ป้าแก้วเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อวันนี้ภายในห้องอาหารนั้นช่างแตกต่างไปจากทุกวันที่ผ่านมายิ่งนัก ก็ทุกวันราชาวดีจะเป็นฝ่ายง้องอนแอบมองชาติพยัคฆ์ตลอดเวลา แต่วันนี้ไม่ใช่แบบนั้น ทุกอย่างเปลี่ยนไป เพราะราชาวดีนิ่งเฉย ในขณะที่ชาติพยัคฆ์กลับเอาแต่มอง และเอาใจเด็กสาวตลอดเวลา
“อย่าดื้อน่ะวดี อาบอกให้กินข้าว”
“ก็วดีไม่หิวนี่คะ วดีจะขึ้นห้อง”
ชายหนุ่มกระชากแขนกลมกลึงเอาไว้ และดึงให้หล่อนมานั่งบนตัก ป้าแก้วเห็นก็อุทานด้วยความตกใจแกมประหลาดใจ
“ปล่อยวดีนะอาเสือ อายป้าแก้ว”
หญิงสาวหน้าแดงก่ำ ในขณะที่ชาติพยัคฆ์หันมาสั่งป้าแก้วด้วยน้ำเสียงที่เต็มขบขัน
“ป้าแก้วออกไปก่อนเถอะครับ พาคนอื่นออกไปด้วย ผมจะปราบพยศคุณหนูของป้าสักหน่อย”
ป้าแก้วมองด้วยความมึนงง
“แต่ว่า… ป้าต้องคอยรับใช้…”
“ถ้าผมต้องการผมจะเรียกเองครับ ป้าพาเด็กๆ ออกไปเถอะ”
ป้าแก้วไม่มีทางเลือกนอกจากพาพวกคนใช้อีกสามคนเดินตามออกไปนอกห้องอาหาร
“วันนี้คุณเสือมีท่าทางแปลกๆ พวกเอ็งว่าไหม”
ป้าแก้วเป็นคนตั้งคำถาม
“มันแปลกมาตั้งแต่บนห้องนอนของคุณหนูวดีแล้วล่ะป้า”
หญิงสูงวัยหันมาจ้องหน้าคนพูด
“แกหมายความว่ายังไงนังลำดวน”
“ฉันก็หมายความว่าคุณเสือกับคุณหนูวดีน่ะ เขา… เขา…”
ลำดวนหัวเราะร่วน
“อะไรของเอ็งวะ บอกมาสิ คุณหนูกับคุณเสือทำไม”
“นี่ป้า… เมื่อชั่วโมงก่อนฉันขึ้นไปชั้นบนและก็เดินผ่านห้องนอนของคุณหนูวดีน่ะ”
“เออ แล้วทำไม…”
ป้าแก้วก็ยังสงสัยไม่เลิก
“ฉันได้ยินเสียงน่ะสิ”
“เสียงอะไรของเอ็ง…”
ลำดวนซึ่งยังเป็นสาวเป็นนางอยู่ยิ้มกว้างอย่างกระดากอายแต่ก็อยากรู้อยากเห็น
“ก็เสียงครางอ่ะป้า…”
“เสียงคราง”
“ใช่… เสียงครางของคุณเสือกับคุณหนูวดี…”
“ว่าไงนะ?!”
ป้าแก้วตกใจแทบช็อก เพราะไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ ในเมื่อชาติพยัคฆ์หนีมาตลอด
“ฉันได้ยินเสียงคุณเสือกับคุณหนูวดีครางกันอยู่ในห้องน่ะป้า แล้วยังมีเสียงเตียงโยกแรงๆ อีกนะ ไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าเขาทำอะไรกัน”
“คงไม่ใช่…”
“ใช่สิป้าแก้ว… ทั้งครางทั้งโยกกันเตียงแบบพังแบบนั้นน่ะ”
ป้าแก้วยืนนิ่งไปและก็คิดถึงท่าทางที่เปลี่ยนไปของชาติพยัคฆ์
“โธ่ คุณเสือ ไหนว่าจะไม่ยังไงล่ะคะ”
“ถ้าป้าไม่เชื่อ เราไปแอบดูที่ห้องอาหารก็ได้นะ ฉันว่าป่านนี้คงจะกำลัง…”
ลำดวนหัวเราะคิกคัก จนป้าแก้วต้องหันมาเอ็ด
“หุบปากไปเลย เรื่องของเจ้านาย ไปให้พ้นหูพ้นตาไป”
“ก็มันเรื่องจริงนี่ หนูนะอิจฉาคุณหนูวดีที่ซู้ดดดด อยากกินผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งแรงดีแบบคุณเสือบ้าง”
“ไปให้พ้นหน้าเลย! ไปสิ”
“ไปก็ได้ แต่ป้าอย่าไปแอบดูคนเดียวล่ะ”
แล้วลำดวนก็วิ่งหัวเราะคิกคักจากไป ทิ้งให้ป้าแก้วยืนชะเง้อมองเข้าไปในห้องอาหารเพียงลำพัง และนั่นก็ทำได้เห็นทั้งคู่กำลังดูดปากกันอย่างดูดดื่ม ป้าแก้วจึงรีบเผ่นแน๊บจากไปทันที ปล่อยให้สองอาหลานต่างสายเลือดขยี้ปากกันต่อไปอย่างไร้ที่สิ้นสุด
“หวานเหลือเกินวดีจ๋า…”
เด็กสาวก้มหน้าหลบสายตาคมกริบของคุณอาหนุ่มสุดหล่อ
“อาเสือไม่เคยต้องการวดี แล้วมาทำแบบนี้กับวดีทำไมคะ”
นิ้วแกร่งเชยคางมนบังคับให้เด็กสาวสบประสานสายตาด้วย จากนั้นก็ก้มลงจูบแผ่วเบาที่หน้าผากกว้าง และตามติดไปที่แก้มนวลทั้งสองข้าง ก่อนจะไปอิ่งอ้อยอยู่ที่กลีบปากอิ่มเต็มหวานล้ำ ที่ไม่ว่าจะจูบจะดูดจะขยี้บดคลึงสักกี่ครั้งก็ไม่เคยอิ่มเอม ต้องการซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ใครว่าอาไม่เคยต้องการวดีกันล่ะ”
“ก็อาเสือเป็นคนบอกเอง แถมยังทั้งผลักไส ทั้งยัดเยียดวดีให้กับผู้ชายคนอื่น”
“แล้ววดีไม่ชอบหรือ ผู้ชายที่อาหามาให้ทั้งหนุ่มกว่าอาทั้งเด็กกว่าอา”
ราชาวดีน้ำตาคลอ ตอนนี้ไม่คิดจะปิดบังอะไรอีกต่อไปแล้ว พูดให้มันจบๆ ไป ทุกอย่างจะได้สิ้นสุดลงสักที
“ตั้งแต่วดีจำความได้ วดีไม่เคยมองผู้ชายคนไหนเลยนอกจากอาเสือ วดีรักอาเสือมาตลอด ทั้งรักทั้งบูชาอาเสือ และเฝ้าฝันว่าสักวันวดีจะได้เป็นเจ้าสาวของอาเสือ ผู้ชายที่วดีรัก”
หญิงสาวสะอื้นไห้เสียงสั่นเครือ แต่ก็ยังกัดฟันพูดต่อ
“แต่อาเสือเอาแต่วิ่งหนีวดี ทั้งหนีทั้งผลักไสตลอดเวลา ในสายตาของอาเสือวดีก็แค่เด็กกะโปโลน่ารำคาญ ใช่… วดีรู้ รู้มาตลอดว่าอาเสือไม่ได้รัก แต่วดีก็ยังอดทน เฝ้าทนที่จะพยายามให้ถึงที่สุด สู้ให้ถึงที่สุด เพื่อสักวันฝันของวดีจะกลายเป็นจริง แต่แล้ว… อาเสือก็มีผู้หญิงคนอื่น ในขณะที่ยัดเยียดวดีให้กับพี่อรรถ…”
หยาดน้ำตาหลั่งรินอาบแก้ม มองเขาด้วยความเจ็บปวด น้อยใจ
“ตอนนี้… วดียอมแพ้แล้วค่ะ วดีจะไม่สู้อีกแล้ว วดีจะไปจากอาเสือ ทุกอย่างระหว่างเราจะได้จบลงสักที”
“ไม่มีทางหรอกวดี อาไม่มีทางปล่อยวดีไป”
“อาเสือยังจะให้วดีอยู่ทำไมคะ อยู่รอดูอาเสือแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นหรือไง”
หญิงสาวสะบัดตัวแรงๆ แต่ไม่หยุด ในขณะที่เขาจ้องหน้าหล่อนนิ่ง
“อาไม่เคยมีใคร…”
“แล้วแม่มนดำอะไรนั่นล่ะ”