กลางดึก ภายในห้องเพรสซิเดนสูท
ณัฐณิชานอนอยู่บนเตียงใหญ่อ่อนนุ่มด้วยความรู้สึกทรมานจนอยากจะตาย
เธอคิดไม่ถึงว่าอานุภาพของแอลกอฮอล์จะรุนแรงขนาดนี้
“จะถามคุณอีกครั้งว่าจี้หยกนี้มาจากไหน” ชายหนุ่มยืนอยู่ข้างเตียง ก้มมองเธอจากที่สูง
ณัฐณิชาปรือนัยน์ตาหงส์ขึ้นเล็กน้อย มองไปทางชายหนุ่ม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลกระทบจากแอลกอฮอล์หรือไม่ ถึงได้รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้หล่อเหลาเกินไปแล้ว
เครื่องหน้าทั้งห้าได้รูป นัยน์ตาลุ่มลึก ใบหน้าเคร่งขรึมราวกับละซึ่งกิเลส เธอโตมาขนาดนี้ก็ยังไม่เคยเจอผู้ชายที่หล่อเหลาขนาดนี้ในโลกแห่งความจริงเลย!
ณัฐณิชาคิดว่าถึงอย่างไรตัวเองก็ใกล้จะตายแล้ว ไม่สู้สัมผัสรสชาติของความรู้สึกนั้นก่อนตายสักหน่อย ช่วงที่มีชีวิตมายี่สิบปีนี้จะได้ไม่เสียเปล่า
เธอลุกขึ้นมานั่ง กอดหมับเข้าที่เอวของชายหนุ่ม ยิ้มบางๆให้กับเขา คุณอยากรู้ว่าจี้หยกนี้ของฉันมาจากที่ไหน อย่างนั้นคุณก็ต้องเป็นวิญญูชนเสียก่อน…”
ใบหน้าของชายหนุ่มเผยความรู้สึกหงุดหงิดออกมาอย่างชัดเจน เขาขมวดคิ้วพลางผลักเธอออก
ณัฐณิชากลับจับเนคไทของเขาเอาไว้แน่นแล้วออกแรงดึง ทั้งสองคนจึงล้มลงไปบนเตียงด้วยกัน
ณัฐณิชาเป็นฝ่ายโอบเข้าที่ลำคอและจุมพิตลงบนริมฝีปากเย็นของเขาก่อน
เธอจูบเขาอย่างเงอะงะทว่าเร่าร้อนกับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจในโชคชะตา…
ค่ำคืนอันเหน็ดเหนื่อย
ตอนที่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ณัฐณิชาปวดร้าวไปทั่วทั้งร่างกาย วิงเวียนศีรษะตาพร่า
เมื่อนั่งขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ ก็เห็นว่ามีรองเท้าแตะที่ใช้แล้วทิ้ง เตียงคู่สีขาวขนาดใหญ่ นี่อยู่ในโรงแรมแน่นอน
เธอเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วมองตัวเอง เปลือยล่อนจ้อน…
ณัฐณิชาเอามือกุมหน้า สูดลมหายใจลึก เฮ้อ พระเจ้า“เป็นห่วง” เธอมาเกินไปแล้วจริงๆ
ครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ณัฐณิชาได้รับยืนยันผลการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย เหลือเวลามีชีวิตอีกเพียงแค่หนึ่งเดือน เธอจึงเดินทางไกลมายัง เมือง S เพื่อตามหาคุณพ่อคุณแม่ผู้ให้กำเนิดที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน
เธอคิดเพียงแค่ว่าอยากพบหน้าพวกเขาสักครั้งก่อนตาย สุดท้ายตามหาอยู่หลายวันก็ไม่มีเบาะแส
เมื่อคืนวานสภาพจิตใจเธอย่ำแย่ จึงเดินเข้าไปดื่มเหล้าดับทุกข์ในบาร์แห่งนั้น แต่กลับถูกชายลามกคนหนึ่งมอมเหล้า
เธอรังเกียจที่ผู้ชายคนนั้นน่าเกลียดเกินไป จึงเดินโซซัดโซเซโผเข้าไปในอ้อมแขนของชายหนุ่มที่เหมือนกับภูเขาน้ำแข็ง หลังจากนั้นก็ถูกชายหนุ่มพามาที่โรงแรม…
สำหรับเรื่องราวในภายหลังนั้น ณัฐณิชาล้วนลืมไปหมดแล้ว
ดังนั้นผู้ชายคนนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่นะ สรุปว่าเรื่องนั้นให้รสชาติและความรู้สึกเช่นไรกันแน่ พวกเขามีความสัมพันธ์กันแล้ว…จริงๆหรือ
ณัฐณิชาถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม จู่ๆก็เหลือบไปเห็นกระเป๋าสะพายของตัวเอง ทำไมถึงลืมสิ่งนี้ไปได้นะ!
กล้องวงจรปิดขนาดเล็กตัวหนึ่งที่เธอพกติดตัวมาตลอด ยังนอนนิ่งอยู่ในกระเป๋า วัตถุประสงค์ก็คือใช้บันทึกขั้นตอนในการตามหาญาติ และป้องกันเหตุไม่คาดฝันต่างๆที่จะพบในช่วงเวลานี้
ถึงอย่างไรเรื่องการตามหาญาติก็มีความเสี่ยง ส่วนความระแวดระวังตัวของเธอก็มีสูงมาก ทุกเรื่องล้วนมีทางหนีทีไล่ทิ้งเอาไว้
กล้องวงจรปิดตัวนั้นเชื่อมต่อกับ App ในโทรศัพท์มือถือ ขอเพียงแค่เธอเปิด App ก็สามารถรู้ได้แล้วว่าผู้ชายคนที่มีความสัมพันธ์กับเธอนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร
ทว่าณัฐณิชาส่ายหัว ช่างมันเถอะ ไม่ดูจะดีกว่า ถ้าหากว่าเป็นคนอัปลักษณ์ ดูจบแล้วจะรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม…
ณัฐณิชาเดินไปห้องอาบน้ำ ตั้งใจจะอาบน้ำให้เรียบร้อยก่อนจากไป
เธอยืนอยู่หน้ากระจกในห้องอาบน้ำ มองตัวเองที่อยู่ในกระจกแล้ว นัยน์ตาก็เบิกกว้างทันที
จี้หยกที่อยู่บนคอไม่อยู่แล้ว!
ในใจเธอลนลาน รีบพุ่งกลับไปยังห้องนอน พลิกเตียงตามหาอยู่หลายรอบ
ก็ยังหาไม่พบ
ณัฐณิชาลนลานสติหลุด จี้นั้นเป็นสิ่งเดียวที่คุณพ่อคุณแม่ผู้ให้กำเนิดเธอทิ้งเอาไว้ให้ จะทำหายไม่ได้อย่างเด็ดขาด!
ในตอนนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เป็นข้อความหนึ่ง
“จี้หยกอยู่ที่ผม หากต้องการล่ะก็ มาที่แกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป