สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 115 ไม่นานก็ต้องสงสัยในตัวตนของเธอ

คุณนายเฟิงได้ยินอย่างนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเข้ม
เฟิงซู่มองก็รู้ว่าเธอไม่ยอมแพ้ แต่ก็พูดจนถึงตรงนี้แล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดบ่นอีกสักหน่อย
“ไม่สนว่าจะพูดยังไง แต่นั่นเป็นเรื่องของจิ่งเหยากับกู้ฉางซิน คุณไม่ควรเข้าไปแทรกแซง”
คุณนายเฟิงยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าหู
“ทำไม ในสายตาของคุณฉันสนใจเรื่องเหล่านี้ ก็ถือเป็นความผิดของฉันหรอ?”
เธอตอบกลับด้วยความไม่พอใจ พูดจบเธอก็ไม่ให้โอกาสเฟิงซู่ได้พูด ก็พูดต่อว่า:“อีกอย่างตอนนี้ฉันก็โกรธ หรือว่าคุณไม่โกรธ ยังจะพูดอีก ถ้าคุณชอบผู้หญิงคนนั้นก็ให้เป็นลูกสะใภ้คุณ?”
เฟิงซู่ขมวดคิ้ว:“แม้ว่าฉันจะไม่ชอบ คุณคิดจะเปลี่ยนภรรยาให้จิ่งเหยา แต่ในความหมายของจิ่งเหยานานขนาดนี้แล้ว คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ อีกอย่างด้วยนิสัยของจิ่งเหยา คุณคิดว่าเขาจะเห็นด้วยหรา?”
คุณนายเฟิงฟังแล้วก็เงียบไม่พูดไม่จา
เธอจะไม่เข้าใจได้อย่างไร ไม่รู้?
เป็นเพราะว่าเธอรู้ ดังนั้นเธอจึงหมดคำที่จะพูด
คิดอย่างนี้แล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความคิดที่คุณนายลู่เคยให้เธอไว้ก่อนหน้านี้
ทำให้กู้ฉางซินทำผิดร้ายแรง……จนความผิดของเธอไม่สามารถให้อภัยได้ นี่เป็นหนทางเดียว
ขณะที่เธอคิด สายตาของเธอก็ดูลึกล้ำ
……
กู้ฉางชิงไม่รู้ว่าแผนการร้ายที่กำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้งนั้นมุ่งเป้ามาที่เธอ
วันนี้เป็นวันที่เธอกับกู้หงเซินนัดเจอกัน
อันที่จริงกู้ฉางชิงไม่อยากไป
แต่นี่เป็นนัดประจำที่ต้องไปรายงานสถานการณ์ตามที่พวกเขาตกลงกันไว้ และเป็นสิ่งที่เธอต้องทำ
ดังนั้นเธอจึงออกเดินทางจากบ้านตระกูลเฟิงอย่างระมัดระวัง และมาที่ร้านกาแฟตามที่นัดกันไว้
กู้หงเซินอยู่ตรงที่นั่งพิเศษที่จองไว้
เขามองกู้ฉางชิงที่เดินกรีดกรายมาอย่างช้าๆ ด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยพอใจ
“แกมาช้านะ”
กู้ฉางชิงได้ยินอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะในใจ
จริงๆแล้วในสายตาพ่อที่ดีของเธอ เธอไม่ใช่ลูกสาวของเขาอีกแล้ว แต่เป็นเครื่องมือภายใต้การบัญชาการของเขา
“คุณน่าจะรู้ ฉันอยู่ที่บ้านตระกูลเฟิงไม่ได้สบายอย่างที่คุณคิด”
เธอตอบอย่างเย็นชา ทำให้กู้หงเซินหมดหนทางที่จะหาความผิด
“พูดถึงสถานการณ์ในระยะนี้มาเถอะ!”
กู้หงเซินตะคอกอย่างเย็นชา ราวกับว่าขี้เกียจจะมุ่งประเด็นไปที่เธอ
กู้ฉางชิงก็หวังว่าการเจอกันจะจบลงโดยเร็ว ไม่ต้องรายงานอืดอาดยืดยาด
“ในระยะนี้ก็ไม่ได้เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น……ตอนนี้ฉันก็อยู่ในบริษัทอย่างมั่นคง”
เธอหยิบเอาสิ่งที่เกิดขึ้นมาพูดสั้นๆ แต่กู้หงเซินอยากฟังเรื่องที่เข้าต้องการฟังเท่านั้น
เพราะเขาสนใจแค่ว่ากู้ฉางชิงได้เปิดเผยความลับหรือไม่
เขามองดูแล้วมันมีช่องโหว่มากมาย
“ฉันไม่ได้ให้แกไปอยู่ที่บริษัทเพื่อหลบเลี่ยงความสามารถ?ใครสั่งให้แกไปเฉิดฉายอยู่ที่บริษัท และลู่ซือยวี่กับเฟิงจิ่งเหยาพวกเขามุ่งเป้ามาที่แก หรือว่าแกไม่โกรธ?ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วว่าอารมณ์โกรธของฉางซินเป็นยังไง?”
เขาขมวดคิ้วในขณะที่พูดเกี่ยวกับการแสดงออกของกู้ฉางชิงด้วยความไม่พอใจ
กู้ฉางชิงเม้มริมฝีปากในขณะที่ฟัง และอดไม่ได้ที่จะแก้ต่าง
“เรื่องการออกแบบก่อนหน้านี้ ถ้าไม่ใช่คุณต้องการหุ้นของตระกูลเฟิง ฉันก็ไม่ถึงกับว่าไปตกหลุมพลาง การถอนตัวออกมาตอนนี้ กลับจะทำให้คนอื่นสงสัยได้ง่ายเสียด้วยซ้ำ อีกอย่างลู่ซือยวี่ยังมีคนตระกูลเฟิง ถึงอย่างไรก็เป็นบ้านสามีในอนาคตของกู้ฉางซิน ฉันก็แค่ทำตามอารมณ์ของเธอ และไม่ต้องรอให้เธอกลับมา คนในบ้านตระกูลเฟิงก็จะไล่ฉันออกไป”
ต้องพูดว่าคำพูดของกู้ฉางชิงนั้นสมเหตุสมผล
กู้หงเซินไม่สามารถโต้แย้งได้ แม้ว่าเขาจะไม่พอใจ
เขาขมวดคิ้วและพูดเตือนว่า:“ฉันไม่ได้ขอให้แกเป็นฉางซินเต็มร้อย แต่แกต้องไม่แสดงออกมามากเกินไป มิเช่นนั้นจะทำให้คนอื่นสงสัยเอาได้”
“จะเป็นไปได้ยังไง?นานขนาดนี้แล้วยังไม่มีใครสงสัย?”
กู้ฉางชิงไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูด ถึงอย่างไรก็นานขนานนี้แล้ว ต้องมีคนสงสัยจริงๆ ไม่นานก็ต้องตรวจสอบเธอ
แน่นอนว่าเธอต้องหาวิธี กู้หงเซินก็ดูออกเช่นกัน
เขายิ้มอย่างเย็นชาและตอบกลับมาว่า:“ทำไมจะเป็นไม่ได้ ก็เมื่อสองสามวันก่อน ฉันพบว่ากำลังมีคนตรวจสอบกู้ฉางซินอยู่”
กู้ฉางชิงได้ยินอย่างนั้นก็ตกตะลึง
“ใครกำลังตรวจสอบอยู่?”
เธอถามด้วยความตกตะลึง เฟิงจิ่งเหยาก็แว็บเข้ามาในหัวเธอ
“หรือว่าเป็นเฟิงจิ่งเหยา?”
เธอพูดอีกครั้ง ถึงอย่างไรเธอก็เปิดเผยตัวตนออกมาต่อหน้าผู้ชายคนนี่สองสามครั้ง
กู้หงเซินส่ายหัว:“น่าจะไม่ใช่”
เขาครุ่นคิดสักพักและตอบว่า:“อาจจะเป็นคนอื่นในตระกูลเฟิง แน่นอนว่าจิ่งเหยาก็ไม่ยกเว้น ถึงอย่างไรก็ไม่ควรประมาทคนคนนี้ ความคิดต้องมั่นคงแม้ว่าจะมีคนสงสัย และต้องสงบเยือกเย็น ดังนั้นแกจะต้องเตรียมรับมือ คนอื่นๆในตระกูลเฟิงด้วย แกต้องระวัง!”
กู้ฉางชิงได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกว่ามีเหตุผล พยักหน้าและพูดว่า:“ฉันรู้แล้ว”
จากนั้นกู้หงเซินก็เตือนอีกสองสามคำ และทั้งสองก็เงียบลง
กู้ฉางชิงมองไปที่เขา และเตรียมจะจากไป:“ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ฉันกลับก่อนนะ”
เธอพูดจบและกำลังจะจากไป แต่ถูกกูู้หงเซินหยุดไว้
“เดี๋ยวก่อน”
“ยังมีเรื่องอะไรอีก?”
กู้ฉางชิงขมวดคิ้วและหันกลับไปมองอย่างหงุดหงิด
เธอไม่อยากอยู่ร่วมกับกู้หงเซิน รู้สึกว่าอยู่กับเขาแล้วอึดอัดเป็นพิเศษ
“ฉันได้ยินว่าช่วงนี้เธอได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
กู้หงเซินดูเหมือนจะไม่เห็นการแสดงออกบนใบหน้าของเธอ จึงถามเธอตรงๆ
กู้ฉางชิงได้ยินเขาพูดด้วยความเป็นห่วงก็ตกใจ
ผู้ชายคนนี้หมายความว่ายังไง?
หรือว่ามีคุณธรรมขึ้นมาถึงรู้จักเป็นห่วงเธอ?
ในขณะที่เธอคิดก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้
ถึงจะเป็นห่วงเธอจริงๆ ทำไมตอนที่เธออยู่โรงพยาบาลไม่เคยไปเยี่ยมเลยสักครั้ง
ความคิดเธอผุดขึ้นมาในใจเหมือนระลอกคลื่น และค่อยๆจางหายไป
“ไม่มีอะไร อาจเป็นเพราะยุ่งจนเกินไป ร่างกายรับไม่ไหวก็เลยไม่สบาย”
เธอตอบอย่างไม่ใยดี
กู้หงเซินขมวดคิ้ว:“ฉันไม่สนว่าแกเป็นเพราะอะไร แต่จำไว้อย่างหนึ่งว่า แกตอนนี้คือฉางซิน เฟิงจิ่งเหยาตอนนี้คิดว่าแกคือฉางซินเดินด้วยกันไปกับเขา นี่ไม่ใช่สิ่งที่แกควรคิด ทางที่ดีแกเก็บมันไว้ในใจจะดีกว่า!”
กู้ฉางชิงได้ยินอย่างนั้น ดวงตาก็เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
แน่นอนว่าเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้คงไม่ใจดีเป็นห่วงเธอขนาดนั้น
“คุณวางใจ ฉันจำได้แจ่มแจ้งชัดเจน ไม่ต้องให้คุณค่อยเตือนสติซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรอก!”
เธอกัดฟันตอบกลับ พูดจบก็ไม่สนใจว่ากู้หงเซินจะพูดอะไร หิ้วกระเป๋าและหันหลังเดินจากไป
กู้หงเซินมองดูเธอจากไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความวิตกกังวล
กู้ฉางชิงยิ่งนานยิ่งไม่ยอมเชื่อฟัง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของตระกูลเฟิงอีก
ฟังจากที่กู้ฉางชิงเล่าแล้ว เฟิงจิ่งเหยากับผู้หญิงคนนี้เข้ากันได้ดี ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฉางซินจะกลับมา เฟิงจิ่งเหยาจะค้นพบอะไรหรือไม่
ถึงอย่างไรถ้าคนที่ร่วมเคียงหมอนมีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงจะรู้เป็นคนแรก
เขายิ่งคิดยิ่งไม่สบายใจ
ไม่ได้ เขาต้องเตรียมการอื่นๆไว้
เขาตัดสินใจและออกจากร้านกาแฟทันที
กู้ฉางชิงไม่รู้ว่าหลังจากที่เธอออกมาแล้ว กู้หงเซินคิดเรื่องต่างๆอยู่คนเดียว
เธอกลับไปที่บ้านตระกูลเฟิง อารมณ์ก็สงบลงมาก
อันที่จริงแล้วเธอไม่ได้โกรธกับการปฏิบัติที่แตกต่างของกู้หงเซิน เธอรู้ดีว่าไม่ใช่แค่วันหรือสองวัน
คิดอย่างนั้นแล้วเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่เห็นบ้านตระกูลเฟิงที่ใหญ่มากอย่างนี้ เธอก็เหนื่อยอย่างอธิบายไม่ถูก

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

Options

not work with dark mode
Reset