ถึงแม้กู้ฉางชิงจะทึ่งกับสิ่งที่เห็นแต่ยังรู้สึกตกใจและกระวนกระวายอีกด้วย
ในสถานการณ์แบบนี้ เธอไม่ควรที่จะเจอจี้ฟงหยุน ถ้าเกิดเขาจำได้ ทุกอย่างต้องจบแน่
เธอคิดถึงตรงนี้ก็หันหลังหนีโดยไม่รู้ตัว แต่ดันถูกฉินเป่ยหานขวางไว้
“ฉางซิน เธอจะไปไหน?”
ฉินเป่ยหานขมวดคิ้วและถาม
กู้ฉางชิงยืนนิ่งมองเขาและเหลือบไปมองคนที่อยู่ข้างหลังไม่ไกลนัก เม้มปากและพูด: “ไม่ต้องมายุ่ง”
เธอพูดจบก็สะบัดมือฉินเป่ยหานออกและรีบเดินจากไป
ฉินเป่ยหานเห็นเช่นนี้ สายตาเต็มไปด้วยความเศร้า แต่ก็ปลอบตัวเองไว้
เขาคิดว่าเพราะมีผู้คนล้อมรอบมากมายทำให้กู้ฉางชิงไม่กล้าคุยกับเขา
เขายิ่งคิดยิ่งคิดว่าใช่ รีบตามกู้ฉางชิงไป ตะโกนเรียก: “ฉางซิน รอฉันด้วย!”
เสียงตะโกนดังลั่น ดึงดูดให้ทุกคนหันมามอง
จี้ฟงหยุนเองก็หันไปโดยไม่รู้ตัว ทันทีที่เขาเห็นร่างคนลางๆปรากฏขึ้น ก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา
แต่ว่ารอบข้างก็มีผู้คน เขาก็เดินนำไปข้างหน้าหลายก้าว แค่เพียงกระพริบตาคนนั้นก็หายไป
“คุณจี้กระวนกระวายขนาดนี้ เจอคนที่ถูกใจหรอ?”
เพื่อนผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเห็นเช่นนี้จึงแซวถาม
จี้ฟงหยุนได้สติกลับมา และเก็บความประหลาดใจไว้
“ผู้จัดการหลี่ก็พูดเป็นเล่น เมื่อกี้แค่รู้สึกตาฝาด”
เขาปกปิดความจริงไว้
บางทีเขาอาจจะมองผิดไปจริงๆ ถ้าเป็นฉางชิงจริงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่มาทักทาย
เมื่อเขาคิดเช่นนี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเศร้า
ตั้งแต่งานเลี้ยงรุ่นครั้งก่อน เขาเองก็ไม่ได้ติดต่อกับฉางชิงอีกเลย ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะมาหรือไม่มา
เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจจะมางานเลี้ยง แต่ได้ยินว่าผู้คนที่มาส่วนมากเป็นดีไซเนอร์ เขาจึงอยากมาเสี่ยงโชคดู
ฉางชิงเองก็เป็นดีไซเนอร์ เธอคงไม่พลาดโอกาสงานแบบนี้แน่นอน
จะว่าไปแล้วกู้ฉางชิงที่กำลังวิ่งหนี หนีไปอยู่ที่ไกลตา ที่ๆจะไม่สามารถสังเกตเห็นเธอได้ จึงโล่งใจ
เธอพิงกำแพงหิน และหอบเล็กน้อย
งานเลี้ยงคืนนี้คงอยู่ไม่ได้แล้ว หลบได้ครั้งแรกครั้งสองคงไม่ได้ละ
ถ้ายังอยู่ต่อในงาน ถึงเวลาที่ถูกจับได้ เวลานั้นต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่
ในขณะที่กำลังคิด ฉินเป่ยหานที่วิ่งตามมาข้างหลังก็มาถึง
“ฉางซิน ทำไมเธอวิ่งเร็วขนาดนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
กู้ฉางชิงมองเขาด้วยท่าที่กำลังถือโทรศัพท์และทำท่าปวดหัว
“คุณฉิน คุณอย่ามาตามฉันจะได้ไหม”
ดวงตาของฉินเป่ยหานกระพริบด้วยความเจ็บปวด
“ฉางซิน เธอรำคาญฉันมากใช่ไหม?”
กู้ฉางชิงมองเขาและอยากตอบว่าใช่ แต่เห็นดวงตาเขาเต็มไปด้วยความเศร้า ทำให้อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก
ในใจเธอรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้คิดว่าเธอเป็นกู้ฉางซิน แต่เธอแค่สวมบทเป็นกู้ฉางซิน
ในความเป็นจริง เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินเขา
“ไม่มีอะไร”
เธอเม้มปากและตอบด้วยน้ำเสียงทุ้ม
ได้ยินเช่นนี้ ฉินเป่ยหานที่กำลังเจ็บปวด ดวงตาก็เต็มไปด้วยความหวัง
กู้ฉางชิงเห็นเช่นนี้ก็รู้เลยว่าเขากำลังเข้าใจผิด และพูดอีกครั้ง
“เธออย่าเข้าใจผิด ฉันคิดกับเธอแค่เพื่อน พูดตรงๆ ฉันไม่ชอบเลยที่เธอคอยมาตามฉัน ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็ควรมีช่องว่างกันบ้าง”
ฉินเป่ยหานได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มที่เพิ่งยิ้มออกเมื่อกี้ก็นิ่งค้างอยู่บนใบหน้า
โดยเฉพาะคำของกู้ฉางชิง คำก็เพื่อน สองคำก็เพื่อน ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนบีบแน่นที่หัวใจ เจ็บปวดเหลือเกิน
แต่เขาก็ไม่แสดงออก
เพราะเขาจำที่กู้ฉางชิงเตือนครั้งก่อนได้ถ้าล้ำเส้นไปมากกว่านี้ แม้แต่เพื่อนก็จะไม่ได้เป็น
“ฉัน……ฉันรู้แล้ว ต่อไปนี้ฉันจะไม่ตามเธออีกแล้ว”
เธอพูดออกมาทั้งความเจ็บปวด
กู้ฉางชิงไม่มีท่าทีอะไร เธอพยักหน้าด้วยความพอใจและตอบ: “แบบนั้นดีที่สุด ฉันมีธุระต้องไปคุยกับคุณมู่ ขอตัวก่อนนะ เธอก็ตามสบายเลย”
เธอพูดจบ ก็เดินตรงไปที่มู่จิน
ไม่ว่ายังไงเธอก็ควรบอกลากับมู่จินก่อนที่จะกลับ
ใครจะรู้ว่ายังไม่ทันก้าวไปถึงไหน ฉินเป่ยหานก็ตามมา
กู้ฉางชิงมองไปด้วยความงุนงง
ฉินเป่ยหานรีบบอก: “เออ……ฉันก็มีเรื่องจะคุยกับคุณมู่เหมือนกัน”
เขารู้ว่ากู้ฉางชิงรำคาญที่เขาตามตื้อ จึงใช้ข้ออ้างเดียวกับเธอ
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ ดูก็รู้ว่าเป็นข้ออ้างแต่ก็ไม่สามารถห้ามเขาได้ จึงจำใจต้องพาเขาไปหาคุณมู่ด้วย
มู่จินเห็นกู้ฉางชิงก็ดีใจมากและพูดว่า: “ฉันคิดว่าเธอไม่มีซะอีก ทำไมไม่เห็นเธอเลย”
กู้ฉางชิงหัวเราะเบาๆ
“ความจริงฉันมาได้สักพักแล้วว่าจะเข้าไปหาคุณ แต่เห็นว่ากำลังยุ่งมากเลยไปนั่งรออยู่ที่อื่นสักพัก”
เธอตอบสั้นๆ เปลี่ยนเรื่องและถามต่อว่า: “ยังไม่ได้ถามคุณเรื่องข้อเสนอวันนี้เลย มีที่เข้าตาบ้างหรือยัง?”
มู่จินได้ยินเช่นนี้ ตากระพริบและตอบ: “เธออย่าพูดไป จริงๆฉันเห็นหลายบริษัทก็ไม่เลวนะ”
กู้ฉางชิงเห็นใบหน้าเขาเต็มไปด้วยยิ้ม ในใจรู้สึกกังวลเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แสดงออก แกล้งหัวเราะและตอบว่า: “ฉันเองก็ได้ยินมาเหมือนกันว่ามีหลายบริษัทข้อเสนอดีๆ……”
มู่จินได้ยินเช่นนี้ก็จ้องมองไปที่เธอ
“เธอพูดซื่อแบบนี้ ไม่กลัวฉันเลือกคนอื่นหรอ?”
กู้ฉางชิงเห็นเช่นนี้ ยังไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไร หัวเราะและตอบว่า: “ฉันยังพูดไม่จบเลย คุณรีบกังวลอะไร?”
ในขณะที่กำลังพูดดวงตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ถึงจะพูดว่ามีหลายบริษัทที่ดี แต่บริษัทของพวกเราดีกว่าแน่นอน ถ้าเธอไม่เลือกเราอาจจะเป็นการสูญเสียเลยนะ!”
มู่จินถูกมุขขายเองชมเองของเธอทำให้หัวเราะออกมา
ฉินเป่ยหานเห็นทั้งสองคนพูดคุยหยอกล้อ รู้สึกอึดอัดและพูดแทรกออกมา: “คุณมู่ สวัสดี ฉันมาจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ฉินเป่ยหาน”
มู่จินเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีคนยืนข้างๆกู้ฉางชิง มองไปที่กู้ฉางชิงด้วยความสงสัย
“พวกเธอรู้จักกันหรอ?”
ในขณะที่เขากำลังพูด ก็ยื่นมือไปจับมือฉินเป่ยหานถือเป็นการตอบทักทาย
ฉินเป่ยหานไม่รอให้กู้ฉางชิงตอบ พยักหน้าและตอบ: “บังเอิญรู้จัก……”
กู้ฉางชิงได้ยินคำพูดของเขา ขมวดคิ้วและยิ้มตอบฝืนๆ: “ไม่ได้คุ้นเคยขนาดนั้น”
มู่จินเห็นเช่นนี้เหลือบสายตามองทั้งสอง จากนั้นก็หันไปขยิบตาให้กู้ฉางชิง
กู้ฉางชิงเห็น ก็ทำตามองบนและไม่พูดอะไร
เธอขี้เกียจจะอธิบาย ยิ่งพูดก็ยิ่งลึก เธอก็หันไปมองทางอื่น ไม่คาดคิดจะโชคร้ายหันไปมองเห็นจี้ฟงหยุนกำลังเดินมาทางนี้
ในขณะนั้นเธอรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิด กระวนกระวายไม่เป็นท่า อยากจะวิ่งหนีไป
แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอคิดอยากหนีก็หนี เพราะเรื่องข้อตกลงยังไม่เสร็จเรียบร้อย
ในตอนที่เธอกำลังคิดว่าจะอยู่ต่อหรือหาข้ออ้างกลับดี เสียงของมู่จินก็พูดขึ้น
“ใช่สิฉางซิน คืนนี้ฉันยังไม่มีคู่เต้นรำเลย เธอมาเป็นคู่ฉันหน่อย เต้นกับฉันสักเพลง”
กู้ฉางชิงได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วทันที
แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงต้องจำใจตอบตกลงไป
ในเวลานี้จี้ฟงหยุนก็ได้สังเกตเห็นเธอแล้ว
สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 153 เห็นคนที่ถูกใจ
Posted by ? Views, Released on October 6, 2021
, สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ