋ยวค่ะคุณเสือ แล้ว… จะให้ป้าไปแจ้งความไหมคะ”
คนที่เดินจากไปแล้วหยุดเดิน และตอบกลับมา
“ไม่ต้องครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง”
ร่างสูงใหญ่ของชาติพยัคฆ์เดินขึ้นบันไดหายไปแล้ว และทิ้งให้ป้าแก้วร่ำไห้เพราะคิดว่าราชาวดีถูกรุมโทรมมาเหมือนเดิม