ราชาวดีไม่รู้หรอกว่าหนทางที่วิ่งผ่านมานั้นมันยาวไกลแค่ไหน และตอนนี้ตัวเองมาอยู่ที่ไหนแล้ว รู้เพียงแต่ว่าหล่อนต้องไปให้ไกล ต้องไปให้ไกลจากผู้ชายใจร้ายอย่างชาติพยัคฆ์ ผู้ชายที่ไม่เคยมองหล่อนโตเป็นสาว ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะรักหล่อนเลยสักครั้ง
“อาเสือใจร้าย ใจร้ายที่สุด!”
หญิงสาวคร่ำครวญร่ำไห้ หยาดน้ำตาปิดบังการมองเห็น และนั่นก็ทำให้หล่อนไม่ทันได้เห็นรถยนต์คันหนึ่งที่แล่นมาตามทางด้วยความเร็วสูง
เอี๊ยดดดด!!!
เสียงเบรกรถดังลั่น พร้อมๆ กับรถที่ไถลมาหยุดตรงหน้า หญิงสาวกรีดร้องด้วยความตกใจ ก่อนจะล้มพับเป็นลมไปตรงนั้น
“คุณ… คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
อรรถพรรีบเปิดประตูรถลงมาดูคนเจ็บ ดวงหน้านวลที่เปื้อนคราบน้ำตาทำให้เขาตะลึงงันไปชั่วขณะ ผู้หญิงคนนี้หน้าตาน่ารัก สวยหวานเหลือเกิน และก่อนที่ชายหนุ่มจะอุ้มร่างของราชาวดีขึ้นรถ ป้าแก้วที่วิ่งตามหญิงสาวมาก็รีบร้องเรียกขึ้น
“นั่นจะพาคุณหนูวดีไปหน่อย ปล่อยคุณหนูนะ”
อรรถพรหันไปตามเสียงโวยวาย และก็ได้เห็นร่างเล็กของหญิงสูงวัยที่วิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดตรงหน้า แถมยังรีบผลักไสเขาออกห่างจากร่างของหญิงสาวคนนี้อีกด้วย
“อย่ามาแตะต้องคุณหนูวดีของป้านะ”
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรผู้หญิงคนนี้นะครับ พอดีเธอวิ่งตัดหน้ารถของผม แล้วก็เป็นลมไป ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นลูกเต้าเล่าใครก็เลยจะอุ้มขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาลน่ะครับ”
ป้าแก้วมองผู้ชายที่แต่งตัวดีตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ
“แล้วคุณเป็นใครเข้ามาในไร่ของคุณเสือทำไม”
“นี่ป้ารู้จักอาเสือด้วยเหรอครับ”
อรรถพรระบายยิ้มกว้าง ในขณะที่ป้าแก้วขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ
“ป้าเป็นแม่บ้านของคุณเสือ ส่วนคุณหนูวดีเป็นหลานสาวของคุณเสือ”
ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างมากกว่าเดิมล้านเท่า เขามองดวงหน้าไร้สติของราชาวดีด้วยสายตาพึงพอใจอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็รีบแนะนำตัวเอง
“ผมชื่ออรรถพรครับ เป็นลูกชายของเพื่อนอาเสือ”
“อย่าบอกนะว่าคุณก็คือคนที่จะมาวันนี้”
“ใช่ครับ ผมเอง อรรถพร หรือเรียกสั้นๆ ว่าอรรถก็ได้ครับ”
ป้าแก้วนิ่งอึ้งไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เมฆฝนแห่งความเจ็บปวดกำลังพัดผ่านมาในเส้นทางชีวิตของชาติพยัคฆ์และราชาวดีแล้ว
“ค่ะ งั้นช่วยพาคุณหนูวดีกลับไร่ที่นะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ”
อรรถพรโค้งให้อย่างนอบโน้ม ก่อนจะช้อนร่างไร้สติของราชาวดีขึ้นไปวางในรถ โดยมีป้าแก้วตามประกบไปตลอดเวลา ไม่นานรถคันงามก็กลับมาโลดแล่นบนถนนอีกครั้ง ก่อนจะมาจอดที่หน้าคฤหาสน์ไม้หลังงามในไร่ชาของชาติพยัคฆ์
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น วดีเป็นอะไรไป…”
ชาติพยัคฆ์คำรามลั่นเมื่อเห็นร่างไร้สติของราชาวดีในอ้อมแขนของอรรถพร เขาก้าวยาวๆ มากระชากร่างบางไปอุ้มแทนด้วยความหวงแหนที่ปิดไม่มิด จนอรรถพรต้องมองด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปได้แต่เก็บเอาไว้ในอก
“พอดีคุณหนูวิ่งตัดหน้ารถของคุณอรรถน่ะค่ะ แล้วก็เป็นล้ม”
“ป้าแก้วพานายอรรถไปพักผ่อนที่ห้องก่อน”
ชายหนุ่มพูดจบก็อุ้มร่างบางของราชาวดีจะเดินขึ้นห้องพัก แต่ป้าแก้วถามขึ้นเสียก่อน
“แล้วคุณหนูวดีล่ะคะ”
“ผมจะดูแลวดีเอง ป้าแก้วไปทำตามที่ผมสั่งเถอะ”
ชาติพยัคฆ์พูดกับป้าแก้วจบก็หันมามองอรรถพร
“แล้วเราค่อยคุยกันอีกทีนะ อรรถพร อาขอตัว”
แล้วร่างสูงใหญ่ของชาติพยัคฆ์ที่มีร่างของราชาวดีในอ้อมแขนก็เดินจากไป ทั้งให้อรรถพรมองตามไปด้วยสายตาไม่เข้าใจ
“เชิญทางนี้ค่ะคุณอรรถ”
ชายหนุ่มเดินตามหญิงสูงวัยไปจนถึงห้องพัก แต่พอป้าแก้วจะออกไปก็อดถามไม่ได้
“ดูท่าทางอาเสือจะหวงหลานสาวมากเลยนะครับ”
“ไม่ได้หวงหรอกค่ะคงแค่ห่วง”
“แต่ผมว่าหวงมากกว่านะครับ เมื่อกี้นี้อาเสือทำท่าเหมือนจะกัดผมเลย ตอนที่เห็นผมอุ้มวดีน่ะ”
ป้าแก้วเลือกที่จะเงียบไม่พูดเกี่ยวชาติพยัคฆ์อีก เพราะไม่อยากที่จะโกหก
“ถ้าคุณอรรถอยากได้อะไรเพิ่มเติม บอกป้าได้นะคะ”
เมื่อเห็นป้าแก้วตัดบทอรรถพรจึงไม่อยากจะเซ้าซี้ต่อไปอีก
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
หญิงสูงวัยระบายยิ้ม และเดินจากไป
อรรถพรปิดประตูห้อง และเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ภาพดวงหน้างดงามแม้จะไร้สติของราชาวดียังคงติดตรึงอยู่ในสมอง ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้หญิงที่ชาติพยัคฆ์อยากจะให้เขาคบหาจะสวยงามน่ารักถึงเพียงนี้ แบบนี้รับรองเขาให้ความร่วมมือเต็มที่