แต่ทว่า เสียงสายน้ำไหลที่ลอยเข้าหูมาไม่ขาดสาย ก็กระตุ้นเส้นประสาททุกเส้นของณัฐณิชา เธอมองไปทางประตูห้องอาบน้ำด้วยท่าทางสับสน และพบว่าตัวเองมีอาการนอนไม่หลับอยู่บ้าง
เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนนี้ล้วนเหลวไหลมากเกินไป
เธอแต่งงานกับผู้ชายที่เพิ่งจะรู้จักกันได้สามวันคนหนึ่ง!
และผู้ชายคนนั้น ก็กำลัง…อาบน้ำอยู่ข้างในโดยมีกำแพงบางๆกั้นระหว่างเขากับเธออยู่
เมื่อรู้สึกได้ถึงความจริงในเรื่องนี้ ใบหน้าของณัฐณิชาก็เห่อร้อนขึ้นมา
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องอาบน้ำเมื่อครู่นี้ ปรากฏขึ้นในสมองราวกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งอีกครั้ง…
ภาพเบื้องหน้าของณัฐณิชาคือนัยน์ตาลุ่มลึกคู่นั้นของธราเทพ ข้างใบหูคือลมหายใจร้อนผ่าวขณะที่เขาเอ่ยพูด ส่วนบนไหล่ก็มีอุณหภูมิอุ่นร้อนที่คล้ายกับถูกทิ้งเอาไว้จากท่อนแขนของเขา
ความจริงแล้วเขาหล่อมาก คนก็ไม่เลวเช่นกัน…
เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ ณัฐณิชาก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดซ่อนใบหน้าของตนเองเอาไว้แล้วหลับตาลงอย่างอดมิได้
นอนหลับ…นอนหลับ…
อย่าคิดเพ้อเจ้ออีกเลย!
ทั้งหมดล้วนเป็นเหตุสุดวิสัย เรื่องทั้งหมดล้วนทำเพื่อที่จะได้หาคุณพ่อคุณแม่ผู้ให้กำเนิดตัวเองให้พบได้เร็วขึ้น อืม!
ตอนที่ธราเทพสวมชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ ก็เห็นณัฐณิชาขดตัวอยู่ในผ้าห่มราวกับกระต่ายตัวน้อยๆตัวหนึ่ง
ณัฐณิชานอนหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ธราเทพเดินมาถึงด้านหน้าเธอ ก็เห็นแพขนตาของเธอสั่นเล็กน้อย และยังมีร่างกายที่นอนขดแบบนั้น เป็นท่าทางไร้ซึ่งความรู้สึกปลอดภัย ในใจจึงเกิดความรู้สึกเอ็นดูขึ้นมา
วันรุ่งขึ้น ตอนที่ณัฐณิชาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเสียแล้ว
เธอดันตัวให้ลุกขึ้นนั่ง และมองไปยังด้านข้าง ธราเทพก็เพิ่งจะลืมตาขึ้นเช่นกัน
“คุณ…คุณ…คุณมาอยู่บนเตียงได้อย่างไรกัน?!” ถามเสร็จแล้วก็รู้สึกได้ว่าไม่ถูกต้อง “ฉันหมายความว่า ฉันมาอยู่บนเตียงได้อย่างไร!”
ธราเทพลุกขึ้นมานั่ง สวมเสื้อผ้าไป พลางแย้มรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มองมาที่เธอ “ผมก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า คุณจะชอบเป็นฝ่ายรุกขนาดนี้”
เกิดเสียงดังปุ้งขึ้นในสมองของณัฐณิชาภาพชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายย้อนกลับมาในสมอง
ยามดึกเมื่อคืนวานยิ่งนอนก็ยิ่งหนาว ในภายหลังจากไปเข้าห้องน้ำ เมื่อกลับมาก็เดินตรงมาล้มตัวลงนอนบนเตียง
ภายใต้อาการสะลึมสะลือ ก็จำได้ว่ามีคนมากอดเธอเอาไว้
สวรรค์…
เมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้ขึ้นมาได้ ณัฐณิชาก็อยากจะมุดเข้าไปในรูเสียจริง
เธอแอบมองธราเทพ ก็เห็นว่าเจ้าหมอนี่ตื่นขึ้นมา และเริ่มสวมเสื้อผ้าเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และการเหลือบมองอย่างไม่ได้ตั้งใจนี้ ณัฐณิชาก็เห็นกล้ามเนื้อท้องแปดลูกเป็นลายเส้นชัดเจน…
“มองพอหรือยัง”
ทันใดนั้นธราเทพก็ถามออกมาประโยคหนึ่ง ทำให้ณัฐณิชารู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม จึงรีบเบนสายตาไปอย่างรวดเร็ว
“ใครมองคุณกัน”
“รีบลุกขึ้นมา ไปอาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวเช้าข้างล่าง คุณปู่ไม่ชอบคนขี้เซาเอาแต่นอน”
“อ่อ” สมองของณัฐณิชาสับสนวุ่นวาย ก้มหน้าสวมรองเท้าแตะ ก้าวเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ และเริ่มอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น ณัฐณิชากับธราเทพก็ลงไปที่ชั้นล่างด้วยกัน เมื่อคนทั้งครอบครัวกินอาหารเช้าเสร็จด้วยความสงบไร้ซึ่งเสียงทะเลาะเบาะแว้ง ธราเทพก็ส่งณัฐณิชากลับไป
เมื่อกลับมา ณัฐณิชาก็ทรุดตัวลงบนโซฟาในห้องรับแขก ถอนหายใจเสียงยาว
แม้ว่าที่นี่เธอจะยังไม่คุ้นชิน แต่เมื่อเทียบกับการต้องรับมือกับคนในครอบครัวใหญ่ และแสดงเป็นลูกสะใภ้ที่เรียบร้อยงดงาม เธอก็ยังคงชอบที่นี่อยู่ดี
ณัฐณิชาถอดรองเท้าส้นสูง แหงนหน้าขึ้นมองธราเทพ “ฉันกลับไปที่คฤหาสน์เป็นเพื่อนคุณแล้ว เมื่อไรคุณถึงจะพาฉันไปพบกับอาจารย์ผู้มีพระคุณของคุณ?”
ขอเพียงแค่ได้พบกับอาจารย์ผู้มีพระคุณ เธอก็อาจจะหาพ่อแม่ที่แท้จริงของตัวเองเจอ
เห็นนัยน์ตาของณัฐณิชาเปล่งประกาย ธราเทพขมวดคิ้วเข้าหากัน “เมื่อวานคุณเพิ่งก่อเรื่องที่บ้าน ยังอยากให้ผมพาคุณไปพบคนอีกหริอ?”
“นี่คุณ!!”ณัฐณิชาชี้หน้าธราเทพอย่างโมโห ไม่คาดว่าเขาจะกลับกลอกถึงเช่นนี้!