กู้ฉางชิงถูกตบไปหนึ่งที เธอรู้สึกหน้าชาไปครึ่งซีก ในสมองก็มึนงง
พ่อบ้านเองก็ไม่คิดว่าคุณนายที่สูงส่งสง่างามจะทำเช่นนี้ เขาตกตะลึงอยู่นาน แล้วพูดว่า:“คุณนาย คุณนายรองเธอคงไม่รู้ ถึงได้……”
“ถึงได้อะไร?ฉันเห็นเธอก็รู้สึกไม่สงบ!ไม่รู้หรอว่าหน้าที่ภรรยาควรทำยังไง”
คุณนายเฟิงหน้าบึ้งตึงพูดเสียงดังลั่น
ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ของพวกเธอไม่ค่อยจะดีนัก
อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เธออาวุโสกว่า ไม่ควรที่จะไปเหยียดหยาม
แต่วันนี้กู้ฉางชิงเธอได้สัมผัสใกล้ชิดแล้ว
คุณนายเฟิงจองมองกู้ฉางชิงอย่างเย็นชา
กู้ฉางชิงนึกอยู่นานในที่สุดก็จำได้
จากข้อมูลที่กู้หงเซินให้ คุณนายเฟิงเป็นผู้หนึ่งที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง
แต่ก่อนกู้ฉางซินทำผิด เธอก็ไม่เคยลงมือสั่งสอนแม้แต่น้อย
กู้ฉางชิงรู้สึกว่าจำเป็นที่จะแก้ต่างให้ตัวเอง “คุณแม่ ฉันก็ไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงฉันแค่เข้าไปห่มผ้าให้จิงเหยา ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“แค่ห่มผ้าให้ยังทำให้เกิดปัญหา ฉันยังจะไว้ใจอะไรเธอได้?”
คุณนายเฟิงน้ำเสียงเย็นชา กู้ฉางชิงเมื่อได้ยินคำพูดของเธอก็กัดฟันด้วยความโมโห
แต่เธอก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทน เธอจะไปทำอะไรได้?
เกิดเรื่องกับเฟิงจิงเหยาก็นับว่าเป็นความผิดของเธอ?
ไม่รอเธอโต้แย้ง ใบหน้าที่สวยงามของคุณนายเฟิงก็เข้ามาใกล้เธอ “ฉันจะบอกเธอให้นะ ถ้าจิงเหยายังไม่กลับมา เธอก็ก่อเรื่องวุ่นวายยังไงฉันไม่สนหรอกนะ แต่ตอนนี้เขากลับมาแล้ว ถ้าเธอกล้าทำให้เขาเสื่อมเสียเกียรติหรือว่าทำร้ายเขา ฉันไม่เอาเธอไว้แน่ แล้วก็!เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ช่วยเก็บเป็นความลับให้ดี ถ้ารั่วไหลไปละก็ ฉันจะมาถามเอาที่เธอ!ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่เธอเลย ต่อให้เป็นตระกูลกู้ก็อย่าคิดว่าจะผ่านไปได้ง่ายๆ!”
กู้ฉางชิงไม่พูดอะไรสักคำ ทำได้เพียงพยักหน้า
จากนั้นคุณนายเฟิงก็ไม่ได้สนใจเธอ และเข้าไปเยี่ยมเฟิงจิงเหยา
หลังจากได้รับการยืนยันว่าเฟิงจิงเหยาไม่เป็นอะไรมาก ทั้งสองก็กลับไปพักผ่อน
ก่อนเดินไปได้กำชับพ่อบ้านว่าถ้าเฟิงจิงเหยาฟื้นแล้ว ให้แจ้งพวกเขาด้วย
พ่อบ้านไม่กล้าละเลย
กู้ฉางชิงก็ไม่กล้าที่จะจากไปเช่นกัน
ถึงอย่างไรเสียที่เกิดเรื่องขึ้นกับเฟิงจิงเหยาก็เป็นเพราะตัวเธอ ดังนั้นเธอจะเฝ้าอยู่ที่นี่อย่างเงียบสงบ
ชั่วพริบตาท้องฟ้าก็สว่าง
แสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องเข้ามาผ่านกระจกบานใหญ่ของหน้าต่าง และส่องไปที่ใบหน้าขาวขาวของเฟิงจิงเหยา ขนตายาวทอดเงาใต้ดวงตา
เฟิงจิงเหยาค่อยๆลืมตาขึ้น คล้ายๆกับว่าเดินออกมาจากประตูนรก
รู้สึกใจสั่นเหมือนหยุดหายใจไป มือข้างหนึ่งจับเขาด้วยความสับสน และดึงเขาขึ้นฝั่ง
เขายังจำความอบอุ่นนั้นได้ อุ่นจัง อุ่นจัง
เฟิงจิงเหยามองเห็นกู้ฉางชิงที่เฝ้าอยู่ข้างเตียง มือของเธอยังกุมมือเขาไว้
ที่หัวของเธอมีเส้นผมย้อยออกมาด้านข้างหู
เฟิงเหยารู้สึกอบอุ่นใจ ยื่นมือออกมาเก็บเส้นผมให้เธอ
ใครจะรู้ พอแตะกู้ฉางชิงก็ตื่นแล้ว
เธอจ้องมองไปที่เฟิงจิงเหยา สักเกตอาการของเขาอย่างละเอียด จากนั้นก็พูดด้วยความโล่งใจว่า “ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดคุณก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ดีจังเลย!”
น้ำเสียงตื่นเต้นนั่น ทำให้เฟิงจิงเหยาอดไม่ได้ที่จะยักคิ้ว
ก็เห็นกู้ฉางชิงดึงมือเขามาจับไว้ แล้วพูดว่า “ขอโทษจริงๆนะ ฉันไม่รู้ว่าการปิดไฟจะส่งผลกระทบกับคุณมากขนาดนี้ ถ้าฉันรู้ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน อย่าโกรธฉันเมื่อคืนฉันก็กลัวเหมือนกัน! ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ……”
คำพูดที่รวดเร็วและอบอุ่นของหญิงสาว ทำให้ใจของเฟิงจิงเหยาอบอุ่นเช่นกัน
เห็นท่าทางกังวลของเธอแล้ว จู่ๆเฟิงจิงเหยาก็คิดขึ้นมาได้ว่าที่เขาหมดสติครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ
ในเมื่อก่อนตรงหน้าเขาจะมีแต่หลุมดำ ทุกครั้งรูพวกนั้นจะมาดึงมือเขาเข้าไป
ทุกครั้งก็จะเป็นเขาคนเดียวที่ต่อสู้ดิ้นรน ทั้งหวาดกลัวและสิ้นหวัง
แต่ว่าครั้งนี้เขารู้สึกได้ว่ามีใครบางคนดึงมือเขาไว้ ทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อย
“จิงเหยา?คุณเป็นอะไร?ยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?หรือว่ากำลังแกล้งฉันอยู่……”
เห็นเขาไม่พูด กู้ฉางชิงเลยลองทดสอบดู
เธอมองเฟิงจิงเหยาด้วยความลังเล แต่เขาก็มองเธออย่างเงียบๆ แล้วก็พูดว่า “ไม่มีอะไร เธอไปนอนให้ดีดีเถอะ ฉันไม่แกล้งเธอแล้ว”
ตาเธอแดงแดง ดูเหมือนว่าจะไม่ได้นอนมาทั้งคืน
ความโกรธของเฟิงจิงเหยาเมื่อวานนี้เหมือนจะหายไปแล้ว ตั้งแต่หัวจนเท้าดูเยือกเย็น คำพูดที่ออกมาก็ดูอ่อนโยนลงมาก
“อ่า?”
กู้ฉางชิงไม่คิดว่าผู้ชายที่เย็นชาจะพูดดีดีแบบนี้ได้ ถึงแม้จะลังเล แต่ภายใต้สายตาสนับสนุนของเฟิงจิงเหยา ก็คงต้องกลับห้อง
พอถึงห้องเธอก็ทิ้งตัวลงนอน ง่วงจะตายอยู่แล้ว
เธอนอนหลับจนตะวันโด่งฟ้าแล้ว เธอเพิ่งจะตื่น
ไม่ทันอาหารมื้อเช้าแล้ว กู้ฉางชิงรีบล้างหน้า เพื่อเตรียมลงไปหาอะไรกินชั้นล่าง
เธอเพิ่งเดินมาถึงชั้นขั้นบันไดวน ก็ได้ยินเสียงก้องมาจากด้านล่าง “คุณนายรอง สวัสดีค่ะคุณนายรอง!”
กู้ฉางชิงตกตะลึงเห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเธอมาก ทุกคนก็ทักทายเธอด้วยความเคารพ
กู้ฉางชิงรู้สึกสงสัยในใจ แต่ในที่สุดก็ขานรับ
หลังอาหารกลางวัน กู้หงเซินก็โทรศัพท์เข้ามา “วันนี้บ่ายสามโมงที่ร้านกาแฟ”
เสียงของกู้หงเซินเย็นชาและแข็งกระด้าง
นี่เป็นท่าทีของเขาที่มีต่อตัวเธอ แต่กู้ฉางชิงก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
ทุกครั้งที่เจอกัน สิ่งที่กู้หงเซินมักบอกคือกลัวการที่เธอเผยความลับออกมา
เมื่ออกไปข้างนอก เธอเปลี่ยนใส่ชุดเดรสยาวสีเบจ เสื้อผ้าดูเรียบง่ายและเข้ารูป เข้ากันกัยเครื่องประดับมุกสีขาว ซึ่งทำให้เธอดูอ่อนโยนและสง่างามมากขึ้น
คนขับจอดรถที่ฝั่งตรงข้ามของร้านกาแฟ ห่างออกไป กู้ฉางชิงมองเห็นกู้หงเซินอยู่ด้านหลังกระจกหน้าต่าง
เขานั่งอยู่ข้างหน้าต่างคนเดียวดูเหมือนกำลังโทรหาใครบางคนพร้อมกับยิ้มกว้าง
ภายในร้านกาแฟ
กู้หงเซินกำลังคุยโทรศัพท์กับกู้ฉางซิน
“พ่อคะ?จะสามารถปกบิดเรื่องทั้งหมดได้จริงหรอคะ?”
มีเสียงผู้หญิงอ่อนช้อยน่ารักเหมือนกำลังออดอ้อนดังออกมา
“แน่นอน ลูกยังไม่เชื่อใจหรอ?เพียงแค่หนึ่งปี ลูกก็จะสามารถกลับมาเป็นคุณนายรองได้ต่อไป”
กู้หงเซินพูดอย่าเด็ดขาด “ปีนี้ลูกก็ใช้ชวิตที่ต่างประเทศให้สบายใจ พ่อรับรองว่าของทุกอย่างที่เป็นของลูก จะไม่ยอมให้ใครแย่งไปแน่!”
สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – ตอนที่ 8 อะไรที่เป็นของเธอจะไม่ถูงแย่งไป
Posted by ? Views, Released on September 28, 2021
, สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ