เมื่อมู่จินพูดแบบนี้ออกมา ผู้คนในแผนกออกแบบต่างก็พากันประหลาดใจ
พวกเขาไม่คาดคิดว่าทั้งสองบริษัทมาร่วมงานกันได้เป็นเพราะกู้ฉางชิง
ทันใดนั้นทุกคนก็มองไปที่กู้ฉางชิงด้วยแววตาที่อิจฉา
ชวี่ชิงหยุนเองก็อยู่ด้วย ยิ่งทำให้อารมณ์เสีย
ทำไมเธอไม่คิดจะช่วยบริษัทแต่แรก แต่ตอนนี้มาทำให้ร่วมมือกันได้ กลัวว่าบริษัทจะให้เธอทดแทนเรื่องที่เกิดขึ้นคราวก่อน
เธอคิดถึงเช่นนี้รู้สึกไม่พอใจ อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา: “ฉันว่าอันนี้ไม่เห็นควร ถึงแม้ว่าเธอจะมีพรสวรรค์ในการออกแบบ แต่ก็ไม่ได้เรียนด้านนี้มาโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังเป็นอนาคตของบริษัท ฉันคิดว่าควรเลือกคนที่มีประสบการณ์เหมือนคุณมู่มาดูแลจะดีกว่า”
พูดจบเธอก็มองไปที่เพื่อนร่วมงานรอบๆ
“ดีไซเนอร์ชวี่พูดถูกเรื่องนี้ต้องเลือกให้รอบคอบ”
“จริงด้วยผู้จัดการใหญ่ ตอนนี้จะให้บริษัทมีช่องบกพร่องไม่ได้”
คนสนิทของชวี่ชิงหยุนบางคนกล่าว
หลี่ม่านเองเลิ่กลั่กเล็กน้อย เธอหันไปมองกู้ฉางชิงกำลังจะพูดบางสิ่ง แต่ก็ถูกมู่จินขัดจังหวะไว้
“ผู้จัดการพูดตามตรงนะ ที่ฉันร่วมมือด้วยครั้งนี้ก็เป็นเพราะคุณกู้ ถ้าหากเปลี่ยนคนรับผิดชอบใหม่ การร่วมมือครั้งนี้ก็คงต้องคิดใหม่เหมือนกัน”
พูดจบเขาก็กวาดสายตามองผู้คนที่พูดเมื่อกี้
เขาสัมผัสคนรอบข้างได้ ไม่เคยเจอมาก่อนการสมรู้ร่วมคิดไม่หวังดีกับคนอื่นแบบนี้
ทันทีที่ชวี่ชิงหยุนอ้าปากพูด เขาก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คิดอะไร
และสิ่งที่เขาพูดไปเมื่อกี้ ก็เพื่อตัดความปรารถนาในใจเธอซะ
ชวี่ชิงหยุนเองก็ฟังความหมายนั้นออก
การร่วมมือครั้งนี้ต้องเป็นกู้ฉางชิงเท่านั้น ไม่นานนักก็เกิดความริษยาในใจ
ทั้งๆที่เป็นแค่ดีไซเนอร์ธรรมดา จะมาดีเทียบเท่ากับคนจบมหาลัยชื่อดังได้ยังไง
เธอยิ่งคิดยิ่งไม่พอ เมื่อผู้คนจากไป เธอก็ตีตัวออกห่างและรีบไปบอกลู่ซือยวี่
ลู่ซือยวี่ฟังเธอเล่าเสร็จ รู้สึกเกลียดจนเข้ากระดูก
เธอก่อเรื่องเหมือนกันถูกพี่จิงเหยาไล่ออก แต่ยัยผู้หญิงสำส่อนคนนั้น เป็นตะกร้าที่เต็มไปด้วยรูชำรุด ใช้ประโยชน์ไม่ได้ แต่ยังถูกพี่จิงเหยานำมาใช้!”
มีสิทธิ์อะไร!
เธอโกรธจนโยนโทรศัพท์ในมือทิ้ง เห็นอะไรก็รู้สึกหงุดหงิดไปหมด
คนรับใช้ได้ยินเสียงดังโวยวายไม่กล้าเข้าไป หันหลังกลับไปบอกคุณแม่ลู่
ทันใดนั้นคุณแม่ลู่เดินมาที่ทางเดิน
เธอได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากห้องลู่ซือยวี่ ขมวดคิ้ว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เธอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นของกระจัดกระจายอยู่เต็มห้องจึงถาม
ลู่ซือยวี่ได้ยินเช่นนี้ ก็ทำให้สงบลงเล็กน้อยแต่ก็ยังคงไม่พอใจ
“แม่ ก็เพราะพี่จิงเหยา ทั้งๆที่ฉันกับกู้ฉางชิงผู้หญิงคนนั้นเราก็ทำผิดเหมือนกัน แต่พี่จิงเหยากลับไล่แค่ฉันออก แต่มันกลับไม่ถูกลงโทษอะไรเลย แถมตอนนี้ยังได้งานใหม่อีกด้วย!”
เมื่อเธอพูดถึงตอนสุดท้าย ความโกรธที่สงบไปแล้วชั่วขณะก็กลับมาอีกครั้ง
ใบหน้าบิดเบี้ยวไปทั้งหน้า
คุณแม่ลู่เห็นเช่นนี้ขมวดคิ้วอีกครั้ง แววตาเริ่มไม่พอใจ
เท่าที่ดูแล้ว ในบ้านเฟิงก็คงมีแต่เฟิงจิงเหยาที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
ตอนนี้บ้านลู่ของพวกเขาได้เลื่อนตำแหน่ง ถือได้ว่าอยู่ในระดับสูง มีคนมาประจบสอพลอมากมาย
และลู่ซือยวี่ยังเป็นลูกสาวคนเดียวของพวกเขา มีผู้ชายพร้อมจะมาสู่ขอไม่จำเป็นต้องบังคับ
“พอแล้ว ก็แค่ผู้ชายคนเดียว บนโลกนี้ไม่ได้มีแค่เฟิงจิงเหยาคนเดียวที่ดีเพรียบพร้อม ข้างนอกมีคนเยอะแยะรอให้เธอเลือก ไม่เห็นต้องมาติดอยู่กับเขาเลย”
ลู่ซือยวี่ไม่เข้าใจในสิ่งที่แม่พูด และจะเอาเฟิงจิงเหยาคนเดียวเท่านั้น
“แม่ ในสายตาหนู ไม่มีใครหน้าไหนจะเทียบพี่จิงเหยาได้!”
เธอยื่นคำขาด คุณแม่ลู่เห็นเช่นนี้อยากจะเกลี้ยกล่อมแต่ยังไม่ทันพูดก็ถูกเธอขัดจังหวะ
“แม่ ถ้าชาตินี้หนูไม่ได้แต่งไปที่บ้านเฟิง งั้นหนูก็จะไม่แต่งงาน!”
คุณแม่ลู่ได้ยินเช่นนี้ก็กลืนคำพูดที่อยากเกลี้ยกล่อมลง
เธอเห็นลู่ซือยวี่ไม่ได้พูดเล่น ทำได้แค่ถอนหายใจและพูดว่า: “แกนี่นะ ถ้าได้ตัดสินใจแล้วต่อให้เอาวัวมาลากสักสิบตัวก็ไม่สามารถดึงความคิดแกกลับมาได้”
ลู่ซือยวี่ยืนยันอย่างดื้อรั้น
คุณแม่ลู่เห็นเช่นนี้ ก็ลูบหัวลูกสาวเบาๆด้วยความเจ็บปวดและพูดว่า: “เอาเถอะ ฉันจะไม่พูดอะไรแล้วในเมื่อแกปักใจจะแต่งไปบ้านเฟิง แม่จะช่วยแกเต็มที่เอง”
ลู่ซือยวี่ได้ยินเช่นนี้ แววตาเต็มไปด้วยความดีใจ
“แม่ แม่จะช่วยฉันแล้วจริงๆหรอ?”
คุณแม่ลู่พยักหน้า
ลู่ซือยวี่ดีใจมาก แต่เมื่อตัดภาพมานึกถึงสถานการณ์ตอนนี้ก็ทำให้เธอหงุดหงิดและพูดออกมาว่า: “แต่ตอนนี้ฉันถูกพี่จิงเหยาไล่ออกมาแล้ว ต่อให้มีคุณแม่คอยช่วยก็เถอะ กลัวว่าแค่จะเข้าไปบ้านเฟิงก็เข้าไม่ได้ง่ายๆแล้ว”
คุณแม่ลู่มองดูเธอที่กำลังเศร้า หรี่ตาและพูดว่า: “ก็ต้องลองดู แค่ดูว่ามันยาก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธี”
ลู่ซือยวี่ได้ยินเช่นนี้ สายตาทั้งคู่จ้องมองที่แม่อย่างคาดหวัง
“แม่มีแผนหรอ?”
คุณแม่ลู่หัวเราะ: “ที่กู้ฉางซินมันอยู่ในบ้านตระกูลเฟิงได้ ก็เป็นเพราะมีตระกูลกู้คอยพึ่งพาไม่ใช่หรอ? ถ้าหากไม่มีแล้วล่ะ?”
ลู่ซือยวี่ได้ยินเช่นนี้ ตาทั้งคู่เป็นประกาย
“แม่กำลังจะทำให้ตระกูลกู้……”
เธอยังไม่ทันพูดจบแต่คุณแม่ลู่ก็เข้าใจและพยักหน้า
“ช่วงนี้ได้ยินมาว่าตระกูลกู้กำลังต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินผืนหนึ่ง ที่ดินนี้ถูกแย่งจนราคาขึ้นสูง แต่คนภายนอกก็คิดแค่ว่าเป็นที่ดินที่ดีมีราคา แต่ไม่รู้ว่าความจริงแล้วที่ตรงนั้นเป็นที่ฝังศพคนมากมาย”
คุณแม่ลู่พูดถึงตรงนี้ สีหน้าเต็มไปด้วยความเล่ห์เหลี่ยม
“ที่ดินนี้ถ้าตระกูลกู้ได้ไป แน่ใจได้เลยว่าขาดทุนแน่นอน!”
ลู่ซือยวี่เข้าใจในสิ่งที่แม่กำลังจะสื่อ แววตาดีใจจนล้นออกมา
“เมื่อถึงเวลาตระกูลกู้ต้องให้กู้ฉางชิงมาจัดการปัญหาแน่นอนและในตอนนั้นทั้งสองคนก็จะทะเลาะกัน”
คุณแม่ลู่พยักหน้า ลู่ซือยวี่หัวเราะอย่างร้ายกาจ
……
กู้ฉางชิงไม่รู้ถึงแผนการที่ชั่วร้ายของทั้งสอง ในเวลาเดียวกันเธอกำลังเซ็นสัญญากับมู่จิน และได้พูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือในอีกสองวันข้างหน้า
ในทางกลับกัน กู้หงเซินได้รับสิทธิ์ในที่ดีแห่งนั้น เอาชนะความลำบากทั้งหมดและกำลังจัดงานแถลงข่าว
“คุณกู้ ไม่ทราบว่าคุณได้ที่ดินนี้มาแล้วมีแผนจะทำอะไรกับมันบ้าง?”
กู้หงเซินมองไปที่ผู้สื่อข่าวและยิ้มออกมาหน้าบาน
“พูดตามความจริงแล้ว ที่ฉันสนใจที่ดินผืนนี้ก็เพราะสภาพแวดล้อมมันดีมาก ล้อมรอบไปด้วยภูเขา เรียงรายไปด้วยต้นไม้ และอากาศที่สดชื่นกว่าในเมืองและยังมีบ่อน้ำพุธรรมชาติอีกด้วย เหมาะที่จะสร้างสปาน้ำพุร้อนเพื่อพักผ่อน”
“ถ้าอย่างงั้นก็แปลว่าคุณกู้ตัดสินใจจะสร้างสปาใช่ไหม?”
นักข่าวถามจี้
กู้หงเซินพยักหน้าโดยไม่คิดและพูดอีกว่า นี่จะเป็นรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโตเกียว
ไม่คาดคิด ทันทีที่จบการแถลงไปสองวัน ก็ถูกหนังสือพิมพ์ฉีกหน้า
#ความลับสุดช็อก! รีสอร์ทกู้ซื่อแท้จริงแล้วเป็นที่ฝังศพ! #
#ที่พักที่มีแต่หลุมฝังศพ ใครกล้าไปบ้าง? #
#บ้านผีหรือรีสอร์ท กู้ซื่อกรุ๊ปสุญเสียครั้งใหญ่! #
#กู้ซื่อกรุ๊ปเหมือนโดนตบหน้า คำพูดที่กล่าวออกมาเหลือเพียงความว่างเปล่า! #
สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 157 ก็จะไม่แต่งงาน
Posted by ? Views, Released on October 31, 2021
, สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ