สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 100 พูดไม่ออก

กู้ฉางชิงเห็นเสี่ยวเหมยก็ตกใจ
“เสี่ยวเหมย ทำไมเป็นเธอ?”
ถึงแม้ว่าเมื่อวานเธอจะสะสึมสะลือแต่ก็จำได้ว่าคนที่พาเธอมาคือเฟิงจิงเหยา
“คุณชายดูแลคุณทั้งวันแล้ว ที่บริษัทมีปัญหาเพิ่งออกไปเมื่อกี้ คุณนายรองจะหาคุณชายหรอคะ?”
เสี่ยวเหมยบอกเรื่องราวเมื่อวานให้เธอ กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้แล้วรู้สึกชุ่มใจทั้งใจ
เฟิงจิงเหยาผู้ชายแบบนั้นมาดูแลเธอทั้งวัน
อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกกระอักในใจพูดไม่ออก
“ไม่ต้องแล้ว ถ้ามีธุระที่บริษัทต้องจัดการก็อย่าไปรบกวนเขาดีกว่า” เธอส่ายหัวปฏิเสธ
เสี่ยวเหมยพยักหน้าตอบ และหันไปเป็นห่วงเธอ: “แล้วคุณนายรองดีขึ้นบ้างหรือยังคะ ถ้าไม่สบายตรงไหนต้องรีบบอกนะ”
กู้ฉางชิงหัวเราะและพูด: “ฉันแค่เป็นไข้เอง ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงสักหน่อย กินยาแก้ไข้ก็หายแล้ว”
เสี่ยวเหมยเห็นเช่นนี้ก็ไม่ได้พูดอะไร
ที่บ้านหลักคุณนายเฟิงเองก็ได้ยินว่ากู้ฉางชิงไม่สบาย แถมเฟิงจิงเหยายังไปเฝ้าดูแลทั้งวันทั้งคืน เป็นกังวลเล็กน้อย
ไม่ว่ายังไงแล้วเธอก็เป็นแม่ยายของกู้ฉางซิน ถ้ากู้ฉางซินไม่สบายเธอที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านก็ควรไปดูอาการ เป็นห่วงเป็นใยจะได้ไม่ถูกใครนินทา
แต่ว่าเธอเองก็ไม่ได้เต็มใจจะไป รู้สึกลังเล สุดท้ายก็หันไปถามเฟิงจิ้งหยวนที่มาเที่ยวหาเธอ
“จิ้งหยวน แกว่าฉันจะไปเยี่ยมกู้ฉางซินที่อยู่โรงพยาบาลดีไหม?”
เฟิงจิ้งหยวนได้ยินเช่นนี้ก็หัวเราะเยาะออกมา
“เยี่ยมอะไรกัน วันก่อนยังแข็งแรงดีๆอยู่เลย อยู่ๆจะมาไม่สบายแถมยังเป็นหนักอีก ดูก็รู้ว่าปลอม”
เธอพูดจบ สายตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
คุณนายเฟิงคิดตามแล้วก็มีเหตุผล เธอจึงล้มเลิกความคิดที่จะไปเยี่ยม
เมื่อตกเย็น กู้ฉางชิงนอนอยู่โรงพยาบาลจนเบื่อ และรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรมาก เรียกให้เสี่ยวเหมยไปทำเรื่องขอออกจากโรงพยาบาล
“แต่ว่าคุณหมอบอกว่าให้นอนดูอาการอีกหนึ่งคืน กลัวคุณนายรองจะเป็นอะไรอีก แถมคุณชายก็เซ็นรับรองแล้ว ถ้าเขาไม่อนุญาติก็ให้คุณนายรองออกจากโรงพยาบาลไม่ได้”
เสี่ยวเหมยตอบด้วยความลำบากใจ
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ก็พูดไม่ออก
แค่เป็นไข้ธรรมดา ทำไมต้องมาโรงพยาบาล
เธอมองเสี่ยวเหมย คิดในใจยัยเสี่ยวเหมยไม่กล้าขัดคำสั่งของเฟิงจิงเหยาแน่นอน งั้นรอตอนเขามาค่อยเอ่ยปากขอเฟิงจิงเหยาเองละกัน
เมื่อตอนค่ำ เฟิงจิงเหยามาถึงโรงพยาบาล
“ตื่นแล้วหรอ?”
เขามองกู้ฉางชิงที่นอนอยู่บนเตียง ถามด้วยความเป็นห่วง: “ยังรู้สึกปวดเมื่อยไม่สบายตรงไหนไหม?”
กู้ฉางชิงส่ายหัว
“ไม่มีตรงไหนไม่สบายแล้ว รู้สึกดีขึ้นมากไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาลรอดูอาการ”
ในขณะที่เธอพูดก็กลัวเฟิงจิงเหยาจะปฏิเสธ จึงพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน: “ ฉันไม่ชอบยาฆ่าเชื้อของโรงพยาบาลจริงๆ ถ้าเธอไม่เชื่อก็ให้หมอมาตรวจดูอีกที ถ้าไม่มีอาการอะไรแล้วเรากลับบ้านกันเถอะ”
เฟิงจิงเหยามองเธอและไม่ได้ปฏิเสธ จึงให้เสี่ยวเหมยไปตามคุณหมอ
จะว่าไปที่กู้ฉางชิงบอกก็เป็นความจริง ไข้ก็ลดแล้ว ในตอนนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
แต่กู้ฉางชิงไม่ได้บอกเฟิงจิงเหยาหมด ถึงแม้ไข้จะลดแล้วจริงแต่เธอก็ยังมีอาการปวดหัวอยู่เล็กน้อย
เฟิงจิงเหยาไม่รู้ หลังจากที่เธอไม่เป็นอะไรแล้วก็พาเธอกลับไปบ้านเฟิง
ในขณะที่กำลังจะลงจากรถ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆอาการก็กำเริบ กู้ฉางชิงที่กำลังจะก้าวขาลงจากรถก็เกิดวิงเวียงและล้มลงไป
ถ้าไม่ใช่เพราะเฟิงจิงเหยารีบยื่นมือคว้าเธอไว้ ป่านนี้เธอก็คงไปนอนกองอยู่กับพื้นแล้ว
“นี่หรอที่เธอบอกหายดีแล้ว?”
เสียงที่เย็นชาของเฟิงจิงเหยาดังก้องขึ้นในหัวของกู้ฉางชิง
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ก็หดตัวก้มลงราวกับว่ารู้สึกผิดแล้ว
เฟิงจิงเหยาเห็นแบบนี้ก็ถอนหายใจออกมา ไม่ได้พูดอะไรและอุ้มเธอเข้าบ้าน
คิดไม่ถึงเมื่อเดินเข้ามาปุ้บก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากห้องรับแขกในบ้านใหญ่
เฟิงจิงเหยาหยุดชะงักดูโดยไม่รู้ตัว ก็เห็นลู่ซือยวี่นั่งอยู่กับคุณนายเฟิงยังมีเฟิงจิ้งหยวนอยู่ด้วย ทั้งสามคนหัวเราะกันอย่างชอบใจ
ในขณะเดียวกัน คนรับใช้สังเกตเห็นเฟิงจิงเหยาจึงตะโกนออกมาว่า
“คุณชาย”
ทันทีที่คำนี้ดังขึ้น ทั้งสามคนที่กำลังหัวเราะอยู่ในห้องรับแขกก็หันมาดู
เมื่อพวกเขาเห็นเฟิงจิงเหยาที่กำลังอุ้มกู้ฉางชิง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก็เปลี่ยนไปทันที
โดยเฉพาะลู่ซือยวี่ กำลังจะอ้าปากพูดบางอย่างก็พูดไม่จบ
“พี่จิงเหยา……”
เธอมองไปที่เฟิงจิงเหยาด้วยความเศร้าและยังเจ็บปวดกับภาพที่เห็นตรงหน้า
กู้ฉางชิงเองก็เห็นพวกเขา รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเฟิงจิงเหยาดูไม่เหมาะสม
ในขณะที่เธอกำลังจะส่งสัญญาณให้เฟิงจิงเหยาวางเธอลง ข้างหูก็มีคำถากถางของเฟิงจิ้งหยวนลอยมา
“อ่อนแอสะจริง ก็คิดว่าจะเป็นอะไรมากซะอีก”
คุณนายเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็ไม่ได้พูดอะไร
วันธรรมดาลูกชายตัวเองก็เหนื่อยมากพอแล้ว ตอนนี้ยังจะต้องมาวิ่งขึ้นวิ่งลงเพราะกู้ฉางซิน
“เฮ้อ เมื่อก่อนทำไมดูไม่ออกว่าเธออ่อนแอ?”
เธอพูดประชดประชัน
กู้ฉางชิงทำไมจะฟังไม่ออกว่าพวกเขาไม่พอใจ
เธอเม้มปากและพูดว่า: “เฟิงจิงเหยา ปล่อยฉันลงเถอะ”
เฟิงจิงเหยาเหลือบมองเธอแต่ไม่ได้เคลื่อนไหว
เขามองไปที่คุณนายเฟิงและคนอื่นๆ ไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขาและพูดด้วยอย่างเย็นชาว่า: “แม่ ไม่มีอะไร ฉันจะพากู้ฉางซินกลับเดี๋ยวนี้”
พูดจบ เขาก็ไม่รอให้คุณนายเฟิงถามว่าไม่มีอะไรจริงหรอ ก็อุ้มกู้ฉางชิงเดินไปที่บ้านใหม่ทันที
ทันทีที่เขาจากไป สีหน้าทั้งสามคนก็ดูหมองลงไป
โดยเฉพาะลู่ซือยวี่ สีหน้าแย่จนดูไม่ได้
คุณนายเฟิงแค่มองก็เห็นถึงความแปลกไปของเธอ ไม่รู้ว่าจะปลอบยังไง ทำได้แค่พูดว่า: “ซือยวี่ มันก็เป็นแค่ช่วงนี้แหละ แกอย่าไปใส่ใจเลยนะ”
ลู่ซือยวี่เข้าใจถึงความหมายของคุณนายเฟิง กัดฟันและตอบ: “ คุณน้าหมิงวางใจเถอะค่ะ หนูเข้าใจ”
ถึงแม้เธอจะพูดแบบนี้ แต่ในใจที่กำลังหึงหวงลุกเป็นไฟแทบจะเผาไหม้คนทั้งเป็นได้เลย
ถ้าไม่ใช่ว่าต้องเก็บภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าป้าหมิง เธอโวยวายออกมาตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ความอดทนของเธอ เฟิงจิ้งหยวนเองก็ดูออก
เธอหันมายิ้มและพูดว่า: “ เอาล่ะ พี่สะใภ้ เราอย่ามาพูดถึงเรื่องพวกนี้เลย ซือยวี่กลับมาทั้งที เราอย่านั่งอยู่ตรงนี้เลย ไปเดินเล่นข้างนอกกับฉันเถอะ ไปผ่อนคลายกันซะหน่อย
ลู่ซือยวี่รู้ว่าเธอกำลังเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่เช่นนั้นเธอต้องโวยวายออกมาแน่ เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ปฏิเสธ
คุณนายเฟิงเธอก็ไม่ไปขัดจังหวะ
เธอรู้ดีว่าเรื่องเมื่อกี้ทำให้ซือยวี่เสียความรู้สึกแค่ไหน มีจิ้งหยวนคอยเป็นเพื่อน ทั้งคู่อายุก็รุ่นราวเดียวกันความสัมพันธ์ก็ดีต่อกัน ให้เธออยู่เป็นเพื่อนปลอบใจคงจะทำให้ซือยวี่รู้สึกดีขึ้น
ทั้งสองคนเดินไปที่สวนดอกไม้คุณนายเฟิงก็มองพวกเธออยู่ข้างหลัง
จากนั้นเฟิงจิ้งหยวนก็มองไปรอบๆไม่มีคน เธอหยุดเดินและหันมาจับมือลู่ซือยวี่
“ซือยวี่ ฉันรู้ว่าเธอต้องการอะไร วางใจเถอะ ฉันจะช่วยเธอเอาจิงเหยาคืนมาให้ได้”
ลู่ซือยวี่ได้ยินเช่นนี้ ภายใต้แสงตอนเย็นที่มืดมนไม่สามารถเดาสีหน้าเธอออกได้
เธอเสแสร้งหมดหวังและพูดว่า: “ถ้าแย่งคืนกลับมาได้ คงได้นานแล้ว…..”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

Options

not work with dark mode
Reset